บทที่ 1 อดีตมิย้อนคืน
บทที่ 1 อดีตมิย้อนคืน
“ซูฮวา...หลับครานี้เจ้าจะตื่นขึ้นมาอีกเมื่อใด
“ข้ามิอาจให้คำตอบได้ ท่านพี่หยางเหวิน...หากคิดว่าคงมินาน”
“ครานั้นเจ้าหลับใหลไปนานเกือบปี พี่เฝ้ารอเจ้านานนัก ว้าวุ่นในหัวใจหากก็มิอาจทำอันใดได้นอกจากเฝ้ารอ”
“หากครานี้ข้าจะหลับใหลไปอีกหนึ่งปี ท่านพี่จะรอข้าหรือไม่?”
“ข้าเฝ้ารอเจ้า...ซูฮวา...หากเจ้าตื่นมาในครานี้ข้าจะทูลขอเจ้าต่อเสด็จพ่อโดยมิรั้งรอใด ๆ อีก”
“ข้าไม่อยากหลับเลยหากมิคิดว่าต้องช่วยเสด็จพ่อ”
“บ้านเมืองยามนี้วุ่นวายหนัก ดินแดนฉีแม้ยิ่งใหญ่หากไร้ผู้นำก็อาจแตกสลายได้ เสด็จพ่อพระชนมายุมากขึ้นทุกวัน แม้ข้ามิใช่ราชบุตรโดยแท้ของพระองค์หากก็มิเคยคิดทุรยศต่อบัลลังค์ปาอ๋อง ยังเฝ้านึกทุกทิวาราตรีว่าจะช่วยเสด็จพ่อเช่นไรดีต่อการบริหารบ้านเมืองให้สุขสงบ”
“ท่านพี่คะ...ข้าจะเฝ้ารอท่านพี่ โดยจะยอมหลับไปอีกหนึ่งปี และเมื่อข้าตื่นขึ้นมาท่านพี่อย่าได้ลืมสัญญาที่ให้ไว้”
“ซูฮวา...พี่จะรอเจ้า เฝ้ารอทุกลมหายใจ”
“ท่านพี่...ท่านพี่...ท่านพี่...ท่านพี่”
เสียงเพรียกสุดท้ายในนิมิตหลับใหลก้องในห้วงนิทราก่อนดวงตางามใสเบิกกว้างพร้อมลมหายใจหอบหนักและร่างบอบบางภายใต้แพรผ้าสีขาวเบาบางถอนใจเฮือกหนักและสะท้านไหวพลันสะดุ้งพร้อมตกตื่นบนบรรจถรณ์ประดับด้วยดอกไม้แห้งเฉาเซียวซีดรายรอบ ซูฮวาผุดลุกนั่งและสูดลมหายใจเอากระไอความฝันจางหายไปในฉับพลันเมื่อมองเห็นแสงแห่งทิวา
“ท่านพี่!...ท่านพี่!”
นางยังเพรียกหาพร้อมด้วยน้ำรื้นรอบหน่วยตาขณะหันมองรอบห้องโถงกว้าง สดับเพียงสายลมโบกพัดแผ่วเบา
“ท่านพี่...ท่านพี่หยางเหวิน”
เสียงเรียกร้องนั้นแผ่วพร่าบนริมฝีปากอิ่มเอิบ รูปหน้าเรียวงดงามสวยซึ้งฝาดเลือดเอียงมองผ่านแพรผ้าม่านพลิ้วเมื่อเห็นเงาวาบไหวอยู่เบื้องหลัง จุดรอยแย้มยิ้มบนเรียวปากหวาน นางรีบเลื่อนกายลงจากเตียงโดยมินึกสนใจมองดอกไม้แห้งเฉาที่ประดับรายรอบ ร่างบอบบางตวัดแพรม่านก่อนจะเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูห้องโถงใหญ่ นางรีบปรี่เข้าไป
“ท่านพี่...ท่าน...”
เสียงนั้นหลุดหายเมื่อบุรุษร่างสูงสง่าในชุดรัดกุมสีดำหันกลับมา ซูฮวาถึงกับยิ้มกว้าง
“ท่านพี่หยางเหวิน”
“องค์หญิงซูฮวา...ถวายบังคมพะย่ะค่ะ”
บุรุษรางสูงเจ้าของใบหน้าคมคร้ามและดวงตาดำยาวรีลุ่มลึกที่ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าแสดงความเคารพต่อผู้มีบรรดาศักดิ์สูงกว่าทำให้ซูฮวาซึ่งกำลังจะโผเข้าหาต้องชะงัก นางจ้องมองท่าทีนั้นด้วยไม่เข้าใจ
“ท่านพี่...มิต้องทำเช่นนี้ ท่านเป็นถึงองค์ชาย”
“หามิได้...ข้าเป็นเพียงราชองครักษ์ นามว่าเฉียนเหว่ย”
“เฉียนเหว่ย...ราชองครักษ์เช่นนั้นรึ”
นางทวนคำ ดวงตาอาบความฉงนราวกับมิอยากเชื่อในสิ่งที่เห็น นางฟื้นขึ้นมาและลมหายใจแรกที่ที่ปรารถนาคือการได้พบหน้าเจ้าชายหยางเหวิน พระราชบุตรขององค์ชายจิวแห่งรัฐหลู่ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของฉีหวนกง หลังเกิดสงครามและความวุ่นวายระหว่างรัฐ องค์ชายจิวถูกประหารชีวิตทำให้พระบิดาของซูฮวารับหยางเหวินมาชุบเลี้ยงในฐานะพระภาติยะและเมื่อเติบใหญ่เขากลับมีใจให้พระธิดาของฉีหวนกงซึ่งนับตามสายเลือดนั้นใกล้ชิดกันยิ่งนัก ซูฮวาถอยหลังไปหนึ่งก้าว นางพยายามสงบใจทั้งที่ไม่อยากเชื่อด้วยใบหน้าของบุรุษผู้อยู่ตรงหน้ายามนี้เหมือนหยางเหวินทุกกระเบียดราวกับคนคนเดียว
“แล้วท่าน...คือผู้ติดตามรับใช้เสด็จพ่อของข้าใช่หรือไม่”
“หามิได้...ข้าเป็นราชองครักษ์หลวงแห่งองค์จักรพรรดิจิ๋นซี”
“จิ๋นซี!”
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น