ฉันนั้งครุ่นคิดกับข่าวที่คุณแม่และแม่บ้านกำลังให้ความสนใจกันอย่างออกรสในขณะที่ฉันก็กัดช้อนแก้เครียดไปพลางๆ
“ยัยฟ้า ตอนนี้ลูกมีแฟนหรือยัง?”คุณพ่อที่เงียบมานานเอ่ยถามฉัน
“.....”แต่ฉันยังจมอยู่กับความคิดที่ว่าเขาจะรู้สึกยังไงที่คู่หมั้นของเขามีข่าวแบบนี้
“ยัยฟ้า!พ่อถามว่ามีแฟนหรือยัง อะแฮ่ม”คุณพ่อถามฉันด้วยเสียงดังจนฉันและคุณแม่ตกใจหยุดทุกสิ่งอย่างที่ทำก่อนหน้าแล้วหันมาสนใจคุณพ่อ
“อะ เอ่อ คือฟ้ายังไม่มีแฟนคะ”ฉันตอบเสียงอ่อมแอ่ม
“ดี”คุณพ่อตอบสั้นๆ
“ทำไมหรอคะคุณพ่อ?”ฉันถามด้วยความสงสัย
“พ่อจะให้ฟ้าแต่งงาน เพราะฟ้าก็เริ่มอายุเยอะแล้วอีกอย่างคนที่ฟ้าจะแต่งงานด้วยโปรไฟล์ดีเยี่ยมแล้วก็เป็นหมอเหมือนกับฟ้า...”
“ตะ แต่ว่า คุณพ่อคะ..”ฉันรีบเอ่ยขัดท่านก่อน
ปึง! คุณพ่อทุบโต๊ะเสียงดัง
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแกต้องแต่งงานนี่เป็นคำสั่งถ้าแกยังเห็นพ่อเป็นพ่อแกอยู่”พอคุณพ่อพูดจบก็เดินออกจากห้องรับประทานอาหารไป
“ฟ้าลูกเชื่อพ่อเถอะนะลูกนะ”คุณแม่เดินมาลูบหัวฉันในขณะที่ฉันทำหน้าแก้มป่องเป็นลูกซาลาเปา
“แม่ก็เอากับพ่อด้วยหรอคะ แต่ฟ้ามีคนที่ฟ้าชอบและฟ้าก็อยากแต่งงานกับเขาแค่คนเดียวนะคะแม่”ฉันพูดในขณะที่ทำหน้าหงิกเหมือนปลาทูแม่กลอง
“แต่คนที่พ่อเขาหาให้ฟ้าเขาเป็นคนดีนะลูกพ่อเป็นคนสแกนเองเลยนะ อีกอย่างคนที่ลูกจะแต่งงานด้วยเขาก็เป็นลูกชายของเพื่อนพ่อที่ทั้งสองเคยคุยกันไว้ตั้งนานแล้ว”คุณแม่พยายามจะอธิบายให้ฉันเข้าใจ
“แต่พ่อก็หน้าจะถามความสมัครใจของฟ้าก่อน”ฉันยังคงทำหน้าหงิกอยู่
“ฟ้าไม่ลองเปิดใจหน่อยละลูกพออยู่ๆกันไปก็อาจจะชอบก็ได้นิลูก”คุณแม่ลูบหัวฉันให้ฉันใจเย็นลง
“คะคุณแม่ งั้นฟ้าขอตัวขึ้นห้องก่อนนะคะ”ฉันรีบตัดบทสนทนาแต่ก็เข้าใจว่าคุณแม่ก็พยายามที่จะปลอบโยนฉัน
“จ้ะ ลองเปิดใจดูนะลูก”คุณแม่เอ่ยตามหลังมา
ณ ห้องนอนของฉัน
เห้อ นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นเนี่ยทำไมวันนี้มันถึงได้มีแต่เรื่องไม่ดีๆฉันละเพลียไหนจะเรื่องที่คู่หมั้นของพัฒน์มีข่าวเสียๆหายๆ และไหนจะเรื่องที่ฉันต้องแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ฉันคงทนไม่ได้แน่เลยเพราะคนเดียวที่ฉันอยากแต่งงานด้วยก็คือ พัฒน์! พ่อของลูกฉัน
@พัฒน์ talk
ณ ห้องพักสุดหรูในโรงแรม
หลังจากที่เพียงฟ้าออกไปจากห้องตอนไหนก็ไม่รู้พอผมตื่นขึ้นมาผมก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำสระผมเมื่ออาบเสร็จก็พันผ้าขนหนูออกมา
ติ้ดๆ ติ้ดๆ เสียงแจ้งเตือนแมสเสสโทรศัพท์ของก็ดังขึ้น
‘ขอตัวกลับก่อนเพราะต้องทำธุระต่อ’
พอผมกดอ่านข้อความเสร็จก็ได้ยินเสียงเหมือนคนปิดประตูแล้วเปิดประตูผมจึงเดินไปดูปรากฎว่าไม่ใช่แต่เป็นเพียงฟ้า
เมื่อผมมองเธอจากข้างหลังก็ยิ้มทันทีเพราะมันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงเมื่อคืนที่เธอพยายามอ่อยผมด้วยท่าทีเงอะๆงะๆแต่มันก็ดูน่ารักและปลุกให้เจ้ามังกรของผมตื่นได้ ว่าแต่ผมเป็นอะไรทำไมผมต้องยิ้ม แต่เดี๋ยวก่อนเธอแอบดูอะไร
“ทำไร?”ผมถามเธอสั่นๆแต่ได้ใจความ
“อุ้ย!”เธอรีบหันหลังมาหาผมพร้อมกับปิดประตูห้องแต่เธอไม่ตอบผมกับนืนเหม่อลอยจ้องหน้าผม
“ไหนบอกทำธุระ?”ผมถามเธอด้วยน้ำเสียงเรียบๆตามสไตล์ของผมแต่เธอก็ยังไม่ตอบผมยังคงมองจ้องผมอยู่
“ได้ยินไหม?”ผมถามเธออีกครั้งหรือเธอจะเป็นอะไรไปเกิดอาการช๊อคหรือเปล่า เพราะบางครั้งถ้าคนเราตกใจอะไรมากก็สามารถช๊อคได้ทันที
“ละ ลืมของนะ”เธอรีบบอกผมด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก”แต่ว่าฟ้าได้แล้วไปก่อนนะ”พอเธอพูดจบเธอก็รีบออกจากห้องไปเลยปล่อยให้ผมยืนงงกับอาการของเธอ
แล้วผมก็เดินมาแต่งตัวเพื่อที่จะกลับไปยังคอนโดของผมเนื่องจากว่าห้องพักที่นี่ของผมยังตกแต่งไม่เสร็จอันที่จริงแล้วโรงแรมนี้เป็นโรงแรมของที่บ้านผมเองแต่ผมก็บริหารที่นี่ด้วยทั้งโรงแรมและโรงพยาบาลทุกคนคงสงสัย
ว่าผมสามารถบริหารทั้งสองกิจการนี้ได้ยังไงก็ผมไม่ใช่คนปกตินะสิผมมีไอคิว 230 แน่นอนผมมันฉลาดและเก่งมากผมสามารถเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ (ไอคิว 230 คือไอคิวที่สูงที่สุดในโลกคะซึ่งคนที่มีไอคิว230คือนายเทอเรนซ์ เต๋า วัย36 ปีคะ)
หลายๆคนมักจะบอกว่าทำไมผมไม่ไปเรียนโรงเรียเฉพาะละเหตุผลหลักๆเลยผมไม่ต้องการที่จะถูกเลี้ยงดูมาอย่างเด็กที่แต่งต่างผมต้องการที่จะสัมผัสชีวิตในแบบที่คนปกติเขามีกันเหตุผลของผมง่ายไหมละ
@คอนโด
เมื่อผมถึงห้องพักของผมผมก็ถอดชุดออกแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแล้วไปเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อเคลียร์งานต่อ
ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ
-Gun-
“ว่า?”ผมเอ่ยในขณะที่กำลังศึกษาอาการของคนไข้ล่าสุดของผม
“รู้จ่าวร้ายยังมึง”
“ข่าวไร?”ผมตอบนิ่งๆแต่ตายังคงสนใจกับเคสอยู่
“ข่าวมิ้นท์ไงออกทุกช่อง ออกทุกเว็บ”
“ข่าวไร?”แทนที่มันจะบอกผม
“มึงเป็นคู่หมั้นประสาอะไรวะ?ไม่รู้เรื่อวอะไรเลยเนี่ยเดี๋ยวกุส่งให้ในไลน์”
“เค”ผมตอบสั้นๆ
“นี่มึงนั้งดูเคสอยู่ใช่ไหมหยุดเลยอ่านก่อนที่กุส่งอะ”
เอ้ไอ้กันต์นี่มันยังไงวะเนี่ยจะมาบังคับผมดูข่าวอะไรรบกวนเวลาดูเคสของผม
ติ๊ก!
ผมคลิ๊กเม้าส์เข้าไปดูยังลิ้งที่ไอ้กันต์ส่งมาแต่มันก็ยังไม่วางสายผมนะ
ฉาวจนคาวไปทั้งวงการ ดาราสาว อักษร ม. กำลังนัวคั่วผู้ชายที่ไม่ใช่คู่หมั้นคู่หมายแถมยังเปิดห้องสวีทแบบไม่อายใครที่โรงแรมของคู่หมั้นตัวเอง จะเรียกมั่วหรือทั่วถึงดี?
“แล้วไง?”ผมตอบแบบไม่ได้รู้สึกอะไร
“ไม่ตกใจหน่อยหรอวะ กุนึกว่ามึงจะตกใจโถ่เสียดายสัส”
“ไม่อะ มึงก็รู้”ใช่ผมไม่ตกใจไม่เสียใจเพราะผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับมิ้นท์เลยมันเพราะการหมั้นครั้งนั้นมันเกิดมาจากที่เธอเข้ามาคุยกับผมแล้วพวกนักข่าวก็แอบถ่ายแต่ภาพที่ออกมามันเป็นที่ผมและเธอเหมือนกำลังจูบกัน
พ่อของเธอก็เลยต้องการให้ผมรับผิดชอบกับชื่อเสียงของลูกสาวเขาอันที่จริงผมดูก็รู้แล้ว่ามิ้นท์ต้องการจะจับผมแต่ผมก็ไม่สนใจอะไรจนพ่อของเธอไปอาละวาดที่บ้านผมจนคุณแม่ต้องยอมจัดงานหมั้นเล็กๆให้ๆ
อันที่จริงแล้วมิ้นท์ก็ไม่ได้ดูใสแบบที่เธอแสดงออกเพราะเธอก็ไม่ใช่ย่อยในขณะที่เธอเป็นคู่หมั้นในนามของผมเธอก็เที่ยวกับคนนู่นคนนี้ไปทั่วแต่ผมก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจเพราะผมไม่ได้รักมิ้นท์
อีกอย่างผมดีใจสะอีกที่ไม่ต้องเป็นคู่หมั้นคู่หมายอะไรกับเธออีกต่อไป
“เออๆงั้นกูวางละกูโทรหาที่รักกูดีกว่า”
ตุด!
ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ
-PIENGFAH-
“ไงพัฒน์”เธอเอ่ยทักผมเดี๋ยวทำไมผมต้องยิ้มเมื่อเห็นว่าชื่อที่โทรมาคือเธอ
“ไง”
“เอ่อพัฒน์เป็นไงบ้างฟ้าเห็นข่าวแล้วนะ พัฒน์คงเสียใจมากแน่ๆเลย”เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ไม่อะ”ผมตอบไปตามตรง
“มันคงจะเป็นข่าวร้ายสำหรับพัฒน์สิยะฟ้าเสียใจด้วย”ห้ะข่าวร้าย?ข่าวดีสิสำหรับผมคือข่าวดี
“ข่าวร้าย? ไม่อะ”ผมตอบเธอไป
“อ่าวทำไมละ”
“ก็ไม่ได้รัก”ผมตอบไปตรงๆ
“อ่องั้นฟ้าไม่กวนพัฒน์แล้วละ บาย”
ตุด!
ทำไมเธอต้องคิดว่ามันคือข่าวร้ายไม่เห็นจะเป็นข่าวร้ายเลยผมดีใจสะอีกเหมือนได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมของเจ้ากรรมนายเวรที่หวังจะจับผมเพราะต้องการเงินขากที่บ้านผม
...........................................................................
จบไปอีกหนึ่งตอนนะจ้ะ
1 เม้น 1 กำลังใจเด้อ
เอะสรุปยังไงกันแน่นะใครคือคู่หมั้นของเพีงฟ้าแช้วจะเกิดอะไรต่อกับหมอพัฒน์รอลุ้นไปพร้อมๆกันนะคะ