จุดเริ่มต้นของความโสด
- Intro -
ครื่นนน!
ซ่าาาาาา!
ผมมองร่างเล็กบางตรงหน้าของเพื่อนร่วมรุ่นที่ยื่นกุหลาบสีแดงสดมาให้ ช่างเป็นวันวาเลนไทน์ของชีวิตม.ปลายที่สดใสจริงๆ ฝนก็ตก ฟ้าก็ร้อง สายกีตาร์ก็ขาด ไอ้พี่หนึ่ง พี่สอง พี่สามก็ยังไม่มารับ เซ็งจริงโว้ย!!
“ฟะ...โฟร์ท...เรา เราชอบนาย...ระ...รับ รับกุหลาบเราที...นะ”
ผมเงยหน้ามองร่างบางตำแหน่งดาวรุ่นตรงหน้าอีกครั้ง มันก็ไม่แปลกใช่มั้ยล่ะครับที่เด็กชายม.ปลายวัยใสหน้าเต๊าะแบบผมเนี่ย จะมีคนมาจีบมาชอบเยอะแยะสไตล์คนคูล แต่มันผิดตรงที่...กูอยู่ชายล้วน!!!!! และกูไม่นิยมถั่วดำ!!!
“ไม่เอา”
ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก้มหน้าก้มตาลงพยายามซ่อมสายกีตาร์บนตัก ตอนนี้เพื่อนๆกลับบ้านกันหมดแล้ว บรรยากาศใต้ตึกหน้ากลัวมากๆเลยครับไม่ค่อยมีคนอยู่เลย อยากกลับบ้าน! ชายโฟร์ทกลัวผี!
“ฮึก...ฮึก”
เชร้ดดด! บรรยากาศก็หลอน ไอ้คนตรงหน้าแม่งก็หลอน มันจะปล่อยพลังอะไรใส่ผมรึเปล่าครับ? นี่กูกระชับมือกำคอกีตาร์แน่น ถ้ามันพุ่งมาประชิดตัวผม ผมฟาดไม่ยั้งจริงๆนะ
“...”
ฟุบ
“นายมันใจร้าย...ฮึก!”
ดอกกุหลาบสีสดถูกโยนลงแทบเท้าพร้อมกับน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าของคนหน้าสวยตรงหน้า...มันเป็นผู้ชายที่สวยที่สุดในรุ่นแล้วมั้ง...
“...”
“นายมันไม่เคยรักใคร!!”
“...”
ผมเงยหน้ามองคนสำอางค์เกินชายที่ยืนร้องไห้ตัวสั่นตรงหน้า เบื่อจริงโว้ย! ทำไมต้องมารุมชอบกูกันนักหนา ผมจัดว่าเป็นเด็กชายไทยหัวเกรียนด้วยกระบวนวิชารด.และถึงแม้ว่าจะหน้าสวยเหมือนแม่ หากว่าหน้าตาดีจัดจนสาวๆหญิงล้วนรร.ใกล้เคียงชอบมาหยอด เพื่อนร่วมรุ่นก็ชอบมาอ่อย....ครับ ผู้หญิงชอบคนเลว
“คนใจร้าย!!”
แล้วคนร่างเล็กบางก็วิ่งฝ่าฝนหายไป ทิ้งไว้เพียงผมที่นั่งงงกับกีตาร์คู่ใจ ข้างตัวมีขนมและจดหมายบลาๆที่ผมกองๆไว้ ไอ้พี่ชายทั้ง3คนเมื่อไหร่จะมารับวะ? งั้นนั่งเล่นเกมส์รอก็ได้
.
.
[มึงออกมารอหน้าโรงเรียนเลยพวกกูใกล้ถึงแล้ว]
ผมถอนหายใจเซ็งๆเมื่อมองนาฬิกาบอกเวลาว่าเกือบ6โมงเย็น ที่บ้านมีรถให้ลูกชายแค่เพียง1คัน ซึ่งไอ้พี่นับหนึ่งเรียนหมอปี3อยู่หอพักกับรูมเมทในมอ ดีที่มันไม่ต้องใช้รถ ส่วนไอ้สองกับไอ้สามเป็นฝาแฝดเรียนวิศวะปี1 มันเลยครอบครองรถแล้วมีหน้าที่มารับส่งผมที่เรียนอยู่ม.5 ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องนั่งรอไอ้คู่แฝดด้วยความห่อเหี่ยวในทุกๆวัน
“เออ รอแปป...มึงใกล้ถึงแล้วแน่นะ กูขี้เกียจตากฝน”
[แน่นอนครับน้องรัก!]
ผมกดวางสายแล้วถอนหายใจเซ็งๆ อีกนานแน่กว่าพวกมันจะถึง แต่ก็ทำได้เพียงเก็บข้าวของคว้ากีตาร์สายขาดมาถือแล้วเดินลัดเลาะตึกไปยังหน้าโรงเรียน
ซ่าาาา!
ครื่นนนนน!
“อ๊าาาา!”
“มึงอุดปากมันดิ๊!”
“อื้ออออ”
“ซี๊ดดด ฟิตชิบหาย”
กึก
ผมชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินเสียงทุเรศๆที่ดังมาจากห้องน้ำข้างตึก ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องของผมหรอกนะ พวกเขาอาจจะมีความสุขกันอยู่ก็ได้
“ซี๊ดดด”
“ชะ...ช่วยด้วย!!”
เพี๊ยะ!!
“ใครให้มึงเสียงดัง!?”
“ไม่มีใครมาช่วยมึงหรอก!”
เท้าที่กำลังจะก้าวเดินหยุดชะงักลงอีกครั้ง มือกำแน่น ผมไม่เคยคิดว่าจะทำตัวเป็นฮีโร่เลยสักครั้ง พยายามจะหลับตาแล้วสะกดจิตตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องของเรา....
“อ๊าา! เจ็บบ!”
ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้าและจำได้ทันทีว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงของคนที่มาสารภาพรักกับผม...ทำไมไม่รีบกลับบ้าน? อย่าบอกว่าแอบมานั่งร้องไห้โง่ๆในห้องน้ำจนเจอพวกเหี้ยนี่นะ!
ตึง!
“!!!”
“มึงอย่าเสือก!”
เมื่อถีบประตูเข้ามาได้ ภาพตรงหน้ายิ่งตอกย้ำให้เลือดในกายของผมได้สูบฉีดด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนผมมีส่วนทำให้มันเกิดขึ้น ไอ้เหี้ยรุ่นพี่ม.6 2คนกำลังอยู่ในสภาพเปลือยท่อนล่าง คนนึงบังคับให้เพื่อนร่วมชั้นของผมอมอวัยวะของมันเข้าไป...ส่วนไอ้เหี้ยอีกคนก็กำลังยัดของๆมันเข้าออกช่องทางด้านหลังของเพื่อนผมพลางมันชี้หน้าผมแล้วขู่ออกมา
“กูว่าไม่เสือกคงไม่ได้ว่ะ”
“มึงจะทำไม?”
มันหยุดการกระทำพลางเพื่อนผมก็ขาอ่อนลงไปทรุดกองกับพื้น ผมย่างสามขุมเข้าไปใกล้อย่างคุกคาม ไอ้สองคนนั้นก็ถอยหลังไปนิดหน่อยอย่างตั้งหลัก
“คนนี้ของกู!”
ปั้กก! กรึงง!
กีตาร์ราคาแพงในมือถูกยกขึ้นฟาดหัวไอ้คนชั่วอย่างแรงจนตัวกีตาร์แตก หากว่าผมก็ยังคงใช้เป็นอาวุธฟาดกระหน่ำไม่ยั้งอย่างไม่นึกเสียดาย รู้สึกโมโหและโกรธตัวเอง ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ผมจะผิดหรือไม่ แต่ผมคิดแต่ว่าผมต้องรับผิดชอบ...ผมมีส่วนทำให้มันเกิดขึ้น
ฟุบ
หมับ
“วิ่ง!”
โยนซากกีตาร์ลงกับพื้นแล้วคว้าแขนคนตัวเล็กให้วิ่งตามทันที
ซ่าาาาา
พรึบ
“ไม่ต้องมายุ่งกับกู!”
เมื่อวิ่งมาได้ไกลพอสมควรจนถึงสวนหย่อมหน้าโรงเรียน คนตัวเล็กที่บนหน้ายังมีคราบน้ำตาเสื้อนักเรียนก็เปื้อนมอมแมม ท่อนล่างมีเพียงกางเกงในสีขาวที่ผมทันคว้ามาจากพื้นให้มัน มันสะบัดตัวออกและผลักผมอย่างแรง
“โย...”
“มึงเคยสนใจใครด้วยเหรอ!?”
ตุ้บ ตุ้บ
คนตรงหน้าทุบลงมาที่อกและท้องของผมอย่างระบายอารมณ์ มันร้องไห้อย่างหนักจนตาบวม จนเหมือนว่าหัวใจของมันได้แตกสลายไปแล้ว ผมเองก็ไม่รู้จะปลอบอย่างไร
หมับ
“ฮึก! มึงมันเหี้ย”
“อืม”
ผมคว้ามันมากอดไว้แน่นๆอย่างต้องการจะปลอบ ผมทำอะไรเพื่อมันได้อีกมั้ย?...ผมทำได้แค่นี้จริงๆ แค่กอดมันไว้
“มึงไม่มีวันรักใครได้จริงๆหรอก...”
“...”
“คนอย่างมึง...คนอย่างมึงต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต!”
ผมไม่ตอบอะไร เพียงแค่กอดคนตัวเล็กเอาไว้อย่างนั้น มันเองก็หมดแรงจะต้านทานหรือขัดขืนแรงของผมได้อีก ผมลูบหัวมันเบาๆกลางสายฝนที่เทลงมาเหมือนฟ้าสะใจ
“...อืม...กูคงไม่เหมาะที่จะมีใคร...”
ผมพูดเบาๆ เบาจนเสียงฝนมันกลบเสียงของผมแบะเสียงร้องของคนในอ้อมอกไปจนหมด เห็นแสงไฟจากรถที่คุ้นเคยสาดเข้ามาก็ทำให้รู้ว่าพี่ชายได้มารับแล้ว
“ฮึก...ฮึก...”
“กลับบ้านกันนะ...ลืมเรื่องวันนี้ไปซะ”
ผมพูดพร่ำอยู่ข้างหูของเพื่อนร่วมชั้น คนน่ารักสดใสแบบมันไม่ควรมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้...มันไม่ควรจะมารักผม...ผมไม่คู่ควรเลยสักนิดเดียว
พรึบ
ผมถอดเสื้อออกแล้วมัดรอบเอวของมันอย่างปิดของสงวน โอบรอบเอวมันพะยุงให้เดินไปที่รถ ผมทำได้แค่นี้จริงๆ
.
.
แสงอรุณยามเช้าปลุกให้ผมตื่นจากนิทรา พลิกตัวจะหันไปหาคนที่กอดปลอบมันทั้งคืน หากว่าข้างกายกลับว่างเปล่าไปซะแล้ว
“หายไปไหนวะ?”
เมื่อคืนก็อยู่เป็นเพื่อนมัน ปลอบมันทั้งคืน ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนยังโกรธผมแต่มันก็ไม่ขัดขืนผมหรือมีท่าทีโมโหอะไรมากกว่านั้น
ตึง ตึง
เดินลงมาจากบ้านก็พบคุณพ่อ คุณแม่ และพี่ชายฝาแฝดทั้งสองที่นั่งทานข้าวเตรียมตัวจะไปคณะ เมื่อคืนทุกคนก็ตกใจอยู่หรอกที่ผมพาโยธาเพื่อนร่วมชั้นในสภาพประหลาดๆขึ้นห้อง
“แม่ครับ เห็นไอ้โยมั้ยครับ?”
ผมถามพลางหย่อนตัวนั่งลงข้างๆพี่สองที่เหลือบตามองผมอย่างล้อๆ มันล้อผมว่าผมพาสะใภ้เข้าบ้าน สะใภ้พ่องงงงง
“หืม...คุณแม่เค้ามารับไปแล้วจ้ะ”
“อ่อ ครับ”
ตอนนั้นผมรู้สึกโล่งใจมาก คิดว่ามันคงปลอดภัยแล้ว...แต่ว่าผมกลับไม่คิดเลยว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน
หลังจากวันนั้นโยธาก็ลาออกจากโรงเรียนและไม่มีใครติดต่อได้อีกเลย เช่นเดียวกับพี่ม.6สองคนที่ถูกฑันธ์บนและถูกจับข้อหาอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ ผมเองก็ถูกลงโทษให้ทำความสะอาดสระว่ายน้ำโทษฐานทะเลาะวิวาทในโรงเรียน
โยธาหายไปจากชีวิตของผมด้วยคำพูดสุดท้าย
“คนแบบมึงรักใครไม่ได้หรอก...มึงรักษาใครไว้ไม่ได้หรอก”
.
.
.
To be continued
Facebook : I’m Mynt
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น