Chapter 1 : [Fake Love] เด็กเเว่น
Chapter 1 : เด็กแว่น
แลมโบกินี่สีดำสง่าแล่นเข้ามาจอดยังคฤหาสน์ราคาหลายร้อยล้านของตระกูลมหภัทร ร่างสูงก้าวขาลงมาจากรถด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ พอเขาเดินเข้ามาในบ้านก็มีแม่บ้านมายืนรอรับอยู่ที่ประตู
“จะรับของว่างเลยมั้ยคะ?” แม่บ้านคนหนึ่งเอ่ยถามก่อนจะรีบหลบสายตาเพราะเจอสายตาของร่างสูงที่มองมาอย่างเอาเรื่อง
“หน้าฉันเหมือนอยากกินของว่างมากงั้นสิ” เขาเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าแม่บ้านคนที่เอ่ยถามเขา เธอก้มหน้าหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
“เป็นไง!...เจอภาคินโหมดใหม่เท่ห์มั้ยทุกคน ฮ่าๆ” เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้ากวนๆทันที เล่นเอาแม่บ้านทุกคนทำหน้าเหวอกันหมด เพราะปกติภาคินจะเป็นคนใจดี อารมณ์ดี แต่พอพวกเขาเจอแบบนี้ก็แอบใจหายเหมือนกัน
“โธ่....คุณชายเล็ก พวกเราตกใจหมด” แม่บ้านคนหนึ่งพูดขึ้น ภาคินหัวเราะชอบใจที่หลอกพวกเขาสำเร็จ
“ฮ่าๆ ผมก็ยังเป็นผมไม่เปลี่ยนไปหรอกครับ” เขาพูดแล้วยิ้มหวานให้ทุกคนก่อนจะเอ่ยถามหาใครอีกคน “แล้วพี่ภานพกลับมารึยัง” เขาเอ่ยถามพร้อมกับมองไปรอบๆบ้าน
“เพิ่งกลับมาได้สักพักค่ะ ตอนนี้คงอยู่ที่ห้องทำงาน” แม่บ้านเอ่ยตอบ
“ขอบคุณครับ....ทุกคนไปพักกันเถอะ” เขาเอ่ยบอกทุกคนก่อนจะเดินตรงไปที่บันได แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของพี่ชาย
บ้านหลังใหญ่โตแต่มีเพียงเขากับพี่เท่านั้นที่อยู่บ้านหลังนี้ (ไม่รวมแม่บ้านกับคนสวน) ธุรกิจของครอบครัวเขาเปิดห้างที่มีชื่อว่า MP โดยมีสาขาทั่วประเทศรวมถึงต่างประเทศด้วย โดยสาขาต่างประเทศมีพ่อและแม่ของพวกเขาเป็นคนบริหาร ส่วนสาขาที่ประเทศไทยมีภานพเป็นคนบริหาร ภานพบริหารแค่คนเดียวเท่านั้น เขาพยายามหาทางให้น้องชายเขามาช่วยบริหารแต่......ภาคินก็เอาแต่ปฏิเสธ เพราะเขาชอบบริหารคลับของเขามากกว่า ภาคินเปิดคลับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเป็นที่ที่นักท่องราตรียามค่ำคืนต่างก็ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักคลับของเขา
“สวัสดีคร๊าบบบบบ” เขาเปิดประตูทันทีที่ก้าวมาอยู่หน้าประตู แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่นั่งทำงานอยู่ในห้องตกใจเลยสักนิด ภานพเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาดูแค่แปบเดียวเท่านั้นก่อนจะก้มไปอ่านเอกสารบนโต๊ะต่อ
“เปลี่ยนใจจะมาทำงานกลับฉันแล้วรึไง?” ภานพเอ่ยถามโดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากเอกสารตรงหน้าเลย
“ผมไหว้ล่ะ พี่อย่าพูดเรื่องนี้อีก...ยังไงผมก็ยังยืนยันคำเดิม” เขาพูดจบแล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟากลางห้อง เขาถูกพี่ชายของเขาถามเรื่องนี้ทุกครั้งที่เจอหน้าแต่เขาก็ยังคงยืนยันคำเดิม
“แล้วแต่แกละกัน” ภานพพูดตอบกลับมา เขาเงยหน้าขึ้นมองน้องชายของตัวเองที่ตอนนี้มองโทรศัพท์ด้วยสีหน้าที่ดูจะรำคาญอะไรบางอย่าง “มีปัญหาอะไรรึเปล่า” เขาเอ่ยถามน้องด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า....ก็แค่มีเด็กแว่นมาตามตื้อผม ไม่รู้จะตื้ออะไรนักหนา...หน้าตาก็ดูไม่ได้ ใส่แว่นหนาเตอะ ผมเผ้ายุ่งเหยิง อึ้ย...พูดแล้วขนลุก นี่ก็ส่งเพลงอะไรมาให้ผมก็ไม่รู้” ภาคินพูดด้วยสีหน้าขยะแขยง ทำเอาคนนิ่งๆแบบภานพยิ้มออกมา
“เกลียดอะไรระวังจะได้แบบนั้นนะ” เขาเอ่ยบอกน้องชายไป เขารู้ดีว่าน้องชายของเขาชอบคนแบบไหน ภาคินชอบผู้หญิงสวย เอ็กซ์ เซ็กซี่ แล้วผู้หญิงใส่แว่นที่มาตามตื้อเขาก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะชายตามอง
“ไม่มีทาง!” ภาคินเอ่ยสวนไปทันที “ไม่คุยกับพี่ละ ไปหาสาวดีกว่า” เขาลุกขึ้นแล้วเอ่ยบอกภานพ ก่อนจะก้าวขายาวออกจากห้องไปทันที
[Namwhan]
“กิ่งๆทำไมพี่คินอ่านแล้วไม่ตอบล่ะ” ฉันหันไปถามกิ่งเพื่อนสนิทของฉัน ที่ตอนนี้กำลังเติมลิปอยู่
“เอาแบบตรงๆหรือเอาแบบปลอบใจแกล่ะ” กิ่งตอบกลับมา เล่นเอาฉันไปไม่ถูกเลย แต่ฉันดูจากสายตากิ่งแล้วก็พอจะรู้ว่ากิ่งหมายความว่าอะไร
“ฉันไม่สวยใช่มั้ย....” ฉันเอ่ยบอกไปก่อนจะก้มหน้าลงทันที
“มันไม่ใช่แบบนั้นเว้ย....แกแค่ไม่ตรงสเป็คพี่เขาเฉยๆ” กิ่งพูดปลอบใจฉัน ฉันรู้ว่าพี่คินชอบผู้หญิงสวย...ซึ่งไม่ใช่ฉัน ฉันตามตื้อพี่เขาตั้งแต่ตอนฉันอยู่ปีหนึ่งจนตอนนี้ฉันอยู่ปีสี่แล้ว ฉันก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ถึงแม่ว่าพี่เขาจะไม่แลตามามองฉันเลยก็ตาม
“ไม่เป็นไร....สักวันนึงพี่เขาคงเห็นความจริงใจของฉัน” ฉันเอ่ยออกมาอย่างมีความหวังอีกครั้ง
“แต่ฉันว่า.....” กิ่งกำลังจะพูดประโยคที่บอกฉันอยู่ทุกวันนั่นก็คือ “แกเลิกชอบพี่เขาเหอะ” กิ่งพูดประโยคนี้ให้ฉันฟังเป็นพันๆครั้ง แต่ฉันก็ไม่ฟังเธอเลย
“ก็คนมันรักไปแล้วหนิ” ฉันบอกกิ่งแล้วยิ้มให้โทรศัพท์ของตัวเองที่ตอนนี้มีรูปของพี่คินเปิดอยู่
“จ้า” ฉันกับกิ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ปีหนึ่ง ซึ่งฉันและกิ่งต่างกันสุดขั้ว ฉัน....ผู้หญิงแว่นหนาเตอะ ส่วนกิ่งดาวคณะ คนมักจะชอบเปรียบเทียบฉันกับกิ่งทุกครั้ง คนเก็บขยะกับนางฟ้าบ้าง ขอทานกับนางฟ้าบ้าง ฉันได้ยินจนชินแล้วล่ะ กิ่งเคยชวนฉันให้ถอดแว่นแล้วเปลี่ยนเป็นใส่คอนแทคเลนส์หลายครั้งแล้ว แต่ฉันชอบใส่แว่นมากกว่า
“กิ่ง...หวานไปก่อนนะ พี่ผึ้งมารับแล้ว” ฉันเอ่ยบอกกิ่งที่ตอนนี้กำลังคุยกับแฟนของเธออยู่
“อืม...บ๊ายบาย เจอกันพรุ่งนี้นะ” กิ่งเอ่ยบอกฉันก่อนจะโบกมือให้ฉัน ฉันจึงยิ้มตอบกลับไปพร้อมกับโบกมือให้เธอ........
“พี่ผึ้ง....หวานหิว” ฉันพูดขึ้นทันทีที่นั่งข้างๆพี่สาวสุดสวยของฉัน รอบข้างฉันมีแต่คนสวยๆทั้งนั้น พี่ผึ้งเป็นพี่สาวแท้ๆของฉัน เบ่งออกมาจากแม่คนเดียวกัน แต่หน้าตาต่างกันลิบลับ แต่ฉันก็พอใจในสื่งที่ตัวเองมีอยู่แล้ว ฉันเกิดมาครบ32ประการก็ดีแค่ไหนแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบกับใครให้เสียใจเปล่าๆ
“อยากกินอะไรล่ะ” พี่ผึ้งเอ่ยถามฉัน นอกจากจะสวยแล้วพี่สาวฉันยังใจดีที่สุด แต่ถ้าได้เจอพี่ผึ้งอีกโหมดละก็บอกเลยว่า.....ทั้งแรง ทั้งร้าย ทั้งดุ ปากจัด รวมไว้ในพี่สาวฉันคนเดียวเลยจ้า ตอนเด็กๆฉันเคยโดนเพื่อนล้อ แล้วพี่ผึ้งด่าจนคนพวกนั้นไม่กล้าล้อฉัน ไม่กล้าคุยกับฉัน ไม่กล้ามองห้าฉันอีกเลย..... พี่ฉันไม่ได้สวยดุอย่างเดียวนะ เก่งอีกต่างหาก บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก แค่พอกินพอใช้ พี่ผึ้งหาเงินด้วยตัวเองจนเปิดบริษัทผลิตกระเป๋าแบรนด์พรวลัยเป็นของตัวเอง ที่ประเทศไทยไม่ค่อยมีคนรู้จักหรอกแต่ต่างประเทศนี่ดังมากๆ ไม่อยากจะอวยพี่สาวตัวเองเลย...คริคริ
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาไม่เหมาะสมสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีไรท์ใช้คำที่ไม่สุภาพหากใครรับไม่ได้ก็ต้องรับให้ได้นร้า ไม่ว่ากันหากจะกดออกเเต่ถ้ากดออกจะพลาดมากๆ
หากผิดพลาดตรงไหนสามารถติชมกันได้จ้าเเต่อย่าเเรงมากนะไรท์กลัว ฮ่าๆ
ที่สำคัญอย่าลืมกดไรท์กดติดตามไรท์ด้วยนะ เม้นเป็นกำลังใจหน่อยจิ
ขอบคุณทุกคนนะที่ติดตามเรื่องนี้ขอบคุณทุกเม้นน้า รักๆ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น