BUT DON'T TAKE ME FOR A FOOL
(Chapter12.)
เมื่อมาถึงบ้านพระอาทิตย์อุ้มเชนตรงขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง เขาทำความสะอาดร่างกายและช่องทางรักให้เชนอย่างรวดเร็วเพราะรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของคนตรงหน้าที่กำลังเปลี่ยนไป ผ้าขนหนูผืนเล็กถูกค้นออกมาจากในตู้เสื้อผ้าก่อนถูกชุบน้ำและนำมาวางทับไว้บนหน้าผากของเชน พระอาทิตย์นั่งเฝ้าเชนอยู่แบบนั้นจนเกือบรุ่งเช้า
“อื้อ อึก แค่กๆ” เชนสำลักน้ำลายตัวเองและไอแห้งๆ ออกมาจนตัวโยน
“น้ำ” มือหนายื่นส่งแก้วน้ำให้ เชนปัดแก้วน้ำจนตกแตกไปที่ข้างเตียงโดยไม่คิดที่จะสนใจ สายตามองไปรอบๆ อย่างนึกแปลกใจ
“เจ็บไหม” พระอาทิตย์ยืนอยู่ข้างเตียงมองเชนที่พยายามยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียง เขารีบจับไหล่ของเชนแล้วช่วยพยุง
ผลัก!!!
มือบางผลักอกของพระอาทิตย์เต็มแรงก่อนจะถดตัวหนีไปจนสุดขอบเตียงอีกฝั่ง
“…” เชนน้ำตาไหลลงอาบสองข้างแก้มอย่างน่าสงสาร เนื้อตัวขาวตอนนี้เต็มไปด้วยร่องรอยรักที่ถูกคนตัวโตทำไว้จนทั่ว
“กูถามว่าเจ็บไหม” พระอาทิตย์ถามเสียงอ่อนลง คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันมองท่าทางของเชนไม่วางตา เขาเพิ่งเคยเห็นเชนมีท่าทางผวาตนขนาดนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เจอกัน
“ทำไมถึงชอบให้กูเหนื่อยกับมึงนัก” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่และถามเสียงนิ่ง สายตาจ้องมองเชนตาไม่กะพริบสักนิด
“…” เชนนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา
“จะไม่พูดใช่ไหม!!!” พระอาทิตย์ทำท่าจะคว้าข้อเท้าของเชนเพื่อไม่ให้เจ้าตัวตกลงจากเตียง
“อ๊ะ อย่า!!! อย่าทำอะไรกู ฮึก” มือบางคว้ากรอบรูปที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบจากโต๊ะข้างเตียงปาใส่พระอาทิตย์ไม่ยั้งมือจนแตกกระจายเต็มพื้น
ตุบ!!
ผลัก!!
“อ๊ะ ฮึก เจ็บ ฮึก ฮือๆ” เชนนอนขดตัวร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ อยู่อีกฝั่งของเตียง ยังดีที่มีผ้าผืนหนารองไว้แต่ก็ดูจะไม่ได้ช่วยให้เชนเจ็บน้อยลงเลย
“กรอด…” พระอาทิตย์กัดฟันจนข้างแก้มขึ้นเป็นสันนูน ผ้าห่มผืนหนาถูกเชนกำแน่นยกขึ้นแนบอกบางก่อนจะค่อยๆ ก้มลงมองสภาพตัวเองราวกับเด็กขายบริการอย่างไรอย่างนั้น ทั้งรอยขบกัด ฟกช้ำและมีเลือดซึมแห้งกรังตามรอยซี่ฟันที่ไม่ได้มีแค่รอยเดียว ทั่วทั้งร่างแทบจะไม่มีที่ว่างเผยผิวขาวเนียนของเจ้าตัวเลยด้วยซ้ำ
เชนพยายามกลั้นเสียงร่ำไห้ของตัวเองไว้จนพระอาทิตย์ที่ยืนมองอยู่ถึงกับหงุดหงิด ร่างบางตัวสั่นเทาอย่างน่าสงสารแต่ไร้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาแต่อย่างใด น้ำตาหยดลงบนฝ่ามือ
ริมฝีปากบวมช้ำมีเลือดซึมออกมาเพราะฝีมือของเขาเอง รวงผมตกลงมาปรกดวงตาหวานฉ่ำที่เคยใช้มองเขา ทว่าเวลานี้กลับถูกปกปิดไปหมดจนแทบมองไม่เห็น
// ทำไมเขาถึงได้ทำร้ายคนคนนี้ได้มากมายขนาดนี้กัน นี่เขายังเป็นคนอยู่ไหม // พระอาทิตย์ได้แต่ยืนนิ่งคิดถึงสิ่งที่เขาเพิ่งทำลงไป
“ขอโทษ” เสียงทุ้มพูดขึ้นเบาหวิวเสียจนเชนเองก็ฟังไม่ค่อยชัดเท่าไร
“เก็บคำขอโทษของมึงไว้เถอะ กูไม่ได้ต้องการ” เชนพูดออกมาเสียงแข็ง
“…” พระอาทิตย์ยืนมองเชนนิ่งๆ
“กูบอกมึงไว้ตรงนี้เลยนะ มึงทำกูแค่ไหนกูจะเอาคืนมึงเป็นร้อยเท่าพันเท่า พระอาทิตย์” เชนเค้นเสียงลอดลำคอแห้งผากออกมา ขอบตาร้อนผ่าว เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกทั้งโมโหทั้งแค้นเคือง
“…” พระอาทิตย์ยังคงยืนนิ่งปล่อยให้เชนได้ระบายใส่จนพอใจ
เชนค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นช้าๆ อย่างยากลำบาก พระอาทิตย์รีบเข้าไปช่วยประคองแต่ก็ถูกคนตัวบางปฏิเสธเสียงแข็ง
“อย่ามาถูกตัวกู!!!”
พระอาทิตย์ไม่ฟังเสียง เขาก้มลงช้อนตัวเชนขึ้นไว้ในท่าเจ้าสาวแล้วพาเข้าห้องน้ำไป มือบางสะบัดขึ้นจนเล็บของเชนข่วนโดนเข้าที่สันกรามข้างแก้มของคนตัวโตจนเป็นรอยเล็บ เลือดสีแดงสดค่อยๆ ซึมออกมาเป็นทางยาว
“ปล่อยกู!!!” เชนดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของพระอาทิตย์
“อดทนอีกสองสามก้าวจะถึงห้องน้ำมันจะขาดใจตายใช่ไหม”
พระอาทิตย์พูดขึ้นเสียงนิ่ง เขาเดินเข้าห้องน้ำและวางเชนลงในอ่างอาบน้ำใบโต
“…” เชนรีบสะบัดตัวออกห่างเพราะนึกรังเกียจคนคนนี้จนแทบอยากจะอาเจียนเสียให้ได้
“รีบอาบน้ำซะ” พระอาทิตย์เปิดน้ำอุ่นใส่อ่างอาบน้ำให้แล้วยืนนิ่งอยู่แบบนั้น
“ออกไป!!!” เชนตะเบ็งเสียงไล่ลั่นห้องน้ำ พระอาทิตย์ถอนหายใจออกมาหนักๆ ยอมเดินออกจากห้องน้ำและปิดประตูห้องน้ำให้เชนอย่างว่าง่าย
เชนนั่งแช่ในอ่างอาบน้ำพักใหญ่ เขาไม่มีทางถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแน่นอน เขาจะต้องเอาคืนทั้งพี่ทั้งน้องให้ได้ คอยดูสิ
“เข้ามาทำอะไรในนี้”
เชนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำร่างกายมีเพียงผ้าขนหนูพันไว้รอบเอวบางเท่านั้นก็ต้องชะงักเท้ากึกเมื่อพบเข้ากับผู้มาใหม่ ที่กำลังจ้องมองร่องรอยที่ยังไม่จางหายบนร่างกายของเขา ซึ่งบ่งบอกได้ดีว่าคนทำจะเป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่ พระอาทิตย์ ดาวเหนือกัดฟันกรอดกำมือเล็กทั้งสองข้างของตัวเองไว้แน่น
“หึ” ดาวเหนือมองเชนด้วยหางตาและยิ้มเหยียดมุมปากอย่างร้ายกาจ
“กูถามว่าเข้ามาทำอะไรในนี้!!!” เชนตะคอกออกมาเสียงไม่ดังมากนัก
“แกมันก็แค่เด็กขายไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกล้าขึ้นเสียงใส่แขกของเจ้าของบ้านล่ะ” ดาวเหนือมองเชนอย่างดูถูกเหยียดหยาม สายตาเหลือบมองเชนตั้งแต่หัวจรดเท้า
“มึงว่าอะไรนะ” เชนถามเสียงลอดไรฟัน ขาเรียวก้าวเดินเข้าใกล้ดาวเหนือมากขึ้น
“หูนายไม่ค่อยดีด้วยสินะ” ดาวเหนือยกยิ้มมุมปาก เชิดหน้าอย่างท้าทาย
“ใครบอกมึงว่ากูขายห๊ะ!!!” มือบางของเชนบีบต้นแขนของดาวเหนืออย่างแรง เสียงของคนทั้งคู่ดังลั่นจากชั้นบนจนลงมาถึงชั้นล่างคฤหาสน์หรูของพระอาทิตย์
เพียะ!!! มือเล็กสะบัดปัดมือของเชนออกสุดแรงจนหลังมือเล็กของดาวเหนือสะบัดเข้าที่แก้มใสของเชนอย่างจัง
“อย่าเอามือสกปรกของแกมาถูกตัวฉัน ในเมื่อมันคืออาชีพของแก งั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรนี่ ใช่ไหม ไอ้ตัวสำส่อน”
ดาวเหนือดูจะตกใจไม่น้อย แต่เพราะความรู้สึกริษยาเข้าครอบงำจนหมดทำให้พูดจาร้ายๆ ออกมา
“ออกไป” เชนกดเสียงต่ำเอ่ยปากไล่ดาวเหนืออย่างข่มอารมณ์
“อยากจับพี่พระอาทิตย์จนตัวสั่นสินะ ดูแล้วท่าทางแกคงจะทำแบบนี้จนเป็นอาชีพเลยล่ะสิ” ดาวเหนือเชิดหน้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ร่างเล็กยังคงดูถูกเชนไม่หยุด
เพียะ!!!
เสียงมือบางฟาดลงที่ข้างแก้มใสของดาวเหนือเต็มแรง
“นี่แกกล้าตบฉันเหรอห๊ะ ไอ้เด็กขายบริการ!!!”
ดาวเหนือตะโกนลั่น น้ำตาเริ่มซึมออกมาจากหางตา สายตามองมายังเชนวาวโรจน์อย่างโกรธแค้น
“กูเตือนมึงแล้วแต่มึงไม่ฟัง ออกไป!!!” เชนตะคอกไล่เสียงดัง
“ไม่ไป ที่นี่ฉันจะไปไหนมาไหนก็ได้ แกอย่ามาอวดดีไล่ฉันนะ!!!”
ดาวเหนือไม่ยอมอ่อนข้อให้เชนเลยสักนิด
เชนเดินเข้ามากระชากและผลักร่างดาวเหนือจนแผ่นหลังเล็กแนบชิดกับกำแพงห้อง
“นะ…นั่นแกจะทำอะไรฉัน” ดาวเหนือมีท่าทีตกใจไม่น้อย และถามขึ้น
“มึงกลัวเหรอ” เชนถามออกมาเสียงเย็นเขา เอียงคอมองคนตัวเล็กกว่าและยกยิ้มมุมปาก
“ฉันน่ะเหรอกลัวแก ฝันอยู่รึไง” ดาวเหนือพูดขึ้น ใบหน้าสวยหวานพอๆ กับเชนเชิดขึ้นอย่างท้าทาย
“ก็ดี เดี๋ยวมึงจะได้เจอยิ่งกว่าขุมนรกอีก ดาวเหนือ” เชนพูดบอกอย่างเข่นเขี้ยว
เขาเบื่อเด็กที่ทำตัวน่ารำคาญแบบดาวเหนือที่สุด ให้ตายเถอะ ไอ้บ้านั่นหลงเอาเด็กบ้าคนนี้ได้ยังไง
“ฉันไม่กลัวแกหรอกนะ”
“ออกไป!!!” เชนพูดขึ้น ปล่อยมือจากแขนเล็กของดาวเหนือและผลักอีกฝ่ายออกห่างอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมกับเสียงเปิดประตูเข้ามา
“เข้ามาทำอะไร” พระอาทิตย์ถามดาวเหนือทันทีที่เห็นว่ามีบุคคลที่สามอยู่ในห้องส่วนตัวเขา
“ก็มาหาพี่อาทิตย์น่ะสิฮะ แต่เหนือไม่คิดว่าจะเข้ามาเจอ…” ดาวเหนือเดินไปหาร่างแกร่งทันที เด็กหนุ่มตอบคำถามพระอาทิตย์โดยไม่พูดชื่อเชนออกมา
“ออกไปรอพี่ข้างนอก” พระอาทิตย์พูดขึ้นเสียงเรียบ เขาไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามในพื้นที่ส่วนตัว แต่ดาวเหนือเขาจะไม่เข้มงวดด้วยนักเพราะครอบครัวสนิทกันและเห็นมาตั้งแต่อีกฝ่ายยังเด็กๆ
“แต่มันตบหน้าเหนือนะฮะ” ดาวเหนือฟ้องทันที น้ำตาเหมือนสั่งได้ร่วงหยดแหมะทั้งสองแก้มใส
“มึงทำแบบนั้นทำไม” พระอาทิตย์หันไปถามเชนเสียงแข็ง
“มึงถามกูเหรอ อย่าโง่ทำเป็นไม่รู้ว่าไอ้เด็กนี่เป็นคนยังไงแล้วพาลมากล่าวหากู” เชนพูดเสียงนิ่ง เขาไม่จำเป็นต้องแสร้งบอกว่าตัวเองผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรแล้วปล่อยให้คนอื่นเข้าใจเขาผิด…นั่นไม่ใช่นิสัยเชน พระอาทิตย์ถอนหายใจออกมาหนักๆ
“เป็นอะไร เป็นไข้หรือเปล่า” พระอาทิตย์เดินมาหาเชนใกล้ๆ ยกมืออังหน้าผากของเชน แต่เป็นเชนที่หันหน้าหลบ
“นั่นดาวเหนือ ลูกชายของเพื่อนป๋ากู” พระอาทิตย์พูดขึ้น
“มาบอกทำไม ไม่ต้องมาแนะนำกูไม่ได้อยากรู้จัก” เชนเดินหันหลังเพื่อจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว
“นึกว่ามึงอยากรู้” พระอาทิตย์ยกยิ้มมุมปาก
“พี่อาทิตย์!!!”
เสียงเล็กเรียกพระอาทิตย์ ดาวเหนือมักพูดจาใสซื่อกับพระอาทิตย์เสมอ แต่สายตาที่จ้องเชนไม่เป็นมิตรด้วยสักนิด
“ทำความรู้จักกันไว้ซะสิ นี่ดาวเหนือมึงคงรู้จักแล้ว ยังไงก็ต้องเจอกันอีกบ่อยๆ” พระอาทิตย์พูดขึ้น
“ทำไมเหนือต้องเจอไม่ทราบฮะ” ดาวเหนือถามออกมาอย่างไม่ค่อย สบอารมณ์เท่าไรนัก
“พี่อาทิตย์ฮะ เหนือหิว ออกไปหาอะไรกินกันเถอะฮะ”
ดาวเหนือเดินเข้าไปเกาะแขนพระอาทิตย์และชวนอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
เชนหันมองมาที่คนทั้งคู่และยกยิ้มกับตัวเองช้าๆ
“ตัวแค่นี้หัดแก่แดดอยากมีผัวจนตัวสั่น กลับบ้านไปนอนกินนมไป๊” เชนนึกหมั่นไส้จนอดไม่ได้จริงๆ
“เชน” เสียงพระอาทิตย์ปรามออกมา
“ใครกันแน่อยากมีผัวจนตัวสั่น นี่ก็ได้ข่าวว่ามากินอยู่กับพี่อาทิตย์ของเหนือเลยไม่ใช่หรือไง!!!” เด็กหนุ่มแสยะยิ้มให้เชนอย่างอวดดี
“นี่มึงเอาเรื่องเราไปบอกไอ้เด็กนี่เหรอ” เชนถามขึ้นเสียงดัง
“มึงเห็นว่ากูเป็นคนชอบเอาเรื่องส่วนตัวไปป่าวประกาศรึไงเชน” พระอาทิตย์ยกมือขึ้นเสยผมลวกๆ และเดินเข้ามาจับแขนเชน
“อย่ามาจับกู” เชนกระชากเสียงใส่และสะบัดแขนตัวเองออกอย่างแรง
“พี่อาทิตย์ฮะ เหนืออยากกลับบ้านฮะ” ดาวเหนือพยายามวิ่งเข้ามาเกาะแขนพระอาทิตย์อย่างเรียกร้องความสนใจ
“เดี๋ยวพี่ให้คนไปส่ง” พระอาทิตย์พูดขึ้นเสียงเย็นและแกะมือของดาวเหนือออกช้าๆ
“ไม่นะฮะ พี่อาทิตย์ต้องไปส่งเหนือที่บ้าน” ดาวเหนือยังดื้อรั้นและเดินตามไปอีก
“ดาวเหนือ” พระอาทิตย์เรียกดาวเหนือเสียงต่ำทำให้ร่างเล็กต้องชักมือตัวเองออกจากแขนแกร่ง
“ก็ได้ฮะ” ดาวเหนือพูดขึ้นเสียงแผ่วแล้วเดินออกจากห้องไป
“ออกไปสิ มายืนอยู่ทำไม” เชนพูดไล่เจ้าของห้องเสียงเรียบ
“นี่ห้องกู มึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเชน กูจะเข้าจะออกตอนไหนก็ได้” พระอาทิตย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ
“…”
เชนนึกบางอย่างออกจึงยืนหันหลังให้พระอาทิตย์ มือบางค่อยๆ ปลดผ้าขนหนูออกต่อหน้าร่างแกร่ง พอกันทีกับความรู้สึกอาย…ถึงเวลาที่สงครามระหว่างเขากับคนตัวโตจะเริ่มต้นขึ้น
“ทำบ้าอะไรเชน!!!” พระอาทิตย์พูดออกมาเสียงดุ
“ใส่เสื้อผ้า ทำไม” เชนพูดบอกเสียงนิ่ง
มือบางหยิบขวดโลชั่นที่หน้าตู้กระจกขึ้นดูอย่างไม่สนใจอีกคนที่กำลังยืนมองร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองเลยสักนิด
“แล้วจะถอดทำไมตรงนี้ ห้องแต่งตัวก็มี” พระอาทิตย์พูดเสียงเครียด ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เชนถึงได้มายืนเปลือยกายต่อหน้าเขาแบบนี้ ให้ตายเถอะ ร่างแกร่งได้แต่กัดฟันกรอด
“ทำไม กูจะใส่ตรงนี้” เชนเพียงแค่หันข้างแล้วพูดขึ้นเสียงแข็ง
“เชน!!!” พระอาทิตย์เดินย่างสามขุมมาถึงตัวเชนที่ยืนเปลือยกายต่อหน้าเขา ก่อนจะก้มลงหยิบผ้าขนหนูพันเอวคอดของเชนไว้ มือหนาจับกระชับหัวไหล่เล็กทั้งสองข้างของเชนเพื่อให้หันกลับมามองเขา
“…” เชนมองใบหน้าหล่อนิ่งๆ
“ถ้ามึงไม่ใส่กูจะคิดว่ามึงให้ท่ากู” พระอาทิตย์พูดบอกเสียงลอดไรฟัน
“ทำสิ ถึงกูไม่ถอดมึงก็คิดแบบนั้นอยู่แล้ว” เชนพูดขึ้นเสียงเรียบ เขาคาดหวังว่าพระอาทิตย์จะหลงร่างกายของเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ถึงตอนนั้นมันคงง่ายกว่านี้
“รีบใส่เสื้อผ้าซะ” พระอาทิตย์หยิบชุดของเชนที่สาวใช้ซักรีดไว้ให้เรียบร้อยยัดใส่มือบาง
“ไปสิ” พระอาทิตย์พูดย้ำขึ้นอีกครั้ง…
เชนเดินออกมาจากห้องแต่งตัว พระอาทิตย์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินเข้ามาหา
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” พระอาทิตย์ถามขึ้นอีกครั้ง
“…” เชนมองนิ่งๆ ไม่พูดตอบ
“ไม่เจ็บก็ดี ถ้างั้นลงไปกับกู” พระอาทิตย์จูงมือเชนให้เดินออกไปพร้อมกัน แต่เชนชะงักหยุดแล้วถามขึ้น
“ไปไหน”
“อย่าถามมาก” พระอาทิตย์พูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจและพาเชนเดินลงมาอีกด้านของตัวบ้าน
“มากันแล้วเหรอ” เสียงของพ่อพระอาทิตย์ถามขึ้น
“ผมจะให้เชนมาอยู่กับผมที่นี่” พระอาทิตย์พูดขึ้นและทำท่าจะเดินออกไป
// พาเขามาด้วยเพื่อบอกแค่นี้เองเหรอ // เชนคิดในใจ
แต่ก็เอาเถอะ ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวยตามแผนที่เขาวางไว้แต่ถ้าเขาไม่พูดค้านอะไรเลยคงจะดูน่าสงสัยเกินไป เพราะพระอาทิตย์เป็นคนฉลาด
“อืม ฉันรู้ดีว่ายังไงก็คงห้ามแกไม่ได้ อีกอย่างแกก็โตแล้วนะ พระอาทิตย์ คงรู้ว่าสิ่งไหนผิดหรือถูก สิ่งไหนควรหรือไม่ควรทำ” ชายสูงวัยพูดขึ้น
“ถามกูหรือยัง” เชนกระซิบถาม มันเกินคาดเพราะเขาไม่คิดว่า พระอาทิตย์จะมาไม้นี้หรือกระทั่งพ่อของคนตัวโตก็ยินยอมด้วย
“ทำไมต้องถาม กูมีสิทธิ์ในตัวมึงทุกอย่าง” เขาบอกออกมาและมองไปยังพ่อตนเองที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน
“หยุดก่อน” เสียงของพ่อพระอาทิตย์พูดขึ้น
“…” เชนพร้อมพระอาทิตย์หันกลับไปมองชายสูงวัยพร้อมกัน
“ฉันให้อยู่กันที่นี่ก็ได้แต่มีข้อแม้ว่า พวกเธอจะต้องพาไททันกลับมาอยู่ที่นี่ด้วย” บ้าจริง เรื่องไททันมันนอกแผนของเชน
“เกี่ยวอะไรกับไททัน แล้วทำไมผมต้องรับข้อเสนอของท่าน” เชนถามขึ้นเพราะเขาไม่คิดจะเอาไททันเข้ามาเกี่ยวอยู่แล้ว
“ท่านไม่ต้องห่วงกลัวว่าผมจะมาอยู่ที่นี่นะครับ เพราะว่าผมเองไม่คิดที่จะไม่มาอยู่ที่นี่เด็ดขาด”
เชนทำท่าจะหันหลังกลับเพราะเรื่องราวกำลังจะผิดแผนเขาไปใหญ่
“เพราะลูกชายฉันเลือกเธอไม่ใช่หรือไง” พ่อของพระอาทิตย์พูดขึ้นเสียงเรียบ
“…” เชนนิ่งอึ้งไปนิด บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจคนพวกนี้สักเท่าไร
“ถ้ารับข้อเสนอก็เข้ามาอยู่ที่นี่ซะ จะได้ไม่ต้องไปอยู่กันข้างนอก เข้าใจไหมพระอาทิตย์”
หมอสุริยะพ่อของพระอาทิตย์พูดพร้อมกับก้มลงเซ็นเอกสารตรงหน้าโดยไม่คิดจะรอฟังคำตอบ
“ผมคงให้เชนทำแบบนั้นไม่ได้ ขอตัว” พระอาทิตย์พูดพร้อมลากเชนพาเดินออกจากห้องทำงานของพ่อตนเอง
“เอากลับไปลองคิดดู” เสียงทุ้มพูดขึ้นตามหลัง
“…” พระอาทิตย์มีสีหน้าเครียดลงไม่น้อย
“ทำไมน้องมึงถึงไม่กลับบ้าน” เชนถามขึ้นเมื่อพระอาทิตย์เดินนำเขาลิ่วทั้งที่มือหนายังคงกุมมือเชนไว้ไม่ปล่อย
“ไม่ใช่เรื่องของมึง” ร่างแกร่งพูดขึ้นเสียงเครียด
// กูจะทำให้เรื่องของพวกมึงเป็นเรื่องของกูแน่นอน กูสัญญา // เชนได้แต่คิดในใจ เขาไม่ได้อยากรู้เท่าไรแต่ต่อไปนี้เขาจะทำให้ชีวิตผู้ชายเลวๆ คนนี้พังไม่เป็นท่าเลย คอยดู
เชนใช้เวลาทั้งวันในการนอนพัก พระอาทิตย์เดินมาดูเรื่อยๆ เมื่อเห็นร่างบางขยับตัว ปกติเขาไม่เคยต้องมานั่งเฝ้าใครเวลาหลับแบบนี้ ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าจะปล่อยเชนไป แต่ตอนนี้เขากลับทำไม่ได้ ทั้งที่รู้ดีว่าคนอย่างเชนไม่มีทางคิดจะอยู่หรือดีกับเขาง่ายๆ แน่
เชนต้องมีแผนอะไรสักอย่างถึงยอมอยู่ที่นี่กับตนง่ายแบบนี้ มือหนาปัดปอยผมที่ตกมาปิดดวงตากลมให้เชนอย่างเบามือ นิ้วยาวเกลี่ยไล้ไปตามรูปหน้าที่หวานจัด ปากบางที่เขาหลงใหลยามได้สัมผัส ทั้งให้รสหวานและอุ่นนิ่มจนเขาแทบคลั่งทุกครั้งเวลาได้จูบปากนี้
ร่างกายที่ร้อนแรงยามอยู่ใต้ร่างหรือขยับเคลื่อนบนร่างกายเขา ให้ตายเถอะ เขากำลังหลงใหลคนคนนี้อยู่หรือไงกัน พระอาทิตย์ก้มลงประกบปากจูบกับปากบางของเชนและผละออกอย่างรวดเร็ว
เชนเพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยเพราะถ้าเจ้าตัวเหนื่อยหรือเพลียจัดแล้วละก็ เชนจะเป็นคนหลับลึกจริงๆ ลิ้นหนาค่อยๆ แตะลงที่ลำคอขาวช้าๆ หนึ่งรอยคิสมาร์กที่ทำไว้ตรงไหปลาร้า เขาอยากจะย้ำอีกสักรอยเป็นไง
“ทำอะไร” เชนตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกได้ถึงการรบกวนการนอนของตัวเอง
“รีบอาบน้ำ วันนี้กลับเพนต์เฮาส์พรุ่งนี้มึงมีเรียน” พระอาทิตย์พูดและลุกขึ้นนั่ง
“อยู่ที่นี่ก็ไปเรียนได้” เชนบอกออกมา ในเมื่อคฤหาสน์นี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเขามากกว่าที่เพนต์เฮาส์เสียอีก
“วันนี้ไททันกลับบ้าน กูไม่อยากให้มึงเจอมัน” พระอาทิตย์พูดขึ้นเสียงเรียบ
“ทำไม” เชนถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“กูไม่อยากเอาข้อเสนอของพ่อกูมาเป็นข้ออ้างทำให้มึงอยู่ที่นี่” เขาพูดขึ้นเสียงนิ่ง สายตาจ้องมองเชนไม่วางตา
“แล้วทำไมมึงถึงอยากให้กูอยู่ที่นี่นัก” เชนถามขึ้นอีก
“…” เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ
“ช่างเถอะ” เชนพูดขึ้นและเดินเข้าห้องน้ำไป
“มึงคิดจะทำอะไรกันแน่ เชน” พระอาทิตย์พึมพำกับตัวเองเสียงเบา สายตาคมมองตามแผ่นหลังของเชนที่เดินเข้าห้องน้ำไป…
“เป็นโรคจิตรึไง แอบเข้าห้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตห๊ะ!!!” เสียงตวาดลั่นดังขึ้นภายในรถสปอร์ตคันหรูของพระอาทิตย์
“…” พระอาทิตย์เอาแต่ขับรถทำทีว่าไม่ได้ยินเสียงเชน
“พระอาทิตย์กูถามไม่ได้ยินรึไง”
เชนพูดขึ้นเสียงเขียวมองคนข้างกายอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเขาเพิ่งสังเกตว่าที่ไหปลาร้าตัวเองมีรอยคิสมาร์กใหม่ขึ้นมาอีก
…น่าโมโหชะมัด
“บ้านกู กูจะเข้าออกห้องไหนทำไมกูต้องขออนุญาตมึงด้วย” พระอาทิตย์พูดเสียงนิ่ง
“เหอะ!!! บ้านมึงงั้นสิ เออดี งั้นกูจะไปอยู่บ้านกู” เชนพูดขึ้นเสียงไม่พอใจ แขนเรียวยกขึ้นกอดอกและหันหน้าออกมองนอกรถ
“หึ ลืมไปแล้วหรือไงว่าบ้านมึงกูก็เข้าห้องมึงมาแล้ว…”