หญิงสาวที่เดินเข้ามาในห้องอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะชะงักเมื่อสายตาคู่สวยนั้นปะทะกับหนุ่มหล่อร่างสูงที่เปลื่อยท่อนบน โดยมีหยดน้ำเกาะพราวเต็มลำตัวกล้ามหน้าท้องที่เรียงกันเป็นลอนๆหรือที่เรียกว่าซิกส์แพ็คซึ่งเขาเองก็มีไม่ได้น้อยไปกว่าใครเลยทีเดียว รอยสักที่ต้นคอสีดำก็สามารถขับลุคให้เขาดูแบดบอยอย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่เขาจะหยุดลงเพราะรู้สึกว่ากำลังโดนจ้องจากเธอพร้อมกับหันหน้ามามองอย่างหาเรื่อง
“มองอยู่นั่นแหละ มีอะไร กล้ามเนื้อบนตัวฉันมันรกตาเธอหรือไง” เมราดิกส์ที่หยิบผ้าสีขาวสะอาดขึ้นมาเช็ดผมและถือวิสาสะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงคนไข้อย่างไม่สนใจว่าเจ้าของเตียงนั้นจะมองอย่างไรเลยด้วยซ้ำ
“เรื่องของนายเถอะ จะนอนเป็นคนป่วยต่อไปก็ตามสบาย แล้วมาร์ตินล่ะ” ฮาเวียร์ที่เดินเข้ามาโดยที่สายตายังคงมองไปยังหนุ่มหล่อที่นั่งนิ่งเช็ดผมอย่างกวนประสาท จนเธอนั้นต้องเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าเขาแม้จะพยายามไม่เบี่ยงสายตาไปที่กล้ามเนื้อสวยนั่นเลยก็ตามที
“จะยืนตรงหน้าหาอะไร มิทราบครับ”
“และนายจะทำหน้ามึนหูทวนลมอีกไหมล่ะ” ฮาเวียร์ที่ขมวดคิ้วพรางยกมือขึ้นกอดอก เชยปลายคางมองชายหนุ่มตรงหน้าที่ค่อยๆกระตุกยิ้มมุมปาก ราวกับว่าเขากำลังแกล้งเธออยู่
“ก็ได้ยินแหละ เธอเห็นมันไหมล่ะ ถ้าไม่เห็นก็แสดงว่ามันไม่อยู่ ถามทำไมวะ” เมราดิกส์ที่ลุกขึ้นจากเตียงและเดินสวนฮาเวียร์ที่ยืนงงกับคำพูดของเขาก่อนจะหันมองและเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ
“นายเป็นอะไรของนายเนี่ย !”
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ โยนผ้าผืนนั้นมาให้ฉันหน่อย เห็นหน้าเธอแล้วเกะกะลูกตาชะมัด !” เมราดิกส์ที่เดินไปหยิบเสื้อยืดแขนยาว เมื่อเอ่ยปากกับหญิงสาวจบ แต่เธอนั้นกลับคว้าผ้าและเดินไปหาชายหนุ่มราวกับทำตาม จนเมราดิกส์ที่มองอยู่นั้นต้องเอียงคอ อย่างเหลือเชื่อ
“อยากได้ใช่ไหม ?” ฮาเวียร์ที่ยืนประจันหน้าก่อนจะชูผ้าขึ้น โดยที่เขานั้นก็เอื้อมมาเหมือนจะคว้าไว้ แต่เธอกลับดึงกลับและพูด
“หยิบเองละกัน”
ตุ้บ ปัง !
“เฮ้ย !”
หมับ !
มือใหญ่ที่คว้าไหล่หญิงสาวไว้ เมื่อเห็นว่าเธอนั้นกำลังจะเดินหนี โดยที่หญิงสาวนั้นก็ต้องหันกลับมาหาเขาเช่นเดิมพร้อมกับเอ่ยคำพูดแรงๆ
“อะไรอีก” ชายหนุ่มที่มองหน้าหญิงสาวอย่างไม่ชอบใจก่อนจะก้มลงหยิบผ้าทั้งๆที่มือก็ยังคงจับแขนเธออยู่ ก่อนจะตวัดสายตามองเธออีกครั้งและตัดสินใจปล่อยมือเดินจากไปโดยไม่หันมามองอีก ซึ่งทิ้งให้ฮาเวียร์นั้นต้องยืนด่าอยู่ในใจและเดินแยกไปอีกทาง
ชายหนุ่มร่างสูงที่ลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่าที่ๆตัวเองหลับอยู่นั้นกระแทกไปมาราวกับอยู่บนรถ ส่งผลให้แขนใหญ่นั้นต้องยกขึ้นมาบังใบหน้าและเอื้อมไปรูดผ้าม่านปิดกระจกอย่างอัตโนมัติและเคยชิน ก่อนจะรู้ที่หลังว่าเขานั้นกำลังนั่งอยู่บนรถจริงๆไหนจะคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าและด้านข้างนั้นก็เป็นคนของเขาล้วนๆ โดยมีหัวหน้าทีมคือ อาร์โต แอนเทิร์นดอว
“พวกแกจะพาฉันไปไหน” เอเธนส์ที่เอ่ยขึ้นก่อนจะกะเถิบตัวขึ้นนั่งหลังตรงและหันไปมอง สองแฝดหนุ่มหล่อ สองคู่ซี้ และ พี่ชายตัวดีของเขา
“ไปในที่ที่ไม่มีใครรู้” แมกซิม
“และไม่มีใครรู้ว่าเราจะไปไหน” เจคิว
“พวกฉันกำลังพาแกไปดาวอังคาร” ลูอีส
“และไปวิ่งเล่นที่วงแหวนดาวเสาร์” เทมัส
“ฉันว่าแกควรที่จะนอนต่อไป” จีโอที่พูดคนสุดท้ายเมื่อได้ยินประโยคพร่ำเพ้อมากมายจากปากของคนสนิท ก่อนที่พวกเขาจะเงียบกริบเมื่อหันไปมองไปหน้าของเอเธนส์ที่เริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ และบ่งบอกว่าอยากได้คำตอบที่ตรงกับคำถามนั้นมากกว่ามาพูดเล่นในตอนนี้
“ฉันถามว่าจะไปไหน และเกิดอะไรขึ้น ?”
...............................................................................
สถานการณ์เงียบกริบ ทุกคนต่างมองหน้ากันราวกับไม่อยากตอบ จนสุดท้ายเอเธนส์จึงตัดสินใจคว้าไอโฟนในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาท่ามกลางสายตาของหนุ่มหล่อทั้งห้า ก่อนจะกดโทรออกและแนบหู
“โทรหาใคร ?” แมกซิมที่เอ่ยถามเป็นคนแรก ราวกับคำถามนี้อยู่ในหัวของพวกเขาทั้งหมด
“คริส”
หมับ !
หวืดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
วูบบบบบบ !!!
ทุกคนที่หน้าตาตื่นก่อนที่จะมีมือเอื้อมมือดึงโทรศัพท์ออกจากหูและเปิดหน้าต่างพร้อมกับปาออกไปอย่างไม่ใส่ใจราคาและเจ้าของเครื่องว่าเขาจะมองยังไง ซึ่งในตอนนี้นั้นมือสิบข้างที่พันกันไปมาเต็มตัวเอเธนส์ จนเขานั้นต้องอยู่เฉยๆและจ้องมองไปยังอาร์โต ที่ทำท่าทางราวกับสมรู้ร่วมคิดกับเรื่องทั้งหมด
“เอ่อ...ฉัน”
“เอาแล้วไง” แมกซิมเสริม
“ปัญหาจัมโบ้ !” เจคิว
“มีเรื่องอะไรกัน ตอบมาสักคนได้ไหม” แม้คำพูดของเอเธนส์จะแลดูเรียบๆแต่ใบหน้าหล่อนั้นกลับขมวดคิ้วและเริ่มจริงจังขึ้นมาทุกทีๆ เมื่อเห็นว่ายังไม่มีใครพูดคำตอบที่ตัวเองต้องการออกมา
“ใจเย็นๆนะเว่ย คือ..”
“แล้วฮาเวียร์ล่ะ !?” จู่ๆ เอเธนส์ที่สะดุ้งตัวเมื่อเอ่ยชื่อหญิงสาวที่ตนจำได้ว่าพึ่งได้คุยกับเธอไม่นานมานี้ขึ้นก่อนจะหันไปมองเบาะด้านหลังและหันไปด้านข้าง โดยคนบนรถทั้งหมดต่างอ้าปากค้าง ก่อนที่แมกซิมจะตัดสินใจเป็นหน่วยกล้าตายถามออกไป
“ถามทำไมวะ อย่าบอกนะว่าแกจำเธอได้แล้ว ?”
“ยังจำไม่ได้ แล้วเธออยู่ไหน ? ไม่ได้เอาเธอมาด้วยหรือไง” เอเธนส์ที่มีอาการกระอักกระอ่วน ทำให้อาร์โตที่นั่งอยู่ถึงกับงงกับท่าทางน้องชายของตนอย่างไม่มีที่มาที่ไป
“ฉันชวนแล้ว เธอไม่มาแถมไล่ส่งให้ไปไกลๆด้วย”
“กลับ !!”
“เห้ย !” แมกซิม
“อะไรของแก !” ลูอีส
“มาตั้งไกลแล้วนะ” เจคิว
“ไม่กลับไม่ได้เหรอพวก” เทมัช
“ไอ้เธนส์ แกจะบ้าหรือไง ตอนนี้คนของคริสกำลังตามหาตัวแกให้วุ่นวายทั่วโรงพยาบาลไปหมด ขืนแกกลับไปมีแต่ตายกับตาย” สิ้นสุดคำนั้นทำเอาทุกคนที่รู้เห็นเหตุการณ์ต้องหันไปจ้องมองจีโอที่เป็นคนเอ่ยปากบอกความจริงไป โดยเจ้าตัวนั้นก็พึ่งรู้สึกตัวและค่อยๆหันไปมองหน้าน้องชายตัวเองที่มีเครื่องหมายคำถามและขอฟังใหม่อีกครั้งเต็มไปหมด
“เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ” เอเธนส์ที่เน้นเสียงหนัก ทำให้จีโอที่ถอนหายใจพร้อมกับหันไปมองทางกระจกและเม้มปาก ก่อนจะหันมามองหน้าน้องชายตัวเองอีกครั้ง
“คริสกำลังส่งคนทั้งหมดที่อยู่ในรัสเซียตามหาตัวแกอยู่ หลังจากที่รู้ว่าแกได้ไปสร้างเรื่องนอกเหนือคำสั่ง”
“แล้ว...”
“เขาจะให้แกถอนตัวออกจากการเป็นหัวหน้ามาเฟีย เอาง่ายๆคือแกลาวงการที่เกี่ยวข้องกับมาเฟียทั้งหมด ตอนนี้ฉันลองเปิดข่าวดูก็มีแต่ข่าวเรื่องแกทั้งนั้น และตอนนี้ฉันกำลังจะพาแกไปในที่ที่ไม่มีใครรู้”
“กลับไปโรงพยาบาล ฉันจะพาฮาเวียร์ไปด้วย”
.....................................................................................
“เดี๋ยวนี้ !!”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงล้อรดที่หยุดลงและเลี้ยวโค้งกลับกะทันหันเมื่อได้ยินประโยคคำสั่งของชายหนุ่ม เมื่อเขาเห็นแบบนั้นจึงยกมือขึ้นกอดอกและเอนหลังพิงเบาะ ส่วนคนอื่นก็แทบจะหันไปต่อยกระจกเมื่อทำอะไรไม่ได้
ร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวกางเกงยีนส์สีดำยืนอยู่หน้าบ่อนที่ตนเคยเข้าไปเล่นหลายต่อหลายครั้งแต่ครั้งนี้เขากลับทำเพียงแค่ยืนสูบบุหรี่และมองไปยังประตูบานเลื่อนภายใต้กรอบแว่นสีชา
หมับ !
จู่ๆก็มีมือใหญ่ของเพื่อนสนิทของตนวางลงไปบนไหล่ โดยที่เมราดิกส์นั้นก็ทิ้งขี้บุหรี่ลงและเอ่ยถาม
“พวกนั้นพาเจ้านั่นออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ความจริงก็ไม่เห็นต้องทำตัวเป็นศัตรูกันเลยในเมื่อต่างคนก็ถูกฝ่ายเดียวกันเล่นงาน แกน่าจะไปคุยกับพวกนั้นมากกว่านะว่าจะเอายังไง เพราะฉันขี้เกียจทำตัวเป็นศัตรูกับใครละ มันน่าเบื่อว่ะ” เมราดิกส์พูดก่อนจะหันตัวไปมองหน้า มาร์ติน ที่ยังคงเงียบ
“เรื่องนี้ชั่งมันก่อน ฮาเวียร์อยู่ไหน ?? เธอได้มากับแกหรือเปล่าวะ”
“เปล่า ฉันลงมาก่อน เธอน่าจะอยู่บนห้อง มีเรื่องอีกแล้วหรือไง” เมราดิกส์ที่ขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยกลับไป ซึ่งใบหน้าหล่อของมาร์ตินนั้นกลับเครียด
“แฮ็คเกอร์กำลังตามหาตัว เธออยู่ และถ้าให้ฉันเดาถ้าได้ตัวเธอไปคราวนี้ ฉันจะไม่มีทางได้ตัวเธอกลับมาอีกพ่อฉันกะฆ่าเธอจริงๆ !” สิ้นคำพูดนั้นก็ทำให้เมราดิกส์ที่ฟังไม่ทันจบก็วิ่งสวนมาร์ตินเข้าโรงพยาบาลไปอย่างไม่สนใจคำพูดใด และเป้าหมายของเขาคือห้องที่เธอพักอยู่ !!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเค๊าะประตูห้องดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ต้องชะงักก่อนจะเอ่ยออกไปและไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปเปิดประตู
“ใครคะ ??” เสียงเล็กที่เอ่ยออกไปอย่างดูลาดราว แต่แล้วกลับเป็นเสียงพยาบาลที่จะนำอาหารเข้ามาให้ทาน
“ดิฉันนำอาหารมาให้ทานค่ะ รบกวนช่วยเปิดประตูหน่อย” ฮาเวียร์ที่ทำหน้างงก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนเตียงและลุกขึ้นนั่ง พรางเอ่ยตอบกลับไป
“อาหาร ? ส่งผิดห้องหรือเปล่าคะ ? พอดีว่าทานไปแล้วเมื่อเช้า”
“อันนี้ต้องไปถามคุณหมออ่ะค่ะ เพราะว่าเขาสั่งให้เอามาให้ห้องนี่น่ะค่ะ รบกนช่วยเปิดประตูให้ทีค่ะ ไม่ได้เข็นรถมาอีกอย่างมันร้อนด้วย” สุดท้ายแล้วถึงแม้จะข้องใจกับการมาของอาหารมื้อนี้ แต่เธอก็คงไม่ใจร้ายถึงกับปล่อยให้อาหารร้อนๆลวกมือพยาบาลใสซื่อคนนี้แน่นอน ร่างสวยที่เดินไปยังประตูห้องก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปปลดล็อคและดึงประตูออก
“ขอโทษที่รบกวนนะค่ะ นี่ค่ะข้าวต้ม” พยาบาลร่างเล็กที่ยิ้มให้เธอก่อนจะพูดและขำ จนฮาเวียร์นั้นต้องเลิกคิ้วขึ้นและรับจานข้างต้มนั้นมาโดยไม่พูดอะไร
“ค่ะ ขอบคุณ”
“ทานให้อร่อยนะคะ” พยาบาลที่ยิ้มให้เธอก่อนจะยกมือชี้ไปยังด้านหลัง ส่งผลให้เธอนั้นต้องหันตามไป
หมับ !!!!!
“อื้อ !!!!!!!!!!!!!!”
เพล้งง !!!!!
หญิงสาวที่ถึงกับปล่อยจานข้างต้มหก และเอื้อมมือไปพยายามจะดึงมือใหญ่ที่สวมถุงมือสีดำออกซึ่งมือนั้นก็ตะครุบไปที่ปากเล็กของเธอก่อนจะตัดสินใจนาทีสุดท้ายผลักร่างเล็กออกและตวัดมือหนักๆไปที่ใบหน้าอย่างจัง จนทำให้ร่างเล็กถึงกับกระเด็นไปติดประตูและหมดสติไป
เพี๊ยะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าหนังสีดำที่วิ่งขึ้นบันไดเชื่อมมายังชั้นที่ตนเองต้องการก่อนจะสังเกตุเห็นว่าประตูห้องของหญิงสาวถูกเปิดออก ไม่รอช้าจึงรีบวิ่งไปให้เร็วที่สุดและหยุดลงที่หน้าห้อง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อพบว่าในห้องไม่มีคนอยู่และไหนจะพื้นห้องที่สกปรกเม็ดข้าวเกลื่อนกราด ก่อนที่จะหันไปมองชายหนุ่มอีกคนที่วิ่งขึ้นมาและหยุดลงด้านข้างของตน
“โธ่เว้ย !!!!” เมราดิกส์ที่ถึงกับประสาทเสียก่อนจะเดินไปเข้าไปถีบโต๊ะที่วางอยู่ในห้องอย่างโมโห โดยที่เอเธนส์นั้นต้องถามกลับไปอย่างงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น”
“เธอถูกแฮ็คเกอร์จับตัวไป และรอบนี้เขาจะฆ่าเธอ !” ใบหน้าหล่อของเมราดิกส์ที่ที่ตะโกนใส่เอเธนส์ก่อนจะควักไอโฟนของตนขึ้นมาและกดโทรหาเพื่อนคนสนิท
“เธอถูกจับตัวไปแล้ว ฉันมาไม่ทัน เหมือนจะไปได้ไม่ไกล”
“เออ และเดี๋ยวฉันจะรีบตามไป” สิ้นคำพูดนั้นชายหนุ่มจึงตัดสายก่อนจะเดินมาหาเอเธนส์ที่ยืนมองเจ้าตัวอยู่
“ฉันจะไปดูกล้องวงจรปิด”
“ไม่ต้องไปดูหรอก ฉันว่าฉันรู้ว่าข้าวต้มมื้อนี้ใครเป็นคนให้เธอ” เอเธนส์ที่เอ่ยขึ้นอย่างไม่ค่อยรีบร้อนแต่นั้นกลับทำให้เมราดิกส์ถึงกับกระชากคอเสื้ออย่างโกรธ
หมับ !
“ทำไมแกใจเย็นจังวะ !! เธอหายตัวไปและจะเป็นไงบ้างก็ยังไม่รู้ ! แกควรจะจำอะไรได้บ้างละนะ ฉันเบื่อแกในตอนนี้ที่สุดเลยว่ะ ! โธ่โว้ย !”
“ปล่อยมือ” เอเธนส์ที่เอ่ยเสียงเรียบก่อนจะมองใบหน้าของเมราดิกส์ที่กำลังฉุนกับท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวของคนตรงหน้า
“แกจะไม่มีวันได้เธอไป จำเอาไว้ !” สิ้นคำพูดนั้นร่างสูงจึงเดินชนไหล่เอเธนส์ออกไป
ผ่านไปเกือบห้านาที ที่เอเธนส์ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นและไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ก่อนที่จะมีเสียงมากมายเอ่ยเรียกชื่อของเขาทางด้านหลัง
“เจ้านาย”
“คริสอยู่ไหน ?”
“รอเจ้านายอยู่ด้านล่าง แต่ว่า..” ยังไม่ทันที่จะพูดจบเอเธนส์ที่ตัดสินใจเดินสวนลูกน้อยมากมายเดินบันไดไปยังด้านล่าง ราวกับว่าจะเคลียร์เรื่องทั้งหมดให้จบไป
หมับ !
ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวไปไกล ก็ถูกมือใหญ่ของลูอีสกระชากตัวไว้และผลักไปติดกำแพง ใบหน้าหล่อของเอเธนส์ที่ขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทีของลูอีสคนสนิทของตน
“ทำอะไรของแกวะ”
“ฉันต้องถามแกมากกว่าไหม ว่าแกกำลังจะทำอะไร แกคิดอะไรอยู่ว่ะ ? ไอ้เธนส์แกจะไปถอนตัวแบบง่ายๆเนี่ยนะ”
“ก็เออไง แล้วแกจะทำให้มันเป็นเรื่องยากทำไม ในเมื่อหนีไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ?” เอเธนส์ที่พูดออกมา
“แกไม่ใช่ไอ้เธนส์คนเดิมที่ฉันรู้จักว่ะ ถ้าเป็นแกคนก่อนแกจะไม่เอาเวลาไปสยบต่อพ่อแกแบบนี้ แกจะตามไปช่วยและพาตัวฮาเวียร์คืนมา ! แต่แกในตอนนี้มันไม่ใช่ ! แกเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย ทำไมยังจำอะไรไม่ได้อีกวะห้ะ !!”
ปัง !!
หมัดหนักๆของลูอีสที่พุ่งตรงไปยังกำแพงเฉียดใบหน้าหล่อของเอเธนส์แต่เขาเองก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรมากมาย
“ฉันจะทำยังไงให้แกจำเธอได้สักที !”
“ต่อยฉัน จนกว่าฉันจะบอกให้แกหยุด แกทำได้ไหมล่ะ”
“มันไม่ใช่ข้อเสนอที่ดี แต่ฉันก็ยินดีที่จะทำมันพวก !”
พลั่วะ !! พลั่วะ !! ตุ้บ !!! ตุ้บ !!!! พลั่ก !! พลั่ก !!!
แมกซิมและเจคิวที่ยืนอยู่ในห้องโดยห้องนี้นั้นเป็นศูนย์กลางของระบบทั้งหลาย ซึ่งไม่ต้องบอกเลยว่าเขากำลังสั่งให้ชายหนุ่มเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนี้ทำอะไรอยู่
“เจอหรือยังวะ !” น้ำเสียงร้อนใจของแมกซิมที่เอ่ยขึ้นก่อนจะยกขาขึ้นวางไปบนเก้าอี้และหันไปมอง
“กำลังหาอยู่ครับ”
“เร็วๆได้ไหม ฉันไม่มีได้มีเวลามากมายจะมานั่งนอนรอแกเลื่อนเม้าส์ไปมาอยู่หรอกนะ”
ปัง !
“ยัยนั่นไม่อยู่แล้ว ฉันตามหาทั่วโรงพยาบาลแล้ว” เทมัชและจีโอที่วิ่งมาสมทบ ซึ่งในตอนนี้หนุ่มๆก็ยังคงวุ่นอยู่กับการตามหาตัวฮาเวียร์กันให้อุดตลุด
ผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ฟ้าที่เริ่มมึดลง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงมีเสียงดังถี่ๆกันมาอยู่เรื่อย
พลั่วะ !!
“จำได้หรือยัง” เสียงของลูอีสที่เอ่ยขึ้นกับชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าที่ตอนนี้มีแต่เลือดและรอยฟกช้ำเต็มไปหมด
พลั่วะ !! พลั่ก !!
“โอ้ย !! ชกไปก็มีแต่จะเจ็บตัวนอนโรงพยาบาลต่อไปเปล่าๆ หมัดสุดท้ายถ้าแกยังจำไม่ได้ ฉันจะเลิก !”
หวืด ~
หมับ !
“เฮ้ย ! ไอ้เธนส์” น้ำเสียงตกใจของหนุ่มหล่อที่กำลังจะวาดหมัดไปอีกรอบแต่ครั้งนี้ ร่างสูงตรงหน้ากลับรับไว้ด้วยแรงมากมาย
“เวรเอ๊ย ! ฉันเจ็บ ! หัวสมองตุ้บๆไปหมด”
“แก..”
“ฉันจำได้หมดแล้ว และก็รู้ด้วยว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ขอบคุณมาก !”
พลั่วะ !!
หมัดของเอเธนส์ที่ตรงไปปะทะบนใบหน้าของลูอีส โดยที่เจ้าตัวนั้นไม่หลบเลยสักนิด ก่อนจะถ่มน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดลงพื้น
“แกจำใครได้”
“ฮาเวียร์”
(ขอโทษรีดเดอร์น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ไม่มีคำแก้ตัววว ผิดไปแย้วววววววว)
ลงต่อให้แล้วนะ ปิดเทอม์แล้วด้วย ไม่กล้าอ่านคอมเม้นมาก รู้สึกผิดขั้นรุนแรง ขอทวดดดดดดดดดดดด ชาวรีดดน่ารัก หายโกรธนะแจ๊ะ ! จะเริ่จับคอมและเพ้อกับนิยายเรื่องนี้ต่อละ จบแน่สัญญา ฝันดีจ้าา