“นาตาลีบอกว่าแกเอากระเทียมบริสุทธิ์ไป” น้ำเสียงราบเรียบทว่ากลับข่มขวัญคนฟังให้ใจสั่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
กลางโถงใหญ่ของคฤหาสน์ริมเขามีบุคคลผู้น่าเกรงขามกำลังนั่งทอดสายตามองลงมายังเบื้องล่างที่มีชายสี่คนสวมเสื้อคุมตัวยาวยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“คะ...ครับ นายท่าน” ชายผู้ซึ่งมีใบหน้าขาวซีดตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
ร่างล่ำสันของคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเอาหลอดเเก้วสีใสที่ภายในบรรจุกระเทียมบริสุทธิ์ที่ผ่านการกลั่นกรองออกมาเป็นหยดน้ำสีใส สำหรับมนุษย์ทั่วไปมันอาจจะเป็นเพียงอาหารเสริมพื้นๆ ทว่ากับคนที่ในร่างกายมีการติดเชื้ออย่างพวกเขาแล้วมันเปรียบเสมือนยาพิษ!
“ไหนอธิบายมาสิว่าการชักชวนเข้าร่วมสมาคม จำเป็นต้องใช้สิ่งนี้ด้วยเหรอ?” ผู้เป็นนายยังคงมีน้ำเสียงนิ่งสงบทว่าผู้ที่ยื่นอยู่เบื้อหน้านั้นหายใจไม่เป็นสำเสียแล้ว
“อะ...เออ...” คำตอบของชายที่นำยาพิษไปฉีดใส่หมอวินอ้ำอึ้ง จะให้ตอบนายท่านไปได้อย่างไรว่าความแค้นในอดีตทำให้เขาอดที่จะอยากฆ่าไอหมอหน้าหล่อนั้นไม่ได้ ยิ่งตอนนี้นายท่านยังต้องการให้มันเข้าร่วมสมาคมอีกครั้ง เขายิ่งอยากจะให้มันตายๆให้รู้แล้วรู้รอด
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงไม้เท้าดังกระแทกพื้นดังๆพร้อมกับการก้าวเดินลงมาจากตำแหน่งประธานของนายใหญ่ เขาเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้าของชายผู้ทำงานนอกเนื้อคำสั่งอย่างใจเย็น
กริ๊ก...
เสียงของฝาเกรียวโลหะถูกหมุนบิดออกต่อหน้าต่อตาชายผู้ทำผิด
“แค่ได้กลิ่น ฉันยังแสบจมูกตั้งสามวัน” นายใหญ่กล่าวเหมือนอย่างกำลังบอกเล่าเรื่องราวให้เด็กฟัง ทว่ามือที่แห้งเหี่ยวของเขาก็ยื่นหลอดแก้วนั้นให้กับลูกน้องคนหนึ่งในกลุ่มที่ไม่ใช่หัวหน้าทีม
“ดื่ม” น้ำเสียงนั้นช่างฟังดูเยือกเย็นยิ่ง ทว่าสีหน้ากลับแน่วแน่ไม่ได้มีอาการข่มขวัญใดๆเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
“นายท่าน ได้โปรด..” ชายคนที่ถูกยื่นยาพิษให้อ้อนวอนขอความเมตตา
“ป้อนเขาสิ” เขายื่นหลอดแก้วนั้นให้ผู้เป็นหัวหน้าทีมพร้อมกับหันหลังกลับเดินขึ้นไปยังตำแหน่งประธาน
ยังไม่ทันที่ลูกน้องจะได้เอ่ยคำร้องขอชีวิตผู้เป็นนายก็ล็อคคอและกรอกยาพิษลงไปในคอของสมุนคนนั้นอย่างเลือดเย็น ก่อนจะโยนร่างที่ชักดินชักงอด้วยความเจ็บปวดไปไว้ด้านหลัง
“นายไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังแจ็ค” นายใหญ่หันมาบอกก่อนจะนั่งลงบนตำแหน่งของประธาน มือก็เอื้อมไปที่แก้วไวน์ใบใหญ่ที่ภายใบมีของเหลวสีแดงข้นคลักนอนอยู่ที่ก้นแก้ว
“ข้าน้อยน้อมรับพระบรรชาด้วยใจภักดี” แจ็คลงไปขุกเข่าด้วยท่าทีเคารพนบนอบ
นายใหญ่ผู้มีใบหน้าซีดขาวและยังหนุ่มแน่นทว่านิ้วมือกลับแห้งเหี่ยวและมีสีออกดำคล้ายเนื้อตายยกยิ้มมุมปากน้อยก่อนยกแก้วเลือกกระดกดื่มอย่างใจเย็น
สาวใช้คนหนึ่งเช็ดขอบปากที่เปื้อนเลือดอย่างรู้หน้าที่ก่อนจะถอยออกไปยื่นอยู่ด้านหลังดังเดิม
“ถ้าครั้งหน้า นายมีลูกเล่นกับคำสั่งของฉันอีกละก็... จะไม่ใช่ลูกน้องของนายที่จะได้กินมัน เข้าใจ...ที่พูดใช่ไหม?” นายใหญ่หันมาถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและจริงจังจนคนฟังสะดุ้ง
บรรยากาศเย็นยะเยือกทำให้ไม่มีใครที่กล้าจะเงยหน้าขึ้นมาจากรองเท้าของตัวเอง ต่างภาวนาให้แจ็ครับคำและออกจากห้องไปเสียที พวกเขาที่เหลือจะได้หายใจหายคอได้สะดวกบ้าง
“ขอรับนายท่าน จะไม่มีหนที่สอง” แจ็ครีบรับคำทันที
“ผู้หญิงคนนั้น ฉันอยากได้ตัวเธอแบบเป็นๆ ไร้รอยขีดข่วน” นายท่านบรรชางานก่อนจะยกมือสะบัดเป็นเชิงไล่
แจ็ครับคำแล้วออกจากห้องโถงในทันที
หลายศตวรรษมาแล้วที่เขาตั้งตัวเองเป็นราชาเหนือผู้มีความพิเศษทางร่างกายด้วยกัน เขาพบเจอคนพวกเดียวกันมานับไม่ถ้วน ทว่าไม่มีคนไหนที่จะทำให้เขาจดจำได้ดีเท่าหมอหนุ่มผู้มีอุดมการณ์ผู้นั้น
“ผมขอแยกตัวออกไป” ใบหน้าหล่อเหลาคมสันของเขายังเด่นชัดในความทรงจำ
“ทำไมละ งานที่ทำไม่พอใจรึ” เขาถามด้วยความฉงน เนื้องจากรู้ว่าเขามีพรสวรรค์ด้านการรักษาเขาจึงได้เปิดห้องรักษาในคฤหาสน์เพื่อหมอคนนี้โดยเฉพาะ เพื่อรั้งตัวคนเก่งเอาไว้ข้างตัว
“การรักษา ไม่ใช่การรักษาเพื่อเอาไปเป็นอาหาร หมอรักษาคนไข้เพื่อต่อชีวิตให้เขาแม้ว่าจะแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม” น้ำเสียงหนักแน่นแน่วแน่เป็นคำตอบที่เขายังคำได้ทุกถ่อยคำ
“แต่อย่าลืมเรื่องการมีชีวิต เราต้องกินอาหารเพื่อการมีชีวิต หมอจะปฏิเสธว่าตัวเองไม่กินเลือดอย่างนั้นเหรอ?” คนไม่อยากเสียเบี้ยเริ่มออกวาจาโน้มน้าว
“แต่ผมไม่เคยกินเลือดของคนที่ผมรักษา ผมไม่กินเลือดของคนที่เข้ามาหาเพราะหวังจะขอความช่วยเหลือ” แววตาสีฟ้ากระจ่างใสของเขาจ้องเขม่นมาทางผู้เป็นเหนือทุกชีวิตอย่างเขาโดยที่ไม่เกรงกลัว
เขาเฝ้ารอวันที่ได้จะพบกับคนผู้นั้นแทบจะไม่ไหวแล้ว!
*************************************************************************************************************
หมอจ๋าอยู่ไหนนนนนนนน ไรท์เงินขาดช่วงกลางเดือนจำต้องมีมาม่าเล็กน้อยเจ้าคะ