#TALK GUSJUNG
เมื่อเดือนก่อน…
@มหาลัย
“เฮ้อ~”
ฉันเดินบิดขี้เกียจ ออกมาจากห้องเรียน สภาพเหมือนคนเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง เรียนชดเชยมาทั้งวัน อาจารย์น่าจะให้หยุด ปล่อยผีให้คนโสดโลดแล่นบ้าง แหม่…วันนี้วันอะไรคะซิส โลกเป็นสีชมพู รู้ไหม? มีแค่ฉันกับเพื่อน สองหน่อโสดตายสนิท นอกนั่นเขามีคู่กันหมด
“กัส…”
เบียดๆ
“อะ..ไอหยา!”
เบียดๆ
“อิกัสสสสสสสสสสสสสสสส!”
โอ้โห้! พูดชัดเลย แต่จะส่งเสียงดังเพื่อ? อยู่ใกล้ๆ กันแท้ๆ ส่วนนั่นก็ชื่อฉันเอง กัสจัง ค่ะ เฟรชชี่ปี 1 เรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ นิสัยใจคอ…พื้นฐานเป็นคนเฟรนลี่ เข้ากับสังคมง่าย แต่เพื่อนสนิทที่จริงๆ จังๆ ก็มีอยู่แค่คนเดียว สนิทกับใครก็อยากจะอยู่ด้วย เรียกว่าติดงอมแงมเลยทีเดียว
ฉันลืมตัว อีกนิดก็จะสิงร่างเพื่อนแล้ว ส่วนเพื่อนก็ยืนทำหน้าปั้นปึงไปสิ
“งื้อ~”
“ลื้อนี่มัง! ขี้คอเลยไหม?”
“ขี่คอก็พอ!”
เอาอีกแล้ว…โมโหทีไร พูดไม่ได้ศัพท์จับมากระเดือกทุกรอบ เพื่อนของฉันเอง เพ่ยเพ่ย( ชื่อปานนางเอกเฟยหง ) เป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน แต่อยู่ที่ไทยมาเกือบ 10 ปีแล้ว นานๆ ถึงจะกลับจีน
“ทำเพื่อ?”
“ก็คู่กันไง~”
ฉันกอดแขนเพื่อนๆ ก็เหงาเป็นเหมือนกันนะ ไม่ได้อยากมีแฟน แต่เวลาเห็นคนมีคู่ ก็อยากทำบ้าง แค่นั้นเอง…ไม่ได้มีอะไรในก่อไผ่หรอก ( อารมณ์แบบเด็กขี้เหงา )
แยกย้ายกับเพื่อนที่หน้าตึก เพ่ยเพ่ยโบกมือลา กำลังจะกลับคอนโด แต่ฉันยังไม่กลับบ้าน ต้องแวะไปหาเดอะแก๊งค์รุ่นพี่ก่อน เพราะพี่เขาไลน์มานัดตั้งแต่เช้าเลย
“ป้ายป่าย”
“บาย~”
ฉันเดินไปแถวๆ โต๊ะม้าหินอ่อน เป็นจุดรวมพล เห็นพวกพี่ๆ เขากำลังนั่งเม้าส์กันอย่างเมามัน พี่คิตตี้ พี่พิมพ์ พี่กุ้งนาง พี่หญิงแพรว เป็นรุ่นพี่ปี 4 ถามว่าทำไมถึงรู้จักพวกเจ่เจ๊ๆ เขาด้วย? ไม่เคยข้ามรุ่นหรอกนะ แต่ฉันเป็นน้องรหัสของพี่หญิงแพรว
พี่เขาเทคของบ่อยมาก ใจดีเหมือนหน้าตาเลยค่ะซิส ส่วนฉันก็เจอเดอะแก๊งค์ของพี่เขาบ่อยมาก บ่อยจนสนิทกันมาถึงทุกวันนี้ แถมยังเอนดูน้องกัส เหมือนลูกในไส้เลย
“เซย์ฮี่~”
พี่ตี้ส่งเสียงทักทาย อะไรนั่น? ฉันถึงกับตกใจ เรือนร่างพี่แกเต็มไปด้วยสติกเกอร์หัวใจ
“พี่ตี้?”
“อีตี้! น้องกลัว ติดอะไรเยอะแยะ มึงจะแปลกร่าง?”
“ผู้ชายให้มา~”
“มึงไปเหมาสำเพ็ง”
“โอ๊ย! อีนี่! ขัดกูตลอดดดดดดดดดด~”
“ขายดีเลย”
ฉันถึงกับกลั้นขำไม่อยู่ เลยถูกพี่ตี้ตีแขนแรงๆ ไปเต็มๆ เจ่เจ๊รุนแรงกับนุ้งกับเต้าตลอด แต่…สุดท้ายพี่แกก็แบ่งหัวใจให้ 1 ดวง
“อีตี้ ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ”
พี่พิมพ์ถึงกับแซว พี่ตี้เลยกอดฉันอย่างเต็มรัก หน้าแนบอกกันเลยทีเดียว!
“ตบมันคืนเลยลูก!”
“ลูกกู!”
เฮฮากันพอหอมปากหอมคอ พอนั่งได้ซักพัก ไม่สิ…เรียกว่าตดยังไม่ทันหายเหม็น เวลาสนุกก็หมดแล้วสิ ฉันก็ต้องรีบกลับบ้านแล้ว ไม่ใช่เด็กอนามัยหรอก เพราะฉันอยู่กับแม่สองคน ส่วนพ่อก็เสียตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ เราอยู่กันแบบสองคนแม่ลูก ฉันก็เลยเป็นห่วงท่านเป็นพิเศษ
“จะกลับแล้วน้า~”
“อ้าว?”
“สนใจลูกมึงบ้าง อีตี้”
พี่ตี้มัวแต่แหกปากแหกคอตะโกนจีบหนุ่มๆ จนเสียงแหบเสียงแห้ง เห็นแล้ววงวารแทน
“ลูก~”
พี่ตี้ดึงแขน อ้อนเหมือนแมวสมชื่อ ไม่อยากให้ฉันกลับ
“น้องมันอยู่นานไม่ได้”
“แฟนมารับหรอจ้ะ?”
“อีตี้! อีผี! อีลูกอกตัญญู! น้องจะกลับไปหาแม่!”
“กูแซวเล่น!”
“อ่า~ ใจเย็นๆ”
ฉันห้ามแทบไม่ทัน พี่ๆ แกชอบเปิดศึกทุกเมื่อ มวยถูกคู่ โดยเฉพาะพี่พิมพ์กับพี่ตี้
“นี่กัส…”
“คะ?”
“หาใครซักคน มาดูแลสิลูก”
“อ่า~ อย่าเลย”
อย่ายัดเยียดความเป็นผัวให้น้องเลย คิดว่าอยู่แบบนี้สบายใจกว่า อยากอยู่ดูแลแม่ จนกว่าฉันจะเรียนจบทำงานเป็นตัวเป็นคน
“เนื้อคู่อยู่ไหน?”
“เนื้อย่างดีกว่า~”
ถือคตินี้มาตลอดค่ะซิส ไม่มีใคร แต่เราก็ยังมีของกิน ฉันส่งยิ้มแห้งๆ พี่แกเอาแต่พูดเรื่องแบบนี้ บ่อยเกินไปแล้ว~ เจอหน้าไม่ได้…ทักถามหาเนื้อคู่ตลอด บอกว่าอยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาบ้าง เห็นสมหวังกันไปแล้ว 2 คู่ แบบสดๆ ร้อนๆ เลยนั่นก็คือ! พี่กุ้งนางจะแต่งปีนี้ ส่วนพี่หญิงแพรวจะแต่งปีหน้า
ส่วน หลัว ของพี่เขาทั้งคู่ก็ระดับ ท็อปฟอร์ม เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน เป็นตระกูล หล่อพ่อรวย
เสือก็ดีสิงห์เด็ด~
พี่ตี้สะกิดแขนฉันเบาๆ ทำท่าตื่นเต้น ทำหน้าทำตาเกิดเหตุ ชักเริ่มสงสัยตงิดๆ
“รู้ล่ะ”
รู้อะไรคะ? ไหนบอกน้องหน่อย
“เพราะหนูนกไง”
ห๊ะ?
“เจ่เจ๊จะปัดเป่าให้”
เจ่เจ๊! ดูปากกัสจังนะคะ! ช้าๆ ชัดๆ หนู - ไม่ - ได้ - นก! เป็นคนค่ะเจ่เจ๊ อย่าใส่ร้ายกันเลย คนแท้ๆ ไม่มีอะไรผสมเลยซักนิด
“เชื่อเจ่เจ๊”
เฮ้อ~
แต่พี่แกเคยฟังใครซะที่ไหน ( ฟังแต่ตัวเอง ) นั่งปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ฉัน แต่อยากจะบอกว่าระหว่าง น้ำลาย กับ น้ำฝน อะไรมันจะเปียกก่อนกัน! ฝนจะตกแล้วค่ะซิส ฉันเองก็เป็นภูมิแพ้ โรคเก่ากำเริบ แก้ไม่เคยหาย เริ่มคันจมูกหยิบๆ แล้ว อยากจามใจจะขาด
"เพี้ยง!"
เสกคาถา ให้มีคนหล่อพ่อรวย มาเฟียเสี่ยป๋า โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ย~ เป็นสิบยี่สิบบท กลับมาฟังพรุ่งนี้ก็ยังไม่จบ
"ยิ่งกว่าอจ.คงลูกเอ้ย~"
"อีตี้! หัวน้องเปียก"
พอเสร็จพิธี ( ขอเรียกไปตามน้ำก็แล้วกัน ) ฉันก็นั่งลูบๆ คลำๆ จับศรีษะตัวเองว่าเปียกอย่างที่ว่าหรือเปล่า? เพราะก็เล่นใหญ่เกินเบอร์
กลัวแล้ว~
"อ่ะ"
เจ่เจ๊ยื่น Chupa Chups แถมยังยัดใส่มืออีก ( แถวบ้านเรียกว่ายัดเยียด ) กำลังจะปฏิเสธอยู่แล้วเชียว
"คะ?"
"ลูกอมเสกผัว"
What?
ท่าทีจริงจังเกินเหตุทำให้พี่ๆ ในกลุ่มถึงกับนั่งกุมขมับ หรือว่าช่วงนี้ทำโปรเจคหนักเกินไป เหนื่อยใช่ไหม?
"อีตี้ อีบ้า"
ฉันมีคำถามเป็นหมื่นล้านคำ แต่ไม่กล้าพูดออกไป กลัวว่าถ้าพูดแล้ว สายสัมพันธ์แม่ลูกของเรา อาจขาดกัน
"เจ่เจ๊~"
"อะไรลูก?"
"มีของขลังตั้งเยอะ แต่ทำไมเจ่เจ๊ยังไม่มี..."
"ผัว!"
พี่พิมพ์เสริมให้
"กัสจัง!!!"
โธ่~
ก็แค่อยากรู้เฉยๆ พี่ตี้เป็นต้องอ่อนไหวตามทุกรอบ ฉันเลยตามเข้าไปกอด เข้าไปออเซาะทันที น้องผิดไปแล้ว น้องจะไม่พูดถึงมันอีกแล้ว น้องขอโทษขอโพย
"งื้อ~"
"พี่โกรธ"
"หนูขอโทษ~"
"น้องพูดความจริง มึงจะโกรธเพื่อ?"
"อีพิมพ์!"
"พอๆ จบแยก น้องอยากจะกลับบ้านแล้ว"
เห็นว่าเย็นมากแล้ว พี่กุ้งนางก็เลยพูดแทนให้ ฉันเลยสะพายกระเป๋าเตรียมรอ แต่พี่ตี้ก็ยังทำหน้าหงิกหน้าหงอ เรื่องอื่นเรื่องเล็ก แต่ไม่มีผัวเรื่องใหญ่
"หนูกลับนะ~"
"ไปเลย!"
พี่ตี้เหมือนจะไล่ แต่พอถูกอ้อนนิดๆ หน่อยๆ ก็เริ่มใจอ่อน
“งื้อ~”
"กินลูกอมด้วย!"
“ค่า~”
“ก่อนกินต้องพูดคำว่า รักกูหลงกู ด้วย!”
เฮ้อ~
ย้ำนักย้ำหนาจังเลยนะคะซิส ถามจริง...ไอ้ลูกอมนี่มันได้ผลจริงๆ เหรอ คงไม่ใช่หลอกลวงประชาชีอย่างฉันใช่ไหม? ถามว่าเชื่อไหม? โอ้ย~ ฉันก็ไม่เชื่อหรอก แต่ทำเป็นว่าเชื่อตามน้ำเฉยๆ คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นมากกว่าอ่ะ พี่ตี้แกต้องอำฉันแน่ๆ
“ลูกอมเสกผัว…”
มองยังไงก็เป็น Chupa Chups อยู่ดี คาถาศักดิ์จริงหรือเปล่าเจ่เจ๊ ( นั่งท่องเป็นชั่วโมง ) จะเสกผัว เสกป๋าเปย์ เสกอาเสี่ย เสกเฮียฮ้อ เข้ามาในชีวิตกัสจังได้จริงๆ เหรอ ชีวิตจริงไม่เหมือนในละคร เพราะฉันอาภัพยิ่งกว่านางซินอีกค่ะซิส
*ตัดป๋ากับเสี่ยออกนะลูก เหลือแค่ช้อยส์เดียว อิอิ // จำคำอีเจ่เจ๊ไว้นะจ้ะ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าอาจารย์คง!
ปล. นางเอกเรื่องนี้ไม่ใสๆ แต่น่าหยิกๆ สตรองด้วยเด้อค่ะเด้อ แต่นุ้งเป็นโรคภูมิแพ้อ่ะ ต้องการหมอมาออลเทคแคร์ ♥️
#เม้นท์เยอะๆ อย่าใจร้ายกับนุ้งจิ นุ้งจะเปิดให้อ่านฟรีกันถ้วนหน้า อิอิ