Revenge1 : เหตุเกิดที่เล่า(เหล้า)มาดิ๊ [Completed 100%]
Impressive often occur the first time we meet.
ความประทับใจมักเกิดขึ้นครั้งแรกที่เราพบกัน.
ไอ้สารเลว!
ฉันเลิกกับมันได้ก็ดีแล้ว ผู้ชายพรรคนั้นคบไปก็มีแต่แย่ ทั้งสันดานเสีย! หลายใจ! หลอกเอาเงินฉันไปเปย์ผู้หญิงคนอื่น! ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงกัน! เสียแรงที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม!
เหอะ!
อย่ามาให้เห็นอีกนะไอ้เลวมินตั้น!
ต้นฝนคนนี้ขอลาขาด!
และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องมานั่งจ๋อมอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งที่อยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับคอนโด เป็นผับกึ่งบาร์ที่มีการแบ่งชั้น สำหรับดนตรีสดอยู่ชั้นบน ส่วนชั้นล่างมีดีเจคอยเปิดเพลงให้สายแดนซ์พากันส่ายสะโพกโยกเต้น
ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่ใช่สายนั้น เลยต้องมานั่งฟังดนตรีสดจิ๊บเหล้าอยู่คนเดียวที่หน้าเคาว์เตอร์
ไม่ใช่ว่าเพื่อนไม่มี แต่เวลาแบบนี้ขออยู่คนเดียวจะดีกว่า
และเหตุที่ทำให้คนที่ไม่ชอบความวุ่นวายอย่างฉันต้องมานั่งอยู่ที่นี่ก็เพราะจับได้ว่าแฟนที่คบกันมาตั้งแต่มัธยมหิ้วสาวกลับคอนโด ไม่พอ มันยังมาหลอกเอาเงินฉันไปเปย์ผู้หญิงคนอื่นอีก!
ก็ยอมรับนะว่าตัวเองโง่
แต่สาบานเลยว่าจะไม่กลับไปโง่อีก!
อย่างที่บอกอ่ะ...ลาขาด!
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
มหา'ลัย
10.20น.
“ได้ข่าวว่าเมื่อคืนฝนเข้าผับอีกแล้วเหรอ?” นี่เป็นเสียงของฟ้าเพื่อนรักของฉันถามขึ้น ขณะที่ฉันเอาแต่นอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะรอเวลาอาจารย์เข้าสอน
ฉันมีเพื่อนสนิทสองคนคือฟ้าและซิน เราทั้งสามอยู่ปีสอง คณะบริหาร อีกไม่นานก็จะขึ้นปีสามแล้วล่ะ
และคำถามของฟ้าก็เป็นแบบนี้มาหนึ่งสัปดาห์แล้ว (แต่ฉันเลี่ยงตอบความจริง) นั่นแปลว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันไปผับตลอด แล้วก็เมากลับคอนโดทุกคืน แต่เพราะฉันรู้ลิมิตตัวเองดีถึงได้พาตัวเองกลับคอนโดครบสามสิบสองทุกครั้ง
“ไปเอาข่าวมาจากไหนล่ะ?” ฉันถามทั้งๆที่เปลืองตายังคงปิดอยู่
“ก็พวกไฟเห็น” ไฟที่ว่าก็เพื่อนฉันนี่แหละ เราสนิทกันประมาณหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สนิทมากเหมือนที่ฉันสนิทกับฟ้าและซิน
“มันมาฟ้องฟ้าเหรอ?” คราวนี้ฉันลืมตาขึ้น เห็นฟ้าพยักหน้างึก ๆ “ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่ชายฝนรู้มั้ย?”
“ฝนก็สัญญากับฟ้าสิ ว่าถ้าจะไป ห้ามไปคนเดียวอีก ชวนฟ้าหรือซินไปด้วยก็ได้” ฟ้าพูดอย่างจริงจัง
เพื่อนฉันคนนี้เป็นคนที่ดีมาก ๆ คำพูดและมารยาททุกกิริยาบทคือดีทุกอย่าง แม้ไม่ได้มาจากครอบครัวที่รวยแต่ก็ถูกอบรมมาอย่างดี
ฟ้าเป็นคนรูปร่างสวยเซ็กซี่จัด หน้าอกอวบคัพซี สะโพกกลมโด่งงอนสวย เอวคอดไม่เกินยี่สิบสี่นิ้ว ผิวไม่ขาวมากกำลังดี ใบหน้าเรียวสวย ดวงตาคมกริบที่ว่าถ้าใครสบตาเป็นต้องบาดใจแน่ๆ แต่ทว่าผิดกับนิสัยจริงๆของฟ้ามาก ฟ้าเป็นคนค่อนข้างนิ่งเงียบแต่กลับอ่อนไหวง่าย
อ่อนไหวที่ว่าไม่ได้แปลว่าอ่อนแอหรือขี้ร้องแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะฟ้าขี้สงสารต่างหาก เห็นใครทุกข์ร้อนหน่อยไม่ได้เป็นต้องช่วย ยกตัวอย่างเช่นงานกลุ่ม ถ้าครูจัดให้แน่นอนว่าฟ้าไม่ได้อยู่กับฉัน แต่ต้องไปอยู่กับพวกที่ชอบเอาเปรียบ ชอบอ้างนู่นอ้างนี่ สุดท้ายเป็นฟ้าที่ทำงานคนเดียว แต่คะแนนกลับได้ทั้งสองคน
ฉันเป็นคนไม่ชอบความยุติธรรม แต่ฟ้าก็ห้ามทุกครั้งที่ฉันจะฟ้องอาจารย์
นี่แหละสาเหตุที่ทำให้ฉันและซินเป็นห่วงฟ้ามาก ๆ
“ก็ได้ ฝนสัญญา” ฟ้ายิ้มทันทีที่ได้ยินคำตอบของฉัน “แล้วซินไปไหน ทำไมยังไม่มา?”
“อ้อ! ซินโทรมาบอกว่าวันนี้จะเข้าสายหน่อย เพราะต้องรอพี่ชายน่ะ”
ฉันครางอ่อในคอเบา ๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประตูห้องเปิดออก แน่นอนว่าต้องเป็นร่างสูงของอาจารย์หนุ่มสุดหล่อวัยยี่สิบห้าปี ที่เรียนเก่งมาก ๆ สามารถจบ ป.โท ในวัยยี่สิบห้าปีได้
แต่วันนี้ผิดคาดแหะ... ทำไมกลายผู้อำนวยการ (ผอ.) เสียได้
ผอ. ที่ว่าก็เป็นลูกเจ้าของมหา'ลัยที่ฉันเรียนอยู่นี่แหละ เขาชื่อเวกัส อายุก็เท่ากันกับอาจารย์มังกรที่ต้องเข้ามาสอนคาบนี้นี่แหละ ถ้าข่าวที่ฉันได้ยินมาไม่ผิดเพี้ยนคือเขาเป็นเพื่อนกัน และก็เรียนเก่งมาก ๆ จบ ป.โท ในวัยยี่สิบห้าเหมือนกัน
“สวัสดีนักศึกษา” เสียงทุ้มเอ่ย ขณะที่นักศึกษาทุกคนกำลังทำความเคารพ ผอ. อย่างงุนงง
“ทำไม ผอ. มาเองล่ะ?” ฉันหันมาถามฟ้าที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือถามเงียบ ฉันจึงเรียกเพื่อนสนิทตัวเองอีกครั้ง “ฟ้า”
“อะ...อือ เมื่อกี้ฝนว่าอะไรนะ” ฟ้ามีสะดุ้งเล็กน้อย
“ฝนจะถามว่าทำไม ผอ. เข้ามาในนี้แทนที่จะเป็นอาจารย์มังกรล่ะ ฟ้ารู้หรือเปล่า?”
“ฟ้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฟ้าส่ายหน้า ฉันหันกลับไปมอง ผอ. อีกครั้ง ก่อนร่างสูงจะทำการไขข้อสงสัย
“อาจารย์มังกรลากิจธุระ วันนี้ผมจะมาสอนแทน มีใครสงสัยอะไรมั้ยครับ?” ฉันรับรู้ได้ถึงรัศมีความดุของ ผอ. มาแต่ไกล
เขาเป็นคนหล่อมาก ร่างสูงหุ้นดี ใบหน้าองค์ประกอบทุกอย่างลงตัวราวกับพระเจ้าสร้าง คิ้วดกดำเป็นทรงสวยแต่กลับซ่อนความเหย่อหยิ่งเอาไว้ ริมฝีปากสีสดหนากระจับรับกันได้ดีกับสันจมูกที่โด่งเป็นสัน
ไม่แปลกหรอกถ้านักศึกษาทุกคนรวมถึงฟ้าจะอึ้งกับความหล่อของเขา
แต่บอกไว้ก่อน ฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้สึกเนื้อเต้นใจตุบอะไรเลยกับบุคคลตรงหน้า หนึ่งอาจเป็นเพราะ ผอ. ไม่ใช่สไตล์ฉัน สอง...ฉันยังทำใจเรื่องแฟนเก่าไม่ได้
“ไม่มีครับ/ค่ะ” เสียงนักศึกษาชายและหญิงตอบ
เสียววินาทีหนึ่งฉันเห็น ผอ. มองมายังฟ้า แต่ก็แค่เสียววินาทีจริง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นการเผลอมองโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้
17.30น.
ในที่สุดก็เลิกเรียนเสียที ฉันนั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นในห้องเรียนมาตั้งแต่เที่ยงแล้วล่ะ ปัจจัยรองก็คือง่วงเพราะเมาค้างนิดหน่อย ส่วนปัจจัยหลัก ๆ ก็เรื่องแฟนเก่า แต่นี่ยังดีกว่าช่วงแรก ๆ ที่เลิกกัน ช่วงนั้นเรียนไม่รู้เรื่องเลยล่ะ
ดีหน่อยที่ไอ้เลวนั่นยังไม่มีข่าวออกมาว่ามีแฟนใหม่ในช่วงที่ฉันกำลังเฮิร์ท ไม่งั้นฉันได้เป็นหนักกว่าตอนนี้แน่
ก็นะ...คบมาตั้งแต่มัธยม นี่ก็จะจบปีสองอยู่ล่ะ มันก็คงเป็นธรรมดาที่ฉันต้องใช้เวลาในการทำใจ
“แยกเลยมั้ย? พี่แซมรอซินอยู่หน้าตึกแล้ว” นี่เป็นเสียงของซิน เพื่อนสนิทอีกคนของฉัน
ซินเข้ามาเรียนตั้งแต่ช่วงเที่ยงแล้วล่ะ ส่วนแซมที่ว่าก็พี่ชายของซินนั่นเอง
ซินน่ะเป็นผู้หญิงสตรอง มองผ่าน ๆ ก็คิดว่าทอม แต่ไม่ใช่ ใบหน้าหวาน ๆ นั่นช่างขัดกับลุคสุด ๆ
“งั้นแยกเลยก็ได้” ฟ้าว่า
“งั้นแยกกันตรงนี้...บะ” บาย~ ฉันยังพูดคำนี้ไม่จบ เสียงทุ้มของบางคนก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ยัยซิน!” เมื่อหันไปมองก็เจอกับร่างสูงของพี่แซมนั่นเอง
เขาไม่ได้มาคนเดียว ทว่ามีผู้ชายที่ตัวสูงพอกันเดินมาด้วย
ใบหน้าหล่อจัดทำให้ฉันนึกถึง ผอ. และนึกถึงคำพูดที่ตัวเองเปรียบเปรยก่อนหน้านี้ พระเจ้าสร้างมาชัด ๆ ใบหน้าหล่อ ๆ นั่น
ไม่รู้ว่าฉันจ้องเขาไปนานเท่าไร รู้ตัวอีกทีก็ตอนถูกจ้องกลับนั่นแหละ มุมปากหนาหยักลึกยกขึ้นบางเบา นั่นทำให้คิ้วฉันขมวดเข้าหากันไม่น้อย
อะไร...
ยิ้มให้ฉันเหรอ?
“ฝนรู้จักพี่วายุเหรอ?” ซินกระซิบลงข้างหู ในขณะเดียวกันผู้ชายสองคนก็กำลังเดินตรงมายังเราทั้งสามคน
“พี่วายุ? ใครเหรอซิน” ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็คนที่ยิ้มให้ฝนไง เพื่อนพี่ชายซินเอง” คนที่หล่อเหมือนพระเจ้าสร้างนี่น่ะเหรอ?
ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธคำถามของซินทันที “ฝนไม่รู้จักนะซิน”
“กลับได้ยังซิน เดี๋ยวพี่มีธุระ” เสียงที่ดังขึ้นในระยะใกล้ ทำให้ฉันรู้ได้ว่าคนทั้งสองได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกฉันแล้ว
ฉันล่ะสายตาจากซินไปยังพี่แซม ก่อนจะลากสายตาไปยังคนที่ซินบอกว่าชื่อวายุ ปรากฏว่าพี่เขายังคงมองฉันและยิ้มมุมปากเหมือนเดิม
นั่นยิ้มให้ฉันจริง ๆ ใช่มั้ยน่ะ
“สวัสดีค่ะพี่แซม” ฟ้ายกมือไหว้ ฉันจึงยกมือไหว้ตาม
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ” พี่แซมตอบรับก่อนจะหันกลับไปหาซินอีกครั้ง “กลับไม่กลับ?”
“กลับค่ะกลับ พี่แซมจะเร่งทำไมนักหนาคะ” ซินมียู่หน้าเล็กน้อย “งั้นแยกกันตรงนี้เลยเนอะ”
“อืม เจอกันพรุ่งนี้นะซิน” ฟ้าว่า
“บ๊ายบาย~” ฉันโบกมือ
“บาย เจอกันพรุ่งนี้”
แล้วซินกับพี่แซมก็เดินไป ทั้งสองคนพี่น้องเดินไปแล้ว เหลือเพียงแค่พี่วายุเท่านั้นที่ยังอ้อยอิ่งมองหน้าฉันเหมือนอาจจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด ซึ่งฉันเองก็ไม่กล้าพอที่จะถามว่า ข้องอะไรคะ? จึงทำได้แค่โค้งตัวลงคล้าย ๆ การทักทายเท่านั้น ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินจากไป
อะไรงะ...
สรุปฉันคิดไปเองเหรอ ที่คิดว่าพี่เขามีเรื่องจะพูดด้วย?
อือ...สงสัยคิดไปเอง
“งั้นฟ้าไปนะ กลับดี ๆ ล่ะฝน”
“ให้ฝนไปส่งมั้ย? เดินกลับเองเหนื่อยนะ” แม้หอฟ้าจะใกล้มหา'ลัยมาก แต่ฉันก็เสนอตัวไปส่งบ่อย ๆ แต่ก็โดนปฏิเสธทุกครั้งไป
“เอ่อ...ไม่ดีกว่า ฟ้าไปนะ ถึงแล้วจะไลน์หา”
“โอเค เจอกันพรุ่งนี้”
“เจอกันพรุ่งนี้”
แม้จะงงและอยากรู้เหตุผล แต่ฉันก็เหยียบเอาไว้เพราะไม่อยากทักถามเรื่องส่วนตัวมากเกินไป แม้จะสนิทกัน แต่ก็คงมีเรื่องบางเรื่องที่เก็บไว้คนเดียวแล้วสบายใจกว่าอยู่ดี
เฮ้อ...
พออยู่คนเดียวแบบนี้แล้ว...
ก็อดคิดถึงมินตั้นไม่ได้เลยแหะ
สงสัยคืนนี้ต้องลงที่เดิม เพิ่มเติมคือผิดสัญญากับฟ้า
เอาเถอะ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะดื่มให้แก่ผู้ชายเฮงซวยคนนั้น
ร้านเล่า(เหล้า)มาดิ๊
20.30น.
ในที่สุดฉันก็มาถึงร้านเหล้าร้านประจำในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สั่งแต่ของเดิม ๆ จำนวนแก้วเดิม ๆ ฟังเพลงเศร้า ๆ เหมือนเดิม สุดท้ายน้ำตาก็ไหลเหมือนเดิม
“เหล้ามาอีกแก้วดิ๊ ฮึก!” สั่งไป น้ำตาก็ไหลไป
ฟีลลิ่งประมาณนี้ผู้หญิงอย่างเรา ๆ คงเจอกันบ่อย แต่การที่ต้องมานั่งจมปักกับอดีตก็คงมีแต่ผู้หญิงโง่ ๆ แบบฉันเท่านั้นแหละ
“ได้แล้วครับ”
ทันทีที่ได้แก้วเหล้ามา ฉันก็ทำการกรอกมันเข้าปาก เดาได้ว่าตอนนี้หน้าฉันต้องเบ้มากแน่ ๆ ก็เล่นดื่มเพียว ๆ ไม่ผสมแบบนี้
“ขมงะ...” แต่ก็ซัดเข้าไปหลายแก้วแล้วเหมือนกัน
ฉันไม่ใช่คนดื่มหนัก แต่กลับคอแข็งเหมือนพวกดวลเหล้าทุกคืนยังไงยังงั้น
“อีกแก้ว”
ฉันสั่งอีกแก้ว กะว่าจะเป็นแก้วสุดท้ายของการล้างผู้ชายเลว ๆ ออกจากสมอง แต่ไม่ทันได้กระดกเข้าปากหรอก ก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาซะงั้น
ฉันวางแก้วเหล้าไว้ที่เดิม ก่อนจะลงจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ไปยังห้องน้ำ ระหว่างทางก็มีคนมองฉันไม่น้อย ก็คงเพราะเดินไปร้องไห้ไปเหมือนคนบ้านั่นแหละ
ฉันมองสภาพตัวเองในกระจก...
สิ่งแรกที่คิดได้คือ คนหรือศพ?
ขอบตาดำหน่อย ๆ ดวงตาแดงหน่อย ๆ ผมยุ่งหน่อย ๆ อืม...ได้คำตอบแล้ว
ศพในร่างคน...
เมื่อทำธุระเสร็จฉันก็เดินออกจากห้องน้ำ กะว่าจะไปดื่มเหล้าแก้วนั้นให้เสร็จแล้วกลับคอนโด
แต่ทว่ามีแรงมหาศาลจากไหนไม่รู้กระชากเข้าที่แขนฉัน ก่อนจะลากไปยังที่ที่ไม่ค่อยมีคน คาดว่าน่าจะเป็นมุมสูบบุหรี่
“ใคร? มากระชากทำไม” ด้วยความที่สติเหลืออยู่ไม่ถึง 60% ทำให้ฉันไม่สามารถทำให้ตัวเองหลุดจากการเกาะกุมนี่ได้
พยายามมองบุคคลตัวสูง ๆ ตรงหน้า แต่ก็มองได้ไม่ชัด 100% ว่าเขาคนนี้คือใคร แต่ดูท่าแล้วไม่ใช่คนอันตรายที่จะพาฉันไปข่มขืนหรือฆ่าหั่นศพแน่ ๆ
“...” เขาเงียบ
“ฮึก! ถามว่าใคร!” ฉันไม่ได้ร้องเพราะกลัวเขา แต่เป็นเพราะน้ำตาที่ยังเหลือค้างอยู่ต่างหาก
“...” เขายังคงเงียบ แต่ฉันรับรู้ได้ถึงสัมผัสบางเบาที่แตะลงบนหัวแล้วลูบเบา ๆ คล้ายกับปลอบโยน
กำลังโอ๋ฉันเหรอ...
ใครกัน รู้จักฉันมั้ย แล้วฉันล่ะรู้จักเขาหรือเปล่า...
อยากได้คำตอบจัง แต่พอลองมองหน้าก็มองไม่ชัด พอลองถามเขาก็ดันไม่ตอบ
“ใครเหรอ?”
“...เธอไม่รู้จักพี่”
“...” พี่?
“แต่เดี๋ยวก็คงรู้จัก”
“...อ่า เหรอ?”
ฉันได้ยินเสียงหัวเราะให้ลำคอเบา ๆ ก่อนผู้ชายตรงหน้าโน้มตัวเข้ามาใกล้ ปลายจมูกเราแตะกันเล็กน้อย ลมหายใจร้อนวาบรดอยู่ที่แก้มทำให้รู้ว่าเราใกล้กันแค่ไหน...
เราจ้องตากัน แต่ฉันกลับมองหน้าเขาไม่ชัด ทุกอย่างกำลังเบลอ เสียงสะอึกสะอืนหายไปกลายเป็นการกลั้นหายใจแทน พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นระรัวราวกับจะพังทลายออกมา
ตึก ตัก... ตึก ตัก...
“เลิกร้องไห้ได้แล้ว เด็กขี้แย...” ไม่ใช่คำพูดที่ทำให้ฉันชะงักค้าง...
“...!!!” แต่เป็นเพราะปลายจมูกโด่งที่กดลงบนแก้มฉันต่างหาก!
นะ...นี่ฉันโดนขโมยหอมจากผู้ชายแปลกหน้าเหรอ!
“กลับกัน เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ฉันยังคงมึนงงและตกใจกับการกระทำก่อนหน้านี้ไม่หาย ในขณะที่คนตรงหน้าเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
ปกติ?
หอมแก้มคนอื่นแล้วทำตัวปกติเหรอ!?
แถมยังยิ้มได้หน้าระรื่นที่สุด
แต่ทำไม...รอยยิ้มนั้นคุ้นจัง เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่ และแน่นอนแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายทำให้ฉันนึกไม่ออก แถมยังไม่สามารถมองออกด้วยว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
รู้แค่ว่าหล่อ น่าเชื่อถือ และ... “รู้คอนโดหนูเหรอ?” ฉันไว้ใจเขา
ไว้ใจคนแปลกหน้า!
ไม่บ่อยนักที่ฉันจะแทนสรรพนามคำว่า ‘หนู’ กับคนแปลกหน้า... ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จัก แต่ทำไมถึงไว้ใจได้ขนาดนี้
ร่างสูงที่ยังไม่ได้ถอยหน้าหนีไปไหนไกล ขยับปากพูดอีกครั้ง และมันทำให้คิ้วฉันขมวดแน่นยิ่งขึ้นไปอีก
“เราอยู่คอนโดเดียวกันค่ะ”
ฉันคราง เหรอ? ในใจ ในขณะที่สมองคิดไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าความรู้สึกที่บอกว่าเคยเห็นเขาก่อนหน้านี้ คือเห็นที่คอนโดหรือเปล่านะ?
แต่เพราะสติอันน้อยนิดทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออก นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองถึงไม่เดินหนีออกจากคนแปลกหน้านี้เสียที แถมกำลังเทใจให้เขาไปส่งที่คอนโดด้วย
บ้าชะมัด...
เพราะอกหักเลยเป็นคนแบบนี้เหรอต้นฝน แค่ผู้ชายที่มันไม่รักเราแค่คนเดียวถึงเป็นแบบนี้เหรอ
“พอแล้ว อย่าร้อง...” คนตรงหน้าพูด
แต่...ฉันร้องไห้อีกแล้วเหรอ ทำไมทุกครั้งที่นึกถึงแฟนเก่าเฮ็งซวยจะต้องร้องไห้เป็นคนอ่อนแอทุกที
ฉันก้มมองพื้นครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวสูง เขาใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้และบอกกับฉันว่า...
“แล้วไอ้สัตว์นรกนั่นน่ะ รีบ ๆ ลืม”
[Wayu Talks]
ผมมองร่างบางที่กำลังหลับไหลด้วยฤทธิ์เหล้าอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง มองใบหน้าสวยหวานที่ใครได้มองก็ต้องพูดเป็นคำเดียวว่า ‘สวย’
ผมเป็นจำพวกแพ้ความสวย สิ่งแรกที่สายตาคนเรามองก็คือ ‘ใบหน้า’ ผมชอบผู้หญิงสวย แต่ทุกครั้ง ‘คนสวย’ เหล่านั้นมักจะวิ่งเข้าหามาให้ผมได้เลือกเอง ไม่จำเป็นที่ ‘วายุ’ คนนี้ จะต้องดิ้นลนหาผู้หญิงสวยพวกนั้นเพื่อมาสนองตัณหา แต่เธอคนนี้กลับต่างออกไป...
เธอชื่อ ‘ต้นฝน’ เรียนคณะบริหารซึ่งเป็นคณะเดียวกับน้องสาวคนเดียวของผม ‘นังปีศาจยูรัน’ แต่คนล่ะช่วงชั้นปี ต้นฝนอยู่ปีสองพวงด้วยตำแหน่งอดีตดาวคณะ
ที่พิเศษคือนอกจากเธอไม่ได้วิ่งเข้าหาผมแล้ว ยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมอยากวิ่งเข้าหาอีกด้วย แน่นอนเพราะความสวยของเธอช่างสะดุดตา
แต่มันไม่ใช่แค่นั้น...
ผมเจอเธอเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ร้าน ‘เล่า(เหล้า)มาดื๊’ เป็นร้านผับกึ่งบาร์ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดผมเท่าไร ผมเห็นเธอครั้งแรกที่หน้าเคาว์เตอร์ คือผู้หญิงร่างบาง หุ่นเพรียวและหน้าตาสวย แต่นั่นไม่ใช่เหตุที่ทำให้ผมต้องมองเธอตลอดเวลาที่อยู่ในเล่า(เหล้า)มาดิ๊หรอก ทว่าเป็นเสื้อผ้าที่เธอใส่และปฏิกิริยาของเธอต่างหาก...
กางเกงบอลขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาว...
ทรงผมยุ่งเหยิงราวกับรังไก่...
ผู้หญิงเขาแต่งตัวแบบนี้เข้าผับ? แล้วยังร้องไห้ซัดเหล้าเป็นว่าเล่น คิดได้ตอนนั้นคือเธอต้องอกหักแน่ ๆ ส่วนผมก็คงบ้านั่งมองใครก็ไม่รู้เป็นชั่วโมงสองชั่วโมงโดยไม่รู้สึกเบื่อ ในทางกลับกันผมกลับรู้สึก ‘สนใจ’ เธอเสียด้วยซ้ำ
และถ้าวันนั้นเธอไม่เดินชนและเหยียบเท้าผมแล้วเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมคงไม่ติดใจมาจนถึงทุกวันนี้
แปลกคนจริง ๆ ยัยผู้หญิงสวยคนนี้ ปกติผู้หญิงเห็นผมมีแต่เอานมมาชน นี่เดินกระแทกไหล่เหยียบตีนแต่กลับไม่พูดอะไรสักคำ
สรุปแล้ว เพราะความ ‘สวย’ หรือความ ‘แปลก(ประหลาด)’ กันแน่ที่ทำให้ผมสนใจผู้หญิงคนนี้
ผมยังหาข้อสรุปไม่ได้ แต่ไม่ได้สนใจตรงจุดนั้นเท่าไร เพราะตั้งแต่วันนั้นผมก็ตามสืบเรื่องของเธอจนรู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องครอบครัวเพียงเรื่องเดียว แต่เรื่องที่ทำให้ผมใจวูบวาบขึ้นมานั้นคงเป็นเรื่องที่พัก ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือพรหมลิขิตเพราะผมและเธอดันอยู่คอนโดเดียวกัน!
กลับมายังเรื่องที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ผมเฝ้ามองเธอ (อยู่ห่าง ๆ) หลัก ๆ ก็คงเป็นที่ร้านเล่า(เหล้า)มาดิ๊ ผมเห็นเธอเมากลับคอนโดทุกคืน และใช่ผมขับรถตามเธอทุกคืน ถือว่ารู้ลิมิตตัวเองดี ที่เมาแต่เมาอย่างมีสติเหลือพอขับรถได้ แต่วันนี้กลับต่างออกไป...คล้ายกับว่าเธอกำลังดื่มเพื่อลืม ‘แฟนเก่า’ เป็นครั้งสุดท้าย ถึงได้เมาจนจำหน้าผมไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงคือเราเพิ่งเจอกันไปเมื่อช่วงเย็นนี้เอง
ผมเดินมาถึงหน้าห้อง 1708 ซึ่งเจ้าของห้องก็หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขนผมนี่เอง ตอนนี้คีย์การ์ดเธออยู่ในมือผม ใช้เวลาเพียงครู่เดียวผมก็เข้าห้องมาได้
จัดการวางร่างบางลงบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมพอประมาณและไม่ลืมที่จัดการเปิดแอร์ให้
ผมจ้องมองใบหน้าสวยหวาน อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นสัมผัสอย่างทะนุถนอม
“ถ้าแฟนเก่ามันลืมยาก...” ริมฝีปากประทับลงที่กลุ่มผมหอมแผ่วเบา เพียงเสียววินาทีก็ผละออกและพูดต่อให้จบประโยคว่า... “เดี๋ยวพี่ช่วยเองครับ”
เพียงแค่นั้นผมก็ลุกขึ้นยืน จัดการปิดไฟและตรวจสอบดูความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะกลับห้องตัวเอง ผลันสายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นบางอย่างที่โต๊ะข้างหัวเตียงอีกฝั่ง
มันคือกรอบรูป...
กรอบรูปขนาดกลางถูกคว่ำลงกับโต๊ะ ผมหยิบมันขึ้นมาดู...หึ!
เกลียดจังวะไอ้ผู้ชายที่อยู่ในรูป
จากที่สืบมา มันคือเหี้ยตัวหนึ่งซึ่งมีนามว่า...มินตั้น!
[Completed 100%]
Talk2 :
อยากได้ผู้ต้องเดินชนไหล่และเหยียบเท้าค่ะ 5555 สมัยนี้ใครเค้าเอานมเบียดกัน 55555555 ยอมใจเฮียค่ะ มึนมากเข้าห้องคนอื่น แถมยังเสนอตัวให้เค้าเพื่อที่ต้นฝนจะได้ลืมแฟนเก่าอีก วุ้ยยย
วันนี้มาอัพให้ 20% ครบ 100% แล้ว สรุปเฮียชอบคนสวยหรือคนแปลก ฝากคอมเม้นให้เฮียมันด้วยน้าา ความจริงไรท์จะมาอัพวันที่ 30 แต่ทนไม่ไหว โผล่มาก่อนวันหนึ่ง 55555
Talk1 ;
ก็จะงงกันไปตามระเบียบ ว่าทำไมเฮียมันถึงรู้จักต้นฝนและเข้าหาต้นฝนขนาดนี้ อีก 20% มีคำตอบจ้า
เรื่องนี้จริงๆฟินมากนะ พระเอกน่ารักมากเลยด้วย #วายุวายร้าย
เวกัสมาโผล่ให้รู้จักกันหน่อย บอกเลยคนนี้เกรี้ยวกราด จับตามองฟ้าไว้ให้ดีๆล่ะ นั่นน่ะนางเอกเซ็ตใหม่ อิอิ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น