11
สงคราม ‘น้ำลาย’
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้นิรดารู้สึกตัวตื่น ร่างอรชรค่อยๆ บิดขี้เกียจไล่ความปวดเมื่อยออกจากร่างกาย ก่อนจะลืมตาโพลงเมื่อไม่ได้มีเพียงเสียงเคาะประตูอย่างเดียว แต่ตามมาด้วยเสียงทุ้มของผู้ชาย จึงนึกได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และอยู่ในสภาพอย่างไรในตอนนี้
“คุณตื่นรึยัง” นิคาโอส่งเสียงเรียกตามไป แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเรียกออกไปอีกครั้ง “นิรดา คุณได้ยินผมไหม เปิดประตูให้ผมหน่อย”
“ดะ...ได้ยินค่ะ” เจ้าของชื่อตอบเสียงร้อนรนเมื่อเริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะเธอสวมชุดที่ไม่อำนวยสำหรับการรับแขกเสียเลย ทั้งยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในบนทั้งล่าง ได้แต่นึกโทษตัวเองที่นอนสบายเสียจนตื่นสาย
“ได้ยินก็เปิดประตูให้ผมหน่อย นิรดา”
ชายหนุ่มส่งเสียงบอกไปอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตในห้องตอบกลับมา นึกว่าเธอจะแอบหนีไปแล้วเสียอีก เห็นเงียบอยู่เป็นนาน
“เอาไงดียายฝัน” หญิงสาวปรึกษาตัวเองอย่างคิดไม่ตก ถ้าช้ากว่านี้รับรองว่าไอ้คนข้างนอกพังประตูเข้ามาแน่ เมื่อนึกได้ว่าควรจะรีบเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดเดิมเสียก่อน จึงเตรียมจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว คนที่พูดอยู่ด้านนอกเมื่อครู่เปิดประตูเข้ามา พร้อมกับทำสีหน้าไม่พอใจใส่เธอ คงเป็นเรื่องที่ไม่ยอมเปิดประตูให้เขานั่นละ
“ผมบอกให้เปิดประตู ไม่ได้ยินรึไง” นิคาโอถามอย่างโมโห
เขารู้ว่านิรดาได้ยินที่เขาเรียก แต่ทำไมถึงไม่ยอมเปิดประตูให้เขาเสียที จนอดไม่ได้ที่จะไขกุญแจที่หยิบติดมือมาด้วยเปิดเข้าไปอย่างไม่นึกถึงมารยาท แถมสาวเจ้ายังสะเพร่าด้วยการไม่คล้องโซ่ประตู ถ้าหากมีคนเข้ามาหวังปลิดชีพ เธอคงไม่มีแม้แต่เวลาร้องขอให้คนช่วยเหลือ
นิคาโอได้แต่โมโหความไม่ระมัดระวังตัวของแขกสาวอยู่ในใจ จึงไม่ได้สังเกตสีหน้าท่าทีของคนที่ตนกำลังโมโหอยู่แต่อย่างใด
นิรดาก้าวขาเดินต่อไปไม่ออกเมื่อเห็นแววตากล่าวโทษของเจ้าของห้องหรู ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเลื่อนสายตาลงมาต่ำกว่าคางของคู่สนทนา เพราะนิคาโออยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน อวดมัดกล้ามที่เป็นลอนสวย โดยไม่สนใจว่าตนเองไม่ได้อยู่คนเดียวในขณะนี้ จนคนที่ตะลึงกับเรือนร่างผู้ชายลืมสนใจสภาพไม่เรียบร้อยของตนเองไปชั่วขณะ
โอ้แม่เจ้า! ทำไมหุ่นของเขาถึงได้น่าลูบไล้ขนาดนี้เนี่ย
เมื่อนิคาโอเห็นอีกฝ่ายไม่โต้ตอบ แถมยังจ้องตนตาเขม็งจึงมองตามสายตาที่หญิงสาวกำลังให้ความสนใจ ก่อนจะขำพรืดออกมาเมื่อเจอคนหื่นกามเข้าให้ ตัวเขาเองก็เต็มใจโชว์ด้วยสิ เพราะมั่นใจในสรีระของตัวเอง
“คุณหัวเราะอะไร”
ความตะลึงจากการมองร่างกายคนตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินเมื่อครู่หายไป เหลือเพียงความไม่พอใจที่ถูกหัวเราะเยาะ และเธอก็รู้ว่าเขาขำด้วยเรื่องอะไร ไม่พ้นเรื่องที่เธอเผลอไปมองร่างกายเขาอย่างกับจะกลืนกินก่อนหน้านี้ คิดแล้วก็ได้แต่โมโหตัวเอง
‘ท่องไว้ยายฝัน ผู้ชายคนนี้ไงที่แกเกลียดมาตลอดสิบกว่าปี ผู้ชายที่ข่มขืนแกไง ท่องไว้ว่าแกเกลียดเขาๆ’
นิรดาได้แต่ท่องบอกตัวเองในใจ เสน่ห์บุรุษน่าหลงใหลที่เห็นตรงหน้าเป็นแค่ภาพลวงตา แท้จริงแล้วเขาก็ไม่ต่างจากอสุรกายที่อยู่ในร่างมนุษย์เลยด้วยซ้ำ
เมื่อคิดแบบนั้นความโกรธที่สะสมมาหลายปีก้ทำให้คุณแม่ยังสาวเลือดขึ้นหน้า ขาเรียวสวยเดินย่างสามขุมเข้าไปหาตัวการก่อเหตุทันที และ...
เพียะ!
เสียงฝ่ามือกระทบแก้มสะเทือนทะลุไปยังหูชั้นใน และนั่นทำให้นิคาโอรู้ตัวว่าถูกแม่เสือสาวหน้าแดงก่ำตรงหน้าตบฉาดเข้าให้
มือหนายกลูบแก้มตัวเองเบาๆ คิดว่าอีกไม่นานมันคงขึ้นตราประทับห้านิ้วจากฝ่ามืออรหันต์ของเจ้าหล่อนแน่ แต่ที่ไม่เข้าใจคือ เหตุผลใดที่เขาสมควรถูก ‘ตบ’
“มือหนักใช้ได้” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับดันกระพุ้งแก้มเล่น
เสียงนุ่มทุ้มของอสุรกายในร่างมนุษย์ทำให้คนทำร้ายอสูรรู้สึกตัว เพียงเพราะความโกรธแค้นตัวเดียวแท้ๆ ที่ทำให้เธอตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป โดยลืมคำนึงถึงว่าตอนนี้ตัวเองก็ไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ที่ตกอยู่ในอำนาจของผู้คุมขัง แล้วต่อจากนี้คงต้องรอรับมือกับฤทธิ์อสูรแล้วสินะ
“คงอย่างที่คุณบอก” หญิงสาวตอบเสียงนิ่ง แตกต่างจากในใจที่สั่นกลัว และพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นไปด้วย
“ที่ตบนี่...” คนถูกตบชี้แก้มข้างที่ถูกประทับรอยนิ้วไว้ ก่อนจะพูดต่อ “...อยากให้จูบกลับแบบในนิยายด้วยรึเปล่า”
“ใครเขาอยากให้คุณทำแบบนั้นกัน” คนถูกกล่าวหารีบปฏิเสธ อยากจะตะโกนใส่หน้าให้รู้แล้วรู้รอดเลยว่าที่ตบเพราะเขาเคยข่มขืนเธอเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ก็ไม่รู้จะพูดไปเพื่ออะไร ให้เหตุการณ์ครั้งนั้นมันผ่านไปกับกาลเวลาเหมือนที่ผ่านมาก็ดีแล้ว
เมื่อคิดถึงผลพวงจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้จิตใจสาวเจ้าสงบลง อย่างน้อยเขาก็ได้มอบของขวัญที่แสนมีค่าไว้ให้ ถ้าหากไม่มีลูกชายก็ไม่รู้ชีวิตเธอตอนนี้จะเป็นอย่างไร
“อยู่ๆ ก็มาตบรับเช้าวันใหม่ เลยคิดว่าคุณอยากได้รับจูบหวานๆ แบบในนิยาย” เขาอธิบาย
“ฉันขอโทษก็แล้วกัน พอดีมือมันลั่น”
“ลั่นซะแม่นมากเลยนะ” เขาค่อนขอด ดูก็รู้ว่าเจ้าหล่อนไม่ได้รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองด้วยซ้ำ แถมดูจะถูกใจซะด้วยซ้ำไป
“ก็ฉันตกใจที่คุณเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ” หญิงสาวอธิบายเช่นเดิม เพิ่มเติมคือคำจิกกัด
คนถูกหลอกด่าได้แต่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อกวาดสายตามองเรือนร่างอรชรของคนตรงหน้าที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเขาเพียงตัวเดียว
การที่คนตัวเล็กใส่เสื้อผิดไซซ์ไม่ได้ทำให้ดูแปลกนัก แต่กลับน่ามองเสียจนเขาถอนสายตาออกจากภาพเบื้องหน้าไม่ได้ แสงแดดที่สาดส่องเข้ามายังเสื้อตัวใหญ่ยิ่งทำให้เห็นรูปร่าง ส่วนเว้าส่วนโค้งได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
‘ให้ตายเถอะ หล่อนไม่ได้ใส่ชั้นใน’ นิคาโอสบถในใจ
ภาพเบื้องหน้าทำให้เลือดลมในกายเขาร้อนระอุ เพราะความต้องการตามธรรมชาติในช่วงเช้าของผู้ชาย ซึ่งต้องหาที่ปลดปล่อยอย่างเร่งด่วน
“คุณคิดจะทำอะไร” นิรดาก้าวถอยหลังเมื่อเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย หลังเห็นแววตาแปลกประหลาดจากชายหนุ่มตรงหน้าที่ส่งมายังตน
“แค่ทำอย่างที่คุณต้องการ” เขาให้คำตอบพร้อมกับก้าวเข้าไปหาเธอใกล้ขึ้น
“อย่าเข้ามานะ” คนเสียงหวานขู่ฟ่อ แต่หาได้ทำให้เสือหนุ่มผู้หิวโหยเกรงกลัว
“แม่กระต่ายจอมยั่ว” ทันทีที่พูดจบประโยคเขาก็เข้าประกบตัวเหยื่อสาวได้ทันพอดี ไม่รีรอแต่อย่างใด นิคาโอประกบปากลงบนปากนุ่มทันที โดยไม่ให้หญิงสาวได้มีเวลาตั้งตัว
“อื้อออ” ปากนุ่มที่ถูกบดขยี้เพราะความต้องการอันรุนแรงร้องประท้วงขึ้น ทว่าผู้หิวกระหายหาได้สนใจไม่ ยังคงตักตวงความหวานจากปากเล็กไม่หยุดหย่อน
ช่วงหลังมานี้นิคาโอไม่ได้ออกไปเที่ยวอย่างที่ทำเป็นประจำ เนื่องด้วยงานที่เร่งรัดและเพราะมีตัววุ่นวายเข้ามาวอแว เลยหมดอารมณ์จะออกไปหาความสำราญ
ความต้องการของผู้ชายที่ไม่ได้ปลดปล่อยหลายวันทำให้เขาแทบคลั่งเมื่อเจอแม่กระต่ายน้อยแสนยั่วยวน แถมยังปลุกอารมณ์ที่ตายด้านไปหลายวันให้ลุกฮือขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา แล้วเขาจะปล่อยให้เจ้าหล่อนหลุดมือไปได้อย่างไร โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ใจอยากทำ
“อื้อ อ่อย” นิรดาร้องประท้วงเพราะเริ่มหายใจไม่ออก
นิคาโอยอมถอนปากออกอย่างว่าง่าย แม้จะเสียดายอยู่มากก็ตามที ทว่าก็ยังไม่ยอมให้หญิงสาวเป็นอิสระ ยังสวมกอดเธอไว้หลวมๆ
“หวานมากที่รัก” เขาเอ่ยชมพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ ทว่าคนถูกชมกลับไม่ได้ยินดีในคำนั้นเลยด้วยซ้ำ
“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉันนะคะ ซินญอร์คิงส์ตัน” นิรดาว่าเสียงต่ำ ทว่าไม่ได้ทำให้คนถูกว่าสำนึก แต่กลับชอบใจความดุเอาเรื่องของคนในอ้อมแขนเสียด้วยซ้ำ
“เรียกเสียห่างไกลกันเลยนะที่รัก ทั้งที่เราเพิ่งจูบกันไปเมื่อครู่นี่เอง”
“เพราะคุณฉวยโอกาสต่างหาก เราไม่ได้สนิทกัน” นิรดาแย้ง
“คนไม่สนิทกันที่ไหนเขาจะจูบกันล่ะ ว่าไหมที่รัก” นิคาโออธิบายพร้อมกับย้อนถาม ยิ่งเห็นหน้าที่แดงเพราะความโกรธของอีกฝ่าย เขายิ่งอยากแกล้งเข้าไปใหญ่
“อย่ามาเรียกฉันว่าที่รักนะ” หญิงสาวขึ้นเสียงด้วยความโมโหคนฉวยโอกาส
“จะให้เรียกว่าอะไรดีล่ะ ดาร์ลิง มายสวีตฮาร์ต หรือเรียก...โมลเยดีล่ะ” เขาให้ตัวเลือก แต่ดูเหมือนว่าตัวเลือกสุดท้ายจะทำให้คนกำลังโมโหเขินขึ้นมาแทนได้
แม้จะพูดภาษาอิตาลีไม่ได้ แต่เธอก็พอจะรู้ว่า ‘โมลเย’ หมายถึง ภรรยา แล้วทำไมเธอต้องเขินด้วยเล่า
“ฉันชื่อนิรดา” หญิงสาวแย้งด้วยการบอกชื่อตนเองและปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่ดูเหมือนว่าจะช้าไปเสียแล้ว เมื่อเขารู้ว่าเธอเขินเพราะคำพูดของเขาเมื่อกี้นี้
“คุณบอกผมแล้วเมื่อวาน” คนหน้ามึนพูดออกมา
“ค่ะ และคุณควรจะปล่อยฉันได้แล้ว” หญิงสาวรับคำพร้อมกับบอกความต้องการของตัวเอง แต่เขากลับรัดตัวเธอแน่นขึ้น “เรื่องอะไรผมจะปล่อย” เขาพูดอย่างขัดใจเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น
ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในอิตาลี เธอคงคิดว่าเขาเป็นพวกไม่เต็มเต็งแน่ “ปล่อยฉัน”
“บอกว่าไม่ปล่อยก็คือไม่ปล่อยไง อยู่นิ่งๆ ไม่เป็นรึไง!” นิคาโอว่าเมื่อมือเล็กพยายามแกะมือเขาออก เมื่อพูดไม่ฟังแบบนี้มันต้องสั่งสอนด้วยการกระทำ
พลั่ก!
“ฉันเจ็บนะ” หญิงสาวร้องประท้วงเมื่อถูกคนแรงยักษ์ผลักล้มไปบนเตียง ก่อนจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจที่เขาตามขึ้นมาคร่อมกักตัวไว้ “จะทำอะไร ปล่อยฉันนะ”
“อยากทำสงครามกันนักใช่ไหม” ชายหนุ่มถามแล้วพูดต่อ “ได้...แต่เป็นสงครามน้ำลายนะที่รัก”
พูดจบเขาก็จัดการปิดปากหวานทันที พร้อมกับบดจูบปากเล็กอย่างบ้าคลั่ง ไม่ได้ต้องการทำให้เธอเจ็บ เพียงแค่อยากลงโทษที่พูดไม่เคยฟัง
“อื้อ อื้อ” คนใต้ร่างร้องประท้วงเมื่อรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก แต่คนตัวใหญ่กว่ากลับไม่ปรานี ยังคงตักตวงความหวานจากปากของเธออย่างตะกละ
“จะทำร้ายกันไปถึงไหนเนี่ย” นิคาโอว่าอย่างรำคาญพร้อมกับตรึงมือเล็กที่จะประทุษร้ายร่างกายเขาไว้เหนือหัวด้วยมือเดียว ส่วนมืออีกข้างก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของหญิงสาวออกอย่างชำนาญ
“ปล่อยฉันนะ”
เมื่อปากเป็นอิสระนิรดาจึงร้องประท้วงไป แต่ก็ไม่เป็นผลเช่นเดิม ก่อนจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อมือหยาบกอบกุมทรวงอกเธอไว้เต็มไม้เต็มมือ
“กรี๊ดดด เอามือออกไปนะ”
“โอ้แม่เจ้า! คัปดี” ชายหนุ่มครางออกมาหลังจากได้วัดไซซ์หน้าอกของคนใต้ร่างด้วยมือเขาเอง “เห็นตัวเล็กแบบนี้แอบซ่อนรูปนะเนี่ย”
“ไอ้โรคจิต! ไอ้...”
หญิงสาวผรุสวาทคำหยาบออกมามากมายเท่าที่จะคิดได้ ทว่านิคาโอกลับชอบใจเสียอย่างนั้น
“ชอบแบบป่าเถื่อนก็ไม่บอก” ไม่พูดเปล่า เขาบีบขยำหน้าอกอวบไปตามแรงอารมณ์ที่เจ้าหล่อนด่าว่า แต่ตอนนี้เขาอยากจะได้ยินเสียงครางมากกว่าคำด่าเสียแล้วสิ
ชายหนุ่มก้มลงจูบปากหวานอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขาสอดลิ้นร้อนชื้นเข้าไปกวาดหาความหวานจากโพรงปากเล็กอย่างหิวกระหาย มือหนาก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ลูบไล้ผิวเนียนนุ่มอย่างสนุกมือ ก่อนจะวกกลับมาปลดกระดุมเสื้อที่ยังปลดไม่หมดในคราแรก
‘อ่า รู้สึกดีเป็นบ้า’ นิคาโอครวญในใจเมื่อตอนนี้เนื้อตัวหญิงสาวใต้ร่างปราศจากเครื่องขวางกั้นใดๆ ทำให้เขาได้สัมผัสเรือนร่างเปล่าเปลือยของเจ้าหล่อนได้ถนัดมือ
ชายหนุ่มผละออกจากปากหวาน ก้มลงซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่มและเม้มฝากรอยรักไว้ทุกจุดที่ริมฝีปากลากผ่าน โดยเฉพาะเนินอกอวบที่เขาจงใจทิ้งไว้มากเป็นพิเศษ
นิรดาเพลิดเพลินไปกับสัมผัสแปลกใหม่ แม้เธอจะมีลูกแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้ลิ้มรสสวาทเช่นนี้มาก่อน แม้จะเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพ่อของลูก ครั้งนั้นก็เป็นไปด้วยฤทธิ์ยา แต่ครั้งนี้เธอมีสติสัมปชัญญะครบจึงอดจะทึ่งกับความรู้สึกแปลกใหม่นี้ไม่ได้
สติกลับคืนมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บ หลังจากปากหนาเข้าครอบครองยอดปทุมถันและดูดกลืนอย่างตะกละตะกลามเหมือนเด็กทารกหิวจัด
“เจ็บ” เธอบอกเขา แต่กลับยิ่งทำให้คนตะกละเพิ่มแรงดูด “อื้อ เจ็บ”
“เดี๋ยวก็เสียวน่าที่รัก” นิคาโอเงยหน้าขึ้นตอบ แล้วก้มลงจูบปากหวานอย่างปลอบใจ
เขาไม่เคยแสดงความอ่อนโยนแบบนี้กับใครมาก่อน โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่เคยขึ้นเตียงร่วมสวาทกัน เนื่องจากผู้หญิงเหล่านั้นเป็นเพียงที่ระบายแลกเงินเท่านั้น แตกต่างจากคนที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ใต้ร่างเขาตอนนี้ เธอพิเศษกว่าใคร
“เป็นของผมนะที่รัก” เขาเอ่ยขอทั้งที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ “ผมจะถนอมคุณที่สุด ผมสัญญา”
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เขาคิดว่าหญิงสาวคงยินยอมพร้อมใจ กำลังจะก้มลงจูบปากหวานอีกครั้งเพื่อให้รางวัลก็ต้องชะงักค้างทั้งตัว เมื่อได้ยินประโยคที่ออกมาจากปากเธอ
“ฉันแต่งงานมีสามีแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกเสียงเรียบ แม้จะไม่ใกล้ความจริงเท่าไรนักก็ตาม แต่การที่มีลูกแล้วก็ถือว่าไม่แตกต่างกันนัก
แม้จะหลงไปในบ่วงสวาทที่เขาเป็นคนชักนำ แต่เมื่อสติกลับมานิรดาก็คิดได้ว่าไม่ควรเอาตัวเข้ามายุ่งกับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ผู้ชายที่เคยทำลายชีวิตเธอเมื่อครั้งก่อน แม้ความโกรธเกลียดจะลดน้อยลงไปตามกาลเวลา แต่ถ้าให้เลือกก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก
“คุณพูด...ว่าอะไรนะ” นิคาโอเอ่ยถามเสียงเบา แม้ประโยคที่หญิงสาวพูดจะยังดังก้องอยู่ในหูก็ตาม เขาเพียงแค่หวังว่าตัวเองจะฟังผิดไป
“คุณได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ” หญิงสาวยืนยันโดยบังคับเสียงไม่ให้สั่นพร้อมกับผลักร่างหนาให้พ้นจากตัว ซึ่งง่ายดายมากเมื่อเจ้าตัวให้ความร่วมมือ ก่อนจะนั่งกลัดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย โดยมีเจ้าของเสื้อนอนมองอย่างใจลอย
“ทำไม...” ชายหนุ่มไม่ได้ถามใคร แต่เอ่ยถามตัวเอง เขาไม่เคยใจเต้นแรงกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่เมื่อเจอเธอคนนี้ ทำไม...เขาถึงต้องผิดหวังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
แม้เขาจะรู้สึกดีเพียงใดก็ไม่มีสิทธิ์ ในเมื่อเธอมีเจ้าของแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เขา และเขาเองก็ไม่ชอบแย่งของของใคร แม้จะอยากได้มากเพียงใดก็ตาม
“ฉันขอตัวอาบน้ำก่อนนะคะ หวังว่าออกมาจะไม่พบคุณอยู่ในห้อง” นิรดาบอกทั้งที่ยังหันหลังให้เขา แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
“ผมคงต้องถอยแล้วสินะ” ชายหนุ่มเอ่ยหลังจากประตูห้องน้ำปิดลง ก่อนจะยันกายขึ้นแล้วออกจากห้องไปอย่างหมดแรง
เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลง คนที่อยู่ในห้องน้ำก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ แม้ปากจะบอกว่าเกลียดที่เขาเคยรังแก แต่ทำไมความรู้สึกถึงไม่เป็นแบบนั้นตามไปด้วย ทำไมต้องร้องไห้เพียงเพราะเห็นสีหน้าผิดหวังจากคนที่ปากบอกว่าเกลียด