ตอน
ปรับแต่ง
สารบัญ
ตอนนิยาย ()

ปรับแต่งการอ่าน

พื้นหลังการอ่าน
รูปแบบตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ระยะห่างตัวอักษร

ตอนที่12 กลางป่ากลางดึก

"ม...ไม่เกินไปหน่อยเหรอนั่นน่ะ?"

เป็นเสียงของใครสักคนนั่นแหละนะ ไม่ใช่อัลซุแน่ๆ จากโทนเสียงแล้วเป็นของนักธนูสาวนั่นไม่ผิดแน่เลย ทึ่งเหรอ? นี่แหละความต่างชั้นของผมที่อยู่เหนือกฏเกณฑ์กับเธอที่เป็นเพียงแค่ปุถุชนคนธรรมดาล่ะนะ

"ส...สุดยอด!"

"ฮินะ เธอทำได้ดีกว่านี้อีก ลองฝึกดูสิ สัก...สองครั้งเธอก็ทำเป็นแล้วล่ะ"

"เราเป็นมนุษย์นะ! อ๊ะ! คุจังก็เป็นมนุษย์นี่นา?"

"เธอเป็นผู้กล้านะ อย่างน้อยๆก็ทำเรื่องนี้ไหวอยู่แหละน่า"

นี่มันพื้นฐานของพื้นฐานการเป็นผู้กล้าเลยนะ ความเร็วน่ะเป็นสิ่งที่เธอพึงควรจะมี อย่างน้อยๆปีศาจมักจะเน้นความแข็งแกร่งจึงทำให้สมดุลกันไม่ใช่เหรอ?

ถึงจะบอกว่าผมเป็นลูกของจอมมารแต่ก็เป็นมนุษย์อย่างที่ฮินะว่า เพราะงั้นอย่างเข้าใจผิดล่ะ

ยังไงก็ตามผมไม่ได้ฆ่าทั้งหมด อย่างที่เอวาพูดผมแค่ทำเป็นเท่เท่านั้น โชว์เท่ต่อหน้าสาวก็ไม่ได้แย่มากมายแต่ว่าก็ไม่คิดจะพลาดฆ่าไปหมดหรอกนะ ไหนๆก็ได้ทักษะนั้นมาแล้วซะด้วยสิ

"เฮ้ย แกน่ะ ชั้นรู้นะว่าพวกแกยังมากันไม่ทั้งหมดจากทั้งฝูง เพราะงั้นบอกที่ซ่อนของพวกแกมาซะ"

"น...นี่นาย...เป็นบ้าไปแล้วเหรอ?"

เสียมารยาทชะมัดยัยอัลซุ มาว่าคนอื่นบ้าแบบนี้ ก็มีแต่คนบ้าแบบเธอเท่านั้นแหละที่คิดได้ ผมหันสายตาไปจ้องมองเพื่อคาดคั้นจากเจ้าออร์คหน้าโง่นั่นอีกครั้งจนมันสะดุ้งเฮือก

"อ...อ๊อคๆ อ่ค! อ...อ้อค อ่คๆ โอ้ค อ...อ่ค อ๊อคๆ อ่ค อ๊อค อ่คๆ อ..โอคุ โอ่ค อ๊อค อ่คๆ อ๊อค อ...โอ่ค อ่ค โอ่คึ อ่คๆ อ่อค อ๊ค อ...อค อ่อค โอ่ค อ๊อค อ่คๆ (แปล : ข...ข้าจะบอกแล้ว! ย...อยู่สุดเส้นทางของป่า รอบนอกนั่นมีหมู่บ้านของอมนุษย์กลุ่มนึง พ...พวกข้าไปบุกรุกและแย่งชิง ร...ราชาแห่งข้าได้จับกุมเหล่าตัวเมียที่ยังเยาว์วัยเพื่อใช้เป็นแม่พันธุ์ ล...แล้วฆ่านอกเหนือจากนั้นทิ้ง ทั้งเด็กชาย คนชรา ล...เหลือเพียงเด็กสาวที่เลี้ยงเอาไว้หวังผลเท่านั้น)"

"เหลือเพียงแค่เด็กสาวที่ยังปลอดภัย แต่...นอกเหนือจากเด็กสาวและหญิงสาวที่ยังไม่ถึงขั้นแก่ชราถูกฆ่าตายหมด โชคดีอย่างคือพวกแกเป็นก็อบลินจึงไม่ได้มีปัญหากับทั้งหมด แต่ก็ย่อมมีโชคร้ายปะปนเพราะว่าพวกแกเป็นออร์ค เซ็กซ์ของพวกแกทำให้ร่างกายของอมนุษย์พวกนั้นรับไม่ไหวและล้มตายไป นั่นคือสิ่งที่ผมคาดการณ์แต่ นั่นก็แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แกไม่ได้มีเจ้านั่นที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับร่างกายที่ใหญ่โตนั่น เว้นแต่ว่าราชาออร์คจะแตกต่างจากพวกแก แต่ก็นะ...ไมชอบใจไอ้เรื่องพวกข่มขืนเลยว่ะ"

"ค...คุจัง ร...เรื่องนั้นมันก็ผ่านมานานมากแล้วนะ!"

...เกือบคุมสติไม่อยู่แล้วไงล่ะ ไอ้เรื่องแบบนี้มันยอมรับไม่ได้จริงๆ ถึงยัยนั่นจะไม่ได้โดนข่มขืนไปแต่ว่านั่นก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ยัยนั่นตาย ส่วนอาจารย์คนนั้น...หากว่าผมไปกับเธอด้วยในวันนั้น เธอคงไม่ฆ่าตัวตายเพราะว่าอับอายจากการถูกเผยแพร่คลิปรุมโทรมนั่น ไม่ว่าจะอย่างไหนผมก็ไม่ชอบทั้งนั้น

'ฉัน...รักเธอนะ ถึงจะเป็นอาจารย์แต่...ฉันก็รักเธอ... ฮึก...แต่ฉันที่แปดเปื้อนไม่สมควรที่จะคู่กับเธอหรอก!'

'ลาก่อนนะ ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้ฉันกับเธอ...ได้เกิดมาคู่กัน อยากให้เป็นเนื้อคู่กัน ไม่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก'

'ฉันรักเธอจริงๆนะ คุโรมิเนะ คุโระคุง'

"กรอด... ไอ้พวกสัตว์เดรัจฉานเอ้ย!"

-ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!-

ไหนๆก็รู้สถานที่ของไอ้พวกนั้นมาแล้ว จะไปถล่มเดี๋ยวนี้แหละไอ้สารเลว บังอาจทำให้ผมนึกถึงภาพที่อยากจะลืมไปเมื่อสามปีก่อนซะได้นะ ไอ้เวรพวกนั้น จะจัดการให้หมดเลย

ตัดสินใจแล้ว ผมจะขึ้นเป็นราชาของปีศาจแล้วกำจัดพวกมันให้หมดไม่ให้เหลือรอดแม้แต่เผ่าพันธุ์เดียว ทั้งไอ้ก็อบลินขยะนั่น และไอ้ออร์คสารเลวนั่น จะฆ่าให้หมดเลย...

-หมับ-

"จ...ใจเย็นๆหน่อยสิ นายน่ะ"

"คุจังน่ากลัวจริงๆเลยนะเวลาโกรธน่ะ"

ฮินะเดินเข้ามาพูดกับผมที่เริ่มจะใจเย็นลงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ค่อนข้างจะยียวน ส่วนคนที่เสียงสั่นๆเมื่อกี้ผมคิดว่าเป็นนิลล่าซะอีก ที่ไหนได้ เจ้าตัวไปนั่งกอดกับเอวาพร้อมตัวสั่นหงึกๆอยู่นู่น คนอื่นๆเองก็ล้มลงและอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้ สาวๆบางคนถึงกับราดกันเลยล่ะนะ

และคนที่มาทักผมก็เป็นอัลซุที่พยายามข่มความกลัวของตนเอาไว้ ความผิดของผมสินะ?

"ขอโทษทีนะทุกคน เป็นความผิดของผมเอง ที่ระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่"

"คุจังก็เป็นแบบนี้เสมอนี่นะ? ตั้งแต่ตอนนั้นเลยนี่นา..."

คนที่เข้าใจผม นอกจากตัวผมและพี่ฮานะก็มีแต่ยัยนี่เท่านั้นแหละนะ ที่รู้ทุกอย่างไปซะทั้งหมด อืม ก็เป็นอย่างที่คิดแหละนะ

ผมน่ะ ชอบอาจารย์คนนั้น ไม่ถึงขั้นรักใครแบบความสัมพันธ์ของผมกับฮินะหรอก แต่ว่าเธอเหมือนกับพี่สาวแท้ๆของผม อบอุ่นและใจดียิ่งกว่าใคร อ่อนโยนและนอบน้อม เป็นคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์ที่ผมปฏิญานตนเอาไว้ว่าจะปกป้องเธอไปชั่วชีวิต

แต่ทว่า ไอ้พวกสารเลวพวกนั้น มองเห็นสิ่งนั้นเป็นข้อได้เปรียบในการล่อลวง และยกพวกกว่าสิบสามคนรุมข่มขืนเธอพร้อมกับถ่ายคลิปและรูปภาพเพื่อเก็บไว้แบล็คเมล แน่ล่ะว่าถ้าเป็นเธอล่ะก็ต้องไม่มีทางที่จะบอกคนอื่นแน่ๆ

เรื่องนั้นดำเนินไปได้สองเดือน ช่วงท้ายเดือนกันยายนผมเห็นได้ชัดเลย พวกมันพาพวกจากต่างโรงเรียนเข้ามาภายในโรงเรียนหลังจากทมี่โรงเรียนเลิกและทุกคนกลับไปกันหมดแล้ว ในห้องศิลปะซึ่งเป็นห้องที่อาจารย์คนนั้นใช้สอนเพราะเป็นวิชาที่เธอได้รับมอบหมายงานมานั้น

พวกมัน...กว่ายี่สิบชีวิตรุมข่มขืนอาจารย์พร้อมทั้งถ่ายคลิปเก็บวิดีโอเอาไว้ ใบหน้าของอาจารย์ในตอนนั้นผมไม่มีวันลืมเลือนเด็ดขาด

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาและเปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีขุ่นสกปรกจากเจ้าพวกโสโครกนั่น ท้องของอาจารย์ที่ผมสัมผัสได้ถึงอีกหนึ่งชีวิตเพราะต้องท้องกับหนึ่งในไอ้แมลงสวะพวกนี้ ร่างกายของอาจารย์เต็มไปด้วยรอยต่างๆ ทั้งรอยตี รอยฟาดด้วยของจำพวกแส้ รอยของการขีดเขียนด้วยปากกาเมจิกที่ลบออกยาก รอยของก้นบุหรี่

ซ้ำยังมีรอยของเข็มฉีดยา และซองยาปลุกเซ็กซ์กับกล่องยาเสพติดอีก ไอ้พวกสารเลวนั่น คิดเหรอว่าผมจะไว้ชีวิตพวกมัน?

ผมบุกเข้าไปแล้วฆ่าพวกมันให้ตายอย่างทรมานที่สุด ให้มันพบกับความเจ็บปวดที่สาสมแต่กลับไม่พึงพอใจผมเลยแม้แต่น้อยนิด ไอ้พวกนั้น...มันตายเร็วเกินไป

ยังจำได้ดีเลย มีไอ้บางคนที่อยู่กับน้องสาวและแม่ของมันด้วย พวกมันขอร้องอ้อนวอนขอชีวิตจากผมเพราะเห็นว่าเพื่อนถูกฆ่าตาย สิบสามชีวิตที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกันกว่าครึ่ง ไอ้พวกนั้น...มันรอดตายเพราะอาจารย์ขอไว้หรอกนะ

หลังจากนั้นไม่นานพวกมันก็ทำอีก โดยส่งคลิปล่าสุดของอาจารย์มาที่เมลล์ของผม และเผยแพร่คลิปทุกอันที่มันถ่ายเอาไว้กว่าร้อยคลิปลงอินเตอร์เน็ต เมื่ออาจารย์ใหญ่เห็นก็ได้เรียกอาจารย์ไปพบ แต่ในตอนนั้นอาจารย์ที่รับรู้ทุกอย่างได้ยื่นใบลาออก แล้วตัดสินใจโดดตึกตายจากบนดาดฟ้าของโรงเรียน

'ฉันรักเธอจริงๆนะ คุโรมิเนะ คุโระคุง' นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของเธอ ในวันนั้นผมก็ตัดสินใจล้างแค้นพวกมันที่ทำให้อาจารย์ต้องตายกันทุกคน

ในเมื่อมันมีพี่น้องและแม่ที่สวยงามซะขนาดนั้น ผมก็เด็ดปีกผีเสื้อนั่นทิ้งให้พวกมันเชยชม ในเมื่อความผิดของพวกมันคือบาปแห่งราคะ ผมก็สนองให้ตามที่พวกมันต้องการ

ทั้งน้องสาว ทั้งพี่สาว ทั้งแม่ ทั้งน้า ทั้งอา ทั้งคุณป้า พวกที่ยังสาวๆสวยๆทั้งหลายที่เป็นครอบครัวเดียวกับพวกมันถูกผมลากตัวไป โยนเข้าไปในวงของกลุ่มยากูซ่าบ้างล่ะ กลุ่มของพวกจิ๊กโก๋สันดารเสียเหมือนพวกมันบ้างล่ะ ในญี่ปุ่นน่ะ มีหลายย่านที่ไม่ปลอดภัย แม้จะไม่มากมายแต่ย่านนั้นแค่ผู้หญิงคนเดียวมันคงไม่พอหรอกใช่ไหม?

ครอบครัวนึงต่อหนึ่งย่าน หรือจะแบ่งเป็นสองถึงสามกลุ่มแล้วลากครอบครัวของพวกมันมาให้ และยังสลับกันทำไม่เว้นแต่ละวัน แน่นอนว่าอัดคลิปกระจายว่อนไปทั่วโลกแห่งอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการถ่ายทอดสดอีกด้วย ยอดวิวพุ่งเลยล่ะนะ

ก็นะ 'เปิดซิงน้องสาวจิ๊กโก๋ผู้ฆ่าอาจารย์สาวสวย กรรมตามสนองแล้วไงล่ะ?' คลิปนี้ได้รับความนิยมจริงๆ เพราะน้องสาวของเจ้านั่นดันเป็นไอดอลซะด้วย น้องสาวฝาแฝดที่โด่งดังคู่นั้นถูกย่ำยีไม่เหลือชิ้นดี ในที่สุดก็ทนความอับอายไม่ไหวจนต้องฆ่าตัวตายไปทั้งครอบครัว

ไอ้กลุ่มที่ข่มขืนอาจารย์ เมื่อเห็นแบบนั้นก็ต้องการจะเรียกร้องสิทธิ์ของตนแต่ มันถูกตามล่าอยู่ด้วยหมายศาลที่ออกใบแจ้งจับเจ้าพวกนั้น บางคนก็ยอมให้ถูกจับเพื่อแลกกับการจับกุมคนที่ข่มขืนพี่สาวและแฟนสาวของตน แน่นอนว่าผมลากไปถึงแฟนของพวกมันด้วย แต่ทว่าน่าเสียดายที่ตำรวจไม่รับเรื่อง

ผมที่ออกจากบ้านแล้วใช้เวลาปิดเทอมลากยาวไปถึงครึ่งเทอมแรกในการแก้แค้นนั้น ก็ถูกโกรธและถูกลงโทษโดยพี่ฮานะ เธอโกรธผมสุดๆแต่ผมไม่ยอมรับความผิดนั้นจนเกิดการทะเลาะกัน เล่นเอาซะญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวเลยล่ะ พี่ฮานะนี่เป็นตัวตนที่โคตรจะมีแต่ปริศนาเลยล่ะนะ

ในวันนั้นผมก็ถูกฮินะและคานะเกลี้ยกล่อมให้ไปขอโทษพี่ฮานะ และผมก็ถูกให้อภัยโดยง่ายพร้อมสัญญาว่าจะไม่ททำอีก...แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอีก ผมจะผิดสัญญานั้นแล้วพวกเราสองคนก็จะขาดกัน จะไม่มีอะไรที่จะเกี่ยวข้องกันอีกแม้แต่น้อยนิด

แต่นั่นมันใช้ไม่ได้กับผมตอนนี้ ผมยังไม่สาแก่ใจเลยกับการแก้แค้นที่ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์นั่น แถมยังทำให้ผมนึกถึงภาพในอดีตนั่นอีก จะตอบแทนให้สาสมด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซะเลย

"ไปนอนซะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องเฝ้ายามผมจะจัดการให้เอง"

"นาย...น่ะเหรอ?"

อย่าพูดพลางเอามือปิดหน้าอกแบบนั้สิ ไม่ได้สนใจสักหน่อย สนใจแบบเล็กๆอย่างฮินะ หรือที่เคยจับอย่างเอวากับนิลล่ามากกว่า กับคนอื่นน่ะหลบไปเลยเถอะ

"พรุ่งนี้ชั้นมีนัดกวาดล้างไอ้เวรพวกนั้น ชั้นจะไม่ปล่อยให้พวกมันหนีรอดไปได้แม้แต่ตัวเดียว ถ้านอนกันไม่พอล่ะก็ชั้นจะไม่ปล่อยเอาไว้แน่"

เพราะนี่มันก็ค่อนข้างจะมืดแล้ว สามทุ่มกว่าราวๆนั้นล่ะนะ เวลาในตอนนี้น่ะ

"เราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืด เพราะงั้นไปพักผ่อนซะ"

"แล้วพี่ล่ะคะ? ถ้าพี่ไม่ไหวบอกพวกหนูได้นะคะ"

"ชั้นไม่เป็นอะไรหรอกเอวา ไปนอนพักซะ ผมนอนไม่ลงเพราะไอ้ออร์คนั่นพูดบ้าอะไรก็ไม่รู้น่ะ"

"แต่นายคุยกับออร์คได้ด้วยเหรอเนี่ย? นายใช่มนุษย์แน่นะ?"

ยัยอัลซุนี่ปากเสียจริงๆ มาว่าคนอื่นว่าไม่ใช่มนุษย์แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน?

ว่าแล้วก็ไล่พวกหล่อนไปนอนซะ แต่ทุกคนย่อมหวาดกลัวผม บางคนถึงกับชี้อาวุธใส่ แต่พวกเอวาห้ามเอาไว้ซะก่อน เพราะว่าฮินะอธิบายให้แท้ๆ

"แล้ว? เธอทำไมถึงไม่ไปนอนล่ะ?"

รู้สึกว่ายัยอัลซุนี่บทจะเยอะเกินไปแล้วนะ นอกจากยัยนั่นก็มีนิลล่าอีกคน ที่นั่งขนาบข้างผมโดยเข้ามาพิงพวกเรา มันร้อนแต่ว่าอบอุ่นไม่ได้อบอ้าว เพราะอากาศมันเย็นล่ะนะ

"คิดว่าฉันจะนอนหลับเหรอ? ไม่ต้องห่วงถ้าจะหลับก็หลับตรงนี้นี่แหละ... ล...แล้วนายห้ามทำอะไรร่างกายของฉันนะ!"

""ไม่อ่ะ ไม่ม่ีทางที่ชั้น(เขา)จะสนใจร่างกายของเธอหรอก""

"เธอเกี่ยวอะไรด้วยยะ!? ยัยนิลล่า!?"

อย่ามากัดกันตรงนี้สิ ผมที่รู้สึกหิวหน่อยๆหรี่ตาลงอย่างไม่ค่อยพอใจ อย่างนึงเลยคือไอ้ก้อนเนื้อสี่เต้าสองข้างนี่มันเบียดผมอยู่นะ แถมอยู่ในชุดนอนจึงสัมผัสได้ชัดเจนกว่าชุดปกติ แล้วไหงถึงไม่ใส่ชั้นในกันยัยนิลล่า? บางแบบนั้นมองทะลุได้ง่ายๆเลยนะ

แต่ฝ่ายหญิงเถื่อนกลับใส่ได้มิดชิดดีมาก ไม่สมกับเป็นหญิงเถื่อนแต่ก็สมกับเป็นผู้หญิงที่ดีล่ะนะ หัดเอาอย่างซะบ้างสิยัยบ้านี่

ผมคิดพลางเอาเนื้อดิบออกมาจากมิติแล้วเสียบเข้ากับไม้เหล็กที่มีความยาวพอควร จากนั้นก็โรยเหลือเล็กน้อยแล้วเอาไปผึ่งไฟของกองไฟนี้

"นั่นสินะ ก็คุโระน่ะไม่ได้กินอาหารมื้อเย็นนี่นา เอวาจังเองก็ด้วยแต่รายนั้นกินไปหน่อยนึงแถมอิ่มยาวเพราะนายด้วย ขอโทษนะที่กินจนหมดเลยน่ะ"

"ไม่เป็นไร ผมทำมาให้พวกเธอกินนี่นะ"

" 'ผม' ?"

"...อะไร?"

จ้องหน้าแบบว่า มันใกล้จนถึงขั้นว่าจะจูบกันได้อยู่แล้วนะเนี่ยตอนนี้น่ะ ไร้การป้องกันตัวและไม่มีความเขินอายเลยรึไง? พอถูกจ้องก็สะดุ้งแล้วถอยไปสามคืบ เอาเถอะ อยู่แบบนี้ไปก่อนก็แล้วกัน

"อ...อื้อ"

ฉันตื่นขึ้นมาในช่วงเช้ามืด ถึงจะสะลึมสะลืออยู่แต่ว่าฉันค่อนข้างมั่นใจว่าตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่เลยช่วงเที่ยงคืนมาไม่นานนัก ถึงแม้จะดูจากดวงจันทร์ไม่ได้ก็ตาม แต่ว่าลมมันบอกทุกอย่าง

ฉันชื่ออัลซุ ยินดีที่ได้รู้จัก ในที่สุดก็มีบทดีๆกับเขาสักที แม้ว่ายัยผู้เขียนจะทำให้ฉันออกมาเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ เป็นหมากที่ใช้แล้วทิ้ง...ฮือ แค่คิดก็เสียใจแย่แล้ว!

**ก็อย่าคิดสิยะ!**

พูดมันก็ง่ายสิ! เธอเคยเลิกคิดอะไรบางอย่างไปโดยปริยายรึเปล่าล่ะ!?

**ฉันน่ะไม่เคย แต่หล่อนน่ะชัดเจนเลย! ดูที่มือสิ!**

ฉันยังสงสัยในคำพูดของหล่อนอยู่ แต่ที่น่าสงสัยกว่าคือเธอบอกให้ฉันมองไปที่มือของตัวเอง ฉันอยู่ในสภาพที่นอนหนุนหมอนไม่ใช่เหรอ? ก็นอนอยู่ปกตินี่? หืม? จะว่าไปมือของฉันก็ค่อนข้างจะสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่ออกมาจากอะไรสักอย่างแฮะ

-หนุบ หนับ-

**ปกติแล้วเหตุการณ์แบบนี้จะเป็นของฝ่ายชายที่ตื่นขึ้นมาพบว่ามือของตนจับอยู่ที่หน้าอกที่บ้างก็อวบอิ่ม บ้างก็แบนราบซะสนิท แต่ว่าคราวนี้มันกลับกันล่ะนะ ฮุฮุ**

เกลียดเธอจริงๆเลยยัยคนสำส่อนนิสัยเสีย

**ว่าใครยะ!?**

จะว่าไป...ทำไมฉันถึงนอนอยู่กันล่ะ? ในเมื่อ...!? ย...อย่าบอกนะว่า!?

หนึ่งเลย ฉันกำลังนอนหนุนหมอนชนิดนึงที่สุดแสนจะนุ่มน่ิม มือของฉันข้างนึงอยู่เหนือศีรษะของฉัน ส่วนอีกข้างนั้นอยู่ที่ต้นขาของตัวฉันเอง

สองเลย ฉันที่น่าจะนั่งเฝ้าเวรอยู่กับนิลล่าและไอ้บ้าหื่นกามนั่นอยู่ตอนนี้กำลังนอนในท่าที่ว่า

สามเลย ที่ฉันจับอยู่น่ะ...มันค่อนข้างจะใหญ่ แบบว่านิ้วของฉันโอบไม่หมด เหลือเอาไว้เล็กน้อยเท่านั้น และมันมีขนาดที่...ราวกับท่อนไม้แต่นุ่มนิ่ม บวกกับความอบอุ่นแล้วมัน...

"ย...อย่าบอกนะว่า?"

"ถ้าตื่นแล้วก็ช่วยลุกไปหน่อยจะได้ไหม? แล้วก็หยุดบีบและคลำแบบนั้นได้แล้ว ก็เห็นอยู่ว่าภรรยาของชั้นไม่ชอบ"

"นิสัยไม่ดี! อัลซุจะรักคุโระฉันก็ไม่ว่า แต่อย่ายึดเจ้า 'ดุ้น' นั่นเอาไว้คนเดียวนะ!!!!!"

ในที่สุดฉันก็เข้าใจ!? 

**หึ! ยัยสมองฝ่อ**

อย่ามาขัดกันสิ! คนกำลังได้ฟีล!

อะแฮ่ม! เอาใหม่ๆ ...ในที่สุดฉันก็เข้าใจ! ที่อยู่ในมือของฉัน! สัมผัสที่อ่อนนุ่มและอบอุ่นนี่! มันมาจากของสกปรกจากไอ้เจ้าผู้ชายโสโครกนี่!!! นอกจากนี้ฉันยังนอนที่ตักของไอ้หมอนี่! มันนุ่มมากจนไม่อยากลุก และไม่อยากปล่อยเลย!!

**กรี๊ด! โรคจิตค่า!**

หล่อนนั่นแหละโรคจิต!

**คนที่ว่าคนอื่นโรคจิตนั่นแหละโรคจิต!**

หล่อนเป็นเด็กประถมเหรอยะ!?

"น...น่าอายชะมัด! ฉันเป็นเจ้าสาวไม่ได้แล้ว*!!"

*เวลาคนญี่ปุ่นเขาอายมากจนชนิดที่ถ้าแทรกแผ่นดินหนีได้คงหายไปอยู่โลกอื่นจะเป็นกัน

"แค่จับยังขนาดนี้ ถ้าเธอนอนละเมอถ่างขาอ่อนคู่นั้นหรือจับผมข่มขืนจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ?"

"ไอ้สารเลว! ไอ้สวะแมลงต่ำช้า! ไอ้หื่นกามโรคจิต! ไอ้ตุ๊กตาเอ้ย!"

**เฮ้ย! 'ไอ้ตุ๊กตาเอ้ย!' ที่ว่ามันหมายความว่ายังไงยะ!?**

"หลุดคำที่ไม่น่าจะเป็นคำด่ามาด้วยแฮะ ไหวรึเปล่าเธอน่ะ? แล้วก็นะ อย่าตะโกนเสียดังสิ คนอื่นจะตื่นเอานะ"

ดูเหมือนว่าจะถูกสายลมของนิลล่ากลบไปทำให้ทุกคนยังไม่ตื่นขึ้นจากเสียงตะโกนเรียกของฉัน โชคดีจริงๆที่เป็นแบบนั้น เฮ้อ โล่งอกชะมัด...

"ฮึ่ม! ฉันเกลียดนาย!"

"ก่อนอื่นก็ลุกไปก่อน แล้วไอ้มือนี่น่ะ อย่าออกแรงบีบมากเกินไปสิ ถึงจะไม่เจ็บจนรู้สึกดีในหลายๆความหมายแต่ไม่ชอบใจเลยสักนิด โทษทีนะแต่เธอมันไม่น่าพิศวาส เพื่อนของเธอที่ใช้ทวนนั่นน่าสนใจกว่าเธอเยอะ สุภาพและน่ารัก ค่อนข้างจะมีความเป็นพี่สาวสมกับอายุ ต่างจากยัยนี่สุดๆ"

"เอ๋!? ฉันอายุน้อยกว่าคุณมารุโกะอีกนะคะ!"

"หืม? ยัยนั่นชื่อ มารุโกะ งั้นเหรอ?"

ก็ไม่มีใครบอกเขานี่นะ แต่ว่าเขาสนใจเธองั้นเหรอ? แบบนี้ไม่ดีแน่! เพื่อความปลอดภัยของมารุโกะแล้วล่ะก็!!! ฉันจะต้องหยุดความคิดของเจ้าบ้านี่ด้วยความสามารถของฉันอย่างสุดกำลัง!

**จะทำให้เขาเป็นของตัวเองล่ะไม่ว่า เสนอตัวดีจังนะยะหล่อน**

หุบปากไปซะ ยัยหื่นโรคจิต!

**ว่าใครฟะ!?**

"แล้วยัยสาวถือหอกนั่นล่ะ? ถึงค่อนข้างจะดูมีลุคแบบนิลล่ายามยั่วชายอื่นก็ตาม แต่ภายในนั้นไม่ต่างอะไรกับยัยนิลล่าเลย ต้องบอกว่าเป็นคาแร็คเตอร์ซ้อนทับกันมากกว่าล่ะนะ"

"คาแร็คเตอร์ซ้อนทับ? อะไรล่ะนั่น?"

"ยังไงก็ตามยัยนั่นชื่ออะไร? ดูจากเบ้าหน้าและรูปร่างรวมไปถึงสีผมแล้วน่าจะเป็นพี่น้องกันนะ"

"หมายถึงคุณคิรุโกะเหรอ? ใช่แล้วล่ะ คนคนนั้นเป็นน้องสาวของคุณมารุโกะเองล่ะนะ อายุพอๆกับฉันเนี่ยแหละ คุณมารุโกะแก่กว่าฉันราวๆสามปีและยัยนี่ก็แก่กว่าฉันห้าปี"

นิลล่าพูดพลางชี้นิ้วมาที่ฉันซึ่งตอนนี้ฉันปล่อยมือจากจุดนั้นของเขาแล้วยืดตัวตรงพร้อมถอยห่างออกมาแล้วล่ะนะ ฉันไม่ยอมเข้าใกล้เจ้าผู้ชายคนนั้นอีกครั้งแน่ๆ ยังไงก็ตามการชี้นิ้วมาที่ฉันมันเสียมารยาทนะ ทั้งๆที่ฉันแก่กว่าแท้ๆ!

ฉันแก่กว่านิลล่า ไม่ได้หมายความว่าฉันแก่นะยะ!

**ไม่มีใครพูดอะไรเลยนะ**

หุบปากไปซะ!

"อย่ายุ่งกับสองคนนั้นเชียวนะ ถ้านายทำฉันฆ่านายแน่"

"ไม่มีทางยุ่งอยู่แล้ว ผมเป็นประเภทรักเดียวใจเดียวซะด้วยสิ...อย่างน้อยๆก็พอใช้กับสถานภาพปัจจุบันนี้ได้อยู่ล่ะนะ"

"โรคจิตน่ะสิไม่ว่า"

ฉันเหน็บแนมไปแต่อีกฝ่ายไม่ค่อยจะสนใจอะไรเลย การที่สองคนนี้ดูไม่ง่วงนอนแม้จะยังไม่ได้นอนเลยนี่มันทำให้ฉันตกใจ จะว่าไปฉันนั้นเป็นคนปกตินี่นา? แต่กับนิลล่านี่ค่อนข้างจะแปลกนะ

"ยังไงก็ตาม พวกนายไม่รู้สึกง่วงนอนกันบ้างรึไง? นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ"

"เวลาราวๆตีหนึ่ง ยังไม่ค่อยง่วงแฮะ นิลล่า ถ้าไม่ไหวจะนอนก็ได้นะ"

"งั้นฉันขอนอนหนุนตักของคุโระบ้างนะ?"

"จะเกรงใจทำไมกัน? อย่างลืมสิว่าพวกเราเป็นอะไรกันแล้วน่ะ?"

"นั่นสินะ ฉันจะพยายามไม่อายเวลาอวดคนอื่นก็แล้วกัน"

ร...รอยยิ้มนั่นมันอะไรก๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!? นี่!! ยัยตุ๊กตาหื่นกามลามกโรคจิตชอบจิ้นญxญและมองสาวคอสด้วยสายตาหื่นกระหาย!! ทำไมยัยนิลล่าถึงได้มีรอยยิ้มที่งดงามขนาดนั้นกันล่ะหา!?

**เพราะยัยนั่นสวย ดูดี และที่สำคัญไม่ได้ปากเสียเหมือนหล่อนไงล่ะยะ!!**

รอยยิ้มของนิลล่านั้นช่างสว่างไสวมากเลยล่ะ! แสบตาเลยล่ะ! นี่สินะ! รอยยิ้มของสาวน้อยผู้มีความรัก?! กลายเป็นยัยนิลล่าคนละคนกับที่ฉันรู้จักซะแล้ว!!

"อาห์♥ สบายจังเลย♥ ถ้าถ้าเริ่มเมื่อยแล้วบอกฉันได้นะ"

"คิดว่าผมอ่อนแอขนาดนั้นเลยเหรอ? หัวของยัยอัลซุยังหนักกว่าเธอผมยังรับมาแล้วตั้งหลายชั่วโมงนะ"

ปากสุนัขจริงๆไอ้ผู้ชายคนนี้!!! ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงมีคนมาชอบไอ้หมอนี่! โดยเฉพาะนิลล่า เธอหาผู้ชายคนอื่นไม่ได้อีกแล้วรึไงกันหา!?

"เธอก็ไปนอนซัเถอะ อีกไม่กี่ชั่วโมงชั้นจะปลุกทุกคน แล้วเราก็จะบุกไปจัดการเจ้าพวกออร์คบ้านั่นกัน"

"...ถึงจะไม่อยากพูดก็เถอะ ฉันน่ะรู้สึกติดใจตักนั่นซะแล้วสิ ขอนอนหนุนด้วยคนนะ"

"...เอาเถอะ ยัยนี่ก็หนุนแค่นิดเดียวอยู่แล้ว สองคนคงไม่ม่ีปัญหาอะไรหรอก"

**เดเระแตก?**

หนวกหูน่า!

ว่าแล้วฉันก็เขยิบเข้าใกล้เจ้าบ้านี่ แล้วก็ซบลงที่ตักของเขา มันนุ่มจนรู้สึกดี และไม่นาน ฉันก็ผล็อยหลับไป



ติดสอบไม่เท่าไร แต่เพราะสอบมันทำให้สมองตันไปหมดเลยจริงๆ คือ...ทำไมแต่ละอย่างมันต้องใช้ความจำขนาดนี้กันฟะ!? [บ่นๆ]

ในสมองมันตีกันหมดแล้ว...แถมไม่ค่อยจะมีอารมณ์พิมพ์งาน NC ตอนยาวอีก แต่วันพฤหัสนี้จะต้องปั่นของมิกะต่อให้จบตอนอีก จบNC สำหรับ 11คนแล้วก็เข้าสู่เนื้อเรื่องหลักได้สักที

ไหนจากเรื่อง fate อีก ถถถ+ ปั่นที่บ้านได้แปปเดียวเท่านั้นแหละ ส่วนใหญ่ปั่นที่โรงเรียน...

ยังไงก็ตามลำบากฟ่ะ ดีนะที่แต่งสองเรื่อง เพราะไม่งั้นคงไม่ได้พักจากอีกเรื่องมาทำอีกเรื่องหรอก จะว่าไปจะสิ้นเดือนละอันริจังยังไม่ได้ทำตอนต่อเลย ดองไปก็แล้วกันเรื่องนั้น...

เอาล่ะ บทส่งท้ายกันแล้ว!



"ฉันรักเธอนะ คุโรมิเนะ คุโระคุง"

ถ้าฉัน...เข้มแข็งกว่านี้...

ถ้าฉัน...เชื่อใจคนอื่นได้ยากกว่านี้

ถ้าฉัน...รับรู้ได้ถึงความคิดของอื่นล่ะก็

ถ้ามีโอกาส...ให้ฉันอีกครั้งแล้วล่ะก็!


ณ งานศพของตัวฉัน หลังจากที่ฉันตัดสินใจเรียกคุโรมิเนะคุงมาคุยด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ฉันที่ได้บอกความรู้สึกทั้งหมดไปก็ได้จบชีวิตของตนลงด้วยการกระโดดตึกฆ่าตัวตาย

ทันทีที่ฉันตาย ดวงวิญญาณของฉันก็หลุดออกจากกายหยาบนั้น แต่ฉันยังไม่หายไปในทันที พร้อมกับยังคงอยู่มองดูศพของฉัน และบรรดาผู้คนที่รู้จักที่เข้ามาร่วมพิธี

ในงานศพของฉัน ฉันมองเห็นเจ้ากลุ่มเด็กเกเรที่เป็นคนกระทำชำเราฉันอยู่ด้วย แม้จะไม่ได้โกรธเคืองเพราะมันเป็นความผิดของฉันเองที่ถูกล่อลวง

แต่สามคนนั้น เป็นคนที่เดิมทีก็ไม่มีครอบครัว และไม่มีใครอยู่แล้ว เรียกได้ว่าที่ทำไปนั้นพวกเขาก็สำนึก ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะความประพฤติของเพื่อนที่คบ และจากรอยช้ำคงถูกต่อยและถูกทิ้งมาล่ะมั้ง น่าสงสารจังนะ..

"พวกแกเองก็เป็นคนที่ทำให้อาจารย์ต้องตายสินะ?"

"ค...คุโรมิเนะ? ชั้น....ช...ชั้นผิดไปแล้วล่ะ ไม่นึกเลยว่าทำแบบนั้นไปจะทำให้อาจารย์ต้องคิดสั้น...ชั้นก็แค่ชอบอาจารย์เท่านั้น ชั้น...ไม่น่าจะเชื่อคำพูดหมอนั่นเลย"

"นั่นไม่ใช่แค่ความผิดของไอ้บ้านั่น แกเองก็ด้วยไม่ใช่รึไง? ที่ทำเรื่องแบบนี้ไปโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีน่ะ? แล้วไม่คิดจะห้ามเจ้าพวกนั้นซ้ำยังเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ข่มขืนอาจารย์ คิดว่าชั้นจะปล่อยแกไปเหรอ?"

เสียงจ๊อกแจ๊ก จอแจดังไปทั่วทุกสารทิศหลังจากที่สิ้นเสียงของคุโรมิเนะคุง แต่ว่าเด็กเหล่านั้นไม่ได้หนีไปเลย ถึงจะมีลนลานเล็กน้อยแต่ก็ยอมก้มหัวรับผิด ไม่พูดไม่ปริปากเลยแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นคุโรมิเนะคุง...ว่าแต่คุโรมิเนะคุงมางานศพของฉันด้วยเหรอ? ใจดีจังนะคุโรมิเนะคุง เพราะแบบนั้นฉันถึงได้รักเธอยังไงล่ะ

เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน ฉันที่ใกล้จะเรียนจบแล้วก็ได้พบกับเขา ถูกช่วยเอาไว้ในเหตุการณ์ที่ฉันเข้าไปพัวพันกับแก๊งยากุซ่าจนเกือบจะได้เจ็บตัว

หลังจากนั้น การพบกันครั้งที่สองคือเมื่อสามเดือนก่อนในวันปฐมนิเทศ น่าตกใจเลยล่ะว่าเขาอยู่ที่โรงเรียนนี้ จากนั้นฉันก็เข้าหาเขา ด้วยความเป็นอาจารย์จึงสามารถเข้าไปพูดคุยกันได้ ตอนแรกก็ไม่ติดใจอะไร ไปๆมาๆฉันก็รู้สึกหลงไหลและรักเขาสุดหัวใจ 

หลายครั้งเขาช่วยฉันเรื่องงาน เอกสารที่ไม่สามารถยกไปได้ด้วยตัวคนเดียว อุปกรณ์หนักๆที่เกินกำลังของฉัน เขาช่วยฉันเอาไว้หลายครั้งมากจนนับไม่ถ้วนเลยล่ะ

ในวันที่ฉันกำลังจะไปสารภาพรัก ฉันก็...

"อาจารย์จะไปหาคุโรมิเนะงั้นเหรอ? ผมรู้นะว่าหมอนั่นอยู่ที่ไหน"

"จริงเหรอ ยามาคาว่าคุง?"

หลังจากนั้นฉันก็ถูกกลุ่มของยามาคาว่ากว่าสิบคนข่มขืน ครั้งแรกที่สำคัญของฉันถูกช่วงชิง ภาพถ่ายและคลิปที่ติดใบหน้าของฉันนั้นถูกเก็บเอาไว้แบล็คเมล์ และฉันก็ตกเป็นเหยื่อหลายต่อหลายครั้ง...แม้จะเป็นวันที่ไม่ปลอดภัย พวกนั้นก็ไม่เว้น

"พวกเรายอมรับผิดแล้ว พวกชั้นจะไปมอบตัววันนี้"

"แค่มอบตัวคิดว่าเรื่องจะจบงั้นเหรอ? แกทำให้ครอบครัวของอาจารย์ต้องร้องไห้ เพื่อนฝูงและนักเรียนที่เคารพรักเธอทุกคนกำลังเสียน้ำตาเพราะการกระทำโง่ๆจากไอ้สารเลวอย่างแก ถึงแกจะไม่ได้เป็นคนเริ่มแต่แกที่ไม่ยอมหยุดพวกมันแล้วร่วมมือด้วยก็สมควรจะถูกลงโทษ"

ล...ลงโทษ? คุโรมิเนะคุงคิดจะทำอะไรกันแน่? ฉ...ฉันบอกเขาแล้วว่าอย่าทำร้ายพวกนั้นไม่ใช่เหรอ? แต่คุโรมิเนะคุงคงจะไม่ทำ..

-เปรี้ยง!-

-โครม!-

"อ...อั่ก"

"หลังจากที่อาจารย์ตายไป สัญญาที่ว่าจะไม่ทำร้ายพวกแกมันก็สิ้นสุดลงแล้ว คราวนี้แหละ ชั้นจะกระทืบพวกแกทุกคน เอาให้จมดินกันไปให้หมดเลย...เริ่มจากที่พวกแกก่อนเป็นกลุ่มแรกเลยก็แล้วกัน"

-ผั่วะ!-

-ตุ่บ!-

ม...เมื่อกี้มันอะไรกัน? มองตามไม่ทันเลย... เพียงแค่เขาสะบัดขาร่างของชายเกเรคนนั้นก็ปลิวไปจนกับกำแพงจนมันพังลง เก้าอี้ที่จัดเตรียมเอาไว้ก็ล้มระเนระนาด

คุโรมิเนะคุง...ฉันไม่เคยอยากให้เขาทำอะไรแบบนี้เลยนะ! หยุดนะคุโรมิเนะคุง!

-ตุ้บ!-

-เปรี้ยง!-

เป็นอีกครั้งที่เขาเตะเข้าใส่ชายเกเร แม้จะคนละคนกันแต่ว่าเท่าที่ดู กระดูกแขนขวาคงแหลกละเอียด...ความเสียหายจากการถูกเตะเพียงแค่อย่างเดียวนั้นมากมายเกินกว่าจะคาดถึง 

นอกจากนี้เขายังต่อยใส่เบ้าหน้าของคนพวกนั้นไปหลายต่อหลายหมัด ที่ลิ้นปี่และคอหอย เขาไม่ปราณีเลยแม้แต่น้อย คุโรมิเนะคุง...ทำไมดวงตาของเขาในตอนนี้นั้น...มันช่าง

...เดียวดายเหลือเกิน

-วิ้งค์-

"อ...เอ๋"

ฉันส่งเสียงร้องเป๋อๆออกมาเพราะร่างกายที่เป็นวิญญาณของฉันเกิดส่องแสงสว่างขึ้น อีกทั้งเบื้องหน้าของฉันนั้นก็มีแสงที่สว่างยิ่งกว่าแสงที่ส่องออกจากร่างวิญญาณของฉันอีกด้วย

ไม่นานแสงสว่างก็หายไป แล้วภาพที่เห็นเมื่อก่อนหน้านี้ก็หายไป กลายเป็นสถานที่ที่ฉันไม่รู้จัก ต้องบอกว่ามันมีเพียงแค่เก้าอี้สองตัวและโต๊ะดื่มชาเท่านั้น...ที่ไหนกันเนี่ย?

"ต่างโลกเหรอ? ฮะฮะ ของที่เหมือนกับนิยายแฟนตาซีที่คุโรมิเนะคุงอ่านมันจะไปมีจริงได้ยังไงกันล่ะนั่น?"

"ที่แห่งนี้คือสรวงสวรรค์ และมิใช่สวรรค์ของโลกที่เจ้าอยู่ แต่เป็นต่างโลกที่เจ้าคิดว่ามันไม่มีจริงต่างหาก"

"กรี๊ด!"

ฉันกรี๊ดออกมาเบาๆเมื่อได้ยินเสียงของเด็กสาวดังขึ้นจากด้านหลัง พอมองไปทางด้านหลังก็พบกับเด็กสาวคนนึงมีผมสีทองสลวยลากยาวถึงพื้น สวมชุดเดรสสีขาวงดงามและ...ถือหมอนใบเบ้อเร่อเลยล่ะ ใหญ่กว่าตัวของฉันอีกด้วยนะนั่น

"ขออภัยที่ทำให้ตกใจ ข้ามีนามว่ายูริ ดิ ลันดอน ข้าเป็นเจ้าหญิงแห่งสวรรค์ผู้อยู่เหนือทุกสิ่งบนสวรรค์ ข้ามิสามารถแทรกแซงโลกเบื้องล่างได้แต่ถ้ามิใช่โลกของข้าก็เป็นอีกเรื่อง"

"คุณยูริสินะคะ? ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่กันล่ะคะเนี่ย?"

"คำถามของเจ้ามันมีคำตอบชัดเจนอยู่แล้วมิใช่หรือไง? ความปรารถนาที่แรงกล้าของเจ้า รวมไปถึงความโกรธในจิตใจขององค์ราชา ข้าก็มิอาจรู้ได้ว่าองค์ราชาเป็นอย่างไรแต่เจ้านั้นทำให้ข้ารู้ ว่าเขานั้นน่ากลัวเพียงใด

อย่างไรก็ตามเจ้าที่ต้องการที่จะเข้มแข็งขึ้น ต้องการที่จะเป็นอีกตัวตนนึง ข้าอยากจะให้เจ้าไปเกิดใหม่ ชีวิตที่สองของเจ้า ณ ต่างโลกนี้น่าจะทำให้เจ้าได้เข้มแข็งขึ้นมาบ้าง มิต้องห่วงโลกที่ข้าจะส่งไปเป็นสวรรค์โดยแท้จริง เจ้าจะถือกำเนิดใหม่เป็นนางฟ้านางสวรรค์และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี รวมไปถึงถูกสั่งสอนโดยอาจารย์ที่สุดแสนจะเข้มงวดให้เจ้ากลายเป็นนางฟ้าที่แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าข้า น่าเสียดายที่ข้าแข็งแกร่งเพียงพออยู่แล้วล่ะ

"เอาล่ะ เจ้าจะยอมรับไหม? สู่การเป็นตัวเจ้าในแบบที่เจ้าควรจะเป็น"

"อ...เอ่อ...ฉัน...ฉันอยากจะเกิดใหม่ในโลกเดิมเพราะยังมีคนที่ฉันรักอยู่แต่...ถึงตอนนั้นเขาคงแต่งงานและอายุของเราคงห่างเกินไป...เอ่อ...จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย..."

"เจ้ากังวลเรื่องราชางั้นหรือ? มิต้องห่วง หลังจากนี้ข้าได้ทำนายเหตุการณ์ที่ควรจะเกิดขึ้นแล้ว องค์ราชาจะปรากฏตัวที่โลกของข้า และเอาชนะจอมมารผู้ยโสโอหังในฐานะของจอมมารที่แท้จริงได้โดยง่าย และผู้กล้าจักถูกเปลี่ยนเป็นจอมปีศาจโดยแท้จริง แน่นอนล่ะ ว่าหลังจากนั้นเขาก็จะต้องไปยังอีกโลกนึงที่เต็มไปด้วยเวทย์มนต์ 

หลังจากกำจัดพระเจ้าสูงสุดทั้งสามและทำลายโลกใบนั้นเพื่อปลดปล่อยมนุษย์ทุกผู้เสร็จแล้วเขาก็จะมุ่งหน้าไปยังโลกแห่งดาบเวทย์เพื่อกำจัดต้นตอของสิ่งชั่วร้ายภายในจิตใจของมนุษย์ และทำลายผนึกเทพมารเพื่อปลดปล่อยสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย จากนั้นก็โค่นล้มเทพมารผู้ที่แกร่งที่สุดแล้วมุ่งหน้าไปยังโลกที่เจ้าจักไปเกิดใหม่ โลกแห่งนางฟ้ายังไงล่ะ"

"ม...หมายความว่าฉันจะได้เจอกันเขา...เดี๋ยวก่อนนะ เขาไม่ได้เป็นมนุษย์ธรรมดาหรอกเหรอ?"

"โธ่! เจ้านี่ถามมากจริง! ข้ากำลังยุ่งเพราะงั้นขอส่งเจ้าไปเลยก็แล้วกัน! บ๊ายบาย!"

"เอ๊ะ? ไหงทิ้งกันดื้อๆเลยล่ะคะ!?"

"อ...อื้อ"

"ตื่นแล้วสินะ?"

ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆแล้วหันไปทางซ้ายทีขวาทีจนกระทั่งไปหยุดตรงผู้หญิงที่ทักทายฉันขึ้น เธอดูงดงามและน่ามองดู หน้าอกก็ใหญ่ ที่สำคัญเธอดูเหมือนมนุษย์ปกติ ใบหน้าคล้ายชาวต่างชาติซึ่ง...ไหนบอกว่าเป็นโลกแห่งนางฟ้าไง?

"ไปกันเถอะ ได้เวลาเรียนแล้ว"

ไม่ทันไรจากสาวสวยผู้งดงาม...ก็กลายเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่ควรพูดออกไป...คุโรมิเนะคุง รีบมาไวๆนะ...ฉันกลัวเหลือเกิน...

จากนั้นฉันที่ยังไม่ทันจะรู้อิโหน่อิเหน่ก็ถูกทรมานในแบบต่างๆที่ไม่มีแผลทางร่างกาย แต่เป็นอะไรที่ไม่ควรจะพูดออกไปเลยแม้แต่น้อย...ฮือ ร่างกายนี้เป็นร่างกายที่ยังซิงแต่..ฮือ ถูกอาจารย์คนนี้ขยาย 'รู' ให้ซะแล้ว...ช่วยฉันที คุโรมิเนะคุง!!!


**สงสารจารย์นิดหน่อยแฮะ ขนาดมาต่างโลก...**

กลับหน้าเรื่อง

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามรับชมผลงานน~า

และก็อยากให้ติดตามต่อไป แม้ว่าไรท์จะเริ่มเมาก็จะเขียนให้ช้าลงเพื่อซอร์ฟความเมาน~า

~♪ ~♫

แสดงเพิ่มเติม
แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั้งหมด ()

ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น