บทที่ 1 ไอ & อุ่น
คุณเคยถูกก่อกวนมั้ยครับ ถ้าเคยช่วยบอกผมทีว่าผมควรต้องทำยังไง ก็ผมไม่รู้จริงๆ นี่น่า เพราะอย่างงั้นหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ผมก็เลยต้องตกอยู่ในอาการหวาดผวา ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ ไม่อยากให้ใครเห็น โดยเฉพาะเขาคนนั้น คนที่ใครๆ ก็เรียกเขาว่า 'มาเฟีย'
และเรื่องทั้งหมดมันก็เริ่มมาจากวันนั้น...
ข้าวของในบ้านถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ผมรู้อยู่แล้วว่าไม่ได้มีอะไรสูญหายหรอกเพราะบ้านหลังนี้ไม่ได้มีของมีค่าอะไรอยู่แล้ว ผมไม่ได้สนใจข้าวของพวกนั้นนักหรอก แต่สิ่งที่ผมห่วงจริงๆ ก็คือพี่ไอพี่ชายแท้ๆ ของผมเท่านั้น
“พี่ไอ พี่ไออยู่ไหน พี่ไอได้ยินเสียงอุ่นไหม”
“อือ..อุ่น พี่ อยู่นี่” เสียงคำพูดที่ฟังดูเจ็บปวดแบบนั้น ทำเอาผมใจหาย ก่อนจะเดินไปตามเสียงของพี่ไอ ที่เหมือนจะดังอยู่ในครัว
พอผมเดินเข้าไปในครัว ภาพที่เห็นทำให้ผมถึงกับเข่าอ่อน เพราะตอนนี้พี่ไอกำลังนอนขดตัวอยู่บนพื้น ด้วยสภาพที่ปากแตกยับ ใบหน้าที่เขียวช้ำเต็มไปด้วยเลือด ทั่วทั้งตัวมีแต่รอยรองเท้าเต็มไปหมด สภาพปางตาย จนผมต้องรีบพาตัวพี่ไอส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
เมื่อถึงโรงพยาบาลหลังจากที่หมอทำแผลเรียบร้อย พี่ไอถูกเย็บทั้งหมดห้าสิบสองเข็ม ซึ่งแผลที่หนักที่สุดน่าจะเป็นที่บริเวณใบหน้า และหมอยังแนะนำให้พี่ไอนอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการอีกสองวัน แต่เพราะผมไม่มีปัญญาที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่แพงขนาดนั้นได้ เลยจำเป็นต้องพาพี่ไอกลับบ้านเพื่อมารักษาตัวแทน
ผมจะไม่พูดถึงเรื่องอะไรที่พี่ไอถูกทำร้ายทั้งนั้น เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่ามันเกิดมาจากเรื่องของ ‘เงิน’ เพราะครั้งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ไอโดนแบบนี้ เพียงแต่ครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด ซึ่งมันก็น่าจะหมายถึงจำนวนเงินที่สูงมากตามไปด้วย
ถึงจะผ่านไปสองวันแล้ว แต่อาการระบมของพี่ไอยังคงถือว่าหนักอยู่ แถมแผลฟอกช้ำก็ยังมีให้เห็นอยู่ทั่วตัว จนยังไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตัวเองได้ ทำให้ตอนเย็นหลังจากเลิกเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมต้องรีบกลับบ้านมาเพื่อดูแลพี่ไอ ซึ่งก็ต้องแลกกับรายได้หลักจากการสอนพิเศษเด็กๆ ของผมนั้นก็หายไปด้วยและเมื่อพี่ไอเริ่มที่จะพูดได้ เรื่องราวทั้งหมดของปัญหาจึงถูกถ่ายทอดออกมา
“อุ่น คราวนี้อุ่นต้องช่วยพี่นะ ไม่งั้นพวกมันเอาพี่ตายแน่ๆ เลย” สีหน้าของพี่ไอดูหวาดกลัวจริงๆ น้ำตาของพี่ไอเริ่มไหลออกมาจนผมชักจะอึดอัดใจ
“พี่ไอครับ คราวนี้จะให้อุ่นช่วยยังไงละครับ”
“พี่แข่งรถแพ้มัน เพราะพวกมันขี้โกงพี่นะอุ่น พี่เลยต้องติดหนี้พวกมันนะอุ่น” พี่ไอพยายามที่จะยื่นมือมาจับมือผมไว้แน่น
"แล้วคราวนี้เท่าไหร่ล่ะครับ” ผมไม่เคยเดาผิด พี่ไอมีปัญหาเรื่องเงินจริงๆ ด้วย เพราะพี่ไอติดการพนันโดยเฉพาะแข่งรถเถื่อน พี่ไอไม่มีงานทำ วันๆ จะคลุกอยู่กับพวกมาเฟีย ซึ่งผมก็ช่วยมาทุกครั้ง จนข้าวของที่พอจะขายได้ในบ้านก็ไม่เหลือแล้ว สมบัติที่เหลือชิ้นสุดท้ายก็คือบ้านหลังนี้เท่านั้น บ้านที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้หลังจากที่พวกท่านเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้น ผมก็เหลือแค่พี่ไอ เป็นญาติเพียงคนเดียวที่มี เพราะฉะนั้นไม่ว่ายังไงผมก็คงต้องช่วยพี่ไออีกครั้ง
“ห้าแสนเองนะอุ่น"
คุณเคยเป็นไหม เวลาที่เราเจอปัญหาอะไรใหญ่ๆ แล้วตัวเราจะเหมือนว่าหดเล็กลง นั่นแหละคือความรู้สึกผมในตอนนี้ ผมนิ่งอึ้งไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่สิ่งที่รู้คือในมือของผมตอนนี้คือสมุดบัญชีเล่มเก่าเล่มเดียวที่มีและมันได้ผ่านการใช้งานมามากแต่ส่วนใหญ่จะเป็นการฝากเข้าเสียมากกว่
ผมนั่งมองดูตัวเลขที่บรรทัดสุดท้ายที่ระบุจำนวนเงินที่ถอนได้ ‘สองแสนสามหมื่นสี่พันสองร้อยสิบบาทยี่สิบสามสตางค์’ ซึ่งมันเป็นเงินสะสมจากน้ำพักน้ำแรงที่ผมทำงานตั้งแต่รับจ้างแจกใบปลิว เด็กส่งพิซซ่า รับสอนพิเศษ และรับซักรีดเสื้อผ้า ความฝันที่จะมีธุรกิจเล็กๆ ของผมคงต้องยืดเวลาออกไปอีกแล้ว
แต่สิ่งที่หนักใจที่สุดคือผมจะหาเงินมาจากไหนอีกสองแสนเจ็ดหมื่นบาท... โดยที่มีเวลาเหลืออีกแค่สามวัน
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น