กุหลาบร้ายซ่อนปมหัวใจซาตานเถื่อน (แค้น & แค้น)

หญิงสาวที่เดินไปเดินมาอยู่ในห้องก่อนจะมาหยุดลงที่หน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่ สายตาของเธอนั้นที่มองไปยังบรรยากาศภายนอกที่สว่างสดใส ซึ่งแตกต่างจากบรรยากาศด้านในที่เธออยู่อย่างสิ้นเชิง มือเล็กที่กระชับเสื้อแจ็คเก็ตเมื่อกดสายตาลงมองผิวเนื้อขาวเนียนที่มีสภาพมอมแมม เนื่องจากการที่เธอหาทางออกเพื่อให้หลุดพ้นออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่หลังนี้ ไม่ว่าจะวิธีไหนหรือทางใดเธอก็มักจะถูกลากกลับมาที่ห้องนี้อีกครั้งและอีกครั้งจนนับไม่ถ้วน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่หลับตาอย่างข่มอารมณ์ตัวเองให้มากที่สุดเมื่อรู้ว่าประตูห้องที่เคยปิดกระแทกเสียงใส่เธอไม่นานมานี้กำลังเปิดอ้าออก
แอด ~~~
“อาหารค่ะ คุณหนู” น้ำเสียงที่บ่งบอกว่ามีอายุของสาวรับใช้ที่ค่อยถือถาดอาหารเข้ามาภายในห้อง ทำให้ร่างสวยที่ยืนอยู่บริเวณหน้าต่างต้องเงยหน้ามองเพดานห้องอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะสะบัดตัวหันไปมองต้นเสียงนั้นด้วยแววตาน่ารำคาญ
“วางไว้ตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ในห้องนี้” ริมฝีปากสีแดงที่ค่อยๆขยับเหมือนเตือนเธอตรงหน้านัยๆว่า อย่ามายุ่งกับเธออีก พร้อมกับกรอกตาไปมาและหันไปมองที่หน้าต่างทำราวกับว่าสาวรับใช้คนนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเธอสักนิด
“คุณหนูไม่ทานไม่ได้นะคะ”
“งั้นคุณป้า ก็เอาไปให้เจ้านายที่เทินทูนบูชารักนักรักหนาทานสิคะ” ฮาเวียร์ที่ยกมือขึ้นกอดอกก่อนจะปรายสายตามองคนตรงหน้าที่เริ่มปรับสีหน้าไม่ถูก และตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ป้าทำไม่ได้หรอกค่ะ”
“งั้นคุณป้า ก็เชิญออกไปจากห้องพร้อมกับถาดอาหารได้แล้วค่ะ” ฮาเวียร์ไม่พูดเปล่า พรางเดินต้อนคนรับใช้สูงวัยให้ออกไปจากห้องด้วยใบหน้าจริงจัง พร้อมกับผายมือไปที่ประตูทางออกเพื่อไล่เธอออกจากห้องไป
“แต่ว่า..”
“อ้ะๆๆ !! ฝากบอกเจ้านายคุณป้าด้วยนะคะ ว่าฉันไม่ใช่ทาสเพราะฉะนั้นกรุณาปล่อย”
“...”
“เชิญค่ะ”
“คุณหนู !”
ปัง !!
มือเล็กที่ดันประตูปิดลงอย่างอารมณ์เสียก่อนจะเดินมาที่เตียงและทิ้งตัวลงนอนพรางใช้มือก่ายหน้าผากตนอย่างเบื่อหน่ายกับสถานที่ที่ไม่มีความเหมาะกับเธอสักนิดเดียว
“ทำไมนายต้องขัดขวางฉันตลอดนะ ฮึ่ย !” หญิงสาวที่พูดออกมาอย่างหมดความอดทน ก่อนจะเอียงหน้ามองไปที่หน้าต่างบานเลื่อนนั่น ราวกับคิดอะไรได้ไม่นานร่างเล็กก็กระโดดลุกขึ้นยืนมุมปากที่เคยเม้มก็ต้องเผยรอยยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยออกมา
“ฉันคงจะใช้ประโยชน์จากแกได้นะ” มือเล็กที่กดปลดล็อคหน้าต่างลงและใช้มือทั้งสองข้างออกแรงเลื่อนเพื่อให้กระจกเปิดออก ไม่นานผ้าม่านสีชมพูออกที่หยุดนิ่งก็ต้องปลิวไปมาเมื่อถูกแรงลมด้านนอกพักเข้ามาด้านใน ใบหน้าสวยที่ยืนออกไปด้านนอกก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาชายชุดดำแต่ก็ต้องถอนใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นใครสักคน
“เอาล่ะนะ” หญิงสาวที่ตบมือก่อนจะถกเดรสสีดำตัวสวยนั้นขึ้นเพื่อข้ามไปอีกด้าน แต่ก็ต้องชะงักข้างเมื่อได้ยินเสียงที่เธอนั้นคุ้นหูและรังเกียจเป็นอย่างดี
“ยั่วฉันรึไง” เสียงนุ่มน่ารักของชายหนุ่มที่ยืนกอดอกมองหญิงสาวพิงประตูห้องอยู่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ โครงหน้าเรียวคมที่รับกับสันจมูกโด่งงอนสวย คิ้วหนาที่เฉียงขึ้นเพื่อเสริมให้ใบหน้านั้นดูหล่อขึ้นมาทันตาเห็น นัยน์ตาสีน้ำตาลที่กำลังเพ่งมองมาที่หญิงสาวด้วยความรู้สึกสนุกแต่เธอนั้นที่กำลังก้าวขาขึ้นก็ถึงกับสะบัดใบหน้าสวยหยิ่งมามองอย่างหมดหนทาง
“ได้ข่าวว่าช่วงนี้ตรอมใจเหรอ” ชายหนุ่มที่พูดขึ้นมาเหมือนกับว่าไม่ค่อยสนใจหญิงสาวตรงหน้าสักเท่าไหร่แต่ดวงตานั้นยังคงจับจ้องไปที่ขาสวยที่โผล่พ้นขอบกระโปรงพรางยักไหล่พร้อมกับเบะปาก
“แล้วไงค่ะ” ฮาเวียร์ที่ตอบก่อนจะยกขาอีกข้างให้ก้าวผ่านขอบหน้าต่างที่แสนจะยากลำบากแต่เธอก็ไม่คิดอยู่แล้วว่าจะได้รอดออกไป ตราบใดที่เขายังมองอยู่แบบนี้
“ถ้าเธอยังไม่กลับเข้ามา จุดจบของเธอจะลงเอยอยู่บนเตียงนะ” เอเธนส์ที่เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะเดินมาคว้าแก้ววิสกี้ที่วางอยู่บนหัวเตียงขึ้นดื่มรวดเดียวก่อนจะทำสีหน้าเฉยๆและชี้แก้วเหล้าไปยังร่างเล็กที่ยังคงดื้อและจะออกไปให้ได้
“นับหนึ่งถึง..”
“ก็ได้ !! แต่ฉันไม่ใช่ลูกน้องหรือทาสที่นายจะมาจับขังไว้อย่างนี้หรอกนะ” ฮาเวียร์ที่หันหน้ามาหาชายหนุ่มที่มองหน้าเธออยู่ก่อนจะใช้มือดันหน้าต่างไปจนสุดเพื่อบ่งบอกถึงอารมณ์ในตอนนี้
“จนกว่าเธอจะล้มเลิกความคิดที่จะหนีออกไป ถึงตอนนั้นฉันจะให้เธอไปเปิดหูเปิดตา”
“....”
“แต่มีข้อแม้ว่าทุกที่ที่เธอไปต้องมีฉันไปด้วย”
“เข้าใจไหม” ชายหนุ่มที่วางแก้วลงที่เดิมและทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง แต่ยังไม่ทันได้นั่งหญิงสาวก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
“มัวแต่มาคอยตามไม่มีงานมีการจะทำหรือยังไง” น้ำเสียงประชดประชันของหญิงสาวที่เอ่ยขึ้นนั้นทำให้ชายหนุ่มที่นั่งรินวิสกี้ใส่แก้วอยู่ถึงกับชะงักพร้อมกับเอียงหน้าไปมองพรางขำ
“เห็นว่าฉันนั่งรถหรือเปล่าล่ะ”
“นายนี่มัน !!” หญิงสาวที่ลงมายืนพรางกำมือแน่นกับคำพูดกวนประสาทของชายหนุ่มก่อนจะเดินไปที่ประตูทางออกอย่างคิดอะไรไม่ออก เธอรู้แค่เพียงอย่างเดียวว่าไม่อยากจะเสวนากับเขาเพียงเท่านั้น
“นี่ๆๆ ออกไปก็ระวังหน่อยน่ะ ที่นี่คุมเข้ม”
แอด ~~~~
แก่ก แก่ก แก่ก แก่ก
ทันทีที่มือของหญิงสาวเปิดประตูออก็ต้องตกใจเมื่อวัตถุสีดำที่จ่ออยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้มันทำให้เจ้าตัวนั้นถึงกับตกใจและชะงักถอยหลัง
“นายคิดจะทำอะไรกัน เธนส์” หญิงสาวที่หันไปกระแทกเสียงใส่ชายหนุ่มที่ยังคงไขว่ห้างกระดกวิสกี้อย่างไม่สนใจเธอสักนิดเดียว ยิ่งเธอเห็นว่าเขาเมินเฉยมันทำให้เธอนั้นกำลังโมโหก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้และคว้าเข้าที่แก้วทรงสวยออกจากมือใหญ่
“ฉันถามว่านายกำลังจะทำอะไรกันแน่” ใบหน้าสวยที่เริ่มมีอาการจริงจังก่อนจะมองหน้าชายหนุ่มที่จ้องเธออยู่ ก่อนที่เขานั้นจะละสายตาไปมองแก้วที่อยู่ในมือของหญิงสาวพรางเอ่ย
“ฉันคงไม่จับให้เธอมานั่งๆนอนๆในบ้านฉันอย่างเดียวหรอกน่า” เอเธนส์ที่ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับหญิงสาวความสูงที่ทำให้เธอนั้นต้องเงยหน้าขึ้นนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ยกลับไปอย่างไม่ชอบอะไรที่มันทำให้เธอรู้สึกกำลังจะประสาทกิน
“ฉันรู้ ว่านายคงไม่พาฉันให้มาทำตัวสบายแบบนี้หรอก”
“ก็ดี” เอเธนส์ที่ไม่พูดอะไรต่อก่อนจะพยักหน้าและเอื้อมมือไปคว้าแก้วเหล้าในมือเล็กนั้น แต่เธอก็ชักมือหลบและหันไปจ้องหน้าหล่ออย่างอารมณ์เสีย
“นายกำลังจะทำให้ฉันโมโหนะ”
“ตามสบาย” ชายหนุ่มที่เดินชนไหล่หญิงสาวและตรงไปที่ประตู นั่นยิ่งทำให้เธอถึงกับหมดความอดทนก่อนจะปาแก้วเหล้านั้นลงพื้นอย่างเสียงดัง จนเขานั้นต้องหันมามอง
เพล้ง !!!!
“ทำอะไรน่ะ” เอเธนส์ที่เอ่ยขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อแก้วเหล้าทรงสวยที่เขาชอบนั้นแตกละเอียดอยู่บนพื้นกระเบื้องสีเย็นตา ฮาเวียร์ที่หันตัวมามองก่อนจะเอ่ยกลับไป
“ฉันต้องเป็นคนถามนายมากกว่าว่าคิดจะทำอะไรกันแน่”
“ก็บอกไปแล้วไง ฟังไม่เข้าใจเหรอ” ชายหนุ่มที่เริ่มอารมณ์เสียก่อนจะเดินกลับไปหาหญิงสาวที่ยืนมองเขาอย่างถือดีไม่มีความเกรงกลัวเขาเลยสักนิด ซึ่งนั่นสำหรับเขามันก็ดีเหมือนกันที่นานๆทีจะเจอตัวพยศแบบนี้
“ฉันไม่ใช่เคทนะ ที่จะต้องมาทำสงบสติอารมณ์แบบที่นายชอบ”
“หยุดพูดชื่อนั้นให้ฉันได้ยินอีก ฮาเวียร์” เอเธนส์ที่เริ่มโมโหก่อนจะกระชากแขนเล็กของเธออย่างแรงแต่ไม่มีแม้แต่เสียงร้องที่หลุดออกมาจากปากเธอสักคำ หรือคำอ้อนวอนให้เขาปล่อย
“รักมันมากหรือไง ออกตัวปกป้องซะขนาดนี้ถ้ายัยนั่นรู้เขาจะดีใจหรือสมเพศดี”
หมับ
มือใหญ่ที่จับปลายคางของเธอไว้ด้วยความโมโหก่อนจะกดแรงลงไปเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บปวดแต่เธอก็ยังคงเข้มแข็งพอที่จะไม่เอ่ยขอร้องศัตรูตรงหน้าซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องแค่นเสียงออกมาจากลำคอ
“อยากรู้มากใช่ไหม มีคนมาขอซื้อตัวเธอไปรู้ไหมว่าเขาให้ราคากับฉันเท่าไหร่”
“....” หญิงสาวที่ไม่ตอบแต่นัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นยังคงจ้องไปที่เขาที่กำลังเอ่ยตัวเลขออกมาอย่างสะใจ
“แสนเดียว หึ ! ฉันให้ไปฟรีๆเลยดีกว่าไหม”
เพียะ !!
ใบหน้าหล่อที่หันไปตามแรงฝ่ามือของหญิงสาวก่อนจะค่อยๆหันมามองเจ้าของแรงตบนั้นอย่างโมโห มือใหญ่ที่ยกขึ้นปาดเลือดที่มุมปากแต่มืออีกข้างยังคงกำแขนของเธออยู่
“และนายจะต้องเสียใจที่พูดแบบนั้นกับฉัน” ฮาเวียร์ที่เอ่ยพร้อมกับสะบัดแขนออกแต่ชายหนุ่มก็ยังคงกำแขนเธอไว้จนขึ้นเป็นรอยนิ้วมือ
“ฉันไม่เคยเสียใจที่พูดว่าเธอมันน่าสมเพศสักครั้ง” เอเธนส์ที่มองหน้าหญิงสาวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ คำพูดนั้นของเขาทำให้หญิงสาวแทบสะอึกแต่เธอก็ต้องเชิ่ดหน้าและตอบกลับไป
“ถึงฉันจะน่าสมเพศแต่ก็ไม่เคยทิ้งศักดิ์ศรีตัวเองให้ใคร”
“....”
“รู้ว่าเขาไม่ได้รัก ถึงกลับหันปืนใส่พวกตัวเองเพื่อให้เธอปลอดภัย”
“นี่น่ะเหรอเขาเรียกว่า เอเธนส์ แอนทิร์นดอว”
“หัวหน้ามาเฟียใจอ่อนอย่างนายเนี่ยนะจะคุมลูกน้องเหยียบหมื่นได้” หญิงสาวที่พูดจุดอ่อนของชายหนุ่มขึ้นมาซึ่งนั่นก็ทำให้เขาถึงกับนิ่งงันและรอฟังคำพูดของเธอโดยไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น
“นะ..”
“พูดจบหรือยัง” ร่างสูงที่เอ่ยแทรกประโยคขึ้นมาราวกับไม่อยากได้ยิน นั้นยิ่งทำให้เธอดีใจเล็กน้องที่เขาเถียงอะไรเธอไม่ออก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความกลัวที่มีต่อเขานั้นลดลงเลย
“ขอบคุณที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา มันทำให้ฉันโมโหมากเลยล่ะ” เอเธนส์ที่ปล่อยมือหญิงสาวออกอย่างง่ายๆ ก่อนจะเดินไปที่ประตูและหันหน้ากลับมามองเธอ
“วันนี้ฉันจะส่งคนไปที่อิตาลี”
“ข้อหาที่เธอทำให้ฉันโมโห ฉันจะให้คนของฉันลงไปถล่มใครรู้ไหม” เอเธนส์ที่เอ่ยค้างไว้ ทำให้หญิงสาวที่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อถึงกับหน้าซีดลงเมื่อรู้ว่าเขากำลังหมายถึงใคร
“นะ..นาย ไม่นะ”
“เดวิด แฮ็คเกอร์ โคลัมบัส พ่อเธอไง”
"หัวหน้าาเฟียใจอ่อนเหรอ ฆ่าพ่อเธอเขายังเรียกว่าปอดแหกอยู่หรือเปล่า หืม ? ฮาเวียร์"
"ไม่นะ !! เอเธนส์ !"
ปัง !
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น