มีนานั่งอยู่ในห้อง เธอยังคงติดอยู่ในความมืดเพราะผ้าที่ปิดตาเธออยู่ ก่อนที่จะได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น มีนาขยับร่างกายหนีเสียงนั้นเล็กน้อยเธอไม่รู้ว่าใครกำลังเข้ามาในห้องนี้ จนกระทั่ง ผ้าที่เธอถูกมัดปิดตาไว้ได้เปิดออก มีนาปรับโฟกัสสายตาอยู่สักพักจากการถูกมัดปิดตาให้มืดมน เธอรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่ใบหน้าของผู้ที่เข้ามาจะปรากฏ ผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาสะสวยในชุดเดรสสีแดง กำลังยืนกอดอกจ้องมองเธออยู่ มีนาดวงตาเบิกโตในทันทีด้วยความโกรธ
“มึงจับกูมาทำไม!!!!.” มีนาตะโกนใส่รินลนี
“อ้าวๆๆ ไม่น่ารักเลยนะคะ คุณหนูมีน เป็นเด็กเป็นเล็กหัดพูดจากับผู้ใหญ่ให้มันดีๆหน่อยสิคะคนสวย” รินลนีเอ่ยพรางแสยะยิ้ม
“ก็บอกมาสิว่าจับกูมาทำไม!!!.” มีนาเอ่ยอีกครั้งพร้อมทั้งพยายามขยับร่างกายให้ดิ้นหลุดออกจากเชือกที่มัดแขนและขาไว้
“อยากรู้จริงๆเหรอ...ได้...” รินลนีเอ่ยเสียงเรียบก่อนที่จะคว้าปืนจากผู้ติดตาม เดินเข้ามาจ่อที่ปลายคางของมีนา มีนาเชิดหน้าขึ้นสูงมองดูอีกฝ่ายเธอไม่ได้รู้สึกกลัวกระบอกปืนที่จ่ออยู่ที่คางแต่อย่างใด
“ก็แม่มึงอะ…ฆ่าพี่ชายกูตายยังไงล่ะ ใจจริงกูอยากจะยิงมึงทิ้งซะด้วยซ้ำ แต่ว่าคิดๆดูแล้ว ใช้มึงให้เป็นประโยชน์จะดีกว่า กูอยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าสิมันรู้ว่าลูกสาวคนสวยของมันเนี้ย หายไป...แล้วก็ถูกกูจับมาไว้ที่นี้ อยากรู้จริงๆว่าค่าไถ่ชีวิตลูกของมันจะสักเท่าไรกันเชียว...” รินลนีพูดพรางแสยะยิ้มชั่วร้ายอีกครั้ง มีนาจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายอย่างโกรธเคือง
------------------------------------------------------------------------------------------
บ้านอัศวเหมังธิกุล
สินีนั่งอยู่ที่ห้องโถงอย่างร้อนใจพรางมองดูนาฬิกาที่ฝาพนัง จะเที่ยงคืนแล้ว แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของมีนา
“ไปไหนของเค้าทำไมถึงยังกลับบ้าน” สินีเอ่ยพรึ่มพรำ
“อีกเดียวก็คงกลับมั้งคะ เธอคงอาจะเที่ยวอยู่ที่ไหนสักแห่ง” กัญญาพูดเอ่ยขึ้น สินีถอนหายใจก่อนพูดออกมาว่า
“วันนั้นชั้นเผลอตบยัยมีนไป มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบน่ะ ชั้นผิดเองที่เลี้ยงลูกมาแบบตามใจ และดูตอนนี้สิการต์ พูดอะไรห้ามอะไรเคยฟังกันบางรึเปล่า มันไม่เคยรู้หรอกว่าชั้นเหนื่อยที่จะต้องตามแก้ปัญหาที่ให้ขนาดไหน หึ... ตอนนี้มันคงคิดว่าชั้นเป็นแม่ที่ไม่ดีสำหรับมันไปแล้วล่ะ” สินีเอ่ยอย่างคับแค้นใจ กัญญารับฟังที่สินีพูดด้วยความเห็นใจก่อนพูดเอ่ยว่า
“คุณรักคุณมีน ชั้นรู้ค่ะ คุณไม่ใช่แม่ที่ไม่ดีหรอกค่ะ และชั้นก็คิดว่าคุณมีนก็ไม่ได้คิดว่าคุณเป็นแม่ที่ไม่ดีเหมือนกัน...” กัญญาเอ่ยปลอบอีกฝ่าย สินีมีแววตาที่สดชื่นขึ้นทันทีหลังจากที่ได้ฟังคำพูดของกัญญา ก่อนที่
ติ๊ดๆ ๆๆ ๆๆๆ ๆๆ
เมโรดี้โทรศัพท์ของสินีดังขึ้น มือเรียวยาวจึงเอื้อมไปรับสายในทันที
“สวัสดีค่ะสินีพูดค่ะ...” สินีเอ่ยกับปลายสาย
“สวัสดีค่ะ..คุณสิ ชั้นรินเองนะคะ” รินลนีเอ่ยพรางหันไปเหลือบมองมีนาที่ตอนนี้ถูกปิดปากไว้ด้วยเทปกาว
“อ๋อคุณรินเหรอคะ..ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรที่จะพูดคุยกับชั้นอีกเหรอคะ” สินีเอ่ยพรางฉีกยิ้มให้โทรศัพท์
“อ๋อ..แน่นอนค่ะ ธุระสำคัญมากด้วย ชั้นอยากให้คุณฟังอะไรบางอย่างสักนิสนุงค่ะ” รินลนีเอ่ยก่อนที่ค่อยเดินถือโทรศัพท์ตรงมาที่มีนา สินีงวยงงกับคำพูดของรินลนีพรางจ้องมองไปที่ใบหน้าของกัญญา กัญญาใช้นิ้วชี้ๆไปที่โทรศัพท์ให้สินีเปิดลำโพง สินีเปิดลำโพงทันทีแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะ
รินลนีดึงผ้าที่ปิดปากมีนาออกโดยแรง
“โฮ๊ย...!.” เสียงของมีนาเล็ดลอดออกไปตามสาย สินีและกัญญาขมวดคิ้วอย่างสงสัยพรางมองหน้ากัน
“ชั้นจะให้ฟังอะไรบางอย่างนะคะ” รินลนีเอ่ยก่อนยื่นโทรศัพท์ให้มีนาพูด
“คุณแม่...!! มันจับหนูมาค่ะแม่ ยัยผู้หญิงบ้าเนี้ย!! อะโอ๊ย...อืมๆๆ” มีนาโดนมัดปากไว้อย่างเดิมโดยผู้ชายสองคน
“มีน!!!! ยัยมีน!!! นั้นแกใช่มั๊ย รินลนี!!เธอจับลูกชั้นไว้เหรอ..!!!” สินีตะโกนใส่โทรศัพท์แม้ว่าจะเพียงไม่กี่วินาทีเธอก็จำเสียงลูกสาวของเธอได้
“โน้ๆๆๆ ไม่เรียกว่าจับสิคะ เดียวชั้นก็โดนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวได้ง่ายๆหรอก เรียกว่าขอยืมดีกว่านะคะ ฟังดูดีหน่อย” รินลนีเอ่ย
“นี่!!!! ปล่อยยัยมีนเดี๋ยวนี้นะ แกต้องการอะไรบอกชั้นมา” สินีเอ่ยอย่างร้อนใจ
“อะโอ้..เป็นคุณแม่ที่แสนดีเสียจริงนะคะเนี้ย ต้องการอารัย บอกชั้นมา เดวชั้นจัดห้าย ฮ่าๆๆๆ” รินลีนีพูดล้อเลียน สินีกำมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น
“เอาง่ายๆเลยคุณสิ..ฟังดีๆนะ ชั้นรินลนีน้องสาวของนุกูลคนที่ถูกคุณฆ่าไปเมื่อไม่กี่วันก่อนยังไงล่ะ ชัดรึยังคะ แต่ก็นะ...ชั้นก็พอเข้าใจว่าธุรกิจนี้อะการฆ่าแกงกันมันเป็นเรื่องง่ายซะยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก หึๆๆ ไม่ต้องห่วงคุณสิ..ชั้นไม่ฆ่าลูกสาวคุณหรอก สวยๆอย่างเนี้ยน่าเสียดายจะตายไป หึ...ข้อตกลงของชั้นก็คือ ชั้นอยากให้คุณถอนตัวออกจากธุรกิจนี้ไปซะ เหมือนที่พี่ชายชั้นไปขอคุณไง แต่พี่ชั้นมันโง่ มันยอมเอาตัวไปเสี่ยงเจรจากับคุณ แต่ชั้นไม่โง่เหมือนเค้าหรอก การบีบบังคับมันเป็นอะไรที่ชั้นถนัดมากกว่าอะนะ พรุ่งนี้เอาเงิน10ล้านมาให้ใช้เล่นๆด้วยล่ะ เดี๋ยวที่อยู่จะส่งไปให้ที่หลัง ว่าไงคุณสิคิดดีๆน้า ถ้าคุณขัดขืน ลูกสาวคนสวยของคุณอาจจะไม่รอดไปหามามี้ นะเบบี้ ฮ่าๆๆๆ” รินลนีเอ่ยอย่างสะใจพูดจบเธอก็กดโทรศัพท์วางสายในทันที
ตู๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงโทรศัพท์ถูกตัดไปจากปลายสาย สินีมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่ตะโกนไม่โวยวาย แต่เธอกำลังตั้งสติแล้วก็คิดหาวิธี กัญญาสังเกตเห็นใบหน้าของสินีที่เป็นกังวลจึงพูดขึ้นว่า
“ชั้นมีวิธีที่จะหาพิกัดของคุณหนูค่ะ...” กัญญาเอ่ยเสนอ สินีหันมามองอย่างสนใจในทันที
“วิธีอะไรของเธอ..” สินีเอ่ยอย่างสงสัย
---------------------------------------------------------------------------------------
กัญญาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาใครบางคน เธอเดินเลี่ยงออกมาคุยที่นอกบ้านสักครู่ปลายสายก็รับ
“ว่าไง...หายไปนานเลยการต์” เสียงปลายสายเอ่ย
“นามิ ชั้นมีเรื่องจะให้ช่วย เธอช่วยหาพิกัดจากเบอโทศัพท์ที่ชั้นจะส่งไปให้หน่อยได้มั๊ย..” กัญญาเอ่ยอย่างร้อนใจ
“อ่อ ได้สิ เรื่องงานรึเปล่า...” ปลายสายเอ่ยถาม กัญญานิ่งเงียบไปสักพักก่อนตอบว่า
“เรื่องงานสิ สำคัญมาก ช่วยชั้นหน่อยนะ เร็วๆเลยล่ะ ชั้นต้องการเดี๋ยวนี้.” กัญญาเอ่ยย้ำ
“อือๆได้ เดี๋ยวส่งไป เออนี่การต์..” ปลายสายเอ่ยเรียกชื่อกัญญา
“สบายดีใช่มั๊ย ระวังตัวด้วยล่ะ..” กัญญาเงียบสักพักก่อนตอบว่า
“อืม..ไม่ต้องเป็นห่วง ชั้นระวังตัวตลอดเวลาอยู่แล้ว” พูดจบกัญญาก็กดวางโทรศัพท์ ไม่นานพิกัดที่อยู่จากเบอร์โทรศัพท์ของมีนาก็ถูกส่งเข้ามาในเครื่องของเธอ กัญญายิ้มด้วยความดีใจก่อนที่จะกำโทรศัพท์ เดินเข้าไปหาสินี
“ว่าไง..” สินีเอ่ยถามทันที
“รู้แล้วค่ะ..ไว้ใจได้ เดี๋ยวชั้นจัดการเอง” กัญญาเอ่ยเสนอตัว
“แต่ว่าการต์ เธอคนเดียวมันจะไหวเหรอ เอาคนอื่นไปด้วยมั๊ย” สินีเอ่ยเป็นห่วง
“ไม่ค่ะ..ชั้นไปคนเดียวดีกว่า” กัญญาเอ่ยก่อนที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้สินีแล้วจับมืออีกฝ่ายขึ้นกำไว้แน่นด้วยท่าทางที่จริงจัง สินีพยักหน้าเล็กน้อยให้อีกฝ่าย
“ถ้าอย่างนั้นฝากยัยมีนด้วยการต์” สินีเอ่ย เธอทั้งเป็นห่วงลูกและเป็นห่วงกัญญา แต่เธอก็ทำได้แค่เพียงเอาใจช่วย เธอรู้ดีว่ากัญญาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน ก่อนที่กัญญาจะเดินออกจากบ้านไป
--------------------------------------------------------------------------------------
กัญญาขับบิ๊กไบค์มาตามGPRSที่ปรากฏอยู่หน้าจอ จนถึงที่หมายบ้านหลังใหญ่สวยหรู ใหญ่พอๆกับบ้านของวุฒิชัยและสินีไม่มีผิด นี้สิน่ะวิถีคนค้าสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งได้ส่งผลให้คนพวกนี้รวยเอาๆ ก่อนที่กัญญาจะค่อยย่องเข้าไปจัดการผู้ชายที่เฝ้าอยู่ที่หน้าบ้านสองคนในทันที
------------------------------------------------------------------------------
รินลนียังคงนั่งอยู่ในห้องที่จับมีนามาขังไว้ มีนากำลังดิ้นพล่านเพื่อให้เชือกที่มัดมือเท้าหลุดออก รินลนีจ้องมองมีนาอยู่สักพักจึงบอกให้ผู้ติดตามผู้ชายออกไปจากห้อง ไม่นานผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างเล็กหน้าตาสะสวยในชุดคลุมอาบน้ำเดินเข้ามาในห้อง มีนาจ้องมองคนที่มาใหม่เธอรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ
“แจน...เอาเทปที่ปิดปากน้องมีนอยู่ออกให้น้องหน่อยสิ” ริลนีเอ่ยพรางยิ้มที่มุมปาก
สาวร่างเล็กเดินเข้าไปดึงเทปกาวออกจากปากของมีนา
“โอ๊ย...ยัยบ้าเอ้ย!! ปล่อยชั้นได้แล้ว ยัยโรคจิต ไม่นานต้องมีคนมาช่วยชั้น!!!” มีนาตะโกนโวยวายในทันที ก่อนที่หญิงสาวร่างเล็กจะกลับไปนั่งที่ตักของรินลนี รินลนีโน้มศรีษะของอีกฝ่ายเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มในทันที มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมบีบคล้ำหน้าอกของอีกฝ่าย
“โอ๊ย...จะทำอะไรกันก็ไปทำที่อื่นสิว่ะ!!!!!” มีนาตะโกนเมื่อเห็นฉากเลิฟซีนตรงหน้า
กัญญาเงี่ยหูฟังหลังจากที่เธอจัดการผู้ชายสามคนตรงทางเดินเสร็จแล้ว เธอขยับกระบอกปืนไว้ในมือก่อนที่จะเดินตรงไปที่ห้องต้นเสียง
รินลนีผะริมฝีปากออกจากเรียวปากสวยสีแดงของอีกฝ่ายโดยมีของเหลวสีใสยาวยืดออกมาจากริมฝีปาก ก่อนที่จะค่อยๆหันมาทางมีนาแล้วยิ้มยี่ยวนให้
“ยัยบ้าเอ้ย!!!.” มีนาตะโกนอีกครั้ง ก่อนที่จะ
ตึ้ง!!!!!!
ประตูห้องได้ถูกกัญญาพังเข้ามา มีนาดวงตาเบิกโตด้วยความดีใจ
ปัง!!!!!!!!
แจนใช้ปืนที่ซ่อนไว้ที่ขาด้านในยิงสวนไปหากัญญา แต่กัญญาไหวตัวหลบทัน เธอเข้าไปหลบที่หลังโซฟา
ปัง!!!! ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!ปัง!!!
แจนใช้ปืนยิงไปที่ๆกัญญาซ่อนอยู่ก่อนที่ใช้มือข้างหนึ่งจับแขนของรินลนีไว้
“คุณรินหนีกันก่อนเถอะค่ะ” รินลนีลุกขึ้นโดยไวแล้ววิ่งออกจากห้องไปโดยมีแจนวิ่งตามไปติดๆ เมื่อทั้งคู่หนีออกไปแล้ว กัญญาจึงค่อยๆออกมาจากที่ซ่อน เธอรีบตรงไปแกะเชือกที่มัดแขนและขาของอีกฝ่าย ทันทีที่พันธนาการถูกปลดออกมีนาก็โผล่เข้าโอบกอดกัญญาในทันที
“คุณการต์....” น้ำตาเม็ดใสๆหลั่งไหลด้วยความดีใจ จากตอนแรกที่เธอถูกจับมาเธอไม่เคยเกรงกลัวต่อคำขู่ของอีกฝ่ายเลย สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวว่าจะไม่มีคนมาช่วยเธอ กัญญายกมือขึ้นลูบศรีษะอีกฝ่ายในทีนที นี่คือสัมผัสครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้สัมผัสมัน สัมผัสอันแนบแน่นกลิ่นน้ำหอมจางจากตัวของมีนาทำให้กัญญาเกิดความรู้สึกแปลกๆ เธอรู้สึกดีกับอ้อมกอดนี้อย่างบอกไม่ถูก
“ไม่เปงไรแล้วคุณมีน..กลับบ้านกันค่ะ คุณแม่กำลังเป็นห่วงคุณ” กัญญาเอ่ยบอก มีนาพยักหน้างึกๆอย่างเข้าใจ เธอเองก็รู้สึกอยากลับบ้านเต็มแก่แล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------
มีนาค่อยๆเดินหน้าจ่อยๆเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของสินี เธอเหงยหน้ามองผู้เป็นแม่ สินีมีแววตาที่โหยหาลูกสาวคนสวยเป็นอย่างมาก ก่อนจะโผเข้าโอบกอดร่างเล็กไว้แน่น ทั้งคู่มิได้มีคำพูดจาใดๆต่อกันทำเพียงโอบกอดกันอยู่อย่างนั้นนานแสนนานโดยมีกัญญายืนมองอยู่อย่างสุขใจ
---------------------------------------------------------------------------------------