ร่างสูงโปร่งหมดเรี่ยวหมดแรงจนต้องเอนอิงซบกับไหล่ของบุญฤทธิ์ สัตตบงกชหอบหายใจแทบไม่ทัน เนื้อตัวยังเบาหวิวตอนที่รับรู้ได้ว่ามือทั้งสองข้างของบุญฤทธิ์ตอนนี้ไปอยู่ที่สะโพกเธอ และเขากำลังใช้มือจับสะโพกเธอให้เคลื่อนที่เป็นวง
หญิงสาวเพิ่งรู้ตัวในตอนนั้นนั่นเองว่ามังกรตัวเชื่องมุดเข้าถ้ำไปหมดตัวแล้ว และเมื่อสะโพกเธอขยับ มังกรที่เหมือนมีชีวิตก็เสียดสีไปกับภายในร่างเธอก่อให้เกิดความรู้สึก...
"พี่...เสียว..."
"เสียวได้อีกนะ บัวขยับขึ้นลงสิ"
ทั้งที่ยังไม่หายเหนื่อยดีแต่ความรู้สึกดีๆ ที่กำลังก่อตัวขึ้นใหม่ทำให้สัตตบงกชขยับสะโพกขึ้นลงทำตามคำเชิญชวนของบุญฤทธิ์
เริ่มจากขยับขึ้นและลงช้าๆ เพื่อจะได้คุ้นเคยกับมัน จากนั้นเมื่อคุ้นแล้วสัตตบงกชก็ขยับสูงขึ้น เร็วขึ้น พร้อมร้องครางดังขึ้น
"พี่! มันมาแล้ว อ๊าาาาา" หญิงสาวสะบัดหน้าไปมาแต่สะโพกไม่ลดความเร็วลงเลย ในขณะที่บุญฤทธิ์พอรับรู้ได้ถึงการตอดเป็นจังหวะของเธอแล้วเขาก็เด้งสะโพกขึ้นช่วยอีกแรง จนสัตตบงกชร้องแทบไม่เป็นภาษาและถึงจุดสุดยอดครั้งที่สองไปอย่างรวดเร็ว
บุญฤทธิ์ปล่อยให้สัตตบงกชได้พักเพียงไม่กี่วินาทีก็ประคองเธอนอนหงายก่อนกระซิบ
"บัวเอาเปรียบพี่มานานแล้ว ตอนนี้ถึงคราวพี่เอาเปรียบบัวบ้างนะ" พูดจบเขาก็เริ่มขยับสะโพก เคลื่อนมังกรตัวเขื่องเข้าและออกจากถ้ำราวกับเครื่องจักร
สัตตบงกชแทบดาวดิ้น เธอกรีดร้องราวคนไม่มีสติ มือเธอจิกเข้าไปที่หน้าขาของบุญฤทธิ์โดยไม่รู้ตัวและสะโพกก็ขยับรับการกระแทกด้วยสัญชาตญาณเช่นเดียวกัน
ไม่นานจุดสุดยอดครั้งที่สามก็มาถึง สัตตบงกชหูดับ เสียวจนไม่รู้จะเสียวอย่างไร ก่อนรับรู้ได้ว่ามีน้ำอะไรอุ่นๆ ฉีดเข้ามาในตัวเธอพร้อมร่างที่ฟุบลงมากดเธอเอาไว้จนแทบแบนติดเตียง
หญิงสาวควรบอกเขาว่าหนัก บอกให้เขาขยับออกไป แต่...นาทีนี้สัตตบงกชพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว ได้แต่นอนหอบหายใจอยู่แบบนั้นจนกระทั่งบุญฤทธิ์พลิกตัวออกไปเอง
"เป็นยังไงบ้าง พี่รุนแรงไปรึเปล่า บัวเจ็บไหม"
คนที่นอนหลับตานิ่งค่อยๆ ปรือตาขึ้นมองบุญฤทธิ์ที่กำลังลูบหน้าผาก เอาลูกผมซึ่งเปียกเหงื่อออกไปให้เธออย่างอ่อนโยน
สัตตบงกชขยับขา รู้สึกได้ว่าตรงนั้นของเธอตึงๆ แต่พอขยับสะโพกก็รู้สึก...เจ็บ ไม่ได้เจ็บมากนะ เหมือนจุกๆ มากกว่า
"ไม่ได้เจ็บ มัน...เหมือนจุกๆ "
คนที่นอนตะแคงมองเธออยู่ยิ้มกว้าง "ขอโทษที่พี่รุนแรงไปหน่อย พี่เผลอไป รับรองว่าคราวหน้าจะระวังให้มากกว่านี้"
ร่างที่เพิ่งพลิกตัวนอนตะแคงยิ้มบ้าง "ไม่เป็นไร แบบนี้ก็ดี สนุกมากเลย"
"ชอบเหรอ ไม่กลัว ไม่เจ็บจริงๆ ใช่ไหม"
"นิดหน่อย ทนได้" พูดจบหญิงสาวก็ชะโงกหน้าไปจูบบุญฤทธิ์ จูบเบาๆ ที่ค่อยๆ ร้อนแรงขึ้นเพราะมือที่อยู่ไม่สุกของเธอที่ดันไปเขี่ยหัวนมเขาเล่น
"อื้อ ไม่เอาสิ" บุญฤทธิ์ดึงใบหน้าหนีแล้วจับมือที่กำลังเล่นหัวนมเขาอยู่ "เดี๋ยวก็โดนอีกหรอก คราวนี้พรุ่งนี้บัวเดินไม่ไหวแน่"
พอถูกดุสัตตบงกชก็หัวเราะ บอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้กลัวเลย
"ดูเหมือนบัวจะชอบเซ็กซ์แล้วนะ"
"อื้อ มันสุขสุดๆ เลย บัวชอบ" พอตอบไปตามตรงแล้วหญิงสาวก็มองชายหนุ่มที่ดูแล้ว...เขาก็ชอบเซ็กซ์ไม่แพ้เธอ "เราจะมีมันบ่อยๆ ได้ไหม พี่จะรังเกียจบัวไหม"
หากเขารังเกียจก็บ้าแล้ว! บุญฤทธิ์ตอบคำถามด้วยการโน้มใบหน้าไปจูบเธอแล้วกระซิบทั้งที่ปากยังแนบปาก "ไม่รังเกียจเลยสักนิด ถ้าบัวต้องการ เราจะมีมันบ่อยๆ "
"บัวต้องการ" สัตตบงกชรีบตอบ "ไม่ต้องนับวันอะไรกันแล้วเนอะ พวกคนงานยังไม่เห็นนับวันอะไรกันก็มีลูกกันหัวปีท้ายปี มีอะไรกันบ่อยๆ เดี๋ยวก็ท้องเอง แบบนี้ดีกว่าเยอะเลย" พูดจบคนชอบเซ็กซ์ก็โผเข้าไปหาบุญฤทธิ์ ดันให้เขานอนหงายลงบนเตียงโดยมีเธอนอนคว่ำอยู่บนอก
สีหน้าสัตตบงกชในตอนนี้ดูร่าเริง มีความสุขอย่างมาก
"ต่อไปนี้บัวจะไม่เกรงใจพี่แล้วนะ"
บุญฤทธิ์ยิ้มกว้าง มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบจากแผ่นหลังลงไปยังก้นงอน แล้ว...บีบก้นเธอแรงๆ หนึ่งที "เชิญเลย พี่ก็จะไม่เกรงใจบัวเหมือนกัน"
- - - - - - - - - -
มันดู...ขัดๆ
ท่าทีการเดินของสัตตบงกชในวันนี้ดูแปลกจนใครก็สังเกตเห็น เนื่องจากปกติแล้วเธอมักเดินอย่างมาดมั่น ก้าวยาวๆ เร็วๆ ทว่าวันนี้เธอกลับเดินช้า ก้าวสั้น แถมข้างกายยังมีบุญฤทธิ์คอยตามประคอง คุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งประหนึ่งคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามัน
เห็นแบบนั้นแล้วเผือกซึ่งยืนตัดแต่งผักในแปลงของตนเองก็รู้สึกหมั่นไส้จนแทบทนไม่ได้ พอคู่ข้าวใหม่ปลามันเดินออกไปจากโรงเรือนปุ๊บก็นินทาปั๊บ
"เมื่อคืนคงโดนกระทุ้งหนัก เช้านี้เลยหุบขาไม่ลง! "
"อีเผือก! " เพื่อนร่วมงานที่ยืนแต่งผักอยู่ตรงข้ามกันร้องห้ามเสียงหลงก่อนยืดคอมองออกไปนอกโรงเรือนเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้านายเดินออกไปไกลจนไม่สามารถได้ยินคำนินทาเผ็ดร้อนได้แล้ว "พูดอะไรระวังหน่อยสิวะ ฉันไม่อยากเดือดร้อนไปกับแกด้วยนะ"
"หรือแกไม่เห็นด้วยกับฉันอีติ่ง" เผือกแหวเข้าใส่ลูกคู่ของตนเอง "แกอย่ามาทำหน้าอย่างลับหลังอย่างสิโว้ย คนจริงมันต้องเป็นให้ได้แบบฉัน ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ ขัดหูขัดตาก็บอกว่าขัดหูขัดตา"
นางสาวต้อยติ่ง สาวอวบวัยยี่สิบค้อนเพื่อนคู่หูของตน "เห็นด้วยแล้วไง ถ้าเห็นด้วยแล้วต้องถูกไล่ออกจากงานฉันก็ไม่เอาหรอก ขืนออกจากที่นี่ไป พี่ศักดิ์คงมีเมียใหม่แน่"
เผือกเบ้ปากเมื่อเพื่อนพูดถึงผัวใหม่ของมัน "กะอีแค่คนงานในไร่ ถ้าเป็นฉันไม่เอาทำผัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว"
"อีหัวสูง" ต้อยติ่งกระแนะกระแหนเพื่อนก่อนมองไปทางที่ลูกแม่นายและสัตตบงกชเพิ่งเดินออกไป "ฉันก็ไม่อยากเตือนแกนะ แต่ลูกแม่นายน่ะเขาอยู่สูงเกินกว่าที่จะฝันว่ะ"
อะไรคือเกินกว่าที่จะฝัน เผือกซึ่งถือตนว่าเป็นคนงานที่สวยที่สุดในไร่ หนุ่มในไร่บุญมีต่างก็หมายปองเธอเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งทระนง "คนเรามันต้องฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึงเว้ย"
"แต่ลูกแม่นายมีบัวแล้ว..."
ยังฟังต้อยติ่งพูดไม่ทันจบเผือกก็สวนขึ้น "มีอีบัวแล้วมีอีเผือกอีกคนไม่ได้รึไงวะ ผู้ชายน่ะมันไม่หยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนเดียวหรอก"
"นี่แกคิดจะเป็นเมียน้อยบัวเหรอ" ต้อยติ่งทำหน้าสยอง "ไม่กลัวมันกระทืบม้ามแตกรึไง ผัวใคร ใครก็หวงนะเว้ย"
"ถ้าหวงก็เก็บเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน เผลอเมื่อไหร่กูเอาแน่! " เผือกสะบัดหน้ามองไปยังทางซึ่งคู่ข้าวใหม่ปลามันเพิ่มเดินออกไปด้วยสายตาหมายมาด "อีบัวแห้งๆ นั่นจะมาสู้เผือกเต่งตึงแบบฉันได้ยังไง แกคอยดูอีติ่ง ดูว่าสุดท้ายใครจะได้นั่งชูคอบนรถของคุณบอส"
เห็นเพื่อนมุ่งมั่นขนาดนั้นต้อยติ่งก็ถอนหายใจ ส่ายหน้า แล้วก้มลงตัดแต่งผักต่อโดยไม่ได้ให้ความสนใจอีก
ก็เตือนแล้วนี่ ถ้ามันยังคิดจะทำเธอจะไปห้ามอะไรได้ คิดว่าคืนนี้จะทำอะไรให้ผัวกินผัวจะได้ซู่ซ่ายังมีประโยชน์กว่าเลย
- - - - - - - - - -
** **
ขาเปลี้ยเลยทีเดียว 55555555555