ย้อนเวลากลับไปเมื่อเกือบห้าปีก่อน
แคมเมอรอน โฮมส์ เลิกคิ้วแปลกใจที่เห็นร่างเพรียวระหงเดินหลังตรงก้าวฉับๆ เข้ามาในออฟฟิศของเขา ใบหน้าสวยคมเฉียบดูบึ้งตึงก่อนจะกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟารับแขกตัวใหญ่ติดผนังด้วยท่าทางหงุดหงิด
ชายหนุ่มวางงานตรงหน้าแล้วเอนร่างสูงไปพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ประจำตำแหน่งจ้องมองคนที่เป็นแขกไม่ได้รับเชิญด้วยสายตานิ่งๆ
“มาทำไม?” เขาถามสั้นๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นหล่อนเข้ามา ออฟฟิศของเขาในตึกแฮมเมอร์ตั้นตึกสูงสิบห้าชั้นแห่งนี้
“แคมป์เอากาแฟมาเสริฟแขกหน่อยได้ไหม ออฟฟิศออกจะใหญ่ทำไมไม่มีใครเข้ามาถามแขกว่าต้องการดื่มอะไร”
เสียงใสบ่นทันทีพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกทำท่าราวกับนางพญาผู้สูงส่ง
“ขออนุญาตเจ้าของห้องสักนิดดีไหมก่อนเข้ามาน่ะหือ?”
สายตาคมกริบจ้องมองอย่างสำรวจ
“อารมณ์ไม่ดีจากข้างนอกอย่ามาระบายกับที่นี่”
เขาตัดบทในขณะที่หล่อนยังไม่ได้เริ่มเลย
“นี่จะเป็นห่วงน้องนุ่งสักนิด แคร์สักนิดก่อนไล่ได้ไหมฮึแคมป์?”
เสียงขุ่นเอ่ยอย่างไม่ถูกใจกับการต้อนรับ ใบหน้างามตวัดค้อนขวับหากปฏิกิริยาของคนตัวโตก็เพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง...เท่านั้นเอง
แคมเมอรอนเอื้อมมือไปกดเครื่องอินเตอร์คอมสั่งกาแฟมาสองแก้ว
“ไปกินรังแตนมาจากไหน?”
เขาถามออกมาในที่สุด เมื่อเห็นหล่อนเอาแต่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับมีเรื่องหนักอกหนักใจให้คิดอย่างนั้นแหละ... หล่อนน่ะหรือจะมีเรื่องอะไรให้หนักใจจนเครียดได้ เรฟีน่า เฟรย์ นะ... นางพญาแห่งตระกูลเฟรย์ผู้พรั่งพร้อมสมบูรณ์ไปเสียทุกอย่างน่ะ
“สั่งกระเป๋าแอเมสรุ่นล่าสุดไว้ อุตส่าห์จองและโอนเงินเรียบร้อยพอไปรับ ไอ้เจ้าผู้จัดการกลับเอาของเราไปขายให้คนอื่นเสียนี่ เดี๋ยวจะโทรไปเฉ่งเจ้าของร้านสักหน่อย หนอย ไปต่างประเทศทำไมไม่สั่งลูกน้องให้รู้เรื่อง...เสียอารมณ์ที่สุด”
พอพูดถึงเรื่องที่เจ้าตัวหงุดหงิดอารมณ์กรุ่นโมโหก็กลับคุขึ้นมาอีก
“แค่นี้?”
หลังจากที่หล่อนบ่นเสียยืดยาว เขาถามกลับเพียงแค่สั้นๆ เท่านี้แหละ เรฟีน่ากระแทกลมหายใจออกมาเสียงดังด้วยความขัดใจ หล่อนลุกขึ้นเดินฉับมายังเขาพร้อมกับวางแผ่นกระดาษเอสี่มาตรงหน้า
“แคมป์ช่วยสืบประวัติคนพวกนี้ให้หน่อย ตั้งแต่เกิดเลยเอาแบบละเอียดนะ”
หล่อนเดินไปดูวิวทะลุผนังกระจกตรงด้านหลังของเขา ออฟฟิศของเขาวิวสวยเหมือนออฟฟิศของฟิน แคมเมอรอนกราดสายตามองรายชื่อทั้งหมดที่อยู่ในกระดาษ ชายหนุ่มหมุนเก้าอี้ตามไปจ้องมองคนที่กำลังมองวิวเทือกเขาแอลป์อยู่
“ผู้ชายทั้งนั้น? ประวัติอย่างละเอียด?”
ใบหน้าคร้ามคมขมวดมุ่นอย่างสงสัย
“ใช่ ตั้งแต่ประวัติพ่อแม่ครอบครัว วันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก น้ำหนักส่วนสูง ความชอบความเกลียด งานหลัก งานอดิเรก และที่สำคัญระดับไอคิวและอีคิว”
หล่อนหันมาอธิบายอย่างคล่องแคล่ว แคมเมอรอนเลิกคิ้วเป็นคำถามว่ามีอีกไหม...
“มี... ที่สำคัญที่สุดสุขภาพต้องดีแข็งแรงสุดๆ ไม่มีโรคประจำสืบไปเจ็ดชั่วโคตร...โอเค๊?” หล่อนพยักหน้าถามเขาราวกับเขาเป็นลูกน้องหล่อน จากนั้นก็ก้าวฉับๆ ไปคว้ากระเป๋าขึ้นมาคล้องไหล่แล้วหันมาเท้าสะเอวมองเขา
“มีคำถามมั้ยแคมป์?”
ถามราวกับหล่อนเป็นคุณครูและเขาเป็นลูกศิษย์
“เอาไปทำอะไร?”
“ทำพันธุ์”
หล่อนตอบเสร็จก็หันหลังก้าวฉับๆ ออกไปเหมือนตอนขาเข้ามา แคมเมอรอนก้มลงมองรายชื่อที่แน่นอนว่าล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายหนุ่มจากตระกูลดีและการศึกษาดี มีบางคนเป็นดารานายแบบและหลากหลายอาชีพ ที่ดูเหมือนจะถูกคัดมาเรียบร้อยแล้วรอบหนึ่ง
“ทำพันธุ์?”
แคมเมอรอนทวนคำของคนที่เพิ่งเดินหายลับไปจากประตูออฟฟิศ หล่อนคงจะว่างงานมากหรืออย่างไรช่วงนี้ แต่ที่สำคัญเขาไม่ได้ว่างงานอย่างหล่อน แคมเมอรอนขยำกระดาษแล้วปามันลงไปยังถังขยะมุมห้องอย่างไม่แยแสและหันไปสนใจงานตรงหน้าต่อ
*********************************************
ย้อนเวลาไปถึงเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนให้นะคะ....