เขียนแล้วเขียนอีก ไม่ปังสักที! เพราะ?
สังเกตไหมคะ งานเขียนของบางคนโด่งดังเป็นพลุแตก คนอ่านถล่มทลาย แต่บางคนเขียนแล้วเขียนอีก เขียนเท่าไหร่ก็ไม่ดังสักที เขียนกี่ทีๆ ก็มีคนอ่านแค่เพียงหยิบมือ แล้วทำไมงานเขียนจึงไม่ประสบความสำเร็จล่ะ? นักเขียนหลายคนก็อยากรู้ใช่มั้ยคะ ถ้าอย่างนั้นธัญวลัยว่าเราลองมาดูทีละข้อกันดีกว่าค่ะ ว่างานเขียนของเราเป็นแบบนี้รึเปล่า
1. ไม่สนุก
ขึ้นชื่อว่านิยาย คุณสมบัติประการแรกที่ควรมีเลยคือ ความสนุก ต่อให้จะเป็นเรื่องแนวดราม่าน้ำตาแตก ชีวิตรันทดหดหู่ ฆาตกรรม สยองขวัญ ยังไงก็ต้องเขียนให้สนุก แน่นอนว่าถ้าปราศจากความสนุก คนอ่านก็คงไม่ทนอ่านต่อ จริงไหมคะ
แล้วทำไมนิยายเราถึงไม่สนุกล่ะ
สาเหตุ
- การใช้ภาษา คำฟุ่มเฟือย คำกำกวม เขียนไม่ได้ใจความ เลือกใช้คำไม่เป็น
- เนื้อหา เขียนออกทะเล ไร้สาระไปเรื่อย ยำมั่ว ขาดความสมเหตุสมผล
2. ไม่รู้ความถนัด
เมื่อเราจะเขียนเรื่องสักเรื่องก็ควรมีความรู้ความชำนาญในเรื่องนั้น จึงจะช่วยเสริมเนื้อเรื่องของคุณให้ดูน่าเชื่อถือ มีมิติ เช่น ถ้าคุณถนัดแนวรักใสๆ แต่กลับเขียนแนวดราม่า ดราม่าของคุณก็อาจจะออกมาใสกิ๊งไม่มีรสชาติได้เหมือนกัน อีกอย่างถ้าคุณเขียนเรื่องที่ไม่ถนัดแน่นอนว่าเวลาเขียนก็จะไม่มีความสุข และเมื่อคนเขียนยังไม่มีความสุข แล้วคนอ่านจะมีความสุขได้อย่างไร แต่แน่นอนว่าถ้าคุณอยากเขียนจริงๆ คุณก็ฝึกฝนตัวเองได้
.
3. งานจืดชืด
ทำเนื้อหาของคุณให้สมบูรณ์ ฉากเริ่ม การดำเนินเรื่อง และฉากจบ รู้จังหวะว่าตอนไหนควรดำเนินเรื่องช้า ตอนไหนควรเร็ว ในแต่ละบทของนิยายคุณควรมีฉากพีค หรือที่เรียกว่าไคลแม็กซ์เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ให้ไม่รู้สึกเบื่อ ที่สำคัญคืออย่าเขียนแบบน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง คือมีแต่น้ำ เนื้อเรื่องไม่ค่อยกระเตื้องจะทำให้คนอ่านเบื่อเอาได้นะจ๊ะ
4. จุดเด่นไม่มี
การจะจำอะไรบางอย่างเราจะใช้จุดเด่นของสิ่งๆ นั้นเพื่อจดจำ ยิ่งโดดเด่น ยิ่งแปลกตา ยิ่งทำให้จดจำง่าย งานเขียนก็เช่นกัน เราสามารถสร้างความโดดเด่นให้งานเขียนของเราได้ด้วยลีลาการใช้ภาษา คิดรูปแบบการนำเสนอให้มีเสน่ห์ อันนี้ก็แล้วแต่การครีเอตของแต่ละคนค่ะ
'
5. ซ้ำซาก
ข้อนี้สำคัญมากค่ะ หากเราชอบเรื่องสไตล์ไหน งานเขียนแบบไหน เมื่อผันตัวมาเป็นนักเขียน เราจะอยากเขียนงานให้ได้เหมือนงานเขียนที่เราชอบ ซึ่งกลายเป็นว่าเราเผลอเขียนงานออกมาคล้ายงานคนอื่นโดยไม่รู้ตัว จึงเกิดเป็นพล็อตดาษดื่นซ้ำซาก ดังนั้นเราจึงต้องสร้างความแตกต่างด้วยจินตนาการแปลกใหม่ให้งานเขียนของเราค่ะ ลองมองมุมกลับแล้วปรับมุมมอง คุณอาจจะได้ไอเดียที่น่าสนใจกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
http://www.cbc.ca
6. เขียนสะเปะสะปะ
แม้งานเขียนของเราจะมีประเด็นยิบย่อยมากมาย แต่เราก็ต้องมองงานเขียนของเราให้เป็นเนื้อเดียวให้ได้ ทุกอย่างจะต้องมีความเชื่อมโยงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตลอดทั้งเรื่อง ไม่หลงประเด็น หรือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
เช่น ถ้าแก่นเรื่องของเราคือเรื่องความรักความอบอุ่นในครอบครัว ต้นเรื่องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว แต่พอถึงกลางเรื่องกลับดำเนินเรื่องอยู่แค่ที่โรงเรียน มีแต่ฉากแสดงมิตรภาพระหว่างเพื่อนจนจบ เท่ากับว่าแก่นเรื่องถูกฉีกกระชากไปแล้ว ฉะนั้นอย่าหลงประเด็นนะจ๊ะ
.
7. ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย
ความผิดพลาดในนิยายมีหลายกรณีนะคะ ได้แก่
- เขียนผิด อย่าคิดว่าการเขียนผิดจะไม่มีผลนะคะ เพราะการเขียนนี่แหละตัวดีเลย บางทีคนอ่านจะรู้สึกขัดหูขัดตา บางคนแค่เขียนผิดความหมายก็เปลี่ยน หรือเรียบเรียงประโยคเข้าใจยาก วกไปวนมา คนอ่านไม่เข้าใจนะจ๊ะว่าคุณต้องการสื่ออะไร
เช่น ช่วงเย็นจะมีผู้ขับขี้ยานพาหนะสัญจรผ่านไปมา
- มั่วประเด็น งานเขียนทุกเรื่องจะต้องมีแก่นเรื่อง ซึ่งเป็นประเด็นหลักของเรื่อง อย่าให้น้ำหนักของเรื่องมุ่งไปทางอื่นมากไปจนลืมประเด็น
เช่น ชื่อเรื่องเป็นแนวรัก เขียนปูเรื่องมาก็เป็นแนวรัก แต่จู่ๆ นึกอยากหักมุมเปลี่ยนเป็นสยองขวัญ อันที่จริงก็แหวกแนวดีนะ แต่อย่าลืมนึกถึงผู้อ่านว่าอ่านเพราะธีมเรื่องความรักหรือสยองขวัญ
- ไม่สมเหตุสมผล ต่อให้งานเขียนแนวแฟนตาซีก็ต้องมีความสมเหตุสมผลรองรับ เขียนให้คนอ่านเชื่อ อย่าเขียนให้คนอ่านจับได้ว่าเรานั่งเทียนเขียนเอาโดยไม่ได้คิดมาก่อน อย่าสักแต่เขียนโดยไม่คำนึงถึงบริบท หรือเขียนโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง สิ่งสำคัญเวลาเขียนงานคือต้องนึกภาพให้ออกก่อน
เช่น พระเอกเป็นนักธุรกิจ ซึ่งควรจะงานยุ่งรัดตัวแต่กลับมีเวลามาตามจีบนางเอกทั้งวันทั้งคืน หรือ นางเอกซึ่งเป็นผู้หญิงสามารถต่อสู้ด้วยพละกำลังเอาชนะผู้ชายได้ แต่ไม่ปูเรื่องมาก่อนว่าเธอมีอะไรพิเศษจึงทำเช่นนั้นได้
ไม่มีใครประสบความสำเร็จตั้งแต่แรก ฉะนั้นอย่าเพิ่งท้อนะคะ อาศัยประสบการณ์และความพยายาม เรียนรู้บทเรียนจากความผิดพลาด แล้วพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ วันหนึ่งคุณจะกลายเป็นนักเขียนมือฉมังได้ในที่สุด ธัญวลัยเป็นกำลังใจให้
แชร์เลย
7kอ่านประกาศ 2015-12-24T02:45:56.7870000+00:00ลงประกาศ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น