นิยาย [อีโรติก] มีดีกว่าที่คุณคิด แล้วคุณก็ทำได้!

นิยาย [อีโรติก] มีดีกว่าที่คุณคิด แล้วคุณก็ทำได้!

            เมื่อพูดถึงคำว่า ‘อีโรติก’ คุณนึกถึงอะไร ร้อยทั้งร้อยต้องมีคำว่า Sex ลอยขึ้นมาควบคู่กัน ต้องมีฉากวาบหวิวแบบนั้น โชว์สรีระเปลือยเปล่าของมนุษย์อย่างละเอียดทุกสัดส่วนประหนึ่งได้เรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ ศึกษาอนาโตมี่ถึงแก่นลึก แต่ไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทไหน นำเสนออย่างไร แต่ถ้ากำกับคำว่า อีโรติก ก็จะถูกสังคมประทับตราว่า ‘งานเลว’

            แต่ถูกแล้วหรือ? ที่เราคิดว่างานอีโรติกคืองานเลว  

            Sex คือกิจกรรมที่คู่รักกระทำร่วมกันเพื่อแสดงความรัก และมนุษย์ทุกคนต้องการความรัก

Sex คือการกระทำที่นำไปสู่ความพึงพอใจ และมนุษย์ทุกคนต้องการความพึงพอใจ

Sex คือขั้นตอนการสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต และมนุษย์ต้องสืบพันธุ์

ทั้งที่เซ็กซ์เป็นสิ่งจำเป็นต่อมนุษย์ แต่เมื่อนำเซ็กซ์มาอยู่บนสื่อกลับถูกมองว่าเป็นเรื่องไม่สมควร มีนักเขียนชั้นครูมากมายที่ออกมาตั้งตนสวนทางกับความคิดนี้ด้วยงานเขียนอีโรติก และคนทั่วโลกก็ยอมรับว่างานเขียนเหล่านั้นคือ ‘งานดี’ แม้จะถูกขีดเส้นใต้เน้นย้ำว่าเป็น แนวอีโรติก

แล้วเหตุใดงานอีโรติกบางเรื่องถึงเป็นที่ยอมรับ แต่บางงานกลับไม่เป็นที่ยอมรับ

เครดิตภาพ : http://www.ew.com/

Fifty Shades of Grey ของ EL James ถือเป็นนิยายอีโรติกที่โด่งดังที่สุดในนาทีนี้ ถึงขั้นถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์จนโด่งดังไปทั่วโลก แม้จะมีบางประเทศที่สั่งห้ามฉายภาพยนตร์หรือห้ามจำหน่ายหนังสือเรื่องนี้ แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความดังของ Fifty Shades of Grey ได้ 

เครดิตภาพ : https://www.newmovie-hd.com

ทั้งที่เป็นงานอีโรติก แต่ Fifty Shades of Grey กลับโด่งดัง ผู้คนชอบทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะผู้เขียนมีสิ่งเหล่านี้

1. รอบรู้

Fifty Shades of Grey พระเอกสุดหล่ออย่าง คริสเตียน เกรย์ เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ผู้เขียนจึงใส่วิธีการคิดแบบนักธุรกิจลงไปในตัวละครตัวนี้ และเสริมรายละเอียดความรู้เกี่ยวกับการมองคนในฐานะผู้บริหารลงไปด้วยเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ วิธีนี้ทำให้ตัวละครมีมิติ ไม่ใช่กำหนดไว้ลอยๆ ว่าเป็นนักธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตระดับผู้บริหาร แต่กลับไม่ได้ทำอะไรที่สมเป็นนักธุรกิจหรือสมฐานะผู้บริหารเลย

     EL James ผู้เขียน เธอเคยเป็นผู้บริหารสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในอังกฤษมาก่อน ดังนั้นเธอจึงมีความรู้เรื่องการบริหาร เพียงพอที่จะนำมาเขียน ฉะนั้นคุณเองก็ควรเขียนเรื่องที่คุณรู้ ชำนาญ หรือศึกษามามากพอ 

2. ทักษะการเขียน

“ดื่มซะ” เขาตะโกนสั่ง

ดวงไฟที่เคลื่อนไหววูบวาบและเปลี่ยนสีเข้าจังหวะกับดนตรีสาดแสงและเงาสีประหลาดไปทั่วบาร์และลูกค้า เกรย์เปลี่ยนไปมาระหว่างสีเขียว ฟ้า ขาว และแดงเหมือนปีศาจ เขาจ้องมองฉันเขม็ง ฉันลองจิบนิดๆ

นี่เป็นบทบรรยายบทหนึ่งในเรื่อง Fifty Shades of Grey จะเห็นว่าการเขียนของ EL James นั้น ไม่ได้มีการบรรยายที่ซับซ้อนใดๆ ทั้งยังมีการยกคำเปรียบเปรยเพื่อให้เข้าใจง่ายและเห็นภาพชัดขึ้น

ถ้าคุณอยากให้งานของคุณดึงดูดใจผู้อ่าน คุณต้องรู้จักศิลปะในการใช้ภาษา เขียนให้กระชับ ชัดเจน เรียบง่าย แต่โดนใจ เขียนอย่างมีกลยุทธ์ เรียบเรียงประโยคถ้อยคำอย่างฉลาด และรู้จักสร้างเสน่ห์ให้งานเขียนตัวเอง อย่าให้ใครมาว่าได้ว่างานของคุณ เด็ก!

3.  ความคิดสร้างสรรค์

ใครจะคาดคิดว่า พล็อตเรื่องชวนฝันอย่างซินเดอเรลล่า ที่เจ้าชายสูงศักดิ์มาตกหลุมรักหญิงสาวสามัญ จะถูก EL James จับมาเปลี่ยนให้เป็นเวอร์ชั่นอีโรติก ในชื่อ Fifty Shades of Grey จนโด่งดังไปทั่วโลก ใครจะคิดว่ามีคนกล้านำพระเอกในเทพนิยายมาสวมบทซาดิสม์แหวกแนวพระเอกนิยายรักทั่วพื้นปฐพีได้

นั่นคือความแปลกใหม่ของเรื่องนี้ และเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องย้อนกลับมาดูนิยายของเราว่าจะสร้างจุดเด่น หรือความแปลกใหม่ใดชวนให้ติดตาม หรือแตกต่างจากเรื่องรักอีโรติกอื่นๆ เพื่อไม่ให้เรื่องของเราถูกเรียกว่า นิยายพล็อตดาษดื่น ที่มีจุดขายอยู่เพียงแค่ฉากร่วมรัก

ตัวอย่าง Fifty Shades of Grey ที่แม้จะดูเป็นเรื่องราวความรักชวนฝันไม่ต่างจากซินเดอเรลล่า แต่กลับมีอุปสรรคชิ้นโต คือ รสนิยมอันแสนแปลกประหลาดของพระเอก ซึ่งเป็นเหตุให้แอนัสเตเซียสับสนว่าแท้จริงแล้วคริสเตียนรักเธอ หรือแค่ใช้เธอเพื่อเป็นเครื่องสนองความพึงพอใจ

อัลเบิร์ต ไอน์สไตล์ กล่าวว่า จินตานาการสำคัญกว่าความรู้ ธัญวลัยก็เชื่อเช่นนั้นเสมอค่ะ แต่จินตนาการในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าเพ้อฝันไปเรื่อย สิ่งที่เราต้องมีคือ ความคิดสร้างสรรค์ แหวกแนว ลองมองออกไปรอบตัว มองไปให้ไกล เปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ แล้วจะทำให้งานเขียนของคุณมีสีสันมากขึ้น

4.  โครงเรื่อง

โครงเรื่องเป็นพื้นฐานสำคัญของนิยายค่ะ ฉะนั้นวางโครงเรื่องดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง การวางโครงเรื่องนั้นเราต้องทำควบคู่ไปกับจินตนาการ คิดสร้างสรรค์เข้าไว้ ถ้าใครไม่รู้ว่าควรจะเริ่มวางโครงอย่างไร ธัญวลัยขอแนะนำให้ใช้เทคนิคเบสิกค่ะ คือให้คิดง่ายๆ ว่า

            ใคร>>ทำอะไร>>ที่ไหน>>อย่างไร>>เพื่ออะไร

            เมื่อเราคิดออกมาได้คร่าวๆ เท่านี้ก็จะเป็นพล็อตเรื่องหลักให้เรานำไปสร้างต่อเป็นโครงเรื่องยาวค่ะ เช่น

ใคร >> แอนัสเตเซีย สตีล และ คริสเตียน เกรย์ = ปมตัวละคร

ทำอะไร>>มีความสัมพันธ์ภายใต้เงื่อนไขการมีเซ็กส์แสนประหลาด = นำไปสู่ปัญหา

ที่ไหน>>สภาพสังคมที่คริสเตียนได้รับการยอมรับอย่างสูงสุด = ฉากที่เอื้อต่อเหตุการณ์

อย่างไร>>พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ผ่านอุปสรรคต่างๆ = การกระทำของตัวละคร

เพื่ออะไร>>เพื่อให้ความรักของทั้งคู่ลงเอยด้วยดี = แก้ปม

            แต่นี่เป็นเพียงพล็อตเรื่องคร่าวๆ แต่เราจะต้องสร้างรายละเอียดเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นการสร้างเหตุการณ์ สร้างฉาก สร้างเรื่องราวทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ผูกและแก้ปม เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครจนไปถึงเป้าหมาย 

5. ผู้อ่านได้อะไร

สิ่งที่เราต้องคิดเสมอเมื่อจะเขียนเรื่องขึ้นมาเรื่องหนึ่งคือ เขียนเพื่ออะไร นั่นหมายถึงผู้อ่านจะได้อะไรจากงานเขียนของเรา

จริงอยู่ว่า Fifty Shades of Grey เป็นนิยายอีโรติก แต่สิ่งที่เรื่องนี้นำเสนอคือ ประเด็นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่มีบทบาท และความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือที่เรียกว่าเซ็กส์แบบ BDSM คือการตกลงกันว่าใครจะเป็นฝ่ายรับบทเจ้านาย และใครจะรับบททาส

คริสเตียนเป็นชายที่ได้รับการยอมรับจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นฐานะ รูปร่างหน้าตา ความรู้ความสามารถ แต่ปมในอดีตส่งผลให้เขามีนิสัยชอบการควบคุม และมีรสนิยมทางเซ็กซ์แบบ BDSM แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นคริสเตียนก็ถูกสัมผัสและรับรู้ผ่านแอนัสเตเซีย กระทั่งสามารถรักเขาในแบบที่เขาเป็นจากก้นบึ่งหัวใจได้ ในขณะที่คนในสังคมยังคงไม่ให้การยอมรับ และมองว่าเซ็กซ์แบบ BDSM เป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง

แต่ประเด็นสำคัญที่สะท้อนให้เห็นจะๆ คือ การข่มเหงทางเพศ แม้ว่าอีกฝ่ายจะสมยอมก็ตาม จนกระทั่งแอนัสเตเซียได้สัมผัสกับความเจ็บปวด เธอจึงตระหนักได้ว่าเหตุใดเธอต้องรับบททาสอยู่ฝ่ายเดียว นั่นหมายถึงเหตุใดเพศหญิงจึงต้องยอมให้เพศชายกดขี่อยู่ร่ำไป 

การเขียนงานอีโรติกไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องต้องห้าม ในอดีตที่ผ่านมามีงานอีโรติกอันทรงคุณค่ามากมายเกิดขึ้นเพื่อสะท้อนเรื่องราวต่างๆ อย่างที่งานเขียนประเภทอื่นทำไม่ได้

เมื่อย้อนกลับมาดูงานของเรา เราเองก็สามารถสร้างคุณค่าผ่านเนื้อเรื่องให้งานเราเป็นมากกว่านิยายอีโรติกได้ เช่นนั้นแล้วงานที่ขึ้นชื่อว่าอีโรติก ไม่ได้หมายความว่าเป็นงานเลวเสมอไป และงานเลวก็ไม่จำเป็นต้องเป็นงานอีโรติก แต่เราสามารถทำให้งานทุกประเภทเป็นงานดีได้ เพียงแค่คิดว่า ‘ผู้อ่านจะได้อะไร’    

ชาวธัญวลัยคะ เรามาสร้างงานเขียนของเราให้โด่งดังกระหึ่มคับโลกแบบ Fifty Shades of Grey กันเถอะค่ะ!