รู้จักไหม... โรคหลงรักความเจ็บปวด

รู้จักไหม... โรคหลงรักความเจ็บปวด

 

            หากมีผู้กระทำ ย่อมมีผู้ถูกกระทำ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย... ล้วนส่งผลต่อจิตใจผู้ถูกกระทำทั้งสิ้น

สุขสม เจ็บปวด โกรธแค้น ยินดี

แต่ชาวธัญวลัยรู้หรือไม่ว่า ในนิยายที่เราชอบอ่านนั้นมีกรณีที่ขัดแย้งกันอยู่ กรณีที่บุคคลหนึ่งกระทำสิ่งไม่ดีกับอีกบุคคลหนึ่ง แต่กลับหลงรักบุคคลนั้น... เช่น

---

“ปล่อย!! ปล่อยฉันไปเถอะ คุณจะจับฉันมาทำไม”

         “หึ! ต่อให้ร้องขอความเมตตาจากฉันสักเท่าไหร่ ฉันก็ไม่มีวันปล่อยเธอหรอก!” ร่างหนาตะคอกใส่พร้อมผลักจนหญิงสาวกระแทกกำแพง “เธอต้องได้รับความเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ฉันเคยได้รับ”

          ... สามเดือนต่อมา...

            “ฉันรักคุณค่ะ คุณเข้ามาเปลี่ยนชีวิตฉัน”

          “แต่ผมทำร้ายคุณขนาดนั้น คุณยังให้อภัยอีกเหรอ”

          “ค่ะ ฉันให้อภัยคุณ ฉันรักคุณ ต่อให้คุณจะทำร้ายฉันสักแค่ไหน ฉันก็รักคุณ”

---

นั่นแหละค่ะ พระเอกจับนางเอกไปกระทำย่ำยีเพื่อแก้แค้น แต่สุดท้ายนางเอกกลับหลงรักพระเอก พล็อตแบบจำเลยรัก

           กรณีนี้เกิดขึ้นบ่อยมากในนิยาย แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพล็อตอมตะที่ขายได้ตลอดกาลเลยทีเดียว เพราะอ่านทีไรก็ฟินทุกที ซึ่งถ้าคิดตามเหตุและผลในความเป็นจริงแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องแปลกทีเดียว ก็ใครเล่าจะชอบคนที่ทำไม่ดีกับตัวเอง เพราะฉะนั้นในชีวิตจริงกรณีแบบในนิยายนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก...

ขอบอกเลยว่าถ้าคุณคิดแบบนั้น... คุณคิดผิดค่ะ!

เพราะเหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว เช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ กรุงสต็อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อมีนักโทษหลบหนีคนหนึ่งหนีเข้าไปหลบในธนาคารและจับตัวประกันเอาไว้ ขณะที่ตำรวจปิดล้อม เขาเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อนร่วมห้องขังของเขา พร้อมเงิน 700,000 เหรียญ และรถยนต์หนึ่งคันเพื่อหลบหนี แต่เมื่อได้ตามที่ขอ เขากลับไม่ยอมปล่อยตัวประกัน และขอให้ตัวประกันเดินทางไปกับตนจนถึงนอกเมืองเพื่อรับรองความปลอดภัยให้ตน

ตำรวจและนักโทษใช้เวลาเจรจากันถึงหกวัน โดยพาตัวประกันไปกบดานที่ห้องเซฟของธนาคาร ทว่าการเจรจาไม่สำเร็จจึงต้องใช้แก๊สน้ำตา นักโทษและตัวประกันจึงยอมออกมาในที่สุด และภาพที่ตำรวจเห็นคือ นักโทษและตัวประกันมีการกอด หอม จูบ กันด้วย ซึ่งดูเหมือนตัวประกันจะชอบนักโทษมาก ถึงขั้นยอมเป็นพยานในชั้นศาลเพื่อแก้ต่างให้นักโทษ

และยังมีกรณีอื่นอีกมากมาย เช่น หญิงสาวที่ถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่กลับหลงรักผู้ร้ายที่จับตนไป ความจริงอาการเช่นนี้ เป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่งที่เรียกว่า สต็อกโฮล์ม ซินโดรม (Stockholm Syndrome) มักเกิดขึ้นกับเชลยและคนร้ายที่ตกอยู่ในสถานการณ์ร่วมกันชั่วระยะเวลาหนึ่งจนเกิดอารมณ์ร่วม ทำให้เชลยรู้สึกเห็นอกเห็นใจหรือมีความรู้สึกดีต่อผู้ร้าย

#

 

ฟังดูเหมือนนิยาย แต่ภาวะนี้มันเกิดขึ้นได้จริง และบางครั้งอาจเกิดขึ้นใกล้ตัวกว่าที่คิด เช่น สามีที่ซ้อมภรรยาเป็นประจำ แต่ภรรยาก็ยังรักและทนอยู่ เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่แปลกนะคะที่นางเอกในนิยายแนวตบจูบจะหลงรักพระเอกจนหัวปักหัวปำ

            ว่าแล้ววันนี้ธัญวลัยก็มีตัวอย่างพล็อตเรื่องแนวสต็อกโฮล์มซินโดม มาแจกด้วยค่ะ อยากอ่านตามไปค่ะ

 

---ชายหญิง---

เชลย สวาท http://www.tunwalai.com/story/18600

สัญญาแค้นรักนางบำเรอ http://www.tunwalai.com/story/31585

สลับรัก เดิมพันแค้น http://www.tunwalai.com/story/100280

ลูกหนี้ มาเฟีย http://www.tunwalai.com/story/64420

Sexygirlร่านนัก จัดให้ http://www.tunwalai.com/story/93938

 

---วาย---

อย่าให้ฉันเลวนะ...หนูน้อย  http://www.tunwalai.com/story/33644

ไฟแค้นแรงรัก http://www.tunwalai.com/story/99913

Anelandstorytellerนักเล่าเรื่องตาบอดกับมาเฟียนิทรา http://www.tunwalai.com/story/11722

The Debt พันธะร้าย นายสารเลว http://www.tunwalai.com/story/13062

แค้นกูนักห้ามรักนะเว้ย http://www.tunwalai.com/story/36488

4.8kอ่านประกาศ 2016-06-06T13:49:52.1770000+00:00ลงประกาศ

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด ()
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น