ใครที่เป็นนักเขียนตัวจริงเสียงจริงต้องเคยเจอปัญหาเหล่านี้แน่นอน หากใครมีเพียงข้อเดียวก็ถือว่าเราได้เริ่มก้าวเข้ามาสู่โลกของนักเขียนกันแล้วนะ แต่ถ้าใครที่มีตรงทุกข้อล่ะก็... บอกเลยว่าคุณได้เข้ามาสู่โลกของนักเขียนเข้าให้แล้ว
นึกชื่อเรื่องไม่ออก
อันดับแรกเลยก็คงจะไม่พ้นเรื่องตั้งชื่อเรื่องแน่นอน ถึงแม้จะมีโครงเรื่องและตัวละครเรียบร้อย แต่การตั้งชื่อเรื่องนี่มันยากแสนยาก คิดแล้วคิดอีก คิดแล้วไม่โดนใจ คิดแล้วซ้ำกับคนอื่น คิดแล้วไม่น่าสนใจ นอนคิดนั่งคิดก็ยังคิดไม่ออก ว่าจะได้ชื่อเรื่องก็ปาไปเป็นวันก็มีนะ ใครเป็นบ้างยกมือขึ้นเลย...
สมองตัน
แม้จะเข้าสู่กลางเรื่องหรือท้ายเรื่องแล้วก็ตาม ยังไง๊ยังไงก็ต้องมีบางเวลาที่เราคิดไม่ออกว่าจะเขียนยังไง ใส่มุกยังไง หรือจะบรรยายยังไงใช่ไหมล่ะ เอาน่า... ค่อยๆ เขียน ไม่ต้องรีบก็ได้ ลองไปพักสมอง กินขนมอร่อยๆ หรือเปิดหนังดูสักเรื่องแล้วค่อยกลับมาเขียนนะ
ไม่มีเวลาเขียน
บางคนตั้งใจว่าพอเลิกเรียนจะรีบตรงกลับบ้านทันทีเพื่อที่จะมานั่งเขียนนิยาย แต่การบ้านเจ้ากรรมก็มีเยอะ หนังสือเรียนก็ต้องอ่าน ไหนจะสอบเก็บคะแนนอีก ไหนจะงานบ้านที่ต้องทำ กว่าจะทำเสร็จก็หมดเวลาไปแล้ววันหนึ่ง แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาเขียนล่ะ!!... เอางี้นะคะ ลองจัดตารางกิจกรรมของเราใหม่ การบ้านที่มีก็ตั้งใจทำให้เสร็จ เวลาว่างที่โรงเรียนก็นั่งทำการบ้านได้นะ เวลาที่กลับมาบ้านการบ้านจะได้น้อยลงยังไงล่ะ
พักผ่อนไม่เพียงพอ
“นิยายก็เขียนเกินมาครึ่งเรื่องแล้ว บางเรื่องก็ใกล้จะจบแล้ว อยากเขียนให้จบเร็วๆ จัง” เชื่อว่าหลายๆ คนมีอารมณ์นี้แน่นอน ถึงกับต้องอดหลับอดนอนเพื่อที่จะเขียนนิยายให้เสร็จ แต่รู้รึเปล่าว่าการที่เราเขียนนิยายโดยที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอหรือเขียนตอนง่วงนั้น มันทำให้นิยายเราเสร็จเร็วก็จริง แต่นิยายเราจะไม่สนุกเท่ากับตอนที่เราเขียนตอนที่เราพักผ่อนอย่างเต็มที่หรอกนะ
คนรอบตัวไม่สนับสนุน
เพื่อนไม่เข้าใจ คุณพ่อคุณแม่ไม่สนับสนุน ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปทันทีถ้าเรารู้จักบริหารเวลาของเราให้ลงตัวโดยที่ไม่กระทบกับเรื่องเรียนหรือเรื่องงาน หรือแม้แต่เรื่องงานบ้านที่ต้องช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำ เอาเป็นว่าปรับกิจกรรมให้ลงตัวและอย่างทิ้งเรื่องเรียนที่เป็นหน้าที่สำคัญของเราเพื่อมาเขียนนิยายนะคะ
ลบแล้วเขียนใหม่หลายรอบ
ลบๆๆๆๆ เขียนๆๆๆๆ แล้วก็ลบอีก กว่าจะออกมาแต่ละย่อหน้าที่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน กว่าจะบรรยาย กว่าจะใส่คำพูด กว่าจะคิดตอนต่อไปได้ จะเปิดเรื่องยังไงดีนะ จะปิดเรื่องยังไงดีนะ ถ้าเจอปัญหาแบบนี้แสดงว่าเราต้องฝึกเขียนบ่อยๆ และวางโครงเรื่องให้แน่นกว่านี้เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเวลาเขียนออกทะเลหรือนึกสถานการณ์ที่จะเขียนไม่ออกนะคะ
มีแต่คำผิด
“คำนี้เขียนยังไงนะ เขียนถูกรึเปล่านะ” เวลาเขียนๆ ไปแล้วดันมาลังเลว่าคำนี้ถูกไหม ผิดไหม กลัวว่าจะปล่อยคำผิดๆ ออกไปให้เพื่อนๆ อ่าน ก็ต้องมาเปิดดูพจนานุกรมดูอีก ยอมเสียเวลาดูคำที่ถูกเพื่อให้งานของเราออกมาสนุกอย่างมีคุณภาพดีกว่าปล่อยคำผิดๆ ออกมาดีกว่านะคะ
ขี้เกียจรีไรท์
“พอเขียนเสร็จก็อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านเร็วๆ น่ะสิ ถ้ามามัวอ่านซ้ำก็เสียเวลาแย่เลย” คิดแบบนี้กันใช่ไหมล่ะ แต่รู้รึเปล่าว่าการที่เราไม่รีไรท์นิยายของเรามันจะทำให้นิยายของเรามีคำผิดเยอะมาก และบางทีประโยคบางประโยคอ่านแล้วก็ยังดูงงๆ นะ กลับมาอ่านสักรอบสองรอบจะดีกว่านะคะ
แชร์เลย
2.9kอ่านประกาศ 2016-06-02T03:51:28.2370000+00:00ลงประกาศ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น