“จะไปไหน?”
“ตามไปดูไง” นิ้วเล็กชี้ไปยังทิศทางที่ทั้งหมดหายไป วรัญญูกลอกตาไปมาก่อนจะลากคออิงอิงติดมือหายเข้าไปในป่าอีกด้าน
“เรื่องผู้ใหญ่ เด็กอย่างเธอไม่ควรไปยุ่ง”
“หนูไม่เด็กนะ อายุสิบเก้าแล้ว!” อิงอิงเถียงเสียงขลุกขลัก คอเธอถูกท่อนแขนแกร่งรัดเอาไว้ วรัญญูลากอิงอิงมาไกลแล้วก็ยอมปล่อยคอเธอ
“ไม่บอกก็ไม่รู้ว่าอายุสิบเก้า คิดว่าเด็กสิบขวบ”
“หา!” อิงอิงแหกปากดังลั่น เธอเหมือนเด็กสิบขวบตรงไหนกัน ร่างเล็กซอยเท้าถี่ๆ ตามร่างสูงไปติดๆ ตอนมาเธอเดินนำเขาแต่ตอนกลับเขากลับเดินนำเธอ
ผู้ชายคนนี้เดินกลับทางเดิมราวกับจดจำเส้นทางได้ขึ้นใจ ทั้งๆ ที่มาครั้งแรกและมืดมาก เธอเป็นลูกสาวพรานแท้ๆ ยังต้องฝึกเดินป่ามาหลายปีกว่าจะชำนาญอย่างทุกวันนี้
“กลับบ้านไปบอกพรานบุญยิ่งว่าพรุ่งนี้ฉันจะเข้าป่า ไปดูจุดที่พวกมันลักลอบตัดไม้กัน” ระหว่างทางในความมืดวรัญญูก็สั่งขึ้น อิงอิงรีบเดินผ่านหน้าร่างสูงแล้วไปยืนกางแขนขาขวางร่างสูงเอาไว้ วรัญญูหยุดเดินทันทีจ้องมองร่างตัวจ้อยในความมืด
“หัวหน้าคายคำพูดออกมาเดี๋ยวนี้เลย!”
“คายคำพูด?” คิ้วเข้มของนายทหารหนุ่มเลิกขึ้นสูง นี่มันภาษาท้องถิ่นหรือยังไงกัน
“ก็เรื่องที่หนูเหมือนเด็กสิบขวบไง คายออกมาเลย หนูอายุสิบเก้าแล้ว! สิบเก้า! ช่วยจำให้ขึ้นใจด้วย”
“ฉันกินเธอเข้าไปเหรอ?” คำถามเรียบเฉยของวรัญญูทำให้อิงอิงชะงัก สองหนุ่มสาวจ้องมองกันอยู่ในความมืดของป่าโดยที่มองไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย
จนกระทั่งอิงอิงทำลายความเงียบขึ้น เธอทำเสียงขึ้นจมูกแล้วพูดขึ้นพร้อมกับสะบัดหน้ากระโดดหนีไปอย่างรวดเร็ว
“หึ! ถึงหัวหน้าจะหล่อแต่แก่เกินไป หนูไม่ยอมให้คนแก่กินหรอก”