เมื่อคืนภาต้องแกะเม็ดมะขามจากฝักที่รับซื้อมา หลังจากลูกน้องกลับบ้านไปตอนตี 2 เพราะอยากทำให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ ลูกน้องคนสนิทของพ่อตะโกนก่อนปิดประตูรั้วบอกว่า กลับก่อนนะน้องภา พรุ่งนี้พี่จะมา 10 โมงเช้า เช้าวันนี้ลืมตามาก็ 9 โมงเช้าพอดี สักพักก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากแม่ ภา ๆ ๆ ตื่นได้แล้วลูก พี่ ๆ เขามากันแล้วนะ จะได้เริ่มแกะ เราได้กลิ่นผัดกระเพาะของแม่ เลยรีบลุกขึ้นจากเตียงไปเข้าห้องน้ำอาบ จะลงไปกินผัดกระเพรา ก่อนค่อยเข้าไปที่โรงแกะ
แม่ : ลงมาแล้วเหรอลูก กินข้าวก่อนนะ แม่ทำผัดกระเพราให้กินกลางวันกัน หนูก็กินข้าวก่อนนะ กาแฟชงเองนะ แม่จะรีบไปป้อนข้าวพ่อก่อน สายมากแล้วพ่อยังไม่ได้กินข้าวเลย
ภา: แม่ไปเถอะ ไม่ต้องหวง ภาจัดการเองได้
ว่าแล้วภาก็เดินไปที่หม้อหุงข้าวใบใหญ่ ใช้ทัพพีไม้อันเก่า ที่ใช้มาตั้งแต่ภาจำความได้ ตักข้าว อยู่ ๆ ก็นึกขึ้นมา "ทำไมแม่ไม่เปลี่ยนทัพพีตักข้าวสักทีนะ ใช้มาตั้งแต่เด็ก จนเราอายุ 22 แล้ว ว่าจะถามแม่ก็ลืมทุกที เพราะสวนกับแม่ในห้องครัวตลอด เราลงมาจาก เลาเต้ง แม่ก็เดินออกไป ตั้งแต่กลับมาบ้านยังไม่เคยได้นั่งคุยกับแม่เลย ไม่รู้ทำไม เหมือนแม่พยายาม หลบ ๆ หน้าภา เหมือนไม่อยากคุย
ณรงค์ : พี่ภาเหม่ออะไร กินข้าวได้แล้ว พี่ภาคิดอะไรตักข้าวสะล้นจานเลย 5555
ภา : เป็นหนักนะเนี่ย พี่สงสัยนอนน้อย มา 4 คืนแล้ว ได้นอนวันล่ะ 4 ชม. เอง ณะ เข้ามาตั้งแต่เมื่อไร พี่ไม่เห็นได้ยินเสียงเลย
ภาถามน้องชายคนล่ะแม่ ณะ เป็นลูกป๊า แต่เราไม่เคยเห็นแม่ของ ณะ เลย จำความได้ก็มี ณะ มายืนหน้าประตูตอน ณะ อายุ 1 ขวบ เราอายุ จะ 10 ขวบแล้ว นึกว่าลูกคนงาน เลยเรียกป๊าให้ดูเด็กกำลังจะปีนรั้วบ้าน พ่อตะโกนถามคนงาน
เอ้าลูกใครว่ะ มายืนคอยหน้าประตู พี่คนงานวิ่งไปดู ภาวิ่งตามไป ใกล้ ๆ เปิดประตูรั้วให้ มีขวดนม 1 ขวด และมีกระดาษสมุดที่ฉีกมา ภาจำได้แม่นมาก เพราะภาเป็นคนอ่านเอง
"เฮีย ฉันฝากลูกด้วย ขอบคุณเฮียที่ดูแลฉันกับลูกอย่างดีมาตลอด ฉันป่วยหนัก และคงอยู่ได้ไม่นาน ไม่ต้องตามฉัน ฉันแค่อยากลูกไว้กับเฮีย อย่างน้อยเขาก็ได้อยู่ใกล้เฮียที่เป็นพ่อเขา ฉันก็อุ่นใจ"
จากวันนั้นมา ณะ หรือ ณรงค์ก็เข้ามาสร้างคึกคักสดชื่นให้กับพวกเรา และยังเป็นกำลังสำคัญในการช่วยงานที่โรงงานให้กับพวกเราอีกด้วย ณะ เป็นเด็กน่ารัก จิตใจดี สดใส
ณรงค์ : ผมเข้ามากำลังจะยกข้าวไปให้คนงานครับเจ้ เจ้เป็นไรป่ะเนี้ย
เสียงสงสัย ปนความห่วงใยของณะ ทำให้ภามีกำลังใจขึ้นมา มีแรงในการลุกไปทำงานที่ค้างคาอยู่
ว่าแล้วภา ก็เดินออกจากห้องครัว ตรงไปที่ส่วนแกะเม็ดมะขาม เมื่อก่อนภาไม่ต้องช่วย แต่ด้วยสภาวะโรคระบาด ควบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของที่บ้านภา และอาการป่วยของพ่อ จึงทำให้ภาต้องกลับบ้านมาช่วยงานแบบเต็มเวลา และเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ แต่เป็นสิ่งที่ภาอยู่กับสิ่งนี้มาตั้งแต่เด็ก พอนึกถึงตรง ภาก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่
"สิ่งที่ภาคุ้นเคย แต่ไม่เคยสนใจ ใส่ใจกับมัน ทั้ง ๆ ที่มะขามทำให้ภาได้มีกินมีใช้ มีเงินได้เรียนถึงปริญญาเอก ได้ไปเที่ยวอย่างสุข สำราญ จนอายุ จะ 30 ปี "
ในขณะที่มือก็กำมีดแกะเม็ดมะขาม ใจก็เริ่มคิดถึงอดีต ภาอายุ 7 ขวบพ่ออุ้มภานั่งตัก แล้วพูดเล่าว่า พร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น
พ่อ: ภาเอ้ย ภารู้ไหมมะขามมีจุดกำเนิดจากไหน จุดเริ่มต้นของสายพันธ์มะขาม มีจุดกำเนิดจากทวีปแอฟฟริกา ในแถบประเทศซูดาน ซึ่งเป็นประเทศที่มีความแห้งแล้ว กันดาร คนนำไปขยายพันธ์ ไปเรื่อย สายพันธ์ต่าง ๆ ไปยัง ลาตินอเมริกา มาที่เอเซีย อินเดีย และประเทศไทย มะขามมันก็มีการปรับตัวของสายพันธ์ตามพื้นที่ อากาศ สิ่งแวดล้อม เรานะทำมะขามมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เราต้องรู้ที่มาที่ไป ไม่ให้อายใครนะลูก ไอ้ภาลูกรัก พ่อพูดพร้อมยืนมือมาลูบหัว ภาเบา
พ่อยังย้ำอีกว่า ภายังเด็กค่อย ๆ เรียนรู้ไปนะ คนสวยของพ่อ ดูท่าภาดูไม่อยากฟังเลย แต่เมื่อพ่อที่เป็นที่รักเล่า ภาจะทำเหมือนตั้งใจฟัง นะ
พ่อ : มะขามจะมีกี่แบบนะ เท่าที่พ่อรู้จัก มะขามที่ปลูกหัวไร่ ปลายนา เป็นมะขามขี่แมว ฝักเล็ก ๆ , มะขามเปรี้ยวกระดาน ฝักจะยาวประมาณ 1 คืบ ฝักเล็กมากเท่าไหร่ มันจะเปรี้ยวและอมหวาน แต่ถ้าใหญ่ ๆ เบิ้มเลย ความเปรี้ยวจะจี๊ดตามขนาดของฝักนะลูก ลองชิมดูไหม
ภาฟังพ่อพร้อมวิ่งด้วยเท้าเปล่า ไปหยิบฝักมะขามที่กองคละกันมาให้พ่อ
ภา: ป๊าๆ แบบนี้ใช่ไหม
ภาตะโกนถามพ่อ
ภา: ป๊า ๆ แบบนี้ใช่ไหม
พ่อภา: หยิบมาเลย ๆ มาลองพิสูจน์กันดู
ภาเลือกมะขามจากกองภูเขามะขามได้ 3 ฝัก ภาก็วิ่งจู๊ดอย่างเร็วไปที่ที่พ่อนั่งบนยางรถแทรคเตอร์เก่า ๆ ภาเลือกจะนั่งบนตัก แล้วยื่นฝักมะขามอันเล็กสุดให้พ่อ พ่อของภารับมา เอาเสื้อยืดที่ตัวใส่เช็ดทำความสะอาด เช็ดมือ แล้วก็บรรจงแกะเปลือกมะขาม แล้วยื่่นให้ลูก
พ่อภา: อ่ะภา กินเลย พ่อแกะเม็ดให้แล้ว พ่อกิน 1 เม็ด ภากิน 1 เม็ด แล้วเรามาจำรสชาติของมะขามกันอันไหนเปรี้ยวสุด
ภายื่นมือเล็ก ๆ แต่ใส่ถุงมือไว้ เพราะเป็นเด็กที่แพ้ง่าย แม่ของภาจึงใส่ถึงมือบาง ๆให้ภาแทบตลอดเวลา
ภา: ป๊าภาให้เม็ดนี้ความเปรี้ยวระดับ 4.9 เต็ม 5
เสียงแจว ๆ ของภาบอกพ่อ พร้อมกับคายเนื้อมะขามออกมาพ่อภารีบเอามือรับ แล้วเอาไปเคี้ยวต่อ
พ่อภา: อย่าคายเลอะพื้นนะลูก จะเปื้อนบ้านเรา
ภา: ขอโทษค่ะป๊า
พ่อภา: อ่ะลูกฝักที่ 2
ภารับมะขามไปเข้าปาก
ภา: ฝักนี้เปรี้ยวกว่าค่ะ
ครั้งนี้ภาไม่ได้คายออกมา เพราะกลัวพ่อจะดุ เสีย ทำหน้าเย้เก๊ หลับตายี๊ เพราะความเปรี้ย แล้วกลืนลงท้องไป พ่อภาทำเสียงหัวเราะเบาๆ เพราะรู้ทันลูกสาว
พ่อภา: อ่ะอันนี้ฝักนี้เป็นมะขามฝักยักษ์เลย เพราะเกษตรกรเราพัฒนาสายพันธ์ ได้ทั้งฝักตรง ฝักโค้งงอ อ่ะลูกลองกิน เปรี้ยวที่สุดแล้วล่ะ
ภาฟังพ่อจบ รับมามะขามยักษ์มา แล้วรีบปีนจากตักพ่อ วิ่งไปตรงไปหาแม่ในบ้านอย่างรวดเร็ว
ภา: ป๊า ๆ เดี๋ยวภาเอาไปหามาม๊าชิมนะ ของเปรี้ยวที่สุดมาม๊าชอบกินของเปรี้ยว ภาจำได้
ยังไม่ทันได้จับข้อมือลูก ภาก็วิ่งหนีป๊าไปอย่างรวดเร็ว พ่อของภาหัวเราะเสียงดัง
พ่อ: ไอ้ภาเอ้ยยยยย ไม่อยากกินของเปรี้ยวนะสิ พ่อรู้นะ 555555
แล้วพ่อตะโกนบอกเมีย
พ่อ: ลินพี่ไปไร่นะ บ่าย ๆ จะกลับ วันนี้มีเคลียร์ฝักเก่าจ้า
พ่อของภากระโดดขึ้นรถ และสตาร์ทรถจี๊บคันเก่าๆ ขับออกไป
แม่ภา: พี่ ๆ ไม่กินข้าวกลางวันก่อนเหรอจ๊ะ ทำเสร็จแล้วนะ
พ่อภา: เดี๋ยวพี่กลับมากิน ใส่ปิ่นโต ไว้ก่อนนะ
พ่อภาขับรถจี๊ปคู่ใจออก อย่างช้า ๆ เพราะมีคนงานแถวนั้นเยอะ
ย่าภา: ภาพ่อแกจะไปไหน ไม่ไปกับพ่อเหรอ พ่อแกลืมหรือเปล่า ตอนเย็นมีนัดพา ย่าไปหากำนันซงนะ
แม่ภา: เขาไม่เคยลืมนัดของแม่หรอกค่ะ แม่ย่าสำคัญที่สุดสำหรับพี่เขาเลยนะ
ย่าภา ยิ้มเยาะมุมปาก แล้วสบถออกมาเบา ๆ ว่า
ย่าภา: เหรอ กูนัดมันมา 3 วัน ยังไม่พากูไปสักที ไอ้ลูกคนนี้
พร้อมตะโกนบอกลูกชายคนรอง
ย่าภา: นัทตอนเย็นพาแม่ไปที แม่ขี้เกียจรอไอ้ใหม่มันพาไปแล้ว นัทพาแม่ไปแทนก็แล้วกันนะ
อาของภา: ได้ครับแม่ ซ้อนมอเตอร์ไซค์นะแม่ รถยนต์พี่เขาครอบครองอยู่คนเดียว นั้นแหละ ใครก็ไม่ได้แตะ
อาของภาพูดประชด พร้อมปรายตามองไปที่พี่สะใภ้ด้วยสายตาแปลก ๆ