สายลมที่แผ่วเบา เฟิงเซียวชิวยืนอยู่หน้าป้ายหลุมศพในสุสาน
“ชิงอวี๋ ตอนนี้ฉันแก้แค้นพวกมันสำเร็จแล้ว” เฟิงเซียวชิวพูดขึ้นขณะมองดูป้ายหลุมศพตรงหน้าด้วยดวงตาที่สั่นเครือ เพราะเขายังไม่เคยลืมเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อน
เมื่อสามปีก่อน ชิงอวี๋และเฟิงเซียวชิวได้พยายามหลบหนีการไล่ล่าจากองค์กรเพราะพวกเขาไปรู้ความลับบางอย่างในองค์กรเข้าจึงได้ถูกตามล่า
ในขณะที่พยายามหลบหนี เฟิงเซียวชิวก็พลาดท่าจนได้รับบาดเจ็บเลยทำให้หลบหนีได้ล่าช้า
แต่ในขณะเดียวกันชิงอวี๋ก็ไม่คิดที่จะทอดทิ้งเฟิงเซียวชิวที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บของเฟิงเซียวชิวทำให้กลุ่มคนขององค์กรที่ไล่ล่าตามมาได้ทัน ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องต่อสู้กับคนเหล่านั้น
การต่อสู้กินเวลาไปหลายนาที จนกระทั่งชิงอวี๋ได้ทำการสังหารศัตรูของเขาคนสุดท้ายลง
แต่ว่าในขณะที่เขามองกลับไปหาเฟิงเซียวชิวกำลังจัดการกับคู่ต่อสู้คนสุดท้ายอยู่ เขาก็เห็นว่าในอีกมุมหนี่งมีศัตรูที่บาดเจ็บหนักและดูเหมือนใกล้จะสิ้นใจลงได้ทุกเมื่อ กำลังเล็งปืนไปทางเฟิงเซียวชิวอยู่
ด้วยการตัดสินใจอย่างฉับไว ชิงอวี๋ได้วิ่งเข้าไปขวางทันที
“ปั๊ง” ในขณะที่เฟิงเซียวชิวจัดการกับคู้ต่อสู้เสร็จเสียงปืนก็ดังสนั่นขึ้น เฟิงเซียวชิวรีบหันกลับไปดูทันที
ใบหน้าของเฟิงเซียวชิวซีดลง พร้อมกับความรู้สึกจุกในอก เพราะภาพตรงหน้าที่เขาเห็นคือชิงอวี๋ที่กำลังล้มลงไป ขณะที่อีกฝ่ายก็สิ้นใจตายหลังจากที่ยิงปืนสำเร็จ
“ไม่!!” เฟิงเซียวชิวร้องลั่นและวิ่งเข้าไปรับร่างของชิงอวี๋เอาไว้
ใบหน้าของชิงอวี๋ซีดจางลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เคลื่อนมือที่สั่นเครือเข้ามาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเฟิงเซียวชิวที่ไม่รูัว่าไหลออหมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่ได้รู้จักนาย เซียวชิว” ชิงอวี๋พูดขึ้นอย่างแผ่วเบาขณะเช็ดน้ำตาของเฟิงเซียวชิว
“ฉัน.. ฉันก็ไม่เสียใจเหมือนกัน แต่ได้โปรดอดทนอีกนิด ฉันจะพานายไปรักษาเดี๋ยวนี้” เฟิงเซียวชิวพูดและสะอึกสะอื้น
เฟิงเซียวชิวพูดจบก็เตรียมที่จะอุ้มพาชิงอวี๋ไป เพียงแต่ว่าชิงอวี๋กลับจับมือของเฟิงเซียวชิวเอาไว้และส่ายหัวเบาๆ
“ไม่มีประโยชน์หรอกฉันรู้ตัวเองดี เพราะงั้น ช่วยสัญญากับฉันได้ไหม” ชิงอวี๋กล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบาลงกว่าเดิมมาก
“ได้ฉันสัญญาทุกอย่าง ขอแค่นายรอด ขอแค่นาย ได้โปรด” เฟิงเซียวชิวกล่าวอย่างสิ้นหวังเมื่อชิงอวี๋บอกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพาไปรักษา
ชิงอวี๋ร้สึกเจ็บปวดในหัวใจที่เห็นเฟิงเซียวชิวดูสิ้นหวังแบบนี้ เขาเอามือทาบใบหน้าของเฟิงเซียวชิวอีกครั้งและเช็ดน้ำตาออกไป
“สัญญากับฉันว่าจะใช้ชีวิตให้ดีหลังจากนี้ และหากมันเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากให้นายไปแก้แค้น” ชิงอวี๋กล่าวไปขณะมองดูใบหน้าของเฟิงเซียวชิว หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลงสองวิก่อนจะกล่าวต่อ “แต่ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้เพราะงั้นได้โปรดดูแลตัวเองให้ดีด้วย”
“ได้.. สัญญา ฉันสัญญากับนาย”
ชิงอวี๋ยังค่อยเช็ดน้ำตาที่ไหลรินของเฟิงเซียวชิวออกเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจที่จะถามบางอย่าง
“เฟิงเซียวชิวนายรักฉันรึเปล่า” ชิงอวี๋กล่าว ซึ่งจริงๆแล้วเขานั้นอยากรู้มานานแล้วว่าเฟิงเซียวชิวรักเขา เหมือนกับที่เขารักเฟิงเซียวชิวรึเปล่า เพราะการกระทำในอดีตของทั้งคู่ดูเหมือนจะก้ำกึ่งเลยทำให้ไม่แน่ใจ และคำถามที่กวนใจเขามานานแล้วแต่ก็ไม่กล้าถามเพราะกลัวจะเสียอีกฝ่ายไป แต่ตอนนี้หากไม่ถามก็คงจะไม่ได้ถามอีกแล้ว
“ใช่ ฉันรักนาย ฉันรักนายชิงอวี๋ และฉัน… และฉันก็ไม่อยากให้นายจากฉันไปแบบนี้”เฟิงเซียวชิวกล่าว
ชิงอวี๋ได้ฟังคำตอบก็ยิ้มเบาๆ “ขอบคุณที่ตอบปัญหาที่กวนใจฉันมาตลอด” เขาพูดแต่ก็ไม่บอกว่าเขารักเฟิงเซียวชิวเพราะมันคงจะเห็นแก่ตัวมากไปหากจะให้อีกฝ่ายมายึดติดกับคำบอกรักจากคนใกล้ตายอย่างเขาในตอนนี้
แต่เฟิงเซียวชิวแม้จะไม่ได้ยินอีกฝ่ายพูด แต่เขาก็ไม่ได้โง่ที่จะไม่เข้าใจว่าชิงอวี๋ก็คงจะรักเขาเหมือนกันถึงได้ถาม
แต่ไม่นานนักชิงอวี๋ก็หลับตาลงขณะที่ยังคงไว้ซึ่งรอยยิ้มอยู่ และมือของเขาก็ตกลงตามแรงโน้มถ่วง
“ไม่นะไม่ ไม่!!” เฟิงเซียวชิวร้องลั่นด้วยความเสียใจจนทำให้พลังจิตของเขาระเบิดพุ่งสูงขึ้นก่อให้เกิดไม่คลื่นกระแทกกระจายออกไปรอบตัว
เฟิงเซียวชิสได้ปลุกพลังจิตขึ้นมาได้ระยะหนึ่งแล้วแต่ยังไม่สามารถใช้อะไรมันได้ แต่ด้วยอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากการตายของชิงอวี๋ ทำให้พลังจิตของเขาถูกขึ้นสูงและถูกบังคับข้ามขีดจำกัดขึ้นไปอีก
.
.
เวลาผ่านไปในที่สุดเฟิงเซียวชิวก็เขาจะค่อยๆ สงบลง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพลังจิตของเขาได้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพราะมันมีผลต่อจิตใจของเขาด้วย
ผลของการข้ามขีดจำกัดของพลังจิตนั้นมันไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนไร้หัวใจแต่อย่างใด แต่มันทำให้เขามีความมีเหตุมีผลมากยิ่งขึ้น เขายังจำคำสัญญาของชิงอวี๋ได้ และเขาก็รู้ว่าชิงอวี๋งไม่อยากให้เขาต้องมาเสียใจแบบนี้ และเขาก็ตั้งเป้าหมายตอนนี้คือการที่จะต้องแก้แค้นให้สำเร็จ
เฟิงเซียวชิวค่อยๆ ยกร่างของชิงอวี๋และเดินจากไป ทิ้งเอาไว้เเพียงร่องรอยจากการระเบิดของพลังจิตของเขาเอาไว้โดยรอบ
.
.
.
และผ่านมาสามปี ในที่สุดเฟิงเซียวชิวก็สามารถแก้แค้นได้สำเร็จ เขาได้ล้มล้างองค์กรแห่งนั้นให้หายไปภายในเวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้น เพราะในเวลาสามปีที่ผ่านมา เขาได้ใช้เวลาไปกับการฝึกฝนและหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการจัดการกับองค์กร
และวันนี้ก็เป็นวันที่ขามาเยี่ยมป้ายหลุมศพองชิงอวี๋อีกครั้ง ในเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เคยลืมคนคนนี้ไปได้เลย และไม่ยคิดที่จะลืมแม้จะต้องจำคความเจ็บปวดนี้ไปตลอดชีวิตก็ตาม
หลังจากนั้นเมื่อเฟิงเซียวชิวพูดคุยกับป้ายหลุุมศพไปซักพัก เขาก็เหมือนจะมองเห็นแสงสีทองแว๊บๆ ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบไป
¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡!¡
[ไรเตอร์] หากมีความคิดเห็นอะไรเพื่อให้ไรท์ปรับปรุงตังเองโปรดคอมเม้นด้วยนะครับ