แม่ทัพหมิงเซ๋ยหลี่มีบุตรสาวเพียงคนเดียว คุณหนูผู้นี้ตั้งแต่อายุสองขวบก็สูญเสียมารดาไปเสียแล้ว แต่โชคดีนักที่แม่ทัพหมิงไม่แต่งอนุเข้าจวน ใครเขาก็รู้ว่าแม่เลี้ยงไหนเลยจะทำดีกับลูกติดสามีโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ทั้งแม่ทัพยังรักและหวงแหนบุตรสาวคนนี้ดั่งแก้วตาดวงใจ เอาอกเอาใจจนนางเสียคน นิสัยก้าวร้าวปากคอเราะร้าย ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วเมืองหลวง ต่างกับโครงหน้ารูปเปลือกไข่นั้นราวฟ้ากับเหว นัยน์ตาเรียวสวย แพขนตางอนดก จมูกโด่งรับกับริมฝีปากบาง ราวกับนางพญาจุติมาเกิดก็ไม่ปาน ตอนหน้านิ่ง ๆ ไม่แสดงอารมณ์ก็ดีอยู่หรอก แต่เมื่อถึงคราวไม่ได้ดั่งใจขึ้นมา ก็เอะอะโวยวายด่าทอไปจนบรรพบุรุษในหลุมยังมีสะดุ้ง!!
มีโองการลงมาว่าฮ่องเต้ได้พระราชทานสมรสคุณหนูหมิงผู้นี้กับเว่ยฉีอ๋อง ชาวบ้านต่างซุบซิบกันสนุกปาก ไม่รู้จวนแม่ทัพหมิงจะแตกตื่นกันเพียงใด คุณหนูผู้นั้นไม่บันดาลโทสะจนเผาจวนให้วอดไปแล้วหรอกหรือ
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเว่ยอ๋องผู้นี้เป็นโอรสที่ถูกฮ่องเต้ทอดทิ้ง เป็นใบ้ขาพิการ พระราชทานสมรสให้คนเช่นนี้ไม่ถือเป็นการหยามเกียรติแม่ทัพหมิงหรอกหรือ
เว่ยฉีอ๋องเป็นโอรสในฮ่องเต้กับกุ้ยเฟ่ยเหนียงฉาน อนุที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุดในบรรดาหญิงข้างกาย มารดาเป็นที่รักถึงเพียงนี้ คนเป็นลูกไหนเลยจะเป็นที่ชังได้ แต่เมื่ออายุครบ 10 ปี ก็ได้เกิดเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น กุ้ยเฟ่ยถูกวางยาเสียชีวิต เว่ยอ๋องผู้เป็นลูกถูกจับตัว ราชสำนักระสับระส่าย ตกอยู่ในอาการโศกเศร้ากันท้วนหน้า ผ่านไปไม่นานเว่ยฉีอ๋องก็ถูกพบ เนื้อตัวโชกไปด้วยเลือด ลมหายใจรวยรินจวนจะขาดใจอยู่รอมร่อ ฮ่องเต้เมื่อได้รู้ว่าเว่ยฉีอ๋องบุตรคนโปรดถูกพบแล้วก็ให้ดีใจยิ่ง แย้มพระสรวลเป็นครั้งแรกนับจากวันที่สูญเสียกุ้ยเฟยคนรักไป แต่หลังจากได้ทราบรายงานอาการจากหมอหลวงเสร็จก็เกือบเป็นลมล้มพับไปอีกครา เว่ยฉีผู้นี้ถูกตัดลิ้นเป็นใบ้พูดไม่ได้ ขาถูกหักทั้งสองข้าง สวรรค์ใยถึงได้รังแกกันถึงเพียงนี้!!
หลังจากนั้นไม่นาน ขุนนางต่างลงความเห็นว่าเว่ยอ๋องผู้นี้เป็นเพียงองค์ชายไร้ประโยชน์ เป็นตัวเสื่อมเสียต่อราชวงศ์ควรจะขับออกไปนอกเมืองหลวงเสีย ฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นก็ตัดสินใจส่งเว่ยอ๋องไปอยู่เขตชายแดนตั้งแต่นั้นและไม่ใยดีบุตรชายที่เคยโปรดปรานคนนี้นับแต่นั้นมา
—————————————————–
เรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น
ไม่มีการอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ในราชวงศ์ใดทั้งสิ้น
credit ภาพหน้าปก @/shinug48