เสียงแหบโหยจนเกือบพูดไม่ออก ทำให้เกิดอาการไอค่อกแคกสำลักอากาศ
“ปรียา”
“ใช่ ชั้นเพิ่งมาเมืองนี้ได้แค่...”
“หุบปาก ! หนวกหู ! ”
“ว๊าย”
เสียงตวาดก้องราวกับเสียงคำรามของพยัคฆ์ สะท้อนกลับไปกลับมาในบ้านไม้ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งโหยงห่อไหล่ลงด้วยความตกใจกลัวสุดขีด
ทั้่วทั้งร่างสั่นระริก ความกลัวจู่โจมบีบขั้วหัวใจแบบฉับพลันร่างเกร็งแข็งจนลืมหายใจไม่กล้ากระดุกกระดิก น้ำตาเอ่อท้นขึ้นมาแบบเกินควบคุม
“ใครอนุญาตให้ร้องไห้”
ฝ่ามือหนาที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงมือหนังกำมีดสั้นชี้ตรงมายังใบหน้าหวาน
อึก อึก ปรียาฝืนกลั้นก้อนสะอื้นแต่ไม่ทันแล้ว หยดน้ำตากลิ้งไหลลงมาตามร่องแก้ม ทั้งที่พยายามกล้ำกลืนอย่างเต็มที่
“หยุดนะ ! ”
สองมือใหญ่กระชากร่างบางจนลอยลิ่วขึ้นจากพื้น สองขาเรียวห้อยต่องแต่ง กรามแกร่งขบแน่น แววตาราวกับมีกองเพลิงสุมอยู่ภายในจ้องเขม็งมายังดวงตาตื่นตระหนกเบิกกว้างของเหยื่อที่ไร้ทางสู้
เขาหายใจหอบแรงกำหมัดเหมือนกำลังต่อต้านบางอย่างแบบสุดขีด ไอขาวๆถูกพ่นออกมาอย่างหนักหน่วง ลมหายใจร้อนๆของคนตัวโตปะทะเข้ากับผิวแก้มที่ซีดเผือด
“ปะ ปะ ปล่อย ชะ ชั้น”
ความหวาดกลัวประเดประดังไหลบ่าเข้ามาในหัวใจดวงน้อย สติที่มีอยู่เพียงนิดดับวูบลงฉับพลัน.....