มู่จิ่งหลัน จอมนางบัลลังก์มังกร

มีคำกล่าวของนักปราชญ์พเนจร ในแผ่นดินต้าถังมากพร้อมด้วยของดี โบตั๋นงามที่ลั่วหยาง ผ้าไหมดีที่เจียงหนาน ชาหอมที่ซีเจียง ส่วนความรุ่งเรืองล้วนอยู่ที่ฉางอัน

ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลี่ทรงพระปรีชาสามารถ มุ่งมั่นปกครองดูแลแผ่นดินและราษฎร มีฮองเฮาคู่บัลลังค์เป็นยอดสตรีชาติตระกูลดี ทั้งยังมีพระทัยรักมั่น สนมชายานับร้อยมิอาจแทรกแซง

ข้อเสียเพียงอย่างเดียว อาจเป็นเรื่องที่พระองค์มีทายาทเป็นพระธิดาเพียงพระองค์เดียว

องค์หญิงใหญ่หลี่หลิงหลงเป็นพระธิดาผู้ประสูติแต่องค์ฮองเฮา เมื่อคราประสูติ มีนักพรตเฒ่าทำนายว่านางมีวาสนาสูงส่งยิ่งนัก

สองปีถัดจากนั้น องค์ฮองเฮาทรงตั้งพระครรภ์อีกครั้ง ต่างภาวนาวาดหวัง ให้มีองค์ชายน้อยมาสืบราชบัลลังค์

ทว่าพระองค์กลับประสบอุบัติเหตุ เป็รเหจฝตุให้สูญเสียทายาทในครรภ์

เป็นเช่นนี้ถึงสามครั้ง จนพระนางไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก

หลังการแท้งครั้งที่สาม ในปีที่องค์หญิงน้อยมีพระชนมายุ 13 ชันษา นักพรตเฒ่าปรากฏกายอีกครั้ง เขากล่าวว่าเป็นเพราะดวงพระชะตาขององค์หญิงน้อย ที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ สะกดข่มพระอนุชาทั้งสาม

องค์หญิงน้อยฉายแววพระอฉริยภาพ ศาสตร์การปกครองใด ๆ ล้วนแตกฉาน ยังความปิติแก่พระราชบิดาและพระราชมารดาเป็นอย่างยิ่ง

สองปีต่อมา องค์หญิงหลิงหลงเข้าร่วมการสอบหน้าพระที่นั่งกับเหล่าราชบัณฑิตสำนักศึกษาหลวง ทำคะแนนสอบได้เป็นที่หนึ่ง สนทนาโต้ตอบถกประเด็นวิชาการกับอาจารย์ได้อย่างฉะฉาน ความนิยมในหมู่ราษฎรสูงล้น ด้วยเป็นทายาทเพียงคนเดียวของราชวงศ์ ฮ่องเต้มีพระบรมราชโองการ แต่งตั้งองค์หญิงหลิงหลงขึ้นเป็นรัชทายาทสืบราชบัลลังค์ พร้อมทั้งพระราชทานสมรส หมั้นหมายกับคุณชายสกุลโจว นามอี้เทียน เป็นการปลอบใจโจวกุ้ยเฟยไปในตัว

แม้นมีกระแสนิยมในหมู่ราษฎรส่วนใหญ่ กระแสการยกระดับสตรีในยุคนี้เป็นที่นิยมสูง ทว่าเหล่าขุนนางกลับไม่ยินยอมให้นางได้ครองราชย์

เมื่อรู้แน่แล้วว่าฮ่องเต้จะไม่เปลี่ยนพระทัย เหล่าขุนนางภายใต้การนำของโจวกุ้ยเฟย ก็ได้ก่อการกบฏขึ้น

ฮ่องเต้และฮองเฮาถูกปลงพระชนม์ องค์หญิงหลิงหลงหายสาบสูญ สนมชายายอมสวามิภักดิ์ โจวกุ้ยเฟยขึ้นเป็นหวงไท่เฟย ให้น้องชาย โจวอี้เฟย บิดาของโจวอี้เทียน ขึ้นเป็นฮ่องเต้ และเลือกซีไฉเหริน นางกำนัลน้อยที่ตนชุบเลี้ยงมานานขึ้นเป็นฮองเฮา เปลี่ยนราชวงศ์จากหลี่ เป็นโจว

หลิงหลงหลบหนีขึ้นเหนือ ได้รับความช่วยเหลือจากฮองเฮาแคว้นเป่ยหวง สมรสกับอ๋องเจ็ด จางช่านชุน ให้กำเนิดบุตรสาวสองคน

ต่อมารัชทายาทเป่ยหวงขึ้นครองราชย์ สิ้นบุญฮองเฮา ฮ่องเต้พระองค์ใหม่หมายกวาดล้างพระอนุชา หลิงหลงพร้อมทั้งบุตรสาวต้องติดตามพระสวามี ลี้ภัยออกจากแคว้น

ครอบครัวของพวกนางหลบหนีสู่ลั่วหยาง ที่ซึ่งนางได้พบกับกลุ่มคนที่พักดีต่อบิดาของนาง พวกเขาเรียกตนเองว่า ถาคีหยกเขียว จากนามบิดาของนาง หลี่เซิน หลิงหลงเปลี่ยนชื่อแซ่ สร้างตัวตนใหม่ในฐานะเจ้าของกิจการร้านอาภรณ์

บุตรสาวตนโตของนางออกเรือนกับนายกองอนาคตไกลแซ่มู่ ส่วนคนรองออกเรือนกับเจ้าเมืองหนุ่มแซ่เซียว ความหวังและคำสัญญาว่าจะช่วยนางยึดบัลลังค์ของภาคีหยกเขียวค่อย ๆ จางหาย แทนที่ด้วยชีวิตสงบสุขช่วงบั้นปลาย

ตอนที่หลานสาวคนโตของนาง มู่จิ่งหลัน อายุได้ 7 ขวบ นางก็ล้มป่วย และจากไป ภาพของนางที่นั่งปักผ้าริมหน้าต่างเป็นภาพสุดท้ายที่มู่จิ่งหลันจดจำได้

ไม่นานหลังจากนั้น มารดาของมู่จิ่งหลันก็ล้มป่วยและจากไปเช่นกัน ทิ้งมู่จิ่งหลันไว้กับมู่หรงชิว ผู้เป็นบิดา และมู่ไท่เจวี๋ย ผู้เป็นบิดา...

ไม่สิ ยังมีภาคีหยกเขียวและสกุลเซียวที่อยู่ด้านหลังนาง...

ทายาทที่สมบูรณ์แบบของอดีตรัชทายาทหญิงแห่งต้าถัง