บทนำ
"อะไรเนี่ย!! ตัวร้ายของฉันเขาอยู่ดีๆ นังนางเอกตัวดียังเสนอหน้าไปอ่อยเขาอีก! " เสียงบ่นอยากขัดใจของหญิงสาวร่างเล็กวัยยี่สิบสองปีดังขึ้นขณะที่กำลังอ่านนิยายเรื่องโปรด เธอคนนั้นมีชื่อที่แสนจะไพเราะเพราะพริ้งว่าต้นข้าว นางแบบแถวหน้าของเมืองไทย
ถ้าถามว่าทำไมถึงมีเวลามานอนอ่านนิยายน่ะหรือง่ายๆ เลยจ้ะ ช่วงนี้โรคมันระบาดงานหาย แต่ก็นะ ฉันไม่ซีอยู่แล้ว
เพราะ I have มรดก you know?
เห็นแบบนี้ฉันก็ไม่ธรรดาเด้อสิบอกให้
ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลแก้วขัติยะวงศ์ เบื้องหน้าเป็นนักธุรกิจหมื่นล้านส่วนเบื้องหลังคือ เจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่
เห็นชั้นตัวเล็กแบบนี้บอกเลยว่า ขาสั้นๆ ของชั้นเนี่ยเตะก้านคอคนหักมาหลายรายแล้ว ด้วยว่าเป็นลูกสาวคนเดียวและเป็นน้องเล็กของบ้าน ทุกคนจึงตามใจไม่บังคับให้ชั้นต้องไปข้องเกี่ยวกับธุรกิจที่บ้าน แต่ก็ยังมิวายจับชั้นเรียนศิลปะการต่อสู้แขนงต่างๆ พร้อมกับยัยแนนนี่เพื่อนรักของฉัน เพราะนางเองก็เป็นลูกของเพื่อนสนิทปะป๊า ทำให้เราสองคนสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่า ตายแทนกันได้เลยทีเดียว
"อะไรของแกอีกล่ะชะนีน้อย เป็นอะไรอีกคะ" เสียงของแนนนี่เพื่อนสาวสองเอ่ยถามอย่างสงสัย
"จะอะไรอีกล่ะคะกระเทย ข้าวล่ะขัดใจ ตัวร้ายสุดหล่อของข้าวเขาอยู่ของเขาดีๆ ไม่ยุ่งไม่ต้องการบัลลังก์ทองอะไรทิ้งสิ้น แต่นังนางเอกน่ะสิ มาบังอาจหลอกใช้เขา ตัวร้ายของข้าวอุตส่าห์เอ็นดูนังนางเอกเหมือนน้องสาว แต่มันดันทำให้สุดหล่อของข้าวถูกใส่ร้ายข้อหากบฏน่ะสิ! ข้าวแค้นมากเลยกระเทย แหม่ถ้าข้าวเข้าไปในนิยายได้นะ แม่มีตบคว่ำเลยคอยดู!! "
"ใจเย็นค่ะชะนีน้อย เราไปหาอะไรอร่อยกินกันดีกว่า แนนหิวแล้ว" แนนนี่เอ่ยห้ามก่อนที่จะชวนฉันไปหาอะไรทาน
"ไปค่ะกระเทย ข้าวก็หิวแล้วเหมือนกัน " จากนั้น
ขณะที่ทั้งสองสาวกำลังขับรถอย่างสบายอารมณ์อยู่นั้น ทั้งสองสาวก็เริ่มสัมผัสถึงรางร้ายกำลังเคลือบคลานเข้ามา
"แนนกี่คนล่ะทีนี้" ฉันเอ่ยออกน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม ที่ไม่เข้ากับใบหน้าที่แสนน่ารักของฉันเลย
"ไม่ต่ำกว่าสามสิบ ข้าวส่งสัญญาณให้เฮียท็อปรึยัง" แนนเอ่ยถามเสียงเรียบ
ไม่ต้องสงสัยเฮียท็อปคือพี่ใหญ่ของชั้นเอง และเป็นหัวหน้าแก๊งคนปัจจุบันอีกด้วย
"ข้าวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้เชื่อใจแนนนะ แนนรักข้าวนะ " พร้อมทั้งยื่นมือมาจับมือของต้นข้าวส่วนอีกมือก็บังคับรถต่อไป
"ข้าวเชื่อใจแนน! " ทั้งยังจับมือของแนนนี่แน่นขึ้น เพื่อเป็นการสื่อว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดชั้นจะไม่ทิ้งแก
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
" แม่งเอ้ย!! " รถของทั้งสองเริ่มเสียหลัง พวกมันรู้ว่ารถของพวกเธอกันกระสุน มันเลยเลือกที่จะยิงเข้าที่ล้อรถของพวกเธอ
"แนนประคองรถดีๆ นะ ข้าวจะยิ่งพวกมันเอง พวกเฮียๆ จะได้รู้ว่าพวกมันเป็นคนของแก๊งค์ไหน!! "
"ได้!! "
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เอี๊ยด! โคร่ม!!!!!
เสียงรถฝ่ายตรงข้ามเสียหลักทันที
"ข้าวเข้ามาเร็วทางโค้งแล้ว! " แนนตะโกนบอกเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง
"สั-เอ๊ย!! ข้าวรถถูกตัดสายเบรก เราต้องกระโดดลงแล้ว ข้าวโอเคไหม!! "
"เวรเอ๊ย!!! ถ้าฉันรอดกลับไปได้พวกแกตายทั้งรังแน่!! แนนเป็นไงเป็นกัน โดดเลย!! " ฉันสบถออกมาด้วยความหัวเสีย ความตายฉันไม่กลัวอยู่แล้ว เจอแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต
"พร้อมนะข้าว! "
"อื้มมม! "
ทั้งสองสาวกระโดดออกจากรถที่แล่นมาด้วยความเร็ว ทำให้ร่างของทั้งสองสาวกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
ฮึก! คลุกๆๆๆ
ตู้มมมมมมมมมมมม!
เสียงระเบิดจากรถของทั้งสองสาวดังขึ้นภายใต้ก้นเหวลึกดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ
"นายครับน้องสาวมันตายแล้วครับ" เสียงของมือปืนเอ่ยรายงานนายของตนผ่านโทรศัพท์
"แกแน่ใจนะว่าน้องสาวของพวกมันไม่รอด"
"ผมแน่ใจครับ ดูจากสภาพแล้วไม่น่ารอดครับนาย"
"ดี ดีมาก แกรีบกลับมาเอารางวัลที่เหลือซ้ะ! "
"ครับนาย! " น้ำเสียงยินดีอย่างปิดไม่มิดของมันทำให้คนฟังต้องกระตุกยิ้มอย่างสมเพชทันที
"อืม"
หลังจากที่วางสายจากนายจ้างเสร็จมันก็รีบมุ่งหน้าจากไปทันที โดนไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานชีวิตของพวกมันกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว