จบ ข้าคือ....บุตรบุญธรรมของเง็กเซียนฮ่องเต้
82
ตอน
47.4K
เข้าชม
87
ถูกใจ
59
ความคิดเห็น
321
เพิ่มลงคลัง

บทนำ

 

 

แสงแดดยามเช้าสอดส่องผ่านรูรั่วของหลังคากระเบื้องเข้ามา กระทบใบหน้าเยาว์ของเด็กสาว เจ้าของร่างอวบ ผิวพรรณขาวสะอาด เรือนผมยาวกลางแผ่นหลังที่กำลังนอนคว่ำหน้า ที่กำลังนอนครุ่นคิดเรื่องต่างๆในชีวิต

 

ใช่แล้วค่ะ.... 

 

สาวน้อยน่ารักคนนั้น คือฉันเอง

 

เอาล่ะฉันขอแนะนำตัวก่อนก็แล้วกัน ฉันมีชื่อสุดไพเราะเพราะพริ้งว่า นับเดือน ตอนนี้อายุสิบเก้าปี แต่อีกไม่กี่เดือนฉันก็จะอายุครบยี่สิบปีแล้ว

 

ฉันมีพี่ทั้งหมดสามคนชายสองหญิงหนึ่ง ฉันเป็นน้องคนสุดท้อง มีคนมักบอกว่าน้องคนเล็กมักจะมีแต่คนตามใจอยากได้อะไรก็ได้ตามที่หวัง แต่มันไม่ใช่กับนับเดือนคนนี้ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยได้ความรักจากคนเป็นพ่อแม่เลย ของเล่น เสื้อผ้า หรือแม้แต่ สิ่งของเล็กๆน้อยๆ หรือถ้าจะได้จริงๆ ก็มีแต่เสื้อผ้าเก่าๆของพี่สาว

 

"เหนื่อยจังเลย....เกิดมาทั้งทีให้เป็นเหมือนคนปกติแบบคนอื่นเขาก็ไม่ได้" ฉันกับตัวเองด้วยความเคยชิน

 

ใช่แล้วค่ะ ฉันพิการค่ะ ตอนสองขวบได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวของฉันเอง ทำให้ฉันต้องเดินไม่เหมือนคนปกติ และนั่นคือจุดเปลี่ยนของชีวิต ตั้งแต่ที่ฉันเป็นแบบนี้พ่อเลี้ยงกับแม่ฉันมักจะพูดว่าจะเอาฉันไปทิ้ง ถ้าใครบอกว่าเด็กน้อยสองขวบยังไม่ค่อยรู้เรื่อง นั่นเป็นเรื่องที่ผิดมาก เพราะฉันจำได้ทุกคำที่พวกท่านพูดกับฉันตลอด

 

ทุกครั้งที่พวกท่านทะเลาะกันหรือยามที่พี่สาวหงุดหงิด ฉันก็เหมือนที่รองรับอารมณ์ของทุกๆคน คำด่าทอ คำเสียดสี คำหยาบคายต่างๆมาลงที่ฉันหมด ถ้าทุกคนถามว่าฉันเสียใจไหม ฉันตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยค่ะว่าฉันเสียใจมาก เสียใจมากจริงๆ เคยพยายามที่จะฆ่าตัวตายก็หลายรอบเด็กน้อยวัยแปดขวบถึงเก้าขวบพยายามที่จะหนีจากโลกใบนี้ ด้วยการฆ่าแต่ก็มีแสงสว่างในสมองขึ้นมาว่า

 

'สู้สิ.....แค่นี้ก็ท้อแล้วหรอ...ต้องมีชีวิตอยู่สิ ใครจะว่ายังไงอย่าไปใส่ใจ จงมีความสุขกับมันไปให้ได้'

 

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาฉันพยายามถีบตัวเองให้ตั้งใจเรียนเพื่อให้ได้เกรดดีๆ เป็นตัวแทนของโรงไป ประกวดตามที่ต่างๆ จนเป็นที่ชื่นชมของคนอื่นยกเว้นคนในครอบครัว ที่ไม่ว่าฉันจะทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยเห็นความดีฉันเลย แต่กระนั้นฉันก็ไม่ท้อ

 

จนกระทั้งถึงวันเกิดอายุครบสิบแปดปีของฉัน ฉันได้ขี่รถชนกับต้นไม้ข้างทางขณะที่กำลังกลับบ้าน อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน แต่ฉันก็ได้ยินและรับรู้ทุกอย่าง พยายามประคองสติเพื่อที่จะให้คนที่มาช่วยโทรหาครอบครัวของฉัน แต่ก็ไม่มีใครสนใจเลยว่าฉันเป็นอะไร ฉันภาวนาขอให้ตัวเองตายไปเลยจะได้ไม่ต้องอยู่เป็นตัวลำบาก อยู่เป็นตัวถ่วงของพวกท่านเลย

 

แต่ฉันก็รอดมาได้ และฉันก็ไม่ได้เรียนต่อตั้งแต่ตอนนั้น การเรียนเป็นสิ่งที่ฉันรักมาก ฉันเสียใจมากเมื่อพวกท่านบอกว่าไม่ให้เรียนต่อ จนถึงทุกวันนี้ ฉันต้องช่วยพวกท่านทำสวนผลไม้ที่พวกท่านได้เช่าไว้ ช่วยทำทุกอย่าง แม้ว่ามันจะไม่เคยได้เงินค่าจ้างเลยแม้แต่น้อยฉันก็ต้องทำ ทุกวันนี้อยู่ได้เพราะเงินเดือนคนพิการ....

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว