เสน่ห์ปลายจวัก เพื่อรักแท้ Dinner Date

Yuri

เสน่ห์ปลายจวัก    เพื่อรักแท้ Dinner Date

เสน่ห์ปลายจวัก เพื่อรักแท้ Dinner Date

Parichat

Yuri

0
ตอน
112
เข้าชม
1
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

“นดี ฉันอยากให้เธอช่วยหาคู่ให้หน่อย จะได้ไหม” ศศิกานต์เอ่ยกับเพื่อนรักในงานเลี้ยงรุ่นประจำปี ทีปีนี้เป็นปีแรกที่เธอได้มีโอกาสมาร่วมงานด้วย เพราะแต่ละครั้งเธอก็วุ่นวายกับงานจนแทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง

แต่ครั้งนี้ หลังจากที่มองเห็นเพื่อนแต่ละคนทยอยแต่งงาน หรือมีคู่ไปทีละคนสองคน

มันจึงทำให้ศศิกานต์รู้สึกได้ว่า หัวใจของเธอเงียบเหงามานาน และถึงเวลาแล้วที่เธอควรจะมีใครเข้ามาในชีวิตเสียที

รวมทั้ง เพื่อนรักของเธอ ที่เพิ่งเปิดตัวสายไหมคนรักได้ไม่นาน มันจึงทำให้เธอรู้ว่า นดีเองก็มีหัวใจรักผู้หญิงเช่นเดียวกับเธอ

ดังนั้น มันจึงทำให้เธอสะดวกใจที่จะมาคุยกับนดีในครั้งนี้

“หือ ว่าอะไรนะ ศศิกานต์ นางแบบสาวสวยรวยเสน่ห์คนนี้ จะให้ฉันหาแฟนให้นี่นะ บ้าหรือเปล่า”

นดีตกใจในคำบอกเล่าของเพื่อนรัก

ศศิกานต์เพื่อนของเธอนั้นทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่ ทั้งน่าค้นหา และมีข่าวควงคนนั้นคนนี้ที จนเหมือนกับว่า

หล่อนเปลี่ยนแฟนปีละหลายๆ คนมันจึงทำให้นดีถึงกับตกใจในสิ่งที่ได้ยิน

“แล้วนายแบบหนุ่มที่ควงกันออกงานเมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่ใช่แฟนหล่อนหรอกหรือ”

นดีถามถึงนายแบบที่มักจะตกเป็นข่าวกับศศิกานต์บ่อยๆ

“มันก็แค่ข่าว ความจริงไม่ใช่เสียหน่อย ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ฉันก็คงไม่เจอเขา เอาน่า นดี หาแฟนให้ทีสิ เอาให้สวยเหมือนแฟนของเธอเลยนะ”

ศศิกานต์กระซิบเบาๆ ทำให้นดีถึงกับอ้าปากค้าง

“นี่หมายความว่า หล่อน....” ศศิกานต์พยักหน้า

เพราะอาชีพของเธอ เมื่อครั้งแรกที่เข้าวงการ และงานถ่ายแบบของเธอกับนายแบบคนแรกนั้น มันดังเปรี้ยงปร้างและกลายเป็นคู่จิ้นคนใหม่ของวงการไปในทันที มันจึงทำให้ศศิกานต์ต้องรักษาภาพลักษณ์ตรงนั้นไว้

และช่วงเวลานั้นเธอกำลังสนุกกับงาน และก็มีงานเข้ามามากจนทำให้เธอไม่มีเวลาได้มองใคร

มาทุกวันนี้ งานของเธอกำลังเข้าที่ และเธอก็ไม่ได้รับงานมากเหมือนก่อน นอกจากจะดูแลโมเดลลิ่งของตัวเองที่กำลังอยู่ตัวและมีคนมาช่วยบริหารจนเธอสามารถวางมือได้บ้าง

ดังนั้น เมื่อรู้สึกได้ถึงความเงียบเหงาของหัวใจที่มองเห็นเพื่อนๆ แต่ละคนทยอยมีคู่กันไปจนเกือบจะหมดรุ่น มันจึงทำให้เธออยากที่จะหาใครสักคนมาอยู่ข้างๆ ใจบ้าง

แต่ก็อีกนั่นล่ะ คนอย่างเธอ จะให้ทำอะไรที่เรียบๆ ง่ายๆ มันก็คงไม่หวือหวา และตื่นเต้น

และตัวเธอเองก็เป็นคนที่อยู่ในวงการแบบนี้ด้วยแล้ว

หากจะทำอะไรทั้งที มันก็ต้องให้ดังเปรี้ยงปร้าง และเป็นที่กล่าวขานกันไปทั้งวงการไม่ดีกว่าหรือ

อย่างน้อย มันก็มีผลกับธุรกิจของเธอ และงานของเธอด้วยเช่นกัน

“แล้วจะให้หายังไงล่ะ สเปคของหล่อนเป็นยังไงบ้าง”

แม้จะตกใจที่เห็นเพื่อนเปิดเผยตัวตนออกมาแบบนี้ แต่ มันก็ทำให้นดีรู้สึกดี เพราะอย่างน้อยเพื่อนสนิทของเธอก็เป็นคนที่มีใจรักแบบเดียวกัน

นี่ถ้ารู้มาก่อนว่า ศศิกานต์สาวสุดฮอทของรุ่นชอบผู้หญิงล่ะก็ เธอจะเข้าไปจีบเป็นคนแรกเลย 

“ก็ฉันได้ข่าวว่าเธอทำรายการ Come Dine With Me นั้นขึ้นมาเพื่อช่วยรักษาแผลใจให้กับน้องศรใช่ไหม แล้วรายการนั่นก็เป็นที่นิยมของคนทุกวัยแล้ว เธอไม่คิดจะหาไอเดียใหม่ๆ มาทำเลยหรือ ทั้งงาน ทั้งเงินก็จะมีมาตลอดเวลา”

“ยายน้ำใช่ไหม ที่เอาเรื่องนี้ไปพูด”

นดีหันไปโทษเพื่อนสนิทรุ่นน้องอีกคน

“อย่าไปว่าน้ำเขาเลย เขาก็แค่เล่าให้ฟังตอนเผลอเท่านั้นล่ะ”

เพราะเธอเองก็เป็นอีกคนที่น้ำนิ่งให้ความสนิทสนมด้วยเช่นกัน ดังนั้นเรื่องราวต่างๆ มักจะถูกนำมาเล่าสู่กันฟังเสมอ

“แล้วไอ้ไอเดียใหม่ๆ ที่พูดมา มันจะทำให้หล่อนมีคู่ได้ยังไงย่ะ”

นดีนึกหมั่นไส้เพื่อนรักและน้ำนิ่ง ที่พากันรู้เรื่องของเธอดีเหลือเกิน

“Dinner Date ไง เธอเองก็อยู่อังกฤษมาหลายปี ฉันเองก็ชอบรายการนี้ ฉันว่า เอารายการนี้มาทำที่เมืองไทยดีกว่า ถือว่าเป็นการต่อยอดรายการเก่าของเธอไปพร้อมๆ กันไง”

ศศิกานต์เสนอไอเดีย ทำให้นดีถึงกับนิ่งพร้อมกับใช้ความคิด

 

Dinner Date รายการที่นำคนโสดแต่ละคนเข้ามาร่วมรายการ

โดยจะมีคนหนึ่งที่ต้องการจะตามหารักแท้ผ่านรสชาติอาหาร และให้เลือกผู้เข้าแข่งขัน 3 คน จากผู้ที่ถูกคัดมาทั้งหมด 5 คน

จากนั้น สาวๆ แต่ละคนก็จะลงมือทำอาหารกันอย่างสุดฝีมือ เพื่อที่จะเอาชนะใจผู้ร่วมรายการคนนั้นให้ได้

และที่สำคัญ

ผู้เข้าแข่งขันจะไม่มีวันได้รู้ว่า ผู้ที่จะมาชิมอาหารฝีมือตนนั้นเป็นใคร จนกว่าจะถึงเวลา

และก็ไม่แปลกใจเลย ถ้าศศิกานต์ นางแบบสาวสวยเพื่อนรักของเธอต้องการที่จะเป็นคนหนึ่งที่เข้ามาเล่นในเกมนี้

อาชีพในวงการบันเทิง การทำอะไรสักอย่างที่ตัวเองอยู่บนหน้าจอ หรือเป็นที่กล่าวขาน นั่นมันก็มีผลกระทบในงานที่ทำด้วยเช่นกัน

แสดงว่า เพื่อนของเธอคิดคำนวณถี่ถ้วนแล้วว่า

งานนี้ นอกจะได้คนมาครอบครองหัวใจ ยังมีผลกำไรไปถึงงานของหล่อนด้วยเช่นกัน

“เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ต้องยกให้ศศิ ใช่ไหม”

ศศิกานต์หัวเราะในคำหยอกเย้าของเพื่อน

“ตกลง ไอเดียดีมาก ถ้าอย่างนั้น แกกับยัยน้ำ และฉันจะช่วยกันทำรายการนี้ขึ้นมา แต่ฉันก็คงต้องประชุมและชี้แจงรายละเอียดให้กับนายทุนของฉันด้วยเช่นกัน ซึ่งฉันว่า เขาคงไม่ปฏิเสธ ถ้ารู้ว่าหล่อนคือคนเข้าเล่นเกมนี้เป็นคนแรก เพราะเขาเองก็อยากให้หล่อนมาร่วมงานมาตั้งนานแล้ว”

นดีรีบรับปากทันทีเพราะอย่างน้อย ศศิกานต์ก็เป็นนางแบบที่แสนจะฮอทในยุคนี้และทางเจ้านายของเธอก็พยายามส่งขนมจีบเพื่อจะให้มาร่วมงานกันหลายต่อหลายครั้ง

แต่ก็ไม่เคยได้คิวของหล่อนเสียที

งานนี้ ก็คงมีแค่คำว่า เยส เพียงคำเดียวเท่านั้นที่จะได้รับ และอนุมัติรายการใหม่ทันทีอย่างแน่นอน

 

จันทร์ฉาย  

“ยายจันทร์ เดินมันให้เร็วๆ หน่อยได้ไหม เยื้องย่างเป็นนางงามไปได้”

เสียงตะโกนดังขึ้นจากหน้าบ้าน ทำให้จันทร์ฉาย หรือจันทร์ของพี่ๆ ต้องเร่งฝีเท้าให้ไวกว่าเดิม

“ขอโทษค่ะพี่ตะวัน จันทร์กำลังทำของว่างอยู่ในครัว เลยทำให้ไม่ได้ยินเสียงเรียกของพี่”

จันทร์ฉายรีบเอ่ยปากขอโทษก่อนที่จะรีบรับของที่พี่ชายของเธอยื่นมาให้

“โอ๊ย หนักนะพี่ตะวัน โยนลงมาได้ไง จันทร์เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ เองนะ”

จันทร์ฉายโวยวายเมื่อแขนลู่ลงไปทันทีที่รับของมาจากพี่ชายของเธอ

“อ้าว ฉันก็นึกว่าแกเป็นหญิงเหล็ก งานหนักก็เอา งานเบาก็สู้ ของเบาๆ แค่นี้ ไม่น่าจะเกินแรงแก”

ตะวันหัวเราะกับอาการของน้องสาวคนเดียว ทำให้จันทร์ฉายถึงกับหน้าคว่ำ

“จันทร์เป็นผู้หญิง ไม่ใช่หญิงเหล็ก”

จันทร์ฉายตะโกนตามหลังพี่ชายที่เดินหัวเราะจากไป

“เออ รู้แล้ว ของนั่นก็รีบเอาเข้าไปในตู้เย็นซะ เดี่ยวจะเน่าเสียก่อน”

ตะวันไม่สนใจ เพราะของที่เขาหิ้วมานั่น มันก็หนักพอสมควร

 

ตะวัน และจันทร์ฉายอาศัยอยู่ที่บ้านไร่ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่นัก

บ้านไร่แห่งนี้ก็ทำสวนผักออแกนิค และผลไม้ต่างๆ ที่ปลอดสารพิษที่กำลังเป็นที่นิยมของคนทั้งประเทศในเวลานี้

และพืชผักของเธอก็เป็นที่นิยมของตลาด เพราะทั้งสดและสะอาด รวมทั้งราคาก็ไม่แพงจนเกินไป

ชีวิตของเธอก็ไม่ได้มีเพียงแค่พี่ตะวันที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาในบ้านไร่แห่งนี้

เธอยังมีพี่เมฆ และพี่ดาราที่ทำสวนอาหารอยู่ในกรุงเทพ และที่ร้านก็ยุ่งมากเสียจนพ่อกับแม่ของเธอต้องไปช่วยงานอีกแรง

 

“ยายจันทร์ อายุป่านนี้ แล้วทำไมแกถึงไม่มีแฟน?”  

ตะวันถามขึ้นเมื่อทั้งคู่มานั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร หลังจากเก็บทุกอย่างเข้าที่

“ว่าแต่จันทร์ ตัวเองก็ยังหาแฟนไม่ได้เหมือนกันล่ะน่า”

จันทร์ฉายค้อนขวับให้พี่ชาย

ตะวันหัวเราะถูกใจ

“ผู้ชายนะ ยิ่งอายุมาก ยิ่งเป็นที่ต้องการของสาวๆ แต่เรานะ ยิ่งอายุมาก ยิ่งขายไม่ออก”

ตะวันกับจันทร์ฉายจะมีความสนิทสนมกันมากกว่าทุกคนในบ้านเพราะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่า ส่วนพี่ดารากับพี่เมฆของเธอนั้นไปอยู่ที่กรุงเทพตั้งแต่เล็ก นานๆ ถึงจะกลับมาบ้านสักครั้ง

“เออนี่จันทร์ ฉันว่าแกต้องไม่ชอบผู้ชายแน่ๆ”

จู่ๆ ตะวันก็เอ่ยขึ้นมา พร้อมกับจ้องหน้าน้องสาวคนเล็กเขม็ง

จันทร์ฉายสะดุ้ง หันมาทำตาเขียวใสพี่ชาย

“บ้าหรือเปล่า พูดได้ไงว่าไม่ชอบผู้ชาย”

“อ้าว ก็ในห้องแกมีแต่รูปผู้หญิงเต็มไปหมด แถมรูปใครนะ นางแบบดังๆ คนนั้นนะ เห็นแกแปะภาพเขาไว้เต็มผนังห้องเลย”

เพราะทั้งคู่ไม่เคยมีความลับต่อกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ตะวันจะรู้เรื่องราวของน้องสาวสุดที่รักเป็นอย่างดี

“ก็เขาสวยไม่ใช่หรือพี่ หน้าตาก็สวย หุ่นก็เซ็กซี่ โหย ถ้าได้นอนกอดนะ จันทร์จะไม่ยอมปล่อยเลย”

จันทร์ฉายหลุดเผลอความในใจออกมา

ตะวันหัวเราะลั่น

“นั่นไง ว่าแล้ว แกชอบผู้หญิงคนนั้นนี่เอง”

จันทร์ฉายถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกที่เผลอหลุดความรู้สึกของตัวเองออกมา

“ตอนนี้นะ ใครๆ ก็พูดถึงแต่คุณศศิกานต์ แล้วพี่ตะวันไม่คิดว่า เธอสวยบ้างหรือยังไง”

“สวยนะสวย แต่ ไม่ใช่สเปคของฉันนะสิ สวยเกินไป เฉี่ยวเกินไป เปรี้ยวเกินไป โอ๊ย ไม่ไหวล่ะ” ตะวันส่ายหน้า

ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ ตะวันพี่ชายของเธอก็ไม่เคยพาใครเข้าบ้าน หรือแนะนำผู้หญิงคนไหนในฐานะแฟนเลยสักคน

“เออ นี่ตอนเข้ากรุงเทพวันนี้นะฉันเห็นป้ายโฆษณาหาคนร่วมเล่นเกมของช่องหนึ่ง เป็นการแข่งขันแรกของเกมนี้เลยนะ และเขาก็ต้องการสาวชาวบ้านธรรมดาไปร่วมเล่นเกม เลือกผู้หญิงด้วยนะ ฉันก็เลยยื่นใบสมัครแทนแกไปเรียบร้อย”

ตะวันพูดถึงรายการใหม่ที่เขาไปเห็นในโฆษณา และเป็นที่ฮือฮากันอยู่ในขณะนี้

“เฮ้ย ได้ไง ทำไมไม่ถามความสมัครใจของจันทร์ก่อนล่ะ”

จันทร์ฉายโวย

“อ้าว ก็ในโฆษณารับสมัครนั่น เขาต้องการพวกผู้หญิงรักผู้หญิงนี่นา และฉันก็มองว่า แกก็น่าจะใช่หนึ่งในนั้น ฉันก็เลยถือโอกาสสมัครซะเลย”

ตะวันพูดโดยไม่สนใจที่จะมองหน้างอๆ ของน้องสาวสุดที่รักเลยสักนิด

ตอนนี้หล่อนกำลังมีอาการลมออกหูอย่างเห็นได้ชัด

“เอาน่าจันทร์ ตอนนี้พี่มีโครงการจะทำโฮมสเตย์เพิ่มอีกอย่าง ถ้าจันทร์ได้รับเลือกเข้าไปเล่นเกมนะ อย่างน้อย จันทร์ก็จะได้ช่วยโปรโมทโฮมสเตย์ของเราด้วยไง น่านะ ถือว่าช่วยๆ กัน”

ตะวันลูบหัวจันทร์ฉายที่กำลังหน้างอเป็นปลาทูคอหักจากสมุทรสงคราม นั้นอย่างเอาใจ

“เฮ้อ พี่ตะวันนี่นา ทำอะไรไม่ปรึกษาจันทร์สักคำ เล่นมัดมือชกกันแบบนี้ เอาเหอะ ขอให้เขาเลือกจันทร์เข้าไปก่อนก็แล้วกัน เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที”

แม้จะไม่ค่อยชอบใจนัก แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว มันก็ต้องเลยตามเลย เออออห่อหมกไปตามกัน

แค่งานในบ้านไร่ของเธอก็ล้นมืออยู่แล้ว นี่ยังคิดจะทำโฮมสเตย์อีก

แล้วจะแบ่งร่างไปทำยังไงล่ะนี่ จันทร์ฉายบ่นให้กับตัวเอง

เพราะทุกวันนี้ งานทุกงานในไร่ เธอและตะวันจะลงมือทำด้วยตัวเอง แม้จะมีคนงานในไร่มากมาย แต่ เธอก็สนุกกับการที่ได้เข้าไปจับนั่นจับนี่ และเป็นคนดูแลทุกอย่าง

 

บ้านไร่ของเธอได้ชื่อว่า เป็นบ้านไร่ที่นำเสนอแต่ผลผลิตที่ปราศจากสารพิษ พืชผักและผลไม้ที่ปลูกก็จะได้รับการดูแลและใส่ใจมากทุกชนิด

แม้ไร่จะไม่ใหญ่มากนัก

แต่ มันก็ทำกำไรให้กับครอบครัวได้มากพอที่จะมีกินมีใช้ไปตลอดทั้งปี

และไร่นี้ พี่ตะวันและเธอก็เป็นคนริเริ่มและบุกเบิกมาตั้งแต่แรก

ดังนั้น เธอจึงรักและผูกพันกับที่นี่มากกว่าบ้านที่กรุงเทพเสียอีก

ส่วนความคิดเรื่องโฮมสเตย์นั้น มันก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดี เพราะเธอเองก็อยากที่จะให้คนในสังคมปัจจุบันได้เข้าถึงชีวิตที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

และถึงแม้ว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะก้าวล้ำหน้าไปมาก แต่ครอบครัวของเธอก็จะใช้มันเท่าที่จำเป็น

โทรศัพท์มีไว้เพื่อติดต่อคนในครอบครัว

ทีวีมีไว้เพื่อติดตามข่าวสารบ้านเมือง

ส่วนอินเทอร์เน็ต ก็มีไว้เพื่อหาข้อมูลต่างๆ ที่จะนำมาพัฒนาและปรับปรุงบ้านไร่ของเธอ

และโทรศัพท์มือถือนั้น ทุกคนในครอบครัวก็จะใช้แค่สำหรับรับสายและโทรออกเท่านั้นด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้ติดต่อสื่อสารกันเมื่อมีคนใดคนหนึ่งไม่ได้อยู่ในบ้านเท่านั้น

ส่วนร้านอาหารในกรุงเทพนั้น ก็เช่นกัน ถ้าอยากที่จะเห็นหน้ากันบ้าง เธอก็จะใช้ Skype จากในคอมพิวเตอร์รุ่นโบราณในการติดต่อกันแค่นั้นเอง

นอกเหนือไปกว่านั้น ทุกคนในครอบครัวต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า มันไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด

หรือว่า ครอบครัวของเธอจะเชยไปแล้วสำหรับสังคมยุคนี้

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว