เพื่อนครับ...เรียกที่รักได้ป่าว...(18+)(ช็อปคล้องกาย ใจคล้องเกียร์)

รักวัยรุ่น

จบ เพื่อนครับ...เรียกที่รักได้ป่าว...(18+)(ช็อปคล้องกาย ใจคล้องเกียร์)

เพื่อนครับ...เรียกที่รักได้ป่าว...(18+)(ช็อปคล้องกาย ใจคล้องเกียร์)

สตอเบอรี่สีพิ้งค์

รักวัยรุ่น

48
ตอน
27.1K
เข้าชม
137
ถูกใจ
3
ความคิดเห็น
277
เพิ่มลงคลัง

"เฮ้ย! มิลินแกเสร็จยังวะ แกแต่งตัวหรือแกซ้อมตายวะ นานขนาดนี้"เสียงที่ฟังดูจะหงุดหงิดไม่น้อยดังมาจากหน้าห้องของผู้ที่กำลังควานหาเข็มขัดมารัดกระโปรง

"เสร็จแล้ว" หญิงสาวรีบตอบกลับไปทันควันแล้วรีบเดินถือกระเป๋าสะพายข้างออกมาจากห้องพักของตัวเอง

"แกจะโวยวายเสียงดังอะไรวะ นที แกรอฉันไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ"หญิงสาวรีบดุคนใจร้อน "หิว เว้ย! หิว ไปเสร็จแล้วเชิญเสด็จครับคุณผู้หญิง" ชายหนุ่มนามว่านทีก็ล้อเลียนตบท้ายก่อนจะเดินนำหญิงสาวลงมายังชั้นล่างของตึกหอพักนักศึกษา อ่ะ...ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะคะว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ฉัน มัลิตา อนารักษ์ หรือเรียกสั้นๆว่า มิลินก็ได้ค่ะ ส่วนผู้ชายปากหมาเมื่อกี้ ชื่อชลนที เกียรติกูล หรือเรียกสั้นๆว่านที นั้นแหละค่ะ เราสองคนเป็นเพื่อนกันค่ะถามว่าเป็นเพื่อนกันได้ยังไงคงต้องเท้าความยาวไปจนถึงปี1เลยละค่ะ เราสองคนแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ไม่ว่าจะนิสัย การแต่งตัว ความชอบ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

มิลินเป็นคนเฟรนลี่ ชอบยิ้ม พูดเพราะ คุยเก่ง

ส่วนนทีหรือค่ะ หน้าบึ้ง ไม่คุยกับใคร ชอบเก็บตัว พูดทียังกับมีหมาวิ่งออกมาเป็นร้อยตัว แต่นี้ละค่ะ ที่เป็นสาเหตุให้เราเป็นเพื่อนกัน ตอนปี1 นทีไปมีเรื่องกับรุ่นพี่ด้วยสาเหตุนางหยิ่งไม่ค่อยพูดและก็หน้าตาดี ผู้หญิงก็จะชอบนางเยอะ ไอ้ที่เยอะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ที่ซวยคือแฟนรุ่นพี่คณะดันมาขอเบอร์นางนี้สิค่ะ แล้วแฟนพี่เขาก็ดันมาเจอเข้า เลยมีฉากในกีฬามันๆทันทีค่ะ น่าจะได้กันสักหมัดสองหมัด คิ้วแตกปากเจ่อกันทั้งสองฝ่ายเลยค่ะ ตอนนั้น มิลินเข้าไปเห็นเหตุการณ์พอดี ซึ่งตกใจมากแต่เห็นท่าทีเหมือนรุ่นพี่จะเข้าไปรุมนาง ก็เลยตะโกนให้ยามที่ปั่นจักรยานอยู่แถวนั้นเข้ามาช่วยห้าม เราก็เข้าไปช่วยพยุงนางด้วยความหวังดี แต่สิ่งที่นางตอบกลับมาคือ "อย่ามายุ่ง" เอิ่ม เราก็แค่คิดในใจ คนอุส่าห์หวังดีช่วย แต่ทุกคนอย่าเพิ่งคิดว่ามิลินจะใจร้ายทิ้งนางไปนะคะ ถึงในใจจะคิดอย่างนั้นก็เถอะ แต่มิลินมีความเป็นมนุษย์มากพอ เห็นคนเจ็บเราก็ต้องช่วยเหลือ ถึงเข้าจะไม่อยากให้ช่วยก็เถอะค่ะ😄 "นี้นายอ่ะ ลุกก็ไม่ไหวอยู่แล้วให้เราช่วยเหอะ อย่าทำเป็นเก่งเลย"

นทีเขาก็มองหน้ามิลินพักหนึ่ง แล้วเขาก็พูดว่า"ถ้าจะช่วยแล้วก็ช่วยทำแผลให้ด้วย"มิลินก็พยักหน้าด้วยความงงๆ แต่ก็เออ ก็ช่วยแล้วก็ต้องช่วยแหละ หลังจากทำแผลให้เขาเสร็จสรรพ และระหว่างทำแผลเราก็คุยกันไป แต่จะใช้คำว่าเราคุยกันก็คงไม่ถูก เพราะมิลินคุยอยู่คนเดียวนางก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างแต่ไม่มีคำถามหลุดมาจากปากนางเลยค่ะ แต่ก็พอทำให้มิลิน พอจะรู้ว่านางชื่อนที เรียนคณะวิศวะ สาขาโยธา ต่อให้นางไม่ถามมิลิน มิลินก็แนะนำตัวเองอยู่ดีตามมารยาท😄 มิลินก็เรียนวิศวะเหมือนกันค่ะ แต่เรียนสาขาเคมี ก่อนอื่นมหาวิทยาลัยที่เราเรียนตอนปี1 เราจะเรียนรวมกันทุกสาขาเลยค่ะ ที่อยู่คณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า คอม พอลิเมอร์ โยธา เคมี คือเราต้องเรียนปรับพื้นฐานเหมือนๆกัน จะเริ่มแยกกันเรียนตามสาขาก็ช่วงปี2-3คะ แต่แปลกมั้ยค่ะทุกคนหลังจากวันนั้นที่มิลินทำแผลให้นทีไป นทีก็มาวนๆเวียนๆในชีวิตมิลินจนถึงทุกวันนี้ละค่ะ ไม่ว่าจะเข้าทำกิจกรรมคณะ กีฬาสี เรียนวิชาพื้นฐาน นทีก็อยู่ข้างๆมิลินมาตลอด ซึ่งตอนนี้เราอยู่ปี3 กันแล้วค่ะ ถ้าวันไหนมีเรียนพร้อมกันถึงจะคนละวิชาก็เหอะ นทีก็จะมารับมิลินไปกินข้าวแล้วก็ไปส่งห้องเรียน แยกย้ายกันไปเรียน จนเพื่อนๆในคณะเขาคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแล้วอ่ะค่ะ จนมิลินโสดไม่มีใครเข้ามาจีบจนถึงทุกวันนี้ละค่ะ แล้ววันนี้ก็เช่นเคยเรามีเรียน9โมงเช้าพร้อมกัน ซึ่งเรียนคนละที่ มิลินต้องไปเรียนตึกคณะฝั่งแลปเคมี ส่วนนทีก็ต้องเข้าแลปโยธา แต่ก็ต้องไปกินข้าวกับนางอยู่ดีค่ะ "คิดอะไรอยู่วะไม่กินข้าว"เสียงนทีถามขึ้น จึงทำให้มิลินหลุดจากห้วงความคิดของตัวเอง

"ป่าว ก็เนี้ยกำลังจะกินอยู่"มิลินตอบกลับนที

แล้วต่างฝ่ายก็พากันก้มหน้าก้มตาทานข้าวของตัวเอง

"มิลิน ฉันได้ยินว่าแกกำลังหางานพิเศษทำหรือ" นทีถามมิลินหลังจากต่างฝ่ายต่างเงียบไปเพราะกำลังก้มหน้าก้มตาทานข้าวในจานของตัวเอง "อือ ใช่ ช่วงนี้ที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงินนิดหน่อย" มิลินพูดด้วยความกังวล "แกไปทำร้านที่ฉันร้องเพลงอยู่มั้ยละ ช่วงนี้เห็นเขาขาดเด็กเสิร์ฟอยู่"นทีแนะนำเพื่อน "เฮ้ย! จริงดิแกพาฉันไปสมัครเลย ฉันอยากได้งานนี้ จะได้อาศัยรถแกไปกลับด้วย ได้ประหยัดไปอีก"

มิลินตอบด้วยความกระตือรือร้น เพราะช่วงนี้ที่บ้านเธอมีปัญหาเรื่องการเงินเนื่องจากพ่อล้มป่วยแม่ก็ต้องทำงานคนเดียวแล้วก็ยังต้องกลับมาดูแลพ่ออีก เธออยากช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน เพราะเธอรู้ดีว่าแม่ต้องเหนื่อยแค่ไหนตอนนี้ ไหนจะค่าเทอมเธอ ค่าอยู่ค่ากินเธอและที่บ้าน แล้วก็ยังค่ารักษาพยาบาลพ่อ "เหตุผลหลักของแกคือจะให้ฉันขับรถไปรับไปส่งแกใช่มั้ย"นทีพูดขึ้นอย่างรู้ทันเพื่อนตัวเอง อ่ะ...อีกอย่างนทีนางร้องเพลงเพราะมากคะทุกคน เห็นนางปากหมาอย่างนี้ นางก็ร้องเพลงตามผับกลางคืนสาวกรี๊ดเต็มเลยนะคะ แถมได้ตังค์อีกต่างหาก ซึ่งบ้างครั้งก็ไม่เข้าใจ อยากจะบอกว่าบ้านนางรวยมากพ่อแม่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหา แต่นางก็ยังชอบหาเงินใช้เองอยู่ดีค่ะ แต่นี้น่าจะเป็นข้อดีที่ทำให้นทีดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน เพราะเป็นลูกชายคนเดียวเป็นความหวังของพ่อแม่เพื่อไปสานต่อธุรกิจที่บ้าน นทีเลยถูกเลี้ยงให้รู้จักพึ่งพาตัวเองและเอาตัวรอดในทุกๆสถานการณ์

"งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันพาแกไปสมัครแล้วกัน" นทีบอกกล่าวมิลินก่อนจะพากันแยกย้ายกันไปเรียน

***ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าเรื่องราวป่วนๆ ชวนให้หวั่นไหว กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากพรุ่งนี้กันละค่ะ มาดูว่าเพื่อนรักจะกลายมาเป็นรักเพื่อนได้ยังไง ในตอนต่อไปค่ะ***

(แวะมาให้กำลังใจกันได้นะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ)

#ไรท์ขอฝากนิยายเรื่องแรกด้วยนะคะ ไรท์ตั้งใจเขียนมากๆเลยค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว