…………หยาดน้ำตานั้น รินรดลงใน หัวใจข้า…..
……….. เหมันต์ ล่วงผ่าน คิมหันต์จารจร วสันต์หวนคืน….
…………ล่วงวัน ผ่านเวลา ใจข้านั้น……
..............กลับมิเคยหวนคำนึง…….
………..หากจันทร์เสี้ยวดังคมเคียว สะบันรัก เจ็บปวดนัก……….
………..แต่ข้ามิอาจหักอาวรณ์……………………
“ความเกลียดอย่างไรเล่า คุณหนูหลี่” หลี่ชินอ้ายถอนหายใจ เสียงแผ่วเบาพึมพำเหมือนละเมอ
“ดียิ่งเพคะ อย่างน้อยก็ยังมีความเกลียด”
หวางอินฉี ตรงเข้าช้อนร่างนางพาก้าวเดินไปที่เตียงนอน ม่านเตียงถูกกระชากลงมาอย่างไม่แยแส หลังม่านไหมคลุมเครือร่างบางนอนนิ่งยามเสื้อผ้าถูกกระชากออกจากกาย มือเรียวกำผ้าปูที่นอนแน่น ยามคนบนร่างใช้ริมฝีปากกดย้ำไปจนทั่วร่าง มือแข็งแรงบีบเค้นที่ทรวงอกอย่างไม่ปรานี หลี่ชินอ้าย บ่ายหน้าหนียามเขาหยัดกายขึ้นมาบดขยี้ริมฝีปากบาง
หวางอินฉีงหยุดชะงักก่อนจับใบนางให้หันกลับมา “เจ้าเป็นเมียข้า ได้ยินหรือไม่ หน้าที่ของเจ้ามีเพียงอุ่นเตียงให้ข้า ชินอ้าย” หวางอินฉี กดจูบลงไปที่ริมฝีปากบางอีกครั้งอย่างสุดยับยั้งใจ
ราตรีวสันต์ในคืนเข้าหอที่ผ่านมาเรียกร้องให้ต้องการในตัวนางอย่างไม่รู้อิ่ม ความรู้สึกยามอยู่ในร่างกายนางยังตราตรึงเร่งเร้า ดวงตาจ้องเขม็งไปที่ดวงหน้าของนาง ยามแทรกร่างของตนเข้าไปในคราเดียว
สตรีใต้ร่างสะดุ้งสุดตัวกัดปากแน่น หวางอินฉีดึงร่างบางขึ้นมานั่งบนกายตน ปากดูดเม้มผลอิงเถาสีชมพูซ้ายขวาเหมือนหิวโหย ร่างบางผวาเข้ากอดคอ ก่อนซบหน้านิ่งอยู่บนบ่าแกร่ง มือเรียวกุมสะโพกนางไว้มั่นก่อนนำพาร่างนั้นขึ้นลง จากเชื่องช้า กลับเร่งเร้าขึ้นตามแรงอารมณ์ ความสุขสมทวีขึ้นจนเปล่งเสียงครางต่ำอยู่ข้างหูนาง
ร่างบางถูกวางลงบนเตียงอีกครั้ง หวางอินฉีกดกายเข้าหาร่างเล็กอย่างหนักหน่วง ทุกการเคลื่อนไหวเรียกเสียงสะอื้นแผ่วเบาจากนางเป็นระยะ แรงปรารถนาพุ่งทะยานจนถึงขั้นสุด ก่อนจะฟุบร่างลงบนตัวนาง
เรื่องราวระหว่างคนสองคน ฝ่ายหนึ่งรัก... รักมาเนิ่นนาน ทำได้ทุกอย่างเพื่อรักนั้น
อีกฝ่ายแม้รู้ว่าถูกรัก แต่ไม่ยอมเข้าใจ กลับกักเก็บความรู้สึกไว้
"รู้ว่ารักเจ้าขวัญตา เมื่อเวลามันสายเกิน"