คำว่าโอกาสทุกคนคงรู้ความหมายกันดีนะครับ "โอกาส" คืออะไร

"โอกาส"  มีไว้สำหรับใคร

แล้วเราควรให้" โอกาส" ไหม?

คำตอบสุดท้ายมันอึกอักอึกอัก อยู่ในลำคอ

แต่ก็ไม่เท่ากับใจที่ตอบได้ดีกว่าคำพูดเพียงแค่ว่าเราจะบังคับให้มันออกมาแบบไหน

ผมได้รู้จักกับเด็กบ้านเดียวกับผมอยู่คนหนึ่งตั้งแต่สมัยประถมตอนนี้เด็กคนนี้เค้าก็อายุ 18 ปีซึ่งห่างจากผมไป 4 ปี ตอนนี้เค้าได้มาพักกับผมชั่วคราว    เพื่อทำงานที่ร้านอาหารชื่อดังในย่านตัวเมืองลำปาง ชีวิตเค้าอาจจะเลวร้ายกว่าผม เค้ามีครอบครัวที่ยากจน มีน้องที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลสอง แม่ทำงานทั่วไปส่วนพ่อทำสวน ก่อนที่เค้าจะมาทำงานที่ลำปาง เค้าได้ทำงานก่อสร้างหรือช่วงฤดู    เก็บเกี่ยวผลผลิตก็จะไปกับรถโม่เพื่อไปรับจ้างโม่ถั่ว โม่ข้าว ฯลฯ    นั้นมันคงไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอกครับที่เด็กคนหนึ่งที่เกิดมาในสภาพครอบครัว

ที่ยากจนแล้วทำงานแบบนี้  ผมมาเรียนลำปางได้สามปี  แต่ผมก็ได้ยินข่าวของเด็กคนนั้นมาตั้งแต่ผมเรียนที่บ้านแล้วครับ ว่าเค้าเกเรอย่างนั้นอย่างนี้ ผมยอมรับนะครับว่าเค้าเกเรจริงๆ  เค้าเกเรมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่จากคำพูดคำบอกเล่าที่ผ่านเข้ามาในหูผมในทุกๆครั้ง ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ที่คนอื่นมาเล่าให้เค้าอย่างนี้ คุณคงจะสงสัยว่าเพราะอะไร?  เพราะว่าเวลาเค้ามาคุยมาทักผมสายตา นิสัยของเค้า ในแววตาของเค้าไม่เป็นอย่างนั้นจากจิตใต้สำนึกเลย เค้าอาจเด็กแล้วกระทำอย่างนี้มาในตอนเด็ก แล้วอีกอย่างเค้าอาจจะยังคิดอะไรไม่ได้มากนัก อาจเนื่องจากสถานการณ์ทางสภาพครอบครัว ความคิดบางอย่างที่เค้าฝังแน่นในใจ แล้วที่สำคัญเค้าอยู่ในสภาวะนั้นที่ปลุกฝังในใจเขามาตลอด...

แล้ววันนี้เด็กคนนั้นเค้ามาพักอยู่กับผม ก่อนนั้นเขาโทรมาหาผมบอกว่าอยากจะทำงานก็เลยให้ผมหางานให้เพราะที่บ้านงานไม่มี แล้วอีกอย่างจากที่เขาพูดเขาเคยระบายให้ผมฟังนั้น เขาอยากจะเริ่มต้นอะไรๆใหม่  ตอนแรกผมก็ยังลังเลเหมือนกันว่าจะให้เขามาทำดีไหม ผมนอนคิดอยู่ประมานซักอาทิตย์หนึ่ง ผมคิดว่าน่าจะลองให้เค้ามาทำดู ผมเลยพาเขาไปสมัครงานที่ร้านอาหารในลำปาง แต่เป็นงานช่วงเย็นๆ  โดยที่ผมเป็นคนไปรับไปส่งเขาที่ร้านนั้นซึ่งไม่ไกลจากหอพักผมเท่าไหร่ เขาทำงานได้ประมาณเกือบเดือน

ผมคิดว่าสภาพจิตใจเขามีปัญหาในเรื่องความเป็นอยู่ จากที่มันเกิดกับตัวผม ทางบ้านบอกให้ผมบอกเค้ากลับไปบ้านเพราะกลัวจะมาทำอะไรไม่ดีที่ลำปางแล้วกลัวคนรอบข้างเค้าโดนไปด้วย  แล้วก็กลัวจะไม่มีเงิน ทีแรกเค้าก็พักห้องหลานของผมบ้างห้องผมบ้างหลังๆมานี้หลานผมก็คงมีคนมาพูดให้เค้าฟังเหมือนผมเช่นกัน แล้วหลานผมก็บอกให้เค้ากลับบ้านเช่นกัน  บางครั้งเด็กคนนั้นเขาก็พูดให้ผมฟังหลายๆครั้งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

เมื่อวานผมได้ไปกินเลี้ยงงานวันเกิดเพื่อนที่ร้านนั้น จนร้านปิดผมก็เลยคิดว่าจะยังไม่กลับรอรับเค้ากลับด้วยเลย  พอร้านเลิกผมก็ชวนเค้านั่งคุยกันที่ร้านนั้นผมพยายามจะถามจะพูดคุยในหลายๆอย่างที่ผมอย่างคุย เท่าที่ผมมองปัญหาของเขา ผมคุยกับเขาพร้อมกับคุยเรื่องอื่นปนๆกันไปเพื่อให้เค้าพูดจากความรู้สึกของเค้า เค้าบอกผมว่า “ในบางครั้งรู้สึกน้อยใจเหมือนกันที่พยายามเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ แต่ว่ายังมีคนรอบข้างเค้าพูดแบบนี้ ” ผมเข้าใจในความรู้สึกเค้านะครับใครที่เจออย่างนี้ก็คงเป็นแบบนี้กันทุกคน  ผมเลยพูดกับเค้าคนนั้นว่า “อย่าคิดมากเลย ต้องเข้าใจนะคนเราจะให้คนเขามาวางใจเราทุกเรื่องไม่ได้หรอก ใครจะไปรู้หละว่าเราจะคิดอะไร น้องลองถามพี่สิว่าที่พี่ให้น้องมาพักด้วยนี้ถามว่าพี่วางใจน้องไหม พี่รู้ในความคิดของน้องไหม ว่าน้องจะทำอะไรบ้าง พี่ไม่รู้หรอก แต่พี่เชื่ออะไรในตัวน้องหลายๆอย่าง ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราจะทำอะไรนอกจากตัวเราเอง แต่รู้ไหมทำไมพี่ถึงเอาน้องมาฝากงานที่นี้ แล้วรู้ไหมว่าทำไมพี่ให้น้องพักห้องพี่ได้ เพราะคำว่ารักไง พี่รักน้องเหมือนน้องคนหนึ่ง  บางทีในวันข้างหน้าพี่อาจจะได้พึ่งน้องก็ได้  ตอนนี้โอกาสน้องมีแล้วนะเก็บมันไว้  เงินไม่กี่บาทก็คือเงิน  ฝากไว้ เรารู้ว่าคนรอบข้างทางบ้านก็ดี หรือที่ไหนก็ดีว่าอะไรให้เรา เราคิดจะเริ่มต้นใหม่จะไปแคร์อะไรหละ ทำไปเถอะอีกหน่อยถ้าเรามั่นคงแล้วใครเขาคนไหนจะมาว่าให้หละ เขาจะชมเราซะอีกมีเงินส่งให้แม่ให้น้องได้เรียนเหมือนที่น้องพูด”  เค้าบอกกับผมว่า เค้าจะทำงานตรงนี้แหละแล้วจะเก็บเงินไว้เพื่อนส่งไปทางบ้านบ้างแล้วก็เก็บไว้บ้าง

เมื่อคืนหลังจากกลับมาเค้าเอาเงินยื่นให้ผมสี่ร้อยเค้าบอกว่าเงินงวดนี้เค้าได้อยู่ พันกว่าแต่ก่อนปีใหม่เค้าเบิกกลับบ้านห้าร้อยแล้วเหลืออีกห้าร้อยยี่สิบบาท เค้าจะเก็บไว้ใช้จ่ายร้อยบาท แล้วอีกสี่ร้อยเขาฝากไว้ที่ผม ผมก็เลยให้เค้าไปเปิดบัญชีเป็นของตัวเองแล้วเอาบัญชีฝากไว้ที่ผมดีกว่า  ผมภูมิใจในตัวเค้าหลายๆอย่างครับ บางทีตอนเช้าผมหลับยังไม่ตื่นเค้าก็กวาดห้อง ล้างจาน เวลาผมไม่มีเงินเค้าก็ซื้อมาม่าบ้าง ซื้อข้าวบ้างมากินกับผม บางทีเค้าก็จะเอาเงินให้ใช้แต่ผมบอกว่า “ไม่เป็นไรเก็บไว้เถอะ กินด้วยกันนิแหละ” เห็นไหมครับความเปลี่ยนแปลงของเด็กคนหนึ่งจากตอนที่อยู่บ้านเกเรขนาดไหน จนที่ว่าคนทางบ้านเล่ากัน  แต่ถ้าเราให้โอกาสเค้าแหวกม่านอันมืดมัวให้เค้าซักนิดถ้าเค้าคิดได้เค้าเห็นเราทำเพื่อนเค้าเค้าก็มีกำลังใจที่จะทำในสิ่งที่เค้าตั้งใจ  บางครั้งเราอาจจะไม่มี เงินทอง ไม่มีอะไรก็จริงแต่ถ้าเรายังมีความรู้สึกที่จะแสดงให้เค้าเห็นจริงๆที่เรายอมรับในตัวเค้า นี้แหละครับโอกาสที่ทำให้ชีวิตคนๆหนึ่งได้เดินในความตั้งใจจริงของเค้า อย่างที่ในละครก็ตาม ในคำพูดของใครหลายๆคนก็ตามที่ว่า “คนเรามันมีสองด้าน เหมือนดาบสองคม”

ครับบางทีเค้าอาจจะอยากให้ด้านที่ขาวที่ดีนั้น อยากจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นแต่บางครั้งคนเขาไม่เคยที่จะเดินเข้าไปหาแล้วจับดูอีกด้านที่อยู่ข้างในตัวเค้าเอง ต่อไปเค้าก็จะคอยทำตามความตั้งใจของเค้าเองโดยที่เค้ารอคำแนะนำและคำว่ากล่าวจากเราเอง

แต่บางทีคำว่าโอกาสที่ให้ไป ในบางครั้งทุกคนอาจจะอ่านแล้วคล้อยใจไปตาม เราต้องใช้เวลาในการศึกษาในตัวของเขาคนนั้นก่อนนะครับว่าเป็นอย่างไร บางทีเราพึ่งรู้จักไม่กี่วัน กี่ปี แต่เราอาจจะไม่รู้อะไรในใจเค้าเหมือนที่ผมพูดข้างต้นว่า “เราไม่สามารถรู้ว่าในใจเค้าจะคิดอย่างไรนอกจากใจเค้าเอง” ใช้เวลาศึกษาครับก่อนที่จะให้โอกาสใครมากๆอย่างนี้  โอกาสให้ได้...ถ้าคนๆนั้น อยากเริ่มต้น

“เกิดมาจนเงิน แต่ไม่จนใจ ถ้าให้ได้ผมให้ แต่ให้ไม่ได้ก็ไม่ฝืน”

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว