สมสวาดต่างแดน-เรื่องของปิ่น

อีโรติก

สมสวาดต่างแดน-เรื่องของปิ่น

สมสวาดต่างแดน-เรื่องของปิ่น

tchaisiri

อีโรติก

0
ตอน
381
เข้าชม
9
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

 

๓๐

"นั่นมาแล้ว"

"ใครวะ เหี้...ยแม่งขับปอร์ช"

"จะมีใคร ทั้งมหาวิท...ยลัยมีไอ้ปิ่นคนเดียว วันนี้ไอ้อ้นนั่งมาด้วย"

รถปอร์เช่สีขาวก็วิ่งผ่านไป ปิ่นตาหรือปีเตอร์ของเพื่อนมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯเรียกก็นำรถยนต์เข้าจอดใต้ต้นไม้ เขาดับเครื่องยนต์แล้วรับไปเปิดประตูให้เพื่อนนักศึกษาคนหนึ่งออกมา

เพื่อนคนนี้ชื่ออ้นหรือศิริวุฒิ บ้านอยู่ทางเดียวกันแยกสุขุมวิท อ้นช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านปากซอยเป็นร้านประจำของปิ่นตา เรียนมหาวิทยาลัยกรุงเทพรุ่นน้องเขาหนึ่งปี แม้เพื่อนนักเรียนเดียวกันจะดูถูกอ้นว่าเป็นลูกแม่ค้า แต่ปิ่นไม่นึกเช่นนั้น อ้นเป็นเด็กขยัน พ่อสอนเขาว่า อย่าดูถูกคนที่ด้อยกว่า รวยหรือจนถ้าเป็นคนดีให้คบได้

"มึงนี่เสือกทำตัวน่าสงสาร กูละเชื่อ ขายก๋วยเตี๋ยวได้กี่ชามวะ"

"ไอ้ห่า มึงอย่าไปยุ่งกับอ้น กูถามว่ามึงมีห่าอะไรกับมันวะ วันนี้อาจารย์เกศรินมีสอนหรือเปล่า"

"สอนพีอาร์-1 เอ็งเอาชีทมาด้วยใช่ไหมว่าแต่นาน้องสาวแกมาเรียนวันนี้ไม่ใช่หรือ"

"มึงถามถึงน้องสาวกูอีก กูเตะแม่งคอหัก"

"ทีมึงยังจีบน้องสาวกูได้ มึงมันหมาหวงก้าง"

น้องสาวของเพื่อนชื่อคันธัชคือธีม เรียนคณะบัญชี เป็นดาวมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ธีมเป็นฝ่ายมาจีบปิ่นไม่ใช่ปิ่นมาจีบเธอ ปิ่นตาพอใจที่มีเพื่อนผู้หญิงมาชอบ ว่าไปแล้วธีมน่ารัก เป็นเด็กดี ง่ายๆ ผูชายรุมกันจีบ แต่แต่คันธัชหวงน้องสาวมาก เพราะรู้ว่ารุ่นพี่ล้วนจ้องจะฟันน้องทุกคน ธีมสวนแบบเซ็กซี่ เธอขี้เล่น ไม่กลัวผู้ชาย คันธัชว่าน้องสาวปล่อยตัวและชอบแต่งตัวโป๊ เสื้อก็รัดรูป ยกทรงก็เป็นแบบไม่มีขอและไม่มีสาย แบบทันสมัยที่วัยรุ่นเด็กอเมริกันใช้กัน ธีมใส่กระโปรงที่เพื่อนจากอเมริกาส่งมาเป็นกระโปรงบาน สั้นเต่อ ลมพัดมาแต่ละครั้ง เห็นหมด พวกเพื่อนๆต้องเตือนให้ระวัง แต่เพื่อนผู้ชายตาเป็นกุ้งยิงเป็นแถว

"ฉันจะฟ้องแม่ เธอจงใจแต่งตัวยั่วผู้ชาย เครื่องแบบมหาวิทยาลัยเขาให้ใส่กระโปรงมิดชิด ไม่ใช่กระโปรงบานแฉ่ง อาจารย์เคยเรียกเธอไปเตือนแล้วก็ไม่เชื่อ"

"พี่ก็ไปบอกอาจารย์ นักศึกษาอเมริกันเขาใส่กันแบบนี้แหละ นี่เพื่อนฉันที่อเมริกาเขาส่งมา ฉันก็ใส่ ทำไมเห็นเพื่อนเธอชอบมอง อิจฉาหรือ"

"เปล่าแต่ลมพัดที่ไร หวอเปิดไม่รู้ตัวรึไง"

"เห็นแล้วเป็นไง เอาไปได้รึเปล่า"

นี่เป็นเองทำให้ปิ่นตาไม่ค่อยอยากต่อปากต่อคำกับธีม เธอเจ้าคารมและเขารู้สึกว่า เธอเปรี้ยวเกินกว่าที่เขารับได้ ส่วนน้องสาวเขาก็ไม่เบา อุรัสนามีอาจารย์หนุ่มมาเกาะแกะอยู่คนหนึ่งชื่ออาจารย์ธวัช อายุเพียง ๒๓ จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา เขาได้ปริญญาตรีตั้งแต่อายุ ๒๑และเรียนปริญญาโทเลย อุรัสนากลับชอบรุ่นพี่ชื่อกวิน เด็กคนนี้เป็นเด็กพิเศษ พูดได้ ๔-๕ ภาษาทั้งที่ไม่เคยเรียนหรือไปประเทศเหล่านั้นตั้งแต่อายุ ๓-๔ ขวบ มหาวิทยาลัยไปเชิญมาเรียน ให้ทุนเรียนฟรี แต่พี่ชายปิ่นตาชอบอาจารย์ธวัชมากกว่า

"ยัยนา แกเองมันเป็นคนแปลกแล้วก็ชอบคนแปลกๆ กวินมันเป็นแบบนี้มันคงมีอะไรผิดปรกติ คุ้มดีคุ้มร้าย ไปชอบมันรู้หรือเปล่าว่าลึกๆมันเป็นไง"

"เขาเป็นเด็กมีกิฟท์ พี่คิดมาก"

"ว่าแต่ รู้บ้างหรือเปล่าว่าพวกผู้ชายเอาแฟนไปพูดยังไง"

"ฉันไม่สนใจว่าใครจะว่าธีม เราเป็นพี่น้องเป็นเพื่อน"

"แต่เธอเสียหายนะ"

"เสียหายนะ...คนมันเอาไปว่ายัยทีมไปทำนมมา อกมันถึงใหญ่ขนาดนั้น เพื่อนมันมาบอกฉันว่ายัยธีมไม่ได้ทำนม แต่มันของจริง ๓๔ สำหรับคนไทยถือว่าใหญ่แล้วสำหรับเด็กสาวอายุแค่๑๘"

"นมใหญ่ไม่เห็นเสียหาย.

"เสียหายซี ผู้ชายเอาไปพูดแอบดูนมทุกครั้งที่เห็นเธอเดินมา"

"ช่างมัน ว่าแต่เธอน่ะนมโตเท่าไหร่แล้ว เอามาดูหน่อย"

"ไอ้เหี้...ย แกนี่ อุบาทว์ฉิบหาย ฉันเพิ่งรู้นะ มีพี่ลามก"

"ฉันไม่ต้องถามก็รู้อยู่แล้ว เคยแอบดูเธอเวลาอาบน้ำ"

เปรี้ยง....หนูนาขว้างแก้วน้ำเฉียดหัวพี่ชายไปกระทบฝาบ้าน แตกละเอียด

ปิ่นตาหัวเราะงอหาย แลบลิ้นปลิ้นตา ยกมืออุ้มอกตัวเองเขย่าไปมา

"ไอ้บ้า...ไปให้พ้น"

กุลนิธิโผล่เข้ามาได้ยินลูกแหย่กันเล่นพอจับความได้ ถามว่า

"ใครพูดเรื่องนมเรื่องต้ม"

"ผมก็ถามยัยหนูนาว่าใส่บราไซด์ขนาดไหนเท่านั้นก็โวยวาย หาว่าผมพูดลามก"

"ไม่เห็นเป็นไร ยัยนาก็บอกพี่เขาไปซี"

"มันไม่ใช่แค่นั้นแม่ เขาถามว่า....หน้าอกหนูโตเท่าไร"

"แกไปล้อยัยนาอย่างงั้นได้อย่างไร มันไม่เหมาะนะ พี่น้องเขาไม่พูดเรื่องนี้กันนะ"

"แม่ครับ หนูนาเริ่มก่อน มาว่าแฟนผมนมโต"

"ยัยนา แกไปว่าแฟนพี่เขางั้นเหรอ"

"ก็คนเขาพูดกัน ก็มาบอกพี่ให้รู้ไว้ กลัวน้องเขาเสียหาย"

"เอาละเลิกพูดเรื่องนมเรื่องต้มกันได้แล้ว แม่มานี่จะถามว่า ใครจะเอาเงินค่าเช่าไปเข้าธนาคารบ้าง"

"ของผมแม่เอาเข้าให้ผมด้วย แต่ยัยหนูนาติดผมอยู่ ๕ แสน คืนมาซิดีๆ ครั้งที่แล้วเอาไปซื้อของจากอเมริกาหมดเงินไปแยะ ของฟุ่มเฟือยทั้งนั้น"

รายได้ของปิ่นตาและอุรัสนามาจากค่าเช่าคอนโด ๒๐ชั้นในซอยทองหล่อ ฝรั่งเช่าอยู่ระยะยาวเป็นปี บางคนผูกเช่ายาวเป็น๕-๑๐ ปีเพราะทำงานในไทย พวกที่เช่าระยะสั้นเพราะไป-มาระหว่างไทยกับบ้านที่ต่างประเทศ รายได้เหล่านี้พ่อแม่ยกให้ลูก เพราะรายได้หลักของครอบครัวมาจากการขายเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเกือบทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งกำไรปีละหลายล้าน และครอบครัวทวีกิจเจริญทรัพย์ยังมีธุรกิจส่งออกนำเข้าและบริษัทก่อสร้างให้พี่น้องและญาติเป็นคนดูแล แต่ละปีทำเงินให้กับครอบครัวมหาศาล

รถปอร์เช่สีขาวที่ปินตาขับอยู่นั้น เป็นเงินที่พ่อได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ได้รับรายปี อุรัสนานั้นได้รถยนต์คันเล็กมินี่คันทรีแมน น้องสองคนต่างได้สิ่งที่ต้องการทุกคน

ตอนเด็กๆ พ่อแม่ยังไม่สร้างบ้านใหญ่ กุลนิธิให้ปิ่นกับหนูนานอนห้องเดียวกัน แต่ทุกครั้งน้องสาวจะขึ้นมานอนกอดกับพี่ดูดนิ้วหรือไม่ก็จับผ้าเก่าๆนอนด้วย เด็กๆนอนด้วยกันจนอายุได้ ๑๓ ขวบ แม่ปลูกบ้านใหม่ใหญ่โตทันสมัย ให้แยกห้องที่สวยทันสมัย แต่พี่น้องก็แอบย่องมานอนด้วยกัน ความเคยชินนี้มีมาจนอายุ ๑๘-๑๙ อยู่มหาวิทยาลัยจนโตแล้ว เป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว ทำอย่างนี้ นอนกอดกันทุกคืน จนเคยชินไม่ได้คิดอะไรกันเกินเลย จนวันหนึ่งแม่เข้าไปห้องหนูนาเพื่อขอเครื่องสำอางค์ในวันหยุด นึกแปลกใจว่าเธอไม่อยู่บนเตียง แต่ผ้าคลุมเตียงยังอยู่เรียบร้อย เธอเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ ไม่มีเสียงต้อนรับ เปิดประตูเข้าไปห้องน้ำก็ว่าง ชะโงกไปถามคนใช้ข้างล่างว่าคุณหนูนาลงไปหรือยัง เด็กบอกว่ายังไม่ตื่น เธอเอะใจเกรงว่านลูกหายไปคงมีอันตราย

เธอเอะใจ รีบปลุกลูกชายให้ช่วยหาน้อง รีบเปิดประตูห้องโดยไม่ต้องเคาะเรียก แต่ภาพบาดตาที่เห็นคือลูกสาวลูกชายนอนก่ายกันอยู่บนเตียง ด้วยความโมโห เธอกระชากหนูนาออกจากเตียง ตะคอกใส่

"แกมันเลว เป็นพี่น้องกันทำกันได้อย่างไร หน้าไม่อาย ใครเขารู้จะว่าอย่าไร ทำบัดสีอย่างนี้ มันผิดศีลธรรมใครสั่งสอนแก"

"แม่ทำไมว่าหนูอย่างนั้น หนูมานอนกับพี่เขาเฉยๆ ไม่มีอะไรกัน เรานอนด้วยกันตั้งแต่เด็ก แม่นั่นแหละแยกเราออกมา แม่ไม่คิดเหรอว่าเราต้องการอยู่ด้วยกัน"

"แกโตแล้วนะ อยู่มหาวิทยาลัย รู้ไหมไม่ใช่เด็กเหมือนสมัยก่อน ดูตัวเองในกระจกบ้าง ทุกอย่างในร่างกาย แกไม่ใช่เด็ก แกมีทุกอย่างเป็นเด็กผู้หญิงโตเป็นสาว พี่แกก็เป็นคนหนุ่ม เขามีความรู้สึกเป็นชายทั้งแท่ง"

"แต่เราเป็นพี่น้องกันนะแม่"

"แม่เข้าใจแกทั้งสองคน แต่ผู้หญิงกับผู้ชายนอนกัน มันเหมือนมีดขีดกับกลักไฟ มันมีทีจุด ธรรมชาติมันสร้างให้....แกก็รู้ว่าแม่จะพูดอะไร"

เรื่องนี้ไม่จบลงง่ายๆ แม่ไม่อาจลืมภาพที่ลูกสาวลูกชายนอนก่ายกันเหมือนท่าร่วมเพศได้ และเมื่อสั่งสอนให้สติ เธอก็คิดว่า ลูกคงเข้าใจและไม่ทำเช่นนั้นอีก

เธอคิดอีก

เด็กสองคน เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วร้องให้ วันต่อมาก็แยกกันอยู่ แต่ด้วยความเคยชิน เดือนต่อมา อุรัสนาก็แอบเข้ามาในห้องพี่ชาย

"กระเถิบไป ให้ฉันนอนด้วย"

"เดี๋ยวแม่ก็มาดุหรอก"

"แม่ไม่อยู่ไปเมืองนอกกับพ่อ"

"จริงซี่"

"กอดหนูนาหน่อย ฉันหนาวนะ พี่เปิดแอร์แรงอย่างนี้"

"อย่านอนดิ้นเหมือนวันนั้นล่ะ เดี๋ยวแม่เข้าใจผิดคิดว่าเราทำอะไรกัน"

"อย่ามาว่านะ เดี๋ยวก็เอากันจริงๆหรอก"

"อย่ามาท้านะ"

"คนอย่างพี่น่ะ ดีแต่พูด ฉันจะนอนละ"

"หันหลังมา ฉันจะกอด"

"อย่าให้มือโดนหน้าอกฉันล่ะ"

"เออน่ะ นิดหน่อยเท่านั้น"

เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้ครับ ทุกครั้งที่แม่ไม่อยู่ พี่น้องก็มานอนกอดกันจนหลับไปทั้งคู่

 

 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว