การหวนคืนของราชันย์อมตะ
3
ตอน
2.25K
เข้าชม
11
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
39
เพิ่มลงคลัง

"ท่านปู่ๆ ท่านเล่านิทานเรื่องนั้นให้พวกข้าฟังอีกสิ!" 

 

เสียงเจี้ยวแจ้วดังขึ้นของพวกเด็กวัยซนที่บัดนี้พวกเขากำลังนั่งอยู่ด้านหน้าเรียงกัน ใบหน้าเล็๋กๆต่างแสดงความใจจดใจจ่อราวกับว่ากำลังรอฟังอะไรบางอย่างอยู่ 

 

เบื้องหน้าคือชายชราผมเพ้าขาวโพลนคนหนึ่ง ท่าทางใจดี เมื่อได้ยินว่าเด็กอยากฟังนิทานก็หัวเราะขึ้น 

 

"เด็กน้อยเช่นพวกเจ้าจะรู้อะไร? นี่ไม่ใช่นิทานนะ นี่คือตำนานต่างหากเล่า!"ชายชราพลางทำท่าทางภาคภูมิใจยิ่ง 

 

"ขี้โม้! เมื่อวานท่านเล่าว่าทางตะวันตกเคยเป็นดินแดนที่ยิ่งใหญ่ เหตุใดข้าได้ยินจากพ่อข้าว่ามันไม่มีสิ่งใดนอกจากทะเล?"เด็กที่ดูโตหน่อยกล่าวขึ้น 

 

"อะแฮ่มๆ"ชายชราหน้าแดงเล็กน้อย แน่นอนว่ามันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงหรือไม่ แต่"ตำนาน" ในเมื่อคนพิสูจน์ไม่ได้ มันก็คือตำนาน 

 

"เฮอะ! ข้าอยู่มานานตั้งแต่พ่อเจ้ายังคลานอยู่เลย ใยจะรู้มากกว่าข้าเล่า?"ชายชราหายใจแรง 

 

"เอาเถอะๆ ข้าจะเล่าให้ฟัง...." 

 

......ตำนานได้กล่าวไว้ ในยุคบรรพกาล อสูรและปีศาจครอบงำไปทั่วทุกที่ ในจุดที่เกือบถึงกาลอวสาน ได้ปรากฎตัวของจอมจักรพรรดิเทวะทั้งสิบอย่างลึกลับ ไม่รู้ว่าพวกพระองค์มาได้อย่างไร แต่การปรากฎตัวของจอมจักรพรรดิเทวะกลับพลิกสงครามราวกับพลิกฝ่ามือ วาดมือหนึ่งคราปีศาจนับหมื่นพลันมลายสูญ ไม่ช้าเหล่าปีศาจก็ปราชัยสิ้น.. 

 

"โอ้โห! เก่งกาจยิ่งนัก ท่านปู่ท่านเล่าต่อสิ!"เหล่าเด็กต่างดวงตาเปล่งประกาย 

 

ชายชราที่เห็นเด็กตั้งใจฟังดังนั้นจึงฮึกเหิมกล่าวต่อ 

 

......หลังจากนั้นแผ่นดินพลันสงบสุข แต่เหล่าจอมจักรพรรดิเทวะทั้งสิบก็พลันหายตัวไปอย่างลึกลับก่อนจะจากไปพวกเขาพูดว่า"ดินแดนอมตะ" เวลาผ่านไปล่วงเลยมานับไม่ถ้วนยากจะล่วงรู้ เหล่ามนุษย์ต่างสร้างรากฐานและดำเนินสืบเนื่องมาจนบัดนี้ 

 

ดวงตาของเด็กทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ยิ่งเด็กผู้ชายต่างเต็มไปด้วยความฮึกเหิมและเลื่อมใสต่อจอมจักรพรรดิเทวะทั้งสิบ 

 

"นี่ๆ ทุกคนมาดูนี่เร็วเข้า"เด็กชายหนุ่มที่โตหน่อยพลันวิ่งออกมาด้านหลัง ภายในมือถือหนังสือเล่มหนึ่ง ปล่อยให้ชายชราที่กำลังนั่งยิ้มกว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว 

 

"ฮ่าๆ ดูนี่สิ หนังสือเล่มนี้ไว้ว่า"หนังสือสำหรับเด็ก นิทานก่อนนอน ราคาสองเหรียญ""เด็กชายพลันพลิกไปมาเอาให้เด็กทั้งหลายดู 

 

"หนอย! ไอ้เจ้าเด็กบ้า!!"ชายชราพลันหน้าแดงก่ำเมื่อถูกจับได้ก่อนจะลุกขึ้น 

 

"ฮ่าๆ ท่านปู่ขี้โม้!" 

 

..... 

 

กลิ่นคาวเลือดโชยไปตามอากาศ ท่ามกลางซากศพที่ลอยมา มีร่างเล็กๆร่างหนึ่งปนอยู่ อายุของมันน่าจะซักสิบสี่สิบห้าปี ใบหน้าซีดเซียว ลอยตามมาเรื่อยๆคล้ายกับศพ เพียงแต่มองดูแล้วประหลาดตรงที่ไม่ปรากฎบาดแผลเหมือนศพอื่นๆแม้แต่น้อย 

 

ไม่นานร่างศพก็ถูกหิ้วขึ้นมาจากน้ำโดยร่างใหญ่ร่างหนึ่ง เป็นชายร่างกำยำท่าทางคล้ายโจรปล้นศพเสียอย่างนั้น 

 

"บัดซบเอ้ย! ไอ้นี่ยากจนเสียนี่ มีอยู่ไม่กี่เหรียญเอง!"ว่ากล่าวก็ถีบร่างศพของชายหนุ่มลงไป 

 

แต่ทันใดนั้นเองมือของ"ศพ"ที่ซีดขาวพลันจับขาของมันไว้ ความเจ็บพลันแล่นสู่ทั่วร่างกาย พร้อมเสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้น 

 

อ๊ากกก!!! 

 

เสียงร้องโหยหวนจางลง ร่างกายที่กำยำเต็มไปด้วยพลังชีวิตพลันค่อยๆเหี่ยวลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นกองหนังกองหนึ่งทันใด.... 

 

เปลือกตาของร่างที่คิดว่าตกตายไปแล้วค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นดวงตาขาวโพลนว่างเปล่าอย่างถึงที่สุด จังหวะนั้นเองราวกับโลกทั้งใบพลันหยุดหมุน ราวกับว่าทุกสิ่งพังทลายเหมือนว่ามันกำลังหวาดกลัว"บางสิ่ง" 

 

แต่สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดเพียงเสี้ยวพริบตาเท่านั้นไม่มีใครสามารถรับรู้ใดๆได้นัยน์ตาขาวโพลนค่อยๆกลายเป็นสีดำดังเดิม...  

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว