เอริโอน่า ราชินีแห่งพระอาทิตย์
0
ตอน
3.18K
เข้าชม
91
ถูกใจ
3
ความคิดเห็น
7
เพิ่มลงคลัง

ฤดูกาลวนเวียนเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลา ใครคือผู้สร้างเรามารู้จักโลกอีกใบที่ซ่อนอยู่กันเถอะ

“ไม่เอาฉันไม่เป็น ให้แม่เป็นไปสิ”เสียงโวยดังของว่าที่ราชินีที่ต้องแต่งงานกับเจ้าชายจากขั้วโลกเหนือ

โลกของเรามีหลายฤดูกาล เพราะอะไรดาวเคราะห์สีฟ้าแสนสวยใบนี้ถึงได้มีเรื่องน่ามหัศจรรย์นี้ให้กับเรา เรามาทำความรู้จักกับโลกอีกใบเล็กที่ไหนสักแห่งบนผืนหญ้า ท้องฟ้า ต้นไม้ หรือแม้แต่ สวนหลังบ้านของคุณเอง มารู้จักหน้าที่แสนสำคัญของเหล่าภูติที่คอยเปลี่ยนวัน คืน เวลา

เอริโอน่า ราชินีพระอาทิตย์

โครม

เสียงข้าวของพังระเนระนาด เพราะฝีมือของว่าที่ราชินีเป็นคนพังเองกับมือ

“เอริโอน่า ลูกทำอะไร”น้ำเสียงเคร่งแกมดุ

“ทำไมลูกต้องแต่งด้วย เพื่ออะไรท่านแม่”น้ำเสียงเคร่งเอ่ยถามย้อน

“เพื่อตัวลูกเอง และเพื่ออาณาจักรพระอาทิตย์ ลูกจำเป็นต้องแต่ง”เสียงที่ดูอบอุ่นกลับมาเป็นแม่เหมือนเดิม ผู้เป็นแม่สวมกอดลูกสาวแน่นอย่างเอ็นดู

“เอริโอน่า แม่ขอเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ลูกรักอาณาจักรของเราต้องการพระราชา”ไร้คำตอบกลับเพราะคนตอบบัดนี้ชักสีหน้าปุเลี่ยนอย่างบอกไม่ถูก

เอริโอน่าหรือเจ้าหญิงเอริโอน่า เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรพระอาทิตย์ผู้มีหน้าที่นำแสงแดดไปสู่ฤดูหนาว มีหน้าที่มอบความอบอุ่นในฤดูหนาว มอบแสงแดดร้อนในหน้าร้อน มอบแสงแดดเพื่อบอกเวลาเช้าวันใหม่และหน้าที่ของราชินีคือต้องเตรียมการทุกอย่างเพื่อฤดูกาลให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นฤดูกาลอาจแปรเปลี่ยน

มีฤดูหนาวที่หนาวจับใจ มีฤดูร้อนที่ยาวนาน มีสายฝนในยามแดดร้อน เพราะการทำงานที่ล่าช้าของเหล่าประชาชนและการวางแผนที่ผิดพลาดของราชินีอาจทำให้ฤดูแปรปรวนได้

อาณาจักรพระอาทิตย์ก็เช่นกัน ตั้งแต่พระราชาสิ้นพระชนม์ ก็มีศัตรูมากมายเข้ามาเพื่อแย่งการปกครองแย่งพลังแห่งแสง

การสร้างฤดูกาลไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกครั้งจะมีคนคอยขัดขวางพวกบ้าอำนาจเมื่อได้ครอบครองก็จะทำให้ฤดูเปลี่ยนไป มอบฤดูฝนมากไปทำให้เกินน้ำท่วม มอบความหนาวมากไปทำให้คนเราตายได้ มอบแสงแดดมากเกินทำให้พืชการเกษตรเสียหาย ความเสียหายเหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือของพวกครัช ครัชเป็นนักทำลายตัวยงมันจะทำลายทุกอย่างหากมันได้พลังอำนาจมาอยู่ในมือและเพื่อครองโลกของฤดูกาล

เอริโอน่า เป็นเจ้าหญิงที่มีความคิดที่แตกต่างจากแม่ เพราะเธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องแต่งงานเธอก็เป็นราชินีปกครองเมืองได้ เพียงแต่แม่ของเธอเชื่อว่าการแต่งงานจะทำให้กำลังของเมืองแข็งแกร่งขึ้น และเมื่อเขาตายจากไปจะได้มีคนคอยดูแลเอริโอน่า ความหวังของแม่ทุกคนคงต้องการให้ลูกเจอสิ่งที่ดีได้มีครอบครัวที่ที่สมบรูณ์ โดยส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้ถามความต้องการของลูก

เอริโอน่าเป็นเจ้าหญิงเข้มแข็งและเก่งพอตัว แต่ไม่อาจสู้ชายได้มีเจ้าชายหลายเมืองเสนอตัวจะแต่งงานกับเอริโอน่า และแน่นอนเธอปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าถ้าใครนำดอกไม่แรกของฤดูร้อนมามอบแด่เธอได้จะยอมแต่งงาน

เป็นที่รู้กันดีว่าดอกไม้แรกของฤดูร้อนได้หายจากโลกเป็นเวลาหลายร้อยปีไม่มีทางนำมามอบแด่ราชินีได้ เพราะรู้ดีเอริโอน่าถึงเสนอเช่นนั้น

เมื่อไร้ผู้หาดอกไม้แรกของฤดูมาได้เอริโอน่าจึงไม่ได้ขึ้นเป็นราชินี เคยมีตำนานเล่าถึงดอกไม้แรกของฤดูกาล ดอกไม้ผู้ไม่เคยเหี่ยวเฉาดอกไม้ที่เบ่งบานรับแดดแรกของฤดูร้อน ดอกไม้ที่ส่องสว่างและเป็นดอกไม้ที่นำดวงอาทิตย์ของฤดูร้อนขึ้นสู่ท้องฟ้า เคยมีคู่รักสัญญารักกันใต้แสงอาทิตย์ยามเย็นและมอบดวงใจให้แก่กัน เพราะความรักที่มีมากทำให้ทำดอกไม้สีไพลินก่อกำเนิดและเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้ครอบครองจะมีพลังมหาศาล แต่ตำนานกลับเล่าเพียงว่าเมื่อจิตใจโล่เลดอกไม้งามจะเหี่ยวเฉา ดอกไม้จะไม่ตายเพราะธรรมชาติหากแต่จากไปเพราะจิตใจที่แตกสลาย

เอริโอน่า มักจะแอบออกจากวังไปยังต้นไม้ต้องห้ามเสมอและมักแอบเดินข้ามต้นไม้ออกไป

ต้นไม้ต้องห้ามคือต้นแกลเชื่อกันว่าถ้าผู้ใดเดินข้ามไปจะกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาและแน่นอนอาริโอน่าต้องเคยลองแล้วถึงติดใจ

เอริโอน่ามักแอบมองเจ้าของร้านขายดอกไม้เสมอ เด็กหนุ่มร่าเริง มักแย้มรอยยิ้มหวานให้เอริโอน่าเสมอเธอชอบที่จะได้เห็นรอยยิ้มชอบเวลาที่เขาคนนั้นมองดอกไม่อย่างมีความสุข

เอริโอน่าไม่รู้เลยว่าเธอกำลังตกหลุมรักมนุษย์เข้าอย่างจัง และเขาก็รู้ตัวว่ามีสาวน้อยแอบมองเสมอ

“มาอีกแล้วลิลลี่ อยากลองจัดดอกไม้ไหม”น้ำเสียงนุ่มเอ่ยถาม ด้วยรอยยิ้มหวาน

“…”ไร้คำเช่นเคยเพราะเอริโอน่าพูดภาษาของมนุษย์ไม่ได้ และเขามักจะพยายามสอนเอริโอน่าเสมอแต่คงใช้เวลาอีกนานกว่าเอริโอน่าจะพูดได้ เพราะไม่รู้ชื่อชายหนุ่มจึงตั้งชื่อตามดอกไม้ที่เอริโอน่าชอบ

เอริโอน่าพบกับชายหนุ่มเป็นเวลานานพอสมควร ความรัก ความรู้สึกดีก่อเกิดในใจของทั้งสอง เพียงไม่มีใครกล้าเอ่ย

“ลิลลี่พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันไหม”เสียงนุ่มเอ่ยถาม

เอริโอน่าพยักหน้าหงึกๆรับก่อนจะจัดดอกไม้ให้เสร็จ เพราะเธอต้องรีบกลับไปยังอาณาจักรพระอาทิตย์

“กลับแล้วเหรอให้ไปส่งไหม”เสียงนุ่มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพียงแต่เอริโอน่าปฏิเสธเพราะกลัวเขาจะจับได้

“ลิลลี่อย่าลืมละพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวสวนดอกไม้”คำกล่าวย้ำก่อนสาวน้อยจะเดินจากไป

เอริโอน่ามีความสุขกับชีวิตในโลกมนุษย์ไม่ต้องมีกฎไม่ต้องมีหน้าที่ อยู่กับสิ่งที่รัก อยู่สิ่งที่ชอบและปรารถนา

เอริโอน่าไปพบเขาตามนัดและเขาได้มอบดอกไม้แสนสวยให้เป็นของขวัญ ดอกลิลลี่สีขาว พร้อมความหมายแสนวิเศษ ลิลลี่สีขาวคือความรักที่บริสุทธิ์ ความรักที่ชายหนุ่มมีให้แด่ดอกไม้แสนสวยของเขา

“ลิลลี่เป็นแฟนผมนะ”คำถามใต้แสงอาทิตย์อ่อนยามใกล้ลาลับขอบฟ้าเป็นบรรยายแสนหวานสำหรับคำสารภาพรักที่แสนอบอุ่น

หยาดน้ำใสๆค่อยไหลช้าๆ ให้คนทำต้องเอือมไปเช็ดอย่างเบามือเพราะกลัวดอกไม้แสนวิเศษจะเจ็บ

คำตอบของสาวน้อยเป็นเพียงรอยยิ้มหวานเปื้อนน้ำตาก่อนทั้งสองจะจุมพิตเพื่อรับสัญญาซึ่งกันและกัน

เอริโอน่ามีความสุขที่สุดในชีวิตของเจ้าหญิง เขาเจอดอกไม้แรกของฤดูเขาพบดอกไม้ที่เบ่งบานตลอดเวลา แต่ความสุขคนเรามักอยู่ได้ไม่นาน เอริโอน่าก็เช่นกัน

เมื่อเวลาที่เอริโอน่าต้องเลือกเจ้าชายเพื่อจะแต่งงานและเธอต้องแต่งโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้นเพราะปัญหาที่ครัชเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้นทำให้อาณาจักรไม่ปลอดภัยและทุกคนบีบคั่นให้เธอต้องแต่งงานเพื่ออาณาจักรเพื่อประชาชน

เอริโอน่าแอบหนีออกจากเมืองไปหลบที่ป่าใกล้สวนดอกไม้ที่เคยไปเที่ยวกับคนรัก

ได้โปรด ขอแค่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง ขอให้ได้อยู่กับเขาแค่ห้าวันก็ได้แล้วลูกจะไม่เจอเขาอีก ขอเพียงครั้งเดียวลูกจะไม่หนีอีกต่อไป

คำอธิฐานอันแรงกล้าของเจ้าหญิงทำให้เขาได้พบกับชายอันเป็นที่รัก

โคเรนอล คุณจริงๆ

คำกล่าวในใจที่สาวน้อยรีบวิ่งเข้าใกล้

“ลิลลี่ มาได้ไง เป็นอะไร”โคเรนอลเอ่ยถามอย่างตกใจพร้อมห่วง

“…”

เอริโอน่าพยายามเอ่ยตอบ แต่ไร้ซึ่งคำพูด ให้ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“ไม่เป็นไรนะ เข้าบ้านก่อนจะได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า”

เอริโอน่ารู้ดีว่าเขามีเวลาไม่มาก เพราะคำขอเมื่อสมดังหวังเอริโอน่าต้องกลับไปแต่งงานเหมือนเก่า เธอมีเวลากับความรักเพียงห้าวันห้าวันที่แสนมีค่าที่เธอและจะยังรักกันอยู่

“ลิลลี่ คืนพักที่นี่ก่อนก็ได้ ผมมีอีกห้อง”แม้ทั้งสองจะเป็นคนรักกันแต่โคเรนอลให้เกียรติเอริโอน่าเสมอ ไม่ทำอะไรเกินเลยมีเพียงจุมพิตครั้งแรกและครั้งที่เดียวที่เขามอบให้เอริโอน่า

เอริโอน่าอยู่ที่บ้านของโคเรนอลคอยช่วยเขาจัดดอกไม้ คอยช่วยเก็บ ช่วยตัด ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่กัน เหมือนคู่รักทั่วไป โคเรนอลให้สัญญากับเอริโอน่าเขาไม่ทำเรื่องไม่ดีกับเธอ เขาและเธอจะรอจนกว่าจะแต่งงานและเวลาของเอริโอน่าก็เหลือน้อยเต็มทน

“ลิลลี่อยากเรียนเขียนดูไหมเผื่อจะดีกว่า”เสียงนุ่มเอ่ยถามขณะกำลังจัดดอกไม้ลงแจกัน

สาวน้อยพยักหน้ารับช้าๆหลังจากนั้นเอริโอน่าก็เริ่มเรียนและเขียนเก่งขึ้น คงเพราะความรักที่คนสอนมอบให้ถึงทำให้เอริโอน่าเขียนเก่งขึ้น

…ไปเทียวกน…

เอริโอน่า ชูป้ายขึ้น พร้อมใบหน้ายิ้มๆที่คนอ่านแอบยิ้มขำๆกับคำที่สาวน้อยเขียนผิดๆถูกๆ ก่อนคนรักจะเดินเข้าเปลี่ยนคำที่ถูกให้ใหม่กระซิบตอบรับเบาๆ

“ไปสิ ไปไหนดีทะเลไหมเอริโอน่า”คำเรียกชื่อที่เปลี่ยนจากลิลลี่เป็นชื่อจริงของคนรักที่เอริโอน่ายิ้มหวาน

อีกแค่วันเดียวที่เอริโอน่าต้องกลับไป พรุ่งนี้เขาและเธอจะต้องจากกันตลอดกาล

เอริโอน่าจึงอยากใช้ชีวิตในวันสุดท้ายให้มีความสุขที่สุด ก่อนต้องเป็นราชินีก่อนกลายเป็นของคนอื่น เพราะจดหมายของเอริโอน่าที่เขียนทิ้งไว้ทำให้ไม่มีใครออกตามหาเพียงรอให้เจ้าตัวกลับมาดั่งสัญญาในจดหมาย

พระอาทิตย์ท่อแสงสีทองนวลอร่ามตา เสียงคลื่นเบาๆเหมือนบทเพลงสุดท้ายสำหรับการจากลา เกลียวคลื่นที่เหมือนกำลังเริงระบำให้กับคู่รักที่มาเยือน ผืนทรายขาวนวลเหมือนแขกผู้เป็นพยานแห่งรักของทั้งสอง

เอริโอน่าเดินจูงมือโคเรนอลไปตามชายชาดราวกำลังเดินเข้าพิธีแต่งงาน ทั้งมองสบนัยน์ตากันนิ่งเหมือนทั้งสองต่างอยากซึมซับภาพตรงหน้าไม่ให้หายไป

เอริโอน่าหยิบสมุดออกมาเขียนก่อนจะยกให้คนตรงหน้าดู

หยดน้ำใสๆที่คลอนัยน์ตาค่อยไหลอาบแก้มนวลของเอริโอน่าที่เธอกลับเป็นร้องไห้เสียเองทั้งที่ตั้งใจจะไม่ร้องไห้ในวันสุดท้ายกับคนรัก ทั้งที่ตั้งใจจะยิ้มให้คนรัก

…แตงงนก้นนะ…

…แต่งงานกันนะ…

เพราะข้อความที่คนทั้งสองชูขึ้นพร้อมกันและยังเป็นข้อความเดียวกัน ถ้าไม่ใช่ของใครที่รีบเขียนหรือเพราะเขียนไม่ถูกจริงคงจะทำให้โรแมนติกกว่านี้

โคเรนอลเอือมมือจับมือคนตรงหน้าก่อนจะสวมแหวนดอกไม้ที่ทำจากพลอยสีสวยหลากสีที่สะท้อนแสงอาทิตย์ราวกับยืนอยู่บนสวยดอกไม้ยามเย็น

สาวน้อยโผเข้ากอดคนรักอย่างเต็มรักให้อีกคนรับแทบไม่ทัน เขารู้ดีสาวน้อยในอ้อมกอดดีใจแค่ไหน เพราะหยดน้ำอุ่นๆที่กำลังเปื้อนไหล่เป็นหลักฐานชั้นดี โคเรนอลกอดตอบคนตรงหน้าพลางกระซิบเสียงเบาข้างหู

“เราจะรักตลอดไป ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”คำสัญญาแสนหวานที่อีกคนรักษาไม่ได้กำลังร้องไห้หนักกว่าเดิม

คืนนั้นเอริโอน่ากับโคเรนอลจัดงานแต่งงานเล็กๆกันสองคนโดยมีดอกไม้เป็นพยานแห่งรัก เอริโอน่าสวมชุดสีขาวเหมือนเจ้าหญิงโดยมีมงกุฏดอกไม้ที่ทำโดยเจ้าบ่าวเพื่อมอบให้เป็นของขวัญแต่งงาน

“เราจะรักผู้หญิงคนนี้ตลอดไปเท่าชีวิตจะหาไม่ ไม่ว่ายามทุกข์หรือสุขเราจะไม่ทอดทิ้งกัน”

เราจะรักผู้ชายคนนี้ตลอดไป เท่าชีวิตจะหาไม่ ไม่ว่ายามทุกข์หรือสุขเราจะไม่ทอดทิ้งกัน

คำกล่าวสัญญาต่อพระเจ้า ที่ทั้งสองแต่งงานกันอย่างถูกต้องและต่อไปทั้งสองจะกลายเป็นสามีภรรยากัน

“ พรุ่งนี้เราไปดูดอกไม้กันนะ”เสียงนุ่มเอ่ยก่อน

สาวน้อยพยักหน้ารับช้าก่อนจะช่วยเก็บของที่ใช้แต่งงาน

“สัญญานะ”เสียงนุ่มเอ่ยซ้ำอย่างกลัวคนตรงหน้าจะโกหก

เอริโอน่าเงียบไปพักนึ่งก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้คนตรงหน้าจับได้

ขอโทษที่รัก ฉันขอโทษ ฉันสัญญาไม่ได้

คำกล่าวในใจอย่างรู้สึกผิด เอริโอน่ามองอีกร่างที่นอนหลับข้างกาย อีกคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องซ้ำยังเขียนโปรแกรมเที่ยวหลังแต่งงานไว้หลายอย่าง ยิ่งทำให้เอริโอน่ารู้สึกผิดที่ทำไม่ได้

ถ้าเกิดเป็นคนธรรมดาคงดี คงได้รักกันตลอดไป

คำกล่าวในใจเอริโอน่าก่อนจะจุมพิตเบาๆที่หน้าผากคนนอนหลับแล้วเดินจากไปอย่างไม่หันกลับไปมอง

เคยคิดไหมว่าถ้าเราเกิดเป็นคนนั้นคงดี เกิดเป็นคนนี้คงดี เป็นอย่างนั้นคงดีเหมือนเอริโอน่า แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าถ้าเราเกิดเป็นนั้นเราจะมีความสุขหรือเปล่าเราจะเจอกับอะไรดีๆเหมือนตอนนี้หรือเปล่าเหมือนเอริโอน่าถ้าเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดาอาจไม่ได้เจอกับโคเรนอล จงอย่าอยากเป็นเหมือนคนอื่นแต่จงเป็นให้เหนือคนอื่น ทำให้ดอกไม้ที่อยากได้อยากเป็นกลายเป็นพลังพาเราไปให้ไกลกว่าที่อยากเป็น หรือทำให้ดีกว่าที่อยากเป็น ความสุขที่แท้จริงกำลังจะเบ่งบานรอเพียงอาหารช่วยเติมเต็มเมล็ดพันธุ์

…ฉันรักคุณนะ แต่ความรักของเราคงต้องจบลงวันนี้ ฉันมีหน้าที่ต้องไปทำ ฉันคือเจ้าหญิงแห่งแสง ฉันไม่ใช่มนุษย์ฉันต้องกลับดูแลประชาชน ฉันเลือกชีวิตตัวเองไม่ได้ ได้โปรดให้คุณเข้าใจ ฉันมีความสุขมากที่ได้เจอคุณ ฉันจะรักคุณตลอดไป ที่รักได้โปรดเกลียดในความเห็นแก่ตัวของฉันด้วย ฉันที่แต่งงานกับคุณแล้วทิ้งคุณ ฉันไม่ขอการอภัยเพราะบาปที่ทำคงเลวร้ายเกินกว่าอภัย ฉันขอให้คุณเจอคนที่ดีกว่า ถ้ามีโอกาส พรุ่งนี้ฉันก็อยากไปดูดอกไม้กับคุณนะ   ฉันรักคุณ    จากเอริโอน่า…

จดหมายร่วงจากมือของชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่าไม่มีสาวน้อยแสนหวานไม่มีพรุ่งนี่สำหรับเขา ถึงรู้ดีว่าวันหนึ่งเธอต้องจากไปแต่เขาเองก็ยังทำใจไม่ได้

โคเรนอลรู้ว่าเอริโอน่าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแต่เก็บเป็นความลับเพราะกลัวสาวน้อยจะตกใจ

เวลานั้นมาถึงแล้วสินะ เจ้าหญิง

คำกล่าวทั้งน้ำตาที่เขาทำได้เพียงนั่งมองจดหมายจากคนรักที่เขียนถูกทุกคำ

“เอริโอน่าผมรอคุณได้ไหม จะรอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน ผมจะรอเพียงคุณ”คำกล่าวสั่นเครือที่มองดอกไม้แทนใจ ดอกลิลลี่สีขาวที่วางบนที่นอนแทนเจ้าของ โคเรนอลกอดดอกไม้แน่นเรียกหยดน้ำใสๆจากตา

“ราชินีเสด็จแล้ว”คำประกาศดังสนั่นพร้อมร่างทรงสง่าของราชินี

เอริโอน่าแต่งงานกับเจ้าชายจากทางเหนือและกลายเป็นราชินีปกครองอาณาจักรเรื่อยมา

แม้ดวงใจของสาวน้อยจะมีเพียงโคเรนอล แหวนดอกไม้ที่ถูกห้อยติดตัวตลอดเวลาเป็นเพียงสิ่งเดียวยังคงให้นึกถึงคนรักเก่า

หลังจากนั้นไม่นานแม่ของเอริโอน่าก็สิ้นพระชนม์จากไปเหลือเพียงคำอวยพรสุดท้าย

“ขอให้ลูกจงมีความสุขเอริโอน่า ราชินีแห่งพระอาทิตย์”คำลาสุดท้ายก่อนจะสิ้นลม

ราชินี หากได้เป็นแล้วโดดเดี่ยว ลูกขอเป็นเพียงคนธรรมดายังดีกว่า บัลลังก์ที่แสนเหน็บหนาวนั่น ท่านแม่ปรารถนาให้ลูกมีความสุขบนความเหงาหรือเพคะ

คำถามในใจราชินี ที่กำลงมองดูประชาชนที่มองร่วมฉลองวันเกิดของราชินีและร่วมยินดีกับราชินีที่กำลังจะให้กำเนิดทายาทของอาณาจักร

ตำนานแห่งดอกไม้ยังคงเป็นเพียงตำนานตราบจนปัจจุบันสู่ลูกหลานชาวพระอาทิตย์  เรื่องราวตอนจบของนิทาน

เมื่อดอกไม้แรกแห้งเหี่ยวไปเพราะรักที่ไม่สมหวัง ราชินีทรงเลือกหน้าที่ เพื่อประชาชนที่รักและดอกไม้แรกได้หายไปตลอดกาลด้วยคำอธิฐานสุกท้ายของราชินีที่ขอให้ดอกไม้หายไปและเบ่งบานอีกครั้งเมื่อราชินีได้พบกับคนรัก

เขาว่ากันสุดท้ายราชินีทรงพบดอกไม้แรกของฤดูที่ต้องการ ดอกไม้แรกที่รอคอยมานานแสนนานและครองรักอย่างมีความสุข

ตำนานที่เอริโอน่าได้ยินเสมอตั้งแต่เด็กและไม่เคยเชื่อจนเธอได้พบดอกไม้แรกและคงเหมือนตำนานเธอไม่สามรถรักได้และเธอคงไม่อธิฐานให้เขาต้องจมปรักอยู่กับคนเห็นแก่ตัวแบบเธอ เอริโอน่าเพียงของจากไปอย่างสงบ คำของสุดท้ายที่เอริโอน่าขอลูกชาย ให้ช่วยนำแหวนที่ห้อยสวมนิ้วในวันสุดท้ายและให้นำดอกลิลลี่สีขาวมอบให้เธอแทนดอกไม้อื่น คำขอสุดท้ายที่ลูกชายของเธอทำตามพระประสงค์ของท่านแม่

หญิงสาวร่างบางเดินทอดน่องไปเรื่อยๆอย่างเบื่อก่อนสะดุดตากับร้านดอกไม้เล็กๆที่มีดอกลิลลี่สีขาวที่เธอชอบอยู่มากมายและอีกหลายสี ร้านที่ส่วนใหญ่จะมีแต่ดอกลิลลี่สีขาว หญิงสาวเดินเข้าไปในร้านเพื่อสั่งดอกไม้ ก่อนสะดุดกับชายตรงหน้าที่ดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองสบมองก่อนนิ่งเหมือนต้องมนต์ไม่มีใครกล้าเอ่ยถามขึ้นก่อน

ภาพเหมือนหนังฉายซ้ำวิ่งปะทะเข้าสู่ใจของทั้งสองให้นิ่งเงียบ หยดน้ำใสๆไหลนวลแก้มทั้งสองคนอย่างห้ามไม่อยู่

“วันนี้ไปดูดอกไม้กันไหม”

“วันนี้ไปดูดอกไม้กันไหม”

คำถามที่เอ่ยขึ้นพร้อมกันทั้งน้ำตา เพราะกลัวไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับพวกเขาทั้งทุกวินาทีสุดแสนมีค่า ทั้งสองแย้มรอยยิ้มหวานก่อนที่ร่างทั้งสองจะโผเข้ากอดอย่างคิดถึง โดยไม่รู้สาเหตุ เพียงแค่คนตรงหน้าส่งยิ้มความทรงจำแสนหวานก็บังเกิดขึ้น แหวนที่ติดนิ้วมาแต่เกิดส่องแสงสว่างรับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานอีกครั้งด้วยคำอธิฐานของชายหนุ่มอันเป็นที่รัก

ชายหาดแสนสวยที่ได้กลับมาอีกครั้งกลับคนเดิม แต่ความสุขกลับเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ร่างทั้งสองหยุดนิ่งหันมองสบนัยน์ตาหวานของกันและกัน ก่อนมันจะเปื้อนหยาดน้ำตา

…แต่งงานกันนะ…

…แต่งงานกันนะ…

ทั้งสองชูป้ายขึ้นพร้อมกันเหมือนเมื่อครั้งก่อน ผิดแต่ครั้งนี้พวกเขาได้รักและอยู่ด้วยกันจริงไม่ใช่เพียงชั่วคราว พวกเขาจะรักกันและอยู่ด้วยกันตลอดไป

หลังจากนั้นอีกสองเดือนพิธีแต่งงานถูกจัดอย่างเรียบง่ายมีเพียงเพื่อนและญาติๆร่วมยินดี

ในงานถูกตกแต่งด้วยดอกลิลลี่สีขาวทั้งงานบรรยากาศแสนอบอุ่นสำหรับการรอคอยที่นานแสนนาน

“ผมรักคุณ”คำกล่าวบอกรักท่ามกลางดอกลิลลี่ให้เจ้าสาวเขินอายเพราะความฝันที่กลายเป็นจริง ราชินีคงมีความสุขเหมือนเธอในตอนนี้ ตำนานถูกเล่าขานถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของหนุ่มสาว เพื่อเติมพลังให้ดอกไม้อีกหลายที่กำลังก่อกำเนิดในใจของผู้อ่าน

“ฉันรักคุณค่ะ พระอาทิตย์ของฉัน”

 

…จบบริบรูณ์…

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว