“ ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองต้องการคืออะไร ” คำตอบที่ดูส่ง ๆ เหมือนไม่ได้ครุ่นคิดอะไรนั้นหลุดออกจากปากของหญิงสาว นัยน์ตาสีทะเลลึกนั้นจับจ้องไปยังใบหน้าของผู้ที่ถาม
“ ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันไม่มีแม้กระทั่งความฝันด้วยซ้ำ ” เธอกล่าวเสริมความให้ประโยคเดิม
“ ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ฉันไม่มีสิ่งที่ต้องการเพิ่มเติมหรอก ”
ในใจว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูก สิ่งที่เธอคนนั้นพูดมา เหมือนจะดีพร้อมสรรพ แต่ก็มีบางอย่างที่ชวนให้รู้สึกหดหู่เหลือเกิน ถ้ามันเป็นชิ้นส่วนประกอบความจริงแล้วล่ะก็...
กระอักกระอ่วนจนเกินกว่าจะขยับริมฝีปากไหว ช่วงเวลาแบบนี้ฉันควรปลอบใจเธอสิ ไม่ ไม่ ไม่ เธอคนนี้ก็ดูจะพอใจอยู่แล้วนี่ แต่จริง ๆ มันก็เหมือนกับไม่มีโอกาสตัดสินใจอะไรเองเลย ทว่าเธอก็ไม่ได้เกลียดไม่ใช่หรอ หรือว่าแค่ไม่อยากพูดออกมากัน
“ อ... เอ่อ…” เสียงสั่นเครือเล็ดลอดออกมา สหายสีขาวเกาแก้มตนเล็กน้อยอย่างกังวลใจ
“ อะไรเหรอ? ” เสียงเรียบนิ่งสวนกลับทันทีที่ได้ยิน
“ ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดรึเปล่า ” เด็กหญิงสีขาวพยายามดึงความกล้าอันน้อยนิดของตน
“ เธอไม่ต้องการอะไรแล้วจริง ๆ งั้นเหรอ? ” เด็กน้อยเอ่ยถามหญิงสาวคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง
กึก... หญิงสาวคนนั้นหยุดนิ่งไปเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะเผยยิ้มอ่อน ๆ ให้เห็น เธอจับมือกับเพื่อนสีบริสุทธิ์ มือน้อย ๆ ของเด็กหญิงสีขาวกุมรับไว้ แต่ไม่ได้พูดอะไร เป็นการกระทำอันยากที่จะเข้าใจว่าสื่อถึงอะไรแน่ สร้างความค้างคาใจมิใช่น้อย
“ เธอพอใจกับสิ่งที่เธอเป็นรึเปล่า ”
“ เธอโอเคกับสิ่งที่เธอได้รับจากพวกเขาแล้วใช่ไหม ”
เด็กหญิงที่เป็นร่างรวมของความสว่างคนนั้นเอ่ยถามคำถามต่อไปเรื่อย ๆ แม้ว่าหญิงสาวคนนั้นจะเงียบนิ่ง มีเพียงรอยยิ้มจาง ๆ เท่านั้นที่ยังคงถูกแสดงออกมาจากตัวของเธอ แม้จะเป็นแบบนั้น คำถามอันมากล้นก็ยังคงโถมกรูเข้ามาไม่หยุดหย่อนผ่านปากน้อย ๆ ของสหายสีขาวตัวจ้อย มีมากมายเสียจนนับไปทัน ผ่านเข้ามาเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ
จนกระทั่ง คำถามหนึ่งได้ถูกเอ่ยขึ้นมา...
“ เธอมีความสุขหรือเปล่า ”
ยิ้มจาง ๆ นั้นก็ยังคงอยู่ เธอคนนั้นก็ยังคงไม่ตอบอะไรกลับมาเช่นเดิมถึงตอนนี้จะยังไม่ตอบ แต่คำถามต่อไปเธออาจจะอยากเล่าก็ได้นี่นา…?
“ ตอนนี้ตัวเธอนั้นสนใจอะไ... “
“ พอแล้ว พอได้แล้ว!!! ”
คำขัดบอกให้เด็กน้อยหยุด หญิงสาวคนนั้นก้มหน้าลง ตัวสั่นเทา อย่างกับคนที่เจอกับความหนาวอันยากจะทานทน แต่เธอตอนนี้ ไม่ได้สั่นไปเพราะสภาพอากาศ
“ พอซะทีเถอะ อย่าถามอะไรไปมากกว่านี้เลย ” หยาดหยดใสล้นเอ่อออกมา ไหลผ่านผิวแก้มนวลเนียน แล้วจึงร่วงหล่นลงสู่พื้น แม้เธอจะหลีกหนีด้วยการก้มหน้า แต่น้ำตาและอารมณ์ของเธอ ณ ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็มิอาจเก็บซ่อนไว้จนมิดได้ดั่งเดิมอีกแล้ว ข้ามเลยเกินขีดจำกัดที่จะไหวไป
“ ความสุขหรอ ความสุขนี่มันคือยังไงกันแน่ ฉันเองก็อยากมี แต่มันคืออะไรกันล่ะ ” หยดแล้วหยดเล่ารินไหลผ่านไป ยังไม่หยุด
“ ฉันทำอะไรได้บ้างล่ะ ทำไม่ได้เลย ขนาดแค่กลั้นน้ำตายังไม่ได้ด้วยซ้ำ ”
“ สาแก่ใจรึยัง ถามอะไรบ้า ๆ อยู่ได้ ”
“ เอาสิ แม้กระทั่งแกเองก็คงจะอยากเยาะเย้ยไปด้วยอีกคนแน่ ๆ เชิญเลย จนกว่าจะพอใจ อยากถามอะไรอีกไหมล่ะ? เอาสิ แทงใจดำกันให้พอ ”
“ ไม่เป็นไรนะ ” มือที่เคยกุมไว้ เลื่อนย้ายมาสัมผัสเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาว
“ ถึงหนูเองจะไม่ได้เจออะไรแบบนั้น แต่หนูก็เข้าใจความรู้สึกนั้นนะ ” เชยหน้าของอีกฝ่ายขึ้นอย่างทะนุถนอม ยิ้มสดใสพยายามปลอบประโลมใจ “ พยายามมาเยอะเลยนะ ไม่เป็นไร ถึงตอนนี้จะยังไม่ใช่ช่วงที่ดีก็เถอะ ” เสียงใสชวนฟังค่อย ๆ เยียวยาหัวใจสีหม่น
“ เธอไม่ได้พูดไปเพราะเกิดสมเพชขึ้นมาจนเกินทนใช่ไหม ถ้าเธอนึกอย่างงั้นขึ้นมาล่ะก็ รู้สึกว่ามันจะแย่กว่...”
นิ้วชี้เล็ก ยื่นมาสัมผัสริมฝีปากเบา ๆ “ ไม่ใช่หรอก ”
“ ไม่ใช่เพราะความสมเพช ไม่ใช่เพราะความสงสาร ”
“ แต่หนูเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคือยังไงแน่ ”
“ หนูแค่อยากช่วยให้ดีขึ้นบ้าง แม้จะทำได้ไม่ดีนักก็เถอะ”
“ ขอโทษถ้าทำให้รู้สึกไม่ดีขึ้นมา แต่ความต้องการของหนูก็แค่อยากให้พี่ได้ระบายออกบ้าง เพราะหนูเองก็ยังนึกทางอื่นไม่ออก ” เด็กหญิงตัวน้อยทำสีหน้าเศร้า ๆ ขึ้นมา แต่ไม่นานนักก็กลับมาทำหน้าตาสดใสอีกครั้ง ด้วยความที่คิดว่า ถ้าตนเองทำหน้าเศร้า ๆ คนตรงหน้าอาจจะเศร้าตามไปด้วยอีกก็ได้ แต่ถ้าเรายิ้มซะ เขาอาจจะได้รับความรู้สึกดี ๆ จากเราก็ได้นี่นา ~
“ เป็นแบบนั้นหรอกหรอ ” ใบหน้าที่พยายามหลบซ่อน ตอนนี้เริ่มกลับมามองตรง ๆ ได้อีกครั้ง ตอนนี้เสียงของเธอนั้น เอื่อยเฉื่อยเหมือนไร้เรี่ยวแรงที่จะพูดต่อไป อาจเป็นเพราะความอัดอั้นภายในใจที่พาให้จมดิ่งลงไปก็ได้ อาจจะเป็นเพราะสิ่งนี้ ตัวเธอเลยเหนื่อย ความเหนื่อยที่ออกมาจากภายในใจ
ร่างเล็กละมือออกจากใบหน้าของหญิงสาว เปลี่ยนเป็นการสวมกอดแน่น ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าถูกไออุ่นโอบกอดไว้ แม้จะไม่มีคำพูดใดเสริมต่ออีก มันก็เป็นความรู้สึกที่ดี ดีมากเสียน้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง
“อุหวา..!! เป็นอะไรรึเปล่า ขอโทษ ๆ ไม่สบายใจขึ้นมาอีกรึเปล่า ” เด็กน้อยตื่นตระหนก
“ ขอบใจ ” จากเดิมที่มีเพียงเด็กน้อยเข้ามากอด เวลานี้หญิงสาวผู้ขุ่นมัวได้ยื่นแขนโอบกอดรับความปารถนาดีของเด็กน้อยเอาไว้ โอบรับไว้ซึ่งความสุขชั่วขณะ
“เอ๋?” เด็กน้อยสีขาวทำหน้างุนงงเล็กน้อย
ถึงจะไม่เข้าใจอีกฝ่ายในบางส่วน แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นการร้องไห้ในรูปแบบที่ดี อย่างน้อยตอนนี้หญิงสาวคนนั้น ถึงแม้น้ำตาจะยังคงไหลริน แต่รอยยิ้มตอนนี้นั้นไม่ได้ถูกบิดเบือนอย่างแน่นอน
“ ดีใจจังนะ ที่ตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้ว ”
“ สู้ ๆ นะ หนูจะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ ”
เด็กน้อยสีขาวค่อย ๆ จางหายไป ทิ้งไว้แค่เพียงความรู้สึกในใจของหญิงสาวคนนั้น
“ ขอบใจนะ ”
หญิงสาวเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง แม้จะไม่มีใครรอฟังอีกแล้ว
ไม่สิ... ถ้าจะพูดให้ถูกแล้ว...
ไม่มีใครฟังอยู่ตั้งแต่เริ่ม ไม่มีแม้กระทั้งคนที่อยู่ฟัง
เด็กน้อยสีขาวบริสุทธิ์คนนั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง เป็นเพียงจินตนาการของหญิงสาวเท่านั้น
เธอแค่พยายามสร้างเรื่องในหัวตนเองขึ้นมาเพื่อปลอบตนเอง
เอาล่ะ... อีกไม่นานก็ต้องไปเผชิญความจริงอยู่ดี...
สุดท้ายแล้ว ก็โกหกแม้กระทั่งกับตนเองนี่นะ...
I.K. - 777