ในปัจจุบันภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อโลกมาเป็นระยะเวลานาน ผู้คนเริ่มตื่นตัวและกังวลต่อภาวะโลกร้อน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจึงเห็นการรณรงค์ลดการใช้พลาสติคและเริ่มปลูกต้นไม้ เพียงเพื่อหวังว่าภาวะโลกร้อนจะดีขึ้น แต่ทว่า.....
‘’มันไม่ทันเสียแล้ว’’
ในปี 2022 อุกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชน ธารน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ น้ำแข็งละลายอย่างเฉียบพลัน เกิดพายุเฮอริเคนและสึนามิขนาดใหญ่กว่าที่โลกเคยพบเจอ หลายประเทศต้องถูกกระแสน้ำกลืนกิน ผู้คนนับล้านๆต้องสูญหายและเสียชีวิต
‘’โดยปกติโลกประกอบด้วยน้ำ 75% พื้นดิน 25%’’
แต่ในปี 2022
‘’ โลกเหลือพื้นดินเพียง 5% เท่านั้น ‘’
‘’นี่คือการพิพากษาจากพระเจ้า’’
‘’ธรรมชาติได้เอาคืนพวกเราแล้ว’’
‘’วันนี้แหละคือวันสิ้นโลก’’
โลกตกอยู่ในความโกลาหล ทั้งจากภัยธรรมชาติ ความวุ่นวายจากผู้คน รัฐบาลของประเทศที่เหลือรอดจับมือกันก่อตั้ง ’’รัฐบาลโลก’’ เพื่อจัดการแก้ไขปัญหา ในปี 2023 รัฐบาลโลกได้มีมติก่อสร้างเมืองขนาดมหึมา จำนวน 3 แห่ง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษยชาติ บนพื้นที่แผ่นดินสุดท้ายของโลก แน่นอนว่าเมืองเพียงเท่านี้ย่อมไม่พอรองรับผู้คนทั้งหมด จึงเกิดนโยบาย
‘’ Selection หรือ การคัดเลือก ’’
ผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าไปอยู่ในเมืองที่รัฐบาลโลกสร้างไว้
ผู้ไม่ผ่านการคัดเลือกต้องจะใช้ชีวิตอยู่ภายนอกเพื่อรอการคัดเลือกอีกครั้ง
เงื่อนไขการคัดเลือกมีเพียงแค่รัฐบาลโลกและผู้คัดเลือกเท่านั้นที่มีข้อมูล
แน่นอนว่าการคัดเลือกจากรัฐบาลโลก ไม่ได้โปร่งใสขนาดนั้น ผู้มีชื่อเสียง เงินทอง และผู้มีอิทธิพลของโลกล้วนได้รับการคัดเลือก
‘’โลกไม่เคยยุติธรรมอยู่แล้ว’’
ความเกลียดชังถูกปลูกฝังลงในสมองของผู้คนที่ไม่ผ่านการคัดเลือก คนเหมือนกันเหตุใดค่าไม่เท่ากัน พวกเขาจึงออกไปตั้งรกรากอยู่ตามเมืองที่ล่มสลาย ตามป่า ตามเขา พร้อมกับความหวังว่าการคัดเลือกครั้งต่อไป จะเป็นตัวฉันที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่เมืองที่แสนปลอดภัย..