ทริปที่ไม่มีวันลืม
1
ตอน
153
เข้าชม
17
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

ทริปที่ไม่มีวันลืม

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านคะเรื่องที่กำลังจะพูดถึงนี้นะคะเป็นประสบการณ์ที่ฉันเคยเจอสมัยเมื่อตอนฉันอายุ 8 ขวบ มันนานมากแล้วผู้อ่านทุกท่านโปรดใช้จินตนาการนึกตามกันดูนะคะ

เสียงสตาร์ทรถยนตร์ได้ดังขึ้นพร้อมทั้งพ่อแม่ของฉันได้เตรียมแพ็กกระเป๋าออกไปเที่ยวทริปประจำปีของครอบครัวในช่วงปิดเทอม ปีนี้พวกเราเลือกไปเที่ยวที่จังหวัดพิษณุโลกกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากลืมบอกไปฉันเป็นคนจังหวัดเพรชบูณ์ ฉันมีอายุ ได้ 8 แปดขวบแล้ว ฉันมีน้องสาวคนนึ่งเธอชื่อ ลิซ ฉันกับน้องอายุห่างกันไม่มากนัก อ่อลืมบอกไปอีกแล้ว ฉันชื่อ มิส ค่ะ มิสที่แปลว่า คิดถึง ชื่อดูดีเลยใช่ไหม หึๆ ใช่คะ ฉันกับลิซเราดีใจมากที่จะไปเที่ยวกัน ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันกับลิซเราชื่นชอบเรื่องลึกลับกันมากเลยคะทุกๆครั้งที่ไปเที่ยวหรือไปไหนฉันกับลิซเราชอบค้นหาเรื่องลึกลับของสถานที่นั้นๆที่เราจะไปกันไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สถานที่เที่ยวต่างๆเหมือนอย่างเข่นวันนี้โรงแรมที่เราจะไปพักกัน

ฉันเชื่อว่าหลายๆคนที่คงอ่านรู้สึกคิดไปทำนองกันว่า แน่นอนต้องมีแน่ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมไหนก็ตามที่เราไปมักจะมีประวัติของตัวมันเอง ทริปครอบครัวครั้งนี้เราได้เลือกที่พักโรงแรมเครสซิเด้นท์ ในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งแน่หล่ะไม่พ้นการสืบหาเรื่องราวลึกลับซ้อนอยู่ในโรงแรมแห่งนี้แน่นอน ฉันกับน้องก็ได้ไปเจออยู่เว็บนึง คนในเว็บนั้นเขาได้พูดถึงเรื่องประสบการณ์การเข้าพักโรงแรมเครสซิเด้นท์ พอฉันกับลิซได้กดเข้าไปอ่านกันมีเสียงเดียวกันว่าเจอผีจริงๆแต่ละคนเจอไม่เหมือนกันในแต่ละรูปลักษณ์แต่ที่สำคัญเลยมักจะเจอกันช่วงตอนตี4 ฉันว่ามันแปลกมาก ฉันกับลิซรู้สึกตื่นเต้นกันไปอีกว่ามันจริงหรือเปล่า

จนพ่อของพวกเราได้ขับรถไปถึงที่หมายในเวลา 6 โมงเย็น พวกเราออกเดินกันจากเพชรบูรณ์ตอนบ่าย 3 เมื่อพ่อของฉันกำลังเลี้ยวรถเข้าที่พักบรรยากาศโดยรอบทางเข้าของโรงแรมดูสวยมากดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พอพ่อเริ่มขับเข้าไปทางซ้ายและขวามีต้นลีลาวดีเรียงกันเป็นแถวบรรยากาศดูเงียบสงบมาก พ่อของฉันขับรถตรงไปเรื่อยๆ จนต้นไม้ลิปตาเราไป ขับไปเรื่อยอีกหน่อยก็จะเห็นตัวโรงแรมมีลักษณะรูปทรงคล้ายๆมัสยิดแนวแขกฉันก็ไม่รู้จะอธิบายออกมาอย่างไรเหมือนกันแต่เขาเรียกกันต่อๆมาว่าอย่างนี้พ่อกับแม่ฉันพูดชมโรงแรมกันไม่หยุดปากว่าสวยมากและดูมีความเก่าเป็นของตัวเอง

เมื่อมองจากที่ไกลๆจากด้านบนของตัวโรงแรมนั้นดูไม่มีที่กั้นบนด่านฟ้า ดูน่าไปถ่ายรูปมาก ฉันกับลิซเห็นแบบนี้แล้วแทบจะรอไม่ไหวที่จะไปสำรวจภายในตัวของโรงแรมจากที่อ่านมาเจอของจริงแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย และไม่รอช้าพ่อของพวกเราก็ได้จอดทางเข้าหน้าโรงแรมและส่งพวกเราเอาข้าวของลงจากรถยนต์กันก่อน จากที่รถยนต์ของพ่อจะลับตาไปหาที่จอดรถ ฉันกับลิซและแม่ได้แต่ยืนรอพ่อเดินมาทางเข้าโรงแรม ทางเข้าตัวขอโรงแรมมีประตูกระจกใสๆสองบานให้เราผลักเข้าไปได้ กระจกใสมากทำให้เราได้เห็นชั้นล็อบบี้ที่ไว้รอและเช็คอิน เมื่อพ่อฉันเดินมาถึงพวกเราไม่รอช้าก็ยกของกันเข้าไปในโรงแรมแห่งนี้

เมื่อกำลังดันประตูกระจกใสฝั่งซ้ายเข้าไปเสียงของมันทำให้ฉันนึกหนังสยองขวัญเลยค่ะ ชักเริ่มสนุกแล้วสิ ไม่รอช้าพวกเราก็ได้เดินเข้าไปในโรงแรมพ่อแม่ของพวกเราก็รีบวางกระเป๋าและเดินไปหาพนักงานที่อยู่หน้าล็อบบี้เพื่อถามหาห้องระหว่างนั้นฉันกับน้องก็ได้เดินเล่นรอบห้องโถงใหญ่ไปเรื่อยๆตรงช่วงกำแพงเป็นลายวาดตัวละครไทยสวยมากดูมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเองดี หลังจากนั้นพ่อและแม่ของฉันก็ได้กุญแจห้องมา ลิซน้องของฉันก็ได้ถามพ่อขึ้นมาว่า "พ่อคะ ได้ห้องอะไรมาหรอ" พ่อก็ได้ตอบว่า อ่อพวกเราได้ห้อง 409 กันหน่ะ" ลิซกับฉันเราทำหน้าตื่นเต้นยิ้มส่งๆใส่พ่อของพวกเราไป ระหว่างเดินไปขึ้นลิฟเราก็ได้สนทนากันอย่างสนุกสนานภายในครอบคัวเกี่ยวกับที่เที่ยวในพิษณุโลกที่เราอยู่นี้ ในขณะที่พวกเรากำลังขึ้นลิฟฉันกับน้องก็ได้ถามพนักงานที่มาด้วยว่าที่นี้มีกี่ชั้น พนักงานเค้าก็ได้ตอบเราว่ามีทั้งหมด 7 ขั้น แต่ใช้ได้ตริงๆแค่ 4 ชั้น เราก็พยายามถามพี่เค้าต่อว่าทำไมใช้ได้แค่ 3 ชั้นพี่เค้าก็เงียบไม่ตอบอะไร ฉันกับน้องเห็นได้ชัดเลยว่าที่นี่ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆเลย เอาหละได้เวลาสองพี่น้องต้องตามหาความจริงกันสะแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับสถานที่แห่งนี้

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว