ท่ามกลางอวกาศอันเงียบสงบ ยานสำรวจดวงดาวเพื่อค้นหาสินแร่ลำยักษ์สีดำยังคงล่องลอยอยู่ในสภาพที่นิ่งสนิท ภายนอกตัวยานบ่งบอกถึงการถูกสะเก็ดหินอุกกาบาตชนให้เห็นอยู่ประปราย บัดนี้เครื่องยนต์ของยานได้ถูกปิดคล้ายกับว่ามีคนจงใจทำแบบนั้นเพื่อหวังผลบางอย่าง ต่างจากภายในตัวยาน ที่มีแต่เสียงหวีดร้องกลัวตายดังอยู่เซ็งแซ่ ทว่าผ่านไปไม่นาน เสียงกรีดร้องอ้อนวอนเหล่านั้นก็ได้เงียบหายไป
บรรดาข้าวของเครื่องใช้ภายในยานถูกรื้อกระจุยกระจาย พื้นทางเดินไม่ว่าจะหลักหรือรองต่างเต็มไปด้วยคราบเลือดรวมถึงเศษชิ้นส่วนของมนุษย์ตกอยู่กลาดเกลื่อน ช่างเป็นภาพที่ชวนสยดสยองยิ่งนัก เวลานี้มีเพียงลมหายใจของตัวเองเท่านั้น ที่คอยอยู่เป็นเพื่อนในเวลานี้
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจ้องมองไปยังผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตรงทางเดินหลัก ดวงตาฉายแววหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ เพราะต้องมาเจอกับมือสังหารโหดโดยลำพัง!
ฆาตกรโฉดแสยะยิ้ม ใบหน้าและเสื้อผ้าที่สวมใส่เต็มไปด้วยคราบเลือดของบรรดาเหยื่อเริ่มแห้งเกรอะกรัง
ผู้ถูกหมายปองชีวิตรีบถอยหลังกรูดจนกระทั่งชิดติดผนังสีดำของตัวยาน ขนทุกเส้นลุกตั้งชันไปทั่วทั้งร่างกาย ในใจได้แต่คิดว่าเหตุใดฆาตกรผู้นี้ถึงทำแบบนี้!
หญิงสาวเหลือบไปมองยังด้านหลังเพื่อหาหนทางที่จะหลุดพ้นจากฆาตกรใจเหี้ยมโหด ทว่า...หันไปทางไหนก็เจอแต่ผนังที่ถูกฉาบด้วยคราบเลือดสีแดงของผู้โชคร้ายก่อนหน้านี้
ฆาตกรอำมหิตแผดเสียงหัวเราะลั่น อดไม่ได้ที่จะสมน้ำหน้าเหยื่อตรงหน้า ถึงกระนั้นมันก็ยังย่างกรายเข้าไปหาเหยื่ออย่างไม่หยุด ทีละนิด...ทีละนิด
สิ้นเสียงหัวเราะ ฆาตกรใจโหดก็พุ่งเข้าใส่เหยื่อตรงหน้าพร้อมมีดอันคมกริบในมือหมายจะเสียบเข้าที่ท้อง ทว่าเหยื่อของมันยังพอมีสติ ยอมใช้มือเปล่ารับมีดนั้นเอาไว้ ทำให้มีดทะลุฝ่ามือแต่แทงไปไม่ถึงท้อง และฉวยโอกาสนั้นใช้ศีรษะกระแทกจมูกของฆาตกรอย่างเต็มแรงจนมันเสียหลักก้าวถอยออกไป
“เก่งนักหรือไงวะ!”
มือมีดตาเบิกโพลงอย่างโกรธเกรี้ยว เงื้อมีดขึ้นซ้ำ แต่ไม่ทันสาวผู้เคราะห์ร้ายถีบเข้าที่ท้องอย่างจัง มันถึงกับล้มลงไปกองกับพื้น
เมื่อนั้นหญิงสาวก็ไม่รอช้า รีบวิ่งย้อนกลับไปยังทางเก่าที่เข้ามาในตอนแรก ปล่อยให้ฆาตกรใจเหี้ยมนอนหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว...