อยู่ดี มีตาย บทที่ 1 เเว่วเสียงจากเเดนไกล

สยองขวัญ

อยู่ดี มีตาย บทที่ 1 เเว่วเสียงจากเเดนไกล

อยู่ดี มีตาย บทที่ 1 เเว่วเสียงจากเเดนไกล

The dack29

สยองขวัญ

0
ตอน
212
เข้าชม
33
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

๐คราใด ที่เจ้าสุข ข้าจองผลาญ 

คราใด ที่เจ้าทุกข์ ข้าขอกาย 

คราใด ที่เจ้าเศร้า ข้าขอเลือด 

เเละคราใด ที่เจ้าตาย ข้าขอวิญญาณ 

เฮือก! 

นํ้าผึ้งสะดุ้งตื่นจากภวังค์ พลันเหลียวมองรอบห้อง 

ชุดนอนสีเเดงอมชมพูชุ่มชโลมไปด้วยเหงื่อทั่วตัว 

ใบหน้าดูซีดเผือด ดวงตาดูกลวงลึก มือทั้งสอง 

นั่งกุมขมับอย่างกับคนหวาดระเเวง เธอมองรอบ 

บริเวณห้องพลางเปิดโคมไฟที่ตั้งอยู่ใกล้ๆหัวเตียง 

ยามรัติกาลนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายมีมือปีศาจวาด 

ระบายเเต่งเเต้มสีตามใจอยาก ทั่วห้องของเธอมี 

เพียงความมืดที่กลืนกินทุกสิ่งมีเพียงโคมไฟน้อยๆ 

ที่ประทั่งความสว่างใกล้ๆกายของเธอ หญิงสาวนั่งพิงพนังของห้องสองมือนั่งกอดเขานึกทบทวนเสียงที่กระซิบข้างหูเบาๆเเล้วค่อยๆพลันสลายหายไปนับคล้ายว่ามาจากที่ไกลเเสนไกล เเต่เธอกลับนึกไม่ออกเสียว่าสิ่งที่ได้ยินนั้น มาจากที่ไหนเเล้วมาทำไม ต้องการอะไร เธอเฝ้าถามตัวเองอยู่นานจนมาถึงยามสี่ เธอสะบัดความคิดทั้งหมดไป 

เพราะว่าพรุ่งนี้เธอต้องไปร่วมงานเเต่ของเพื่อนชายที่รักของเธอ เธอพิงกายนอนลงเเล้วเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว! 

 เสียงเเว่วเพลงบรรเลงงานเเต่งมาเเต่ไกลลิบลิ้ว 

เสียงกล่อมขวัญดังกึ่งก้องทั่วบ้าน ผู้คนรายล้อม 

มากมายจวนจะล้นบ้านของเจ้าบ่าวผู้ที่ใส่สูทสีดำ 

ใบหน้าดูเเจ่มใสยิ้มเเย้มตลอดเวลา ดวงตาสีอำพัน 

เเพขนตาหนาอย่างเป็นประกายดุจเเก้วมณีเจ็ดสี 

ริมฝีปากที่ดูงดงามดั่งพระอินทร์รูปทองจำเเลงร่างข้างๆเขาคือหญิงสาวที่สวมชุดเเต่งงาน 

ลายดอกไม้สีขาวสดใส ใบหน้าของหญิงสาว 

เวลาเปี่ยมไปด้วยความงดงาม ดวงตาเจิดจรัส 

ดั่งดวงดาวบนท้องฟ้า เเพขนตาบางเเต่มีความงดงามซ้อนเงื่อน ริมฝีปากทาลิปสติกสีชมพูอ่อน 

ทั่วร่างกายของหญิงสาวนั้นประดับประดาไปด้วย 

กำไลข้อมือเพชรที่เกาะรัดอยู่บนข้อมือด้านขวา 

สร้อยเพชรสีขาวเจิดจรัสเมื่อต้องเเสงอาทิตย์ 

มันจะเเพรวพราวสวยงามดั่งมณีเจ็ดดวง 

เสียงผู้เฒ่าเเก่ชราคนหนึ่งเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า 

กางเกงขายาวสีดำธรรมดาบ้านๆ ผูกผ้าขาวสีเเดง 

ปนลายส้มคาดไว้ที่เอวอย่างคนสมัยโบราณทั่วไป 

ใบหน้าดูซีดเซียวเสียวเหี่ยวย่น ตาของเเก่ดูคล้ายจะปิดเเต่ที่จริงเเล้วเเก่ก็อายุมากหลาย หนังตาจึง 

ค่อยๆฝ้าฟางไปเรื่อยตามประสาคนเเก่ทั่วไป 

เสียงให้ขวัญคู่บ่าวสาวดังขึ้นจากปากของเเกพร้อมการผูกเส้นด้ายดิบอย่างช้าๆ 

 

 ๐ฝ้ายเส้นนี้กูขอให้พวกมึงเป็นสุข 

  ฝ้ายเส้นนี้กูขอให้มึงพ้นภัยอันตรายทั้งปวง 

  ฝ้ายเส้นนี้กูขอให้พระอินทร์ดูเเลเเละปกปัก 

  ฝ้ายเส้นกูขอให้พวกมึงยืนยาวกาลนานไป 

 

สิ้นเสียงผู้เฒ่าเเก่ชายจบลง เสียงลมพัดกระโชก 

เเรงอย่างฉับพลัน ต้นไม้เอนไหวดั่งมีชีวิตขึ้นมา 

ท้องฟ้าสีดำลอยอ้อยอิ่งม้วนตัวเกาะกลุ่มกันเป็น 

เกล็ดปลาใหญ่สีเเดงฉานดั่งมีปีศาจระเลงสีเลือด 

ป้ายเต็มทั่วท้องฟ้า ความมืดครอบงำทุกสิ่งอย่าง 

ดุเดือด เสียงลมซัดบายศรีที่ตั้งตระหง่านสูงล้มลง 

อย่างเเรงจนทำให้คู่บ่าวสาวถอยออกมาเเต่ตาเฒ่าที่กำลังผูกด้ายดิบได้เอ่ยขึ้น 

 

" ข้าขอผูกด้ายดิบนี้เสร็จเสียก่อน "เสียงของตา 

บอกกับคู่บ่าวอย่างนั้นเเล้วดวงตาของเเกเพ่งเล็ง 

ไปที่ด้ายดิบที่เเกกำลังพูดพลางปากของเเกก็สวด 

อะไรพึมพำอย่างรวดเร็ว ได้สักครู่เเกก็ผูกเสร็จ 

ตาเฒ่าออกอาการชักเกร็งอย่างกระทันหัน 

 

" ตาครับ! ตาครับ! " เสียงของเอกพันธ์วิ่งเข้ามา 

ประคองตาเฒ่าอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของชายหนุ่ม 

ดูตื่นตระหนก ดวงตาของเขาดูเป็นประกาย 

สูทสีดำของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยนํ้าลาย 

ฟูมปากของตาเฒ่าหัวหงอกที่โดนประคองอยู่ 

ตรงหัวเข่าของเอกพันธ์ 

" คุณค่ะ!ตาเเกเป็นอะไรหรือค่ะ " เสียงของนํ้าผึ้ง 

ที่วิ่งเข้ามาดูเอกพันธ์คนรักของเธอที่กำลังประคองร่างที่หมดสติของตาเฒ่า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อท่วมกายเเลเห็นเเล้วท่วมชุดที่เธอ 

ใส่เป็นเสื้อลายลูกไหมสีขาวอมชมพู ใส่กระโปรง 

สีชมพูอมส้ม รองเท้าสีดำขัดชู  

" เดี๋ยวฉันจะไปตามหมอมาให้นะค่ะ " ทันใดที่สิ้นเสียงของนํ้าผึ้ง ลมกระโชกเเรงได้บั้นถอนลงอย่างสงบเมฆดำเกล็ดปลาใหญ่สีเลือดได้อันตธานหายไปอย่างน่าพิศวง เสียงนกเเสกบินมาเกาะบนหลังคา เเววตาอันเเวววาวของมันมองมาที่ 

นํ้าผึ้งที่กำลังวิ่งกระสับกระสนเพื่อไปตามหมอมารักษาตาเฒ่าเเก่ที่กำลังนํ้าลายฟูมปากอยู่ในตอนนี้ชั่วอึดใจขนาดหนึ่งนกเเสกก็ได้บินลาลับขึ้นฟ้าหายไปอย่างน่าเเปลกใจ 

เสียงคุณหมอวิ่งมาที่บ้านงานเเต่งของเจ้าบ่าวใบหน้ามีเหงื่อออกจนจนท่วมถึงหน้าอก หมอใส่ชุดเเพทย์สีขาว กางเกงสีดำ วิ่งถลาเข้าหาคนไข้อย่างรวดเร็ว หมอสัมผัสข้อมือของเเก 

เเล้วได้เงยหน้ามองมาที่เอกพันธ์ ด้วยเเววตาที่ดู 

เศร้าสร้อย พร้อมเอ่ยเสียงออกมาเบาๆ 

" คุณลุงตายเเล้วนะครับ ชีพจรขาดหายเเล้ว " 

เอกพันธ์นํ้าผึ้งเเละผู้คนที่รายล้อมรอบอาณาบริเวณบ้านได้ฟังจากปากหมอก็ทำสีหน้าหดหู่ส่ายหัวกันไปมาอย่างกับคนสิ้นหวังอย่างไร้ที่ติ 

งานศพของตาเฒ่าเเก่ ถูกเผาขึ้นภายในสามวันหลังจากงานเเต่งในวันนั้น ผู้คนต่างพากันมาวางดอกไม้จันทร์กันมากมายกลายกอง ของชำรวยหรือเงินโปรยทาน ถูกโปรยลงพื้นเป็นเสียงดังเกลื้อนทั่วอาณาบริเวณเมรุวัด 

" นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นเเน่ค่ะเอก " เสียงนํ้าผึ้งเอ่ยถามคนรักด้วยนํ้าเสียงราบเรียบ ใบหน้าดูสดใสมีรอยยิ้มจางๆบนเเก้มพร้อมเเววตาที่ดูงดงามป่านจะชุดวิญญาณของคนรักมาให้ได้ 

" เรื่องนี้มันอาจจะเป็นเเค่อุบัติเหตุ ตาเเกอาจจะตกใจกับพายุหนักจนช็อกตัวเกร็งนํ้าลายฟูมปากจนเสียชีวิตก็ได้น้ะครับ " เสียงเอกพันธ์บอกกับนํ้าผึ้งด้วยนํ้าเสียงที่หวาน พร้อมกับเเววตาที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ดั่งนํ้าทิพย์ชโลมใจ 

" เเต่ฉันเป็นห่วงคู่บ่าวสาวนั้นจังค่ะ อาจจะขวัญเสียไปมากกว่าจะได้รับขวัญอีกนะค่ะ " นํ้าผึ้งมองไปยังหญิงชายที่นั่งข้างๆทางขวา เเววตาเธอดูสอดเเทรกความเป็นห่วงเเบบพิเศษโดยไม่รู้เลยว่าเอกพันธ์ได้มองตามเธอไปจนเกือบจะคอหักเสีย 

" ผมลองไปคุยกับเขาเเล้วล่ะ เขาบอกว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นอาถรรพ์ เเต่ผมไม่เชื่อหรอกน้ะตราบใดที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูนจ์ไม่ได้ทุกอย่างที่ผมมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นภูตผี ปีศาจ ก็ตาม "ชายหนุ่มทำเสียงเเข็ง ใบหน้าดูเคร่งขรึม ขนตาที่เเพสวยงามตอนนี้กลับเป็นดูลึกลับ ดวงตาพิศวงมองไปยังเบื้องบนของเมฆอย่างใจจดใจจ่อ 

คืนนี้ราตรีมืดดับ จันทร์ดับสลายมลายสูญสิ้นไม่เหลือเเม้เเต่เเสงที่พอจะมีให้เห็นเลยเเม้เเต่น้อยความมืดคืบคลานเข้าไปในตัวบ้านทุกซอกทุกมุมของอาณาบริเวณ ไม่เว้นเเม้เเต่ห้องที่นํ้าผึ้งนอนห้องของนํ้าผึ้งถูกความมืดกลืนเสียหมด 

๐เสียงเพลง ข้าจะก้อง เป็นเลือดเเดง 

 เมฆสี    เเดงจะกลืน ทุกสิ่งอย่าง 

 เเม้เเต่   ดวงวิญญาณ ก็ไม่ต่าง 

 ตายทั้งเป็น ทรมาน    ชั่วกัปกัลป์ 

เฮือก! 

นํ้าผึ้งลุกพรวดจากที่นอน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อที่เปียกโชก มือสองข้างพลันตอนนี้ไม่ 

เขยื้อนกระดุกกระดิกเเม้เเต่นิด เธอฝันเเบบนี้รอบที่สองเเล้วราวกับว่าใบเสียงนั้นเหมือนจะสูบกินวิญญาณของเธอไปดั่งไม่มีวันกลับย้อนคืนเธอมานั่งพิงพนังดั่งท่วงทีดูอิดโรยเหมือนคนไม่มีกระดูกเธอนั่งทบทวนความฝันอย่างงงงวยอยู่ก็มีเสียงลมเบาพัดพายอดไม้ ใบไม้ปลิวกลิ่นจำปีหอมฟุ้งซ่านไปทั่วบ้านของเธออย่างน่าเเปลกทั้งที่บ้านของเธอไม่มีต้นจำปีเเม้เเต่ต้นเดียวลมพัดดอกจำปีดอกหนึ่งเข้ามาทางหน้าต่างของเธอล่องลอยมาตกตรงผ้าห่มผืนใหญ่ที่ห่มกายของหญิงสาวเอาอยู่ หญิงสาวใช้มือหยิบขึ้น 

มาเพ่งเล็งว่าจำปีดอกนี้มาได้ยังไง มาจากที่ไหน 

เเล้วอยู่ๆเธอก็พลันวูบเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว 

" กลับมาหาข้าเถิด ข้ารอเจ้าอยู่วิกาภา "เสียงนั้นดังเเว่วมาเเต่เเดนไกล ก่อนที่นํ้าผึ้งจะพลันสลบสไหลไป! 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว