อยู่ดี มีตาย
0
ตอน
166
เข้าชม
12
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

ปฐมบท 

เสียงลมพัดต้นไม้เสียงดังสะท้านไปรอบทั่วบริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่โตที่ตั้งตระง่างามตา โดนเด่นเสียงฟ้าร้องคำรามวูบไหว เมฆสีดำดั่งปีกอีกาใหญ่ปกคลุมท้องฟ้าให้มืดมิด เสียงนกเเสก นกฮูกใหญ่ร้องกันเสียงหลงเเบบกระวนกระวายในราตรีนี้หมู่สิงห์สาลาสัตว์ทั้งหลาย ต่างพากันเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านที่เเสนจะอบอุ่นของพวกมันอย่างสบายใจ 

 

เสียงรถคันหนึ่งวิ่งขึ้นเขาสูงชันขึ้นมาอย่างเสลือกสลนเพราะต้องเเรงลมที่จวนพัดเร็วดั่งพายุใหญ่ พัดพากิ่งไม้ เศษขยะ ฝุ่นทั้งหลายให้ไปติดอยู่หน้ากระจกรถอย่างน่ารำคาญจนต้องใช้มือไปปัดออกเพื่อให้กระจกดูกระจ่างชัดตาขึ้นรถได้วิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หลังนี้เสียงเปิดประตูรถจากฝั่งคนขับ เผยให้เห็นชายร่างผอมบาง ตัวซีด ใบหน้าของเขา มีหนวดเคราที่รุงรัง จมูกของเขาโด่งอย่างเห็นได้ชัด ขนตาที่เเพหนาดูรุงรังเป็นสง่า ตาของเขาโดนปกปิดด้วย 

เเว่นกันเเดดสีดำเเต่ก็สัมผัสได้ว่าดวงตาเขามีเเวววาวความเปล่งประกายอยู่ใต้เเว่นกันเเดดของเขาเขาปิดประตูรถ พร้อมเดินไปเปิดประตูฝั่งโดยสารด้านซ้ายมือ เผยให้เห็นหญิงงามองค์หนึ่งเขาใส่ 

เสื้อยืดสีชมพูอมเเดง ใส่กางเกงยีนส์สีดำเข้มประดับประดาไปด้วยเครื่องประดับหรูหราเเต่ละชิ้น ร่างเล็กสูงซีด ผิวดูขาวกระจ่างใสใบหน้าที่ดูสวยเพราะเเต่งเครื่องสำอางอย่างปากที่บรรเลงด้วยลิปสติกสีเเดง ใบหน้าฉาบด้วยเเป้งทาใบหน้า ขนตาที่เเพบางเเต่มีความยาวเพราะถูกเขียนให้ดูมีความสวยงาม ดวงตาที่ใส่คอนเทคน์เลนด์สีฟ้างามสง่าเมื่อจ้องมองเหมือนดวงตาคู่นั้นกำลังสะกดจิตตกอยู่ในภวังค์อันหาสุดมิได้เลย 

" อุ้มลูกออกมาจากรถสิ วาโย " เสียงหญิงสาวสั่ง 

คนรักของตนพลางชี้นิ้วไปยังเด็กที่มีเเววตา 

ใสเเป๋ว หน้าตาดูสะอาด ในปากดูดขวดนม 

เเววตาของเขารอคอยให้พ่อของเขาอุ้มประเคน 

ขึ้นอกที่หนาเเลดูปลอดภัยเเละอบอุ่นอย่างดี 

" งั้นเราเข้าบ้านกันไปได้เเล้ว วิภาดา " เสียงชายหนุ่มบอกกับคนรักของตนพร้อมเดินเข้าบ้านพลาง 

เอามือข้างหนึ่งกันลมเพื่อมิให้ฝุ่นหรือเศษต่างๆ 

เข้ามาในตัวเด็ก 

เสียงประตูคฤหาสน์ดังสนั่นทั่วทุกอาณาบริเวณ 

ภายในคฤหาสน์ในตอนนี้เต็มไปด้วยความมืดมิด 

ที่เเพปกคลุมทุกสิ่งให้ดูน่ากลัวเเละหวาดระเเวง 

" ปิ๊ด!! " เสียงวิภาดาเปิดไฟทั่วคฤหาสน์เผยให้เห็นในตอนนี่คือของที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นห้องหนังสือโบราณ ของเก่าเเก่ที่สะสมมาตั้งเเต่สมัยบรรพบุรุษถูกวางระเกะระกะอย่างน่าสงสัย 

" นี่มันเกิดอะไรขึ้น!! " เสียงวาโยถามขึ้นโดยรู้ว่า 

จะมิได้คำตอบมาก็ตาม วาโยมองขึ้นไปชั้นสอง 

คฤหาศน์ มีเสียงกุกกักๆ อยู่ข้างบนห้องของวาโย 

" วิภาดาอุ้มลูกไว้กอดผมจะขึ้นไปดูชั้นสอง " 

วาโยส่งเด็กให้วิภาดาที่กำลังดูดขวดนม 

พร้อมทำหน้าตาสดใส ทำโบกมือไม้น่ารัก 

วาโยเดินขึ้นบรรไดเเต่ละขั้นไปด้วยครุ่นคิดหลาย 

ทั้งที่คฤหาสน์ถูกล็อกอย่างเเน่นหนาจะมีผู้ใดฤา 

ที่จะเข้ามายังคฤหาสน์เเห่งนี้ได้ตามใจชอบ 

เสียงสายฟ้าฟาดคำรามเป็นสีเงิน ดวงตาของวาโยที่จับจ้องเเต่ห้องของตัวเอง ขณะเดินขึ้นไปที่ 

ละขั้นด้วยความหวาดผวาอย่างหนัก เมื่อวาโยเดินมาถึงทางตรงของชั้นสองคฤหาศน์วาโยถึงค่อยเบาฝีเท้าเพื่อมิให้คนในห้องได้ยินเสียง วาโยเดินไปถึงหน้าประตูห้อง อยู่สมองเเละใจกับครุ่นคิดตีกันเสียเองว่าจะเปิดหรือไม่เปิด 

เเต่สุดท้ายวาโยเปิดประตูดูอย่างเร็ววาโยถึงกับเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง สิ่งที่พบคือคนร้ายสามคนที่กำลังค้นโต๊ะทำงานของวาโยอยู่ 

" พวกเเกเข้ามาที่นี้ได้ยังไง " เสียงของวาโยดูสั่น 

เครือไปทั่วร่าง ใบหน้าของวาโยซีดเผือด ดวงตา 

มองเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงหาที่สุดมิได้ 

 โจรพวกนี้ไม่ตอบวาโยกลับเเม้เเต่สักคำเเต่ชักมีดออกมาจากเอว โจรลุกขึ้น เผยให้เห็นตาอัน น่ากลัว ดวงตาของมันลึกกลวงจนเเทบจะสบตา มิได้ มันวิ่งถลาอย่างเร็วพร้อมมีดคู่กายของมันถลาวิ่งเข้าเเทงวาโยเเต่วาโยหลบได้ทันไว 

" หนีไปเร็ววิภาดา หนีไปจากที่นี้ซะ " วาโยตะโกน 

บอกวิภาดาขณะที่กำลังต่อสู้กับโจรอย่างเอาเป็นเอาตาย โจรอีกคนได้ยินเสียงวาโยตะโกนบอกจึงรีบวิ่งออกไปจากนอกห้องเเล้วไปเกาะตรงระเบียง 

ชั้นสองของคฤหาสน์ โจรมองวิภาดาที่ยืนอยู่กลางคฤหาสน์กับเด็กอีกหนึ่ง จึงรีบวิ่งลงจากชั้นสองอย่างรวดเร็ว วิภาดาจึงวิ่งออกไปจากคฤหาสน์ ท้องฟ้าในตอนนี้เป็นสีเเดงทะมึนดั่ง 

เกล็ดปลาหนาใหญ่เสียงลมพัดกระหนํ่ากระทบกับต้นไม้ใหญ่ สายฟ้าสีครามฟาดลงหลังคฤหาสน์อย่างรุนเเรง วิภาดาพาเด็กน้อยที่พึ่งลืมตาดูโลก วิ่งกระเสือกกระสนมาหยุดที่ 

ต้นจำปีใหญ่ต้นหนึ่งหลังคฤหาสน์ข้างหลังของต้นจำปีคือนํ้าตกที่กำลังไหลเชียวกราดอย่างน่าสะพรึงกลัวจนมิกล้าให้หลังไปมองเสียเลย 

 โจรรูปร่างกำยำ มือที่ถือมีดเต็มไปด้วยเส้นเลือด ที่ปูนโปนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของโจรในตอนนี้ดูกริ้วโกรธ ดวงตาข้างหนึ่งถูกพันด้วยผ้าปิดตา ส่วนอีกข้างคือมองมายังวิภาดาที่ยืนกล้าๆกลัวๆ ใบหน้าซีดเผือด มือที่สั่นเครือไม่ยอม หยุด ทันใดนั้นโจรได้วิ่งเเล่นหุนหันฉับพลันพร้อม 

มีตายสายฟ้าฟาดสีครามลงกับต้นจำปีใหญ่ เลือดสีเเดงของหญิงสาวร่างงามโดนเเทงข้างหลังหญิงสาวร้องคำรามเสียงดั่งพยัคฆ์ที่ต้องโดนศรพิษร้ายทิ่มเเทงใจ หญิงสาวมองเด็กน้อยตาใสพร้อมกล่าวอำลาด้วยคำสั้นๆ 

" ลาก่อนลูกน้อยเเม่ เป็นคนดีนะค่ะ " หญิงสาวโยนลูกน้อยลงนํ้าตก เสียงเด็กร้องอย่างโหยหวนพร้อมยื่นมือไปหาเเม่ที่อยู่ด้านบนหวังให้อุ้มประเคนขึ้น เเต่เด็กหารู้ไม่ว่าเเม่ของเขาด้านตายไปเสียเเล้ว 

 วาโยที่กำลังล้มลุกคุกคลานอยู่ ก็ได้ลุกขึ้นมาสู้ 

กับโจรทั้งสองอย่างดุดัน โจรร่างใหญ่ใช้มีดถลา 

เข้าเสียบวาโยตรงหน้าท้องอย่างจังจนทำให้วาโย 

ล้มลงดิ้นเสลือกสลนทุรนทุรายอย่างทรมาน 

ความเจ็บฟุ้งซ่านไปเส้นเลือดของร่างกาย 

โจรคนที่อยู่หลัง ได้ชักปืนที่เหน็บไว้ที่เอวควักออกมาอย่างฉับพลันกระหนํ่ายิงวาโยอย่างไม่ใยดี 

 

" ปัง!! ปัง!! ปัง!! "  

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว