“เสี่ยวลู่ ๆ! วันนี้พี่ชายข้ากลับมาบ้านละ!!”
“ดีจริง ๆ งานนี้ที่จวนของเจ้าคงจัดงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่มากเป็นแน่”
“ไม่หรอก พี่ส่งจดหมายมาดักความคิดของท่านพ่อไว้แล้วว่าห้ามจัดงานเลี้ยงใหญ่โต อย่างมากขอแค่นักร้อง นักรำ นักดนตรีมาเล่นระหว่างรับประทานอาหารก็พอน่ะ”
“เป็นคนที่รู้ใจท่านอาดีมาก”
“คิก ๆ นั่นสินะ ที่มาวันนี้ก็เรื่องนี้ละ ท่านพ่อกับท่านแม่ให้มาชวนเจ้าไปร่วมงานด้วยนะ”
“พี่อวิ้นหลง นี่เสี่ยวลู่ เพื่อนของข้าเอง!”
“ยินดีที่ได้พบแม่นาง ข้าหลานอวิ้นหลง”
“หมีลู่ขอรับ ยินดีที่ได้พบ”
“........ ผู้ชาย?”
“ขอรับ”
“นี่เจ้าค่ะ”
“มันคือ....”
ร่างบางมองไหบางอย่างที่พี่สาวเอาเข้ามาวางให้พร้อมกับจอกเหล้าสองจอก โอเค ตัวเขาพอรู้แล้วว่ามันคืออะไร
“ซีเฟิง*เจ้าค่ะ”
“ซีเฟิงรึ! ได้ยินมาว่ากลิ่นมันหอมมาก”
“คุณหนูลองพิสูจน์ดูสิเจ้าคะ”
“ลองหน่อยเถิดเสี่ยวลู่ มันมิใช่สุรารสแรงมาก เจ้าคงไม่เมาง่าย ๆ เพียงจอกเดียวแน่”
แต่เอาเข้าจริง ๆ หมีลู่กับหลานเหม่ยอิงกินไปกินมาจนไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเขาซัดกันไปแล้วถึงสามไห ตอนนี้สติเขาเองก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว เหมือนตัวเขาจะเริ่มเมาซะแล้วสิ คงไม่ใช่แค่เขา หลานเหม่ยอิงที่กำลังยืนกอดซุกคอคุณแม่หลับอยู่เองก็เหมือนจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เอาเป็นว่าตัวเขาขอยอมแพ้เรื่องรอกินของหวานแล้วแบกสังขารของตัวเองพร้อมหลานเหม่ยอิงไปนอนดีกว่า
ร่างเล็กลุกขึ้นยืนเพื่อจะได้ไปพาหลานเหม่ยอิงกลับห้อง แต่เหมือนว่าขาของเขาจะยืนไม่อยู่แล้ว เพราะทันทีที่ลุกขึ้นเดินได้ไม่ถึงก้าวก็ฟุบนั่งพับเพียบเรียบร้อยลงกับพื้นซะแล้ว เป็นท่าล้มที่สำอางในความคิดของเขาดีจริง ๆ
ไม่ไหวแล้ว...... ตัวเขายื้อสติตัวเองไว้ไม่ไหวแล้ว จากดวงตาที่ปรือ ๆ อยู่ตอนนี้ก็ได้ปิดสนิท หมดสติเข้าเฝ้าพระอินทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เขากำลังฝัน ในความฝันเขาฝันว่าตัวเองกำลังนั่งเด็ดดอกไม้ทำมงกุฎอยู่กลางทุ่งดอกไม้หลายชนิด แล้วไม่นานหลานอวิ้นหลงก็เข้ามาสวมกอดตัวเองจากด้านหลัง ตัวเขายิ้มให้หลานอวิ้นหลง แล้วเอามงกุฎดอกไม้ที่พึ่งทำเสร็จหมาด ๆ สวมให้ หลานอวิ้นหลงเองก็ส่งยิ้มให้ตัวเขาพร้อมกล่าวขอบคุณ จากนั้นหลานอวิ้นหลงก็ชวนตัวเขากลับบ้าน เขาก็พยักหน้ารับ ก่อนที่หลานอวิ้นหลงจะพาไปที่ม้าหนุ่มตัวโตสีดำสนิท เห็นแล้วมันทำให้ตัวเขาเองอยากลองขี่มันก็ดูสักครั้งเลยสะกิดแขนบอกหลานอวิ้นหลงว่าอยากขี่ม้า เหมือนเขาจะเข้าใจ เลยจะสอนขี่ม้าให้ระหว่างทางกลับบ้าน โดยที่ร่างใหญ่ ๆ ของหลานอวิ้นหลงนั่งซ้อนหลังเขา แต่ไม่รู้ว่าทำไมขี่ไปขี่มามันถึงรู้สึกเจ็บ ๆ แสบ ๆที่ช่องทางด้านหลังของตัวเอง จนกระทั้งทนไม่ไหวตัวเขาเลยบอกให้หลานอวิ้นหลงหยุดม้า แต่เขากลับไม่หยุด แล้วบอกให้อดทนอีกนิดเพราะใกล้ถึงบ้านแล้ว ตัวเขาที่ได้ยินแบบนั้นเลยอดทนรอไปจนเราทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน
เป็นเช้าอีกวันที่ตัวเขาตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองถูกกอดโดยหลานอวิ้นหลง ผู้ซึ่งเป็นสามีนับตั้งแต่เมื่อวาน และทั้งร่างกายของเขาเองก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนก่อนนอนตัวเขายังไม่ทันได้ถอดแม้แต่ผ้าคลุมหัว แถมเอวและสะโพกปวดแปลบ ๆ เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย! นี่เขาเป็นคนหลับลึกขนาดนั้นเลยเหรอ! ถึงได้โดยเสียบแล้วยังไม่ตื่นเนี่ย!!
“เอ่อคือ.... เรื่องเมื่อคืนนี้....”
“เป็นเจ้าที่หลับไปก่อน ข้าจึงคิดว่าจะเปิดเพียงผ้าคลุมศีรษะออก แล้วนอนข้าง ๆ เจ้าแต่ทันทีที่ข้านอนลงไปกับเตียง ตัวเจ้าก็ลุกขึ้นมาคร่อมตัวข้า ซุกไซร้ที่คอแล้วบอกข้าว่าอยากขี่ม้า และหลังจากนั้นก็....”
ประโยคมันเหมือนในฝันมาก ชัดเลย! ตัวเขานอนละเมอ!!! ละเมอได้สุดติ่งมาก! เพราะละเมอแล้วปล้ำหลานอวิ้นหลง! โฮกกกกกก!! นี่แสดงว่าตัวเขาเองเป็นคนเริ่มใช่ไหม!
เข้าใจแล้ว เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตัวเขาผิดเต็มประตูเลย.....
***เรื่องนี้ยังไม่ได้ตรวจคำผิด หากพบเห็นสามารถคอมเม้นบอกได้ในท้ายตอน ขอขอบคุณนักอ่านทุกคนที่สนับสนุน***
*****เวลาอัพไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเวลาว่างของคนแต่ง ขอขอบคุณถ้ายังคงติดตามกันอยู่*****