ขอรักเธออีกสักครั้ง ภาคสอง
151
ตอน
10.9K
เข้าชม
120
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
9
เพิ่มลงคลัง

 

คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลภิวนารถ 

ภายหลังจากเจ้าของคฤหาสน์ ปาวิน ภิวนารถได้หายตัวไปอย่างลึกลับนานกว่าสี่สิบปี ทิ้งสมาชิกในครอบครัวในระหว่างล่องเรือเที่ยวในอ่าวไมอามี่ช่วงระหว่างมีการลอบสังหารนายกรัฐมนตรีของอินเดีย ปาวิน ภิวนารถหายตัวไปในเวลากลางคืนวันเกิดเหตุจราจลที่อินเดีย  

ต่อมาเกสรินก้าวขึ้นนั่งแทนสามีในตำแหน่งประธานบริษัทจัดการธุรกิจ  เกสรินไม่มีความสามารถดูแลกิจการใหญ่โตตามลำพัง และไร้ทายาทชายที่จะช่วย  เกสรินจึงตัดสินใจขายกิจการทุกอย่างให้อนิราช ไวศานย์ โดยมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนคือ บุตรชายคนใดคนหนึ่งของอนิราชต้องแต่งงานกับลูกสาวของตน ภายในสิบห้าวันหลังจากทีมีการเซ็นเอกสารมอบกิจการ งานพิธีแต่งงานของอนินท์กับวิภาดาก็ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตมโหฬาร 

อนิราช ไวศานย์มีจุดประสงค์และเป้าหมายจะขยายกิจการเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อนิราชขู่บังคับลูกชายให้เข้าพิธีแต่งงานสมความปรารถนาเรื่องการขยายกิจการได้สำเร็จ เรื่องราวทั้งหมดจึงกลายเป็นปมปัญหาขึ้นระหว่างสองครอบครัว  

“มาร์ค แม่ของเราอยู่ที่ไหน” คุณยายเกสรินเดินตามหาวิภาดาลูกสาวในห้องทั่วคฤหาสน์  มาร์คช่วยคุณย่าตามหาแม่ของเขาที่นั่งเฝ้าอาการไข้ของลูกสาวคนเล็กอรินาในห้องนอนทางทิศใต้ของคฤหาสน์ “สงสัยอยู่กับอรินาครับ” เกสรินวัยเจ็ดสิบปีชี้ไปที่ห้องนอนของหลานสาววัยเดียวกันชีวา นอนซมเพราะพิษไข้ วิภาดานั่งเช็ดตัวให้ลูกสาวคนเล็ก “อรินา แม่ตามคุณหมอแล้ว อีกสิบนาทีคุณหมอก็จะมาถึง” เมื่อคุณยายเกสรินเข้ามาพบลูกสาวกำลังดูแลหลานสาว  “วิภาดา แม่มีเรื่องจะคุยด้วย ส่วนอรินา....ให้มาร์คดูแลไปก่อน”   

คุณยายเกสรินจูงมือลูกสาวก้าวเดินอย่างเร็ว “คุณแม่มีเรื่องอะไรคะ” สองมือผลักบานประตูเปิดออกกกว้าง รีบปิดบานประตูอย่างเร็ว “แม่ได้ข่าวจากเพื่อนที่อเมริกา ชีวาได้รับการแต่งตั้งเป็นทายาทแทนมาร์ค มันเป็นความจริงใช่ไหม ทำไมลูกยอมพวกเขา” คุณยายเกสรินทรุดร่างนั่งลงบนเก้าอี้ทรงหลุยส์ “แม่ค่ะ เรื่องการตัดสินใจหย่า หนูขอรับผิดชอบเองค่ะ เพราะหนูทนอยู่ในสภาพนั้นไม่ได้ อนินท์ไม่เคยอยู่กับหนูเลยตั้งแต่ชีวาเกิด ทั้งๆที่หนูมาก่อน” หัวใจวิภาดาที่แตกสลายพยายามซ่อนความเสียใจหลังจากที่ครอบครัวไวศานย์ยอมรับเงื่อนไขของชีวา   

“แม่มาที่หลังครับ” มาร์คเดินเข้ามาภายในห้องรับรอง “มาร์ค อย่ายุ่งเรื่องนี้ แม่ขอร้อง” ชายหนุ่มวัยสามสิบปีเดินวนไปวนมา “ผมไม่ได้ยุ่งครับ แต่คุณแม่ควรยอมรับความจริง เรามาที่หลัง” คุณยายเกสรินยกมือขึ้นห้ามทั้งคู่ “ยายขอคิดเรื่องนี้ตามลำพัง พวกเธอทั้งสองคนออกไปได้” สิ้นเสียงของคุณยาย มาร์คยื่นมือให้แม่จับ “ผมจะเลี้ยงแม่และทุกคนได้อย่างมีความสุขด้วยครับ คุณปู่คืนกิจการของภิวนารถให้เราทั้งหมด ผมขอดูแลกิจการของคุณตาเองครับ”  

“มาร์ค แล้วความเจ็บปวดที่แม่ได้รับทั้งหมด ลูกไม่เห็นใจแม่ ใช่ไหม” วิภาดาปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลพรากออกมา “ผมรักและเห็นใจแม่ครับ ผมถึงยืนอยู่ที่นี้” เกสรินไม่กล่าวอะไร นั่งมองดูสองแม่ลูกกอดกัน เสียงถอนหายใจเบาๆของคุณยายเกสรินเหมือนการยอมรับความพ่ายแพ้ต่ออารยาและชีวา  

 

“เดี๋ยวฉันมา” คุณยายเกสรินสวมผ้าสาหรี่สีเทาตั้งแต่วันที่ตำรวจแจ้งการหายตัวไปอย่างลึกลับ ก้าวเดินอย่างสง่างามเข้าในห้องนอนของตน  ชีวิตหลังจากที่สามีหายตัวไป คุณยายเกสรินเปิดโรงเรียนสอนด็กพิการทางหู  นับเป็นหนึ่งผลงานที่ประสบผลสำเร็จ วัยเจ็ดปีที่มีชื่อเสียงกลายเป็นวีรสตรีที่น่ายกย่องของชาวรัฐพิหาร ชาวพิหารให้ความเคารพนับถือดุจผู้ให้ชีวิตใหม่สำหรับคนตกทุกข์ได้ยาก  คุณยายเกสรินไขกุญแจห้องทำงานของสามี บานประตูไม้สักสองบานเปิดออกกว้าง ภายในห้องทำงานยังคงสภาพเดิมทุกอย่าง ของใช้ทุกอย่างตั้งอยู่เหมือนเจ้าของห้องยังกลับมาทำงานตามปกติ แม้แต่ถ้วยน้ำชาอุ่นๆ นำมาวางผลัดเปลี่ยนวันละสามเวลา ใกล้แผ่นกระดาษสีเทาอ่อน ด้ามปากกาหมึกซึมเปิดทิ้งไว้ เกสรินเปิดผ้าม่านลูกไม้สีขาว สองมือลูบผืนผ้าม่านด้วยความโศกเศร้า หัวใจเต้นแรงร่างกายสั่นเพราะความเสียใจที่ถูกทอดทิ้ง มือกุมผ้าม่านแน่น  หันหน้ามองโต๊ะทำงานของสามี “ฉันเชื่อว่าคุณยังไม่ตาย คุณมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง ทำไมไม่ติดต่อกลับมาหาฉัน ปาวิน ความรักระหว่างเราสองคนมัน...หายไปไหนคะ”   

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว