เจ้าเหมียวสื่อ...รัก
0
ตอน
191
เข้าชม
9
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

ชายหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดดำกำลังยืนถือกรอบรูปของพ่อแม่อยู่หน้าเมรุ เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีครามด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย เขากำลังคิดว่าชีวิตของเขาต้องจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปเมื่อเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว

 

สวัสดีครับ ผมชื่อ ออกัส เป็นนักเขียนนิยายรัก แต่ผมไม่เคยมีความรักจริงๆ นิยายที่เขียนแม้จะเป็นเรื่องรักแต่ก็เป็นเรื่องรักที่เอามาจากคู่รักคนอื่นตามสถานที่ต่างๆ ประสบการณ์ความรักจากเพื่อนๆ ทำให้นิยายของผมไม่มีแบบฉบับรักของตัวเองระหว่างนี้ผมควรทำตามคำแนะนำของบก. ที่ว่าจะเขียนนิยายรักต้องรู้จักความรัก คำพูดของบก.ดังก้องอยู่ในหัวของผม ผมจึงออกเดินเพื่อหาแรงกระตุ้นและไอเดียในการเขียนนิยายของผม แต่เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตทำให้ผมได้เจอความรักจากเพื่อนตัวน้อยคือ เจ้าแมวเหมียวผู้หลงทางจอมน่ารัก “อ่ะ ได้แรงบันดาลใจแล้ว!”

 

หลังจากนั้นผมก็นำแมวตัวนั้นกลับมาเลี้ยงเอาไว้ เป็นแมวที่ธรรมดาเอาซะมากๆจนมองดูจืดชืด ไม่สวยไม่แพงไม่โดดเด่นใดๆ แมวตัวนั้นมีความสุขมากกับบ้านใหม่ บ้านหลังไม่ใหญ่ บ้านหลังเล็กที่อบอุ่น มีข้าวมีน้ำและมีที่นอนนุ่มๆให้นอนเสมอๆ บ้านที่มีผมอยู่เพียงตัวเดียวมาโดยตลอด.. ด้วยความที่มันเป็นแมวธรรมดาๆตามธรรมชาติต่อให้เลี้ยงมันไว้ตัวเดียวในที่แคบๆ มันก็จะมีความสุขอยู่อย่างนั้นแหละแค่เจ้าของไม่ลืมให้ข้าวให้น้ำบ้างแมวก็จะไม่มีทางหนีไปไหน หากที่ที่นั้นมันตัดสินใจที่จะอยู่ อยู่แล้วสบายใจและหลับลงได้อย่างไม่ต้องกลัวอะไร

 

พอได้แรงกระตุ้น ไอเดียก็โผล่ขึ้นมาทันที ผมไม่รู้มาก่อนเลย...ว่ามีอย่างอื่นนอกจากหนังสือ...ที่สามารถทำให้จินตนาการในการเขียนของผมผุดขึ้นมามากขนาดนี้ จนหยุดเขียนไม่ได้

 

“อ่ะ ฮัลโหล” “ผมคริสจากสำนักพิมพ์แสงจันทร์ครับ ผมอ่านอีเมลของคุณแล้ว นิยายเกี่ยวกับแมว ฟังดูน่าสนใจมากเลย” “ครับ ขอบคุณ”

 

“นี่ก็เป็นงานใหม่ที่น่าติดตามของออกัสนะ แต่ว่าเดดไลน์ตอนแรกเป็นเดือนนี้นะ โอเคหรือเปล่า?” “ครับ ผมคิดโครงเรื่องไว้แล้ว” “โอ้! งั้นก็รบกวนด้วยนะครับ”

 

เมื่อเริ่มจะเขียนนิยายรัก คนเขียนจะต้องรู้จักความรัก ผมบอกกับตัวเองและเพื่อนตัวน้อยว่า ความรักก็คือความรัก และไม่ว่าจะเป็นความรักในรูปแบบไหน มันก็สวยงามเสมอ แม้จะมีอุปสรรคขวางทาง แต่ถ้าหากผ่านมันไปได้จะช่วยให้ความรักนั้นมั่งคงยิ่งขึ้น

 

วันนี้เป็นวันครบกำหนดส่งเดดไลน์ตอนแรกแล้ว ผมหยิบต้นฉบับแล้ออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปที่สำนักพิมพ์ทันทีพร้อมกับเพื่อนตัวน้อยเพื่อไปส่งต้นฉบับนิยาย หลังจากนั้นผมก็พาเพื่อนตัวน้อยไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวบ้าน ในเวลาว่างหลังจากส่งเดดไลน์นิยายแล้ว ผมชอบออกมาพักผ่อนที่สวนแห่งนี้เป็นประจำ แต่เหมือนฟ้าลิขิตเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ผมได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งเธอน่ารักมาก รอยยิ้มที่สดใสของเธอทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเรียกว่า “ความรัก” หรือเปล่า ในทุกครั้งที่ผมมาสวนสาธารณะผมชอบมองดูเธอออกกำลังกาย ระหว่างที่ผมกำลังนั่งมองเธออยู่นั้นจู่ๆก็ผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว

 

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าแมวตัวนั้นของคุณหรือเปล่าค่ะ” “ค ครับ ใช่ครับ แมวตัวนี้ของผมเอง” “ฉันขอเล่นกับมันหน่อยได้ไหมค่ะ” “ค ครับเชิญเลย” ผมอุ้มเพื่อนตัวน้อยส่งให้เธอ

 

“น่ารักจังเลย มันชื่ออะไรค่ะ” “เออ ผมเรียกมันว่าเพื่อนตัวน้อยครับ” และจากนั่งมองภาพตรงหน้าที่มีหนึ่งคนกับหนึ่งตัวเล่นกันอย่างมีความสุข

 

“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรค่ะ ฉันชื่อ แอลนะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” “ผมชื่อ ออกัสครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” “คุณออกัสมาที่สวนสาธารณะบ่อยหรือเปล่าค่ะ คือฉันอยากจะเล่นกับเพื่อนตัวน้อยอีกค่ะ” “นานๆมาทีครับ” “งั้นหรอค่ะ น่าเสียดายจังเลย” “ถ้ายังไงเราแลกเบอร์โทรศัพท์กันก็ได้นะครับ พอดีบ้านผมอยู่แถวนี้ถ้าคุณแอลคิดถึงแมวหรืออยากเล่นกับมันอีกจะได้โทรมาหาผม” “ดีเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะ”

 

หลังจากที่เราแลกเบอร์โทรศัพท์กันที่สวนสาธารณะวันนั้นแล้ว พวกเราก็เจอหน้ากันทุกวันและนี่ก็ผ่านมาได้ 1 เดือนแล้ว เมื่อผมอยู่ใกล้ๆกับแอลความรู้สึกของผมก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผมจึงสารภาพรักกับแอลและขอเธอเป็นแฟน

 

“แอลครับ คือ ผมชอบคุณครับ เรามาเป็นแฟนกันนะ” “ตกลงค่ะ แอลก็ชอบออกัสเหมือนกัน”

 

หลังจากที่ทั้งคู่ตกลงคบกับเป็นแฟนก็ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยมีรูปที่ทั้งคู่อุ้มเพื่อนตัวน้อย เจ้าแมวเหมียวจอมน่ารัก ก็อย่างที่ว่า ชีวิตคนเรา ตอนไม่เจอก็ไม่เจอ ตอนไม่มีก็ไม่มี แต่บทจะมาก็มา แต่ไม่ว่าจะมาแบบไหนอย่างไร ทุกคนได้รู้ว่าความรักว่ามีหลากหลายรูปแบบ เมื่อเวลานั้นมาถึงจินตนาการจากนิยายก็ไม่สามารถช่วยเราได้ นอกจากจะได้พบเจอกับความรักที่แท้จริงในสักวัน เหมือนอย่างที่ผมบังเอิญได้เจอความรักจากเพื่อนตัวน้อยคือ เจ้าแมวเหมียวผู้หลงทางจอมน่ารักระหว่างที่กำลังหาแรงกระตุ้นและไอเดียในการเขียนนิยาย นำพาไปสู่การได้อยู่ใกล้กับคนรัก จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ครอบครัว”

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว