หลินเซียง กระบี่พยัคฆ์ทมิฬ

เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีชื่อ เตียวหลินเซียง ที่พยายามแก้ไขสถานการณ์ในยุคที่เจริญแล้ว โดยแบ่งการปกครองออกเป็นแคว้นหลาย ๆ แคว้น ซึ่งแต่ละแคว้นต่างพยายามแย่งชิงอำนาจกันไปมา จนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน บ้านเมืองลุกเป็นไฟ โดยกษัตริย์ขุนนาง อ๋อง แต่ละแคว้นกลับละเลย หาแต่ความสุขและอำนาจที่มากขึ้นใส่ตน และอีกฝั่งหนึ่งคือฝั่งของยุทธภพ โดยในยุทธภพก็จะมีสำนักหรือพรรคต่าง ๆ มากมาย ซึ่งทุกสำนักล้วนมีอุดมการณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งอาจจะแต่ต่างกันออกไป อาจทำให้มีความขุ่นเคืองกันบ้าง จนอาจถึงเป็นศัตรูกัน แต่เรื่องความขัดแย้งในยุทธภพนั้นกลับน้อยนิดนัก เมื่อเทียบกับฝั่งของราชสำนัก โดยขุนนางอ๋อง หรือผู้มีอำนาจ จะมีการจ้างจอมยุทธ ให้ทำงานให้ตนเองอย่างลับ ๆ ไปโจมตียึดแคว้นนั้นบ้าง ขัดขวางการทำงานกันบ้าง หรือแทรกแซงอำนาจบ้างมากมาย โดยเด็กหนุ่มหลินเซียนพยายามแก้สถานการณ์ในยุคนี้ต่อจากอาจารย์ของตนซึ่งคือ ลู่เทียนหยาง เขาเป็นจอมยุทธที่ว่ากันว่าแข่งแกรงที่สุดในยุคหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะหลังจากสร้างชื่อเสียงแล้ว เขาใช้เวลาอีกครึ่งชีวิตของตนผดุงความยุติธรรม อย่างลับ ๆ ไม่เปิดเผยชื่อเสียงอีกเลย ด้วยสาเหตุอันใดไม่ทราบ โดยสุดยอดวิชาของเขาหรือเป็นสุดยอดวิชาแห่งยุคคือ กระบี่พยัคฆ์ทมิฬ ซึ่งจะถูกถ่ายทอดให้หลินเซียงในเวลาต่อมา ซึ่งว่ากันว่าเป็นวิชากระบี่ที่มีความว่องไว และพลังทำลายสูง ที่สุดโดยกระบวนท่านั้นไม่มี ใช้การขัดเกลาจากการฝึกเองตามเคล็ดวิชา เพลงกระบี่จะแสดงอานุภาพได้มากสุดเมื่อใช้คู่กับกระบี่นิลทมิฬของเขา ซึ่งต่อมาก็จะถูกส่งต่อมายังลูกศิษย์ของเขาอีกหลินเซียง และอีกวิชาหนึ่งคือ หัตถ์อินทรีย์สวรรค์ เป็นสองวิชาที่มาคู่กันของ ลู่เทียนหยาง โดยใช้คู่กับสุดยอดลมปราณที่จะมอบความคล่องตัว พละกำลังให้กับผู้ฝึกลมปราณและนั้นคือลมปราณมหาเทพอาจารย์ทิ้งข้อความให้หลินเซียงบนผนังถ้ำให้หลินเซียงว่า

“ภพนี้แสนสลด คนใจคดมีมากมาย แล้วไฉนเลยลูกหลานจึงจะเป็นสุข สุดยอดวิชาของข้า ข้าถ่ายทอดให้เจ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าจำต้องฝึกทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงออกท่องโลกหล้าสานต่อความตั้งใจของข้า”

จากนั้นเทียนหยางก็หายตัวไปอย่างลึกลับ และทิ้งกระบี่ทมิฬของตัวเองให้หลินเซียง จากนั้นหลินเซียงก็ฝึกวิชาจนคิดว่า ตนเองเก่งแล้ว เลยออกจากถ้ำนิลกาฬ ที่เขาและอาจารย์ใช้เป็นที่ขัดเกลาฝีมือ และตัดขาดจากโลกภายนอก แต่โลกมันไม่ง่ายอย่างงั้น เพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายในชีวิตหลินเซียง ที่สานต่อความตั้งใจของอาจารย์ จนเขากลายเป็นยอดยุทธที่คนรู้จักกันในนาม ดรรชนีกระบี่เทพ หลินเซียง ในวัยสามสิบสาม