บทนำ
‘พวกคุณเคยเชื่อเรื่องความรักมั้ย… พวกคุณคิดว่าจะมีสักกี่คนที่ไม่รู้ตัวว่าความรักมันอยู่ใกล้ แต่กลับมองไม่เห็นราวกับว่าเส้นผมบังภูเขา ’
“ไอ้เหี้ยกัส! ตื่นไอ้สัส!?”
นี่ไม่ใช่เสียงพระเสียงมารที่ไหน มันก็คือเสียงเพื่อนสนิทของผมเอง ผมชื่อว่ากัส
แล้วไอ้เหี้ยที่กำลังปลุกผมจากรัตติกาลในยามแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ากระทบหน้าต่างและผ้าม่านกับฝันแสนหวานอยู่นั้น
มีนามว่า ไอ้จั๊กกิ้ม ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่มันคิดยังไงถึงได้ตั้งชื่อลูกได้อัปปรีเช่นนี้ แต่ก็ช่างเถอะมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมหรอกมันก็แค่ชื่อ
“อะไรของมึงฮะไอ้จิ้งจกเวรกูจะนอน!”
พูดจบผมก็คุ้มโปงต่อทันทีด้วยความที่ว่าเพิ่งจะได้เสด็จตัวและหัวถึงหมอนตอนตี 5 นี้เอง
“ถ้ามึงไม่ตื่นกูจะเอารายงานที่มึงทำพึ่งเสร็จไปเผา!!” ไม่พูดเปล่าไอ้เพื่อนสุดที่รักนามจั๊กกิ้มก็เดินไปที่หน้าโต๊ะคอมทันที
“เฮ้ยมึงอย่านะ!!!” พูดจบกัสก็ปรือตาด้วยความแตกตื่นรีบดีดตัวขึ้นจากที่นอนทันที ไม่ใช่อะไรหรอกเพราะนั่นเป็นคำขู่ที่น่ากลัวสำหรับกัสจอมขี้เกียจ
“ในที่สุดคุณมึงก็ยอมตื่นได้สักทีนะครับคุณเหี้ยกัส” จั๊กกิ้มยิ้มกวนให้เพื่อนรักอย่างกับผู้กุมชัยชนะเหนือทุกสิ่งในจักรวาล
“ไปอาบน้ำนะครับ ไอ้คุณเหี้ยกัสวันนี้มึงต้องออกไปเที่ยวเป็นเพื่อนกู”
“ไม่อาบได้เปล่าวะ” กัสเอ่ยออกมาด้วยหน้าตาที่กำลังสลึมสลือพร้อมกับเสียงเอื่อยๆที่เหมือนถ้าหัวแตะหมอนอีกรอบจะไม่มีวันที่ตื่นจนกว่าวิญญาณจะกลับเข้าร่าง
“ไม่ได้ไอ้สัส มึงจะให้น้องฟ้าเดทกับมึงในสภาพผีขึ้นราฝาขึ้นหลังแบบนี้ไม่ได้!”
“ถ้าจิตใจกูสะอาดไม่ต้องอาบน้ำก็ได้”
“คุณกัสครับ…แต่จิตใจคุณมึงโคตรจะโสโครกเลยครับ…”
“...จุกสัส...”
10 นาทีต่อมา
กัสเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพหยดน้ำใสเกาะตามลำตัวกับผ้าขุนหนูพื้นเล็กที่พันอยู่บริเวณกล้ามเนื้อช่วงสะโพก และกลิ่นสบู่ที่หอมอ่อนๆ พร้อมกับสีหน้าก็เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามอย่างอดสงสัยไม่ได้
“กิ้ม...จิตใจกูสกปรกขนาดนั้นเลยหรอวะ…”
“เออ”
กัสช็อคไปครู่หนึ่งก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของเค้าจะดังขึ้นด้วยบทเพลงที่คุ้นหู กัสมองไปยังชื่อที่อยู่หน้าจอก่อนจะหยิบมันขึ้นมาด้วยมือที่กำลังเปียกชื้น จากการพึ่งจะเสร็จกิจในการอาบน้ำในรอบหลายวันของเค้า
“จ๋า~ น้องฟ้ามีอะไรรึเปล่าจ๊ะ”
กัสเอ่ยวาจาแสนหวานใส่คนในสายจนกิ้มที่อยู่ด้วยถึงกับผะอืดผะอมในลำคอและทำท่าทางเหมือนกำลังจะอ้วกให้กับความรักที่หวานเลี่ยนยิ่งกว่าซอสคาราเมล
[พี่กัสทำไมเมื่อคืนตัดสายฟ้าไปคะ?]
เสียงของคนปลายสายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจขึ้นมา
“พี่ทำรายงานส่งอาจารย์เลยไม่ว่างค่ะ ไม่งอนพี่นะคะ”
[อย่ามาพูดเลยฟ้ารู้ว่าพี่เล่นเกม ฟ้าบอกกี่ทีแล้วว่าให้นอนพักผ่อนบ้างทำไมพี่ไม่เคยฟังฟ้าเลยฟ้าเหนื่อยที่จะต้องมาคอยวิ่งตามพี่แล้วนะพี่ไม่เคยสนใจฟ้าเลย]
“ฟ้าใจเย็นๆนะคะ ไม่งอนสิค่ะคนดี”
[เราเลิกกันเถอะ ฟ้าทนพี่ไม่ไหวแล้ว ฟ้าเหนื่อยเข้าใจมั้ยพี่กัส เหนื่อยที่พี่ไม่เคยสนใจคำพูดของฟ้าเลย เหนื่อยกับการทีต้องคอยมาเป็นห่วง คอยกังวลใจ พอกันที]
พูดจบฟ้าก็กดตัดสายทันทีเหลือไว้แค่ความรู้สึกหนักอึ้งของกัสกับสมองที่กำลังประมวลผลคำพูดทั้งหมดของคนที่ตัดสายไป
ทำอย่างไรดี แต่แล้วในหัวของเค้าก็จุดประกายใครคนหนึ่งขึ้นมา ไอ้เพื่อนร่างควายที่อยู่ในห้องเขาตอนนี้ยังไงล่ะ
“เฮ้ยไอ้กิ้ม กูควรทำยังไงดีวะ”
กัสหันไปถามเพื่อนรักพร้อมแววตาขอความช่วยเหลือ
“เรื่อง ?”
“น้องฟ้าบอกเลิกกูว่ะ”
“สมควร”
จั๊กกิ้มตอบกลับมาแค่ไม่กี่คำทำเอากัสจุกไปถึงทรวงใน แต่จั๊กกิ้มกับยืนทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวพร้อมใบหน้านิ่งเรียบเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“กูไม่ดีตรงไหนวะมึงกูออกจะรักน้องเค้าปานจะกลืนกินขนาดนั้น” กัสพร่ำเพ้อถึงคนรักที่เพิ่งจะเลิกลากันไปไม่กี่นาที
“ถึงมึงจะรักน้องเค้ามากแค่ไหนถ้ามึงไม่ดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยจะใส่ใจเหมือนกับเค้าไม่มีตัวตนมันก็ไม่มีความหมายที่น้องเค้าจะต้องอยู่กับมึงเปล่าว่ะ”
จั๊กกิ้มพูดออกมายาวเหยียดเหมือนหลวงพี่ที่กำลังเทศนาธรรมแก่สัตว์โลกตาดำๆอย่างกัสในตอนนี้
“มึงอย่าคิดมากเดี๋ยววันนี้กูพาไปตีหม้อให้หายช้ำใจลืมเรื่องน้องฟ้าไปเลย” จั๊กกิ้มเดินมาตบไหลเพื่อนเบาๆก่อนจะเดินออกไปนั่งที่โซฟากลางห้องอย่างสบายอารมณ์