โบราณกาลว่าไว้..
วาจาบุรุษก็เป็นเฉกเช่นสายธารไหลวกไปวนมา หาสัจจะย่อมมิได้
และเพราะเหตุนั้น ‘ติชิลามณี’ จึงขอหลีกหนีพญาครุฑาไร้สัจจะวาจา และขอเป็นปฏิปักษ์ทุกภพทุกชาติไป
“ข้าขอตั้งดวงจิตอธิฐานด้วยบุญญาบารมีที่ข้าสั่งสม ขอหลีกหนีครุฑาไปให้ไกล หากแม้นในกาลข้างหน้าข้าต้องพานพบก็ขอให้ข้าเกิดในพิภพภูมิที่เป็นศัตรูกัน อนึ่งว่าพญาครุฑยิ่งใหญ่คับฟ้าปานใดก็ขอให้ต้องคุกเข่าแก่ข้าทุกภพไป”
“พรมิได้ประสิทธิ์จากวาจาที่ลั่นออกมาเช่นนั้นหรอกหนาเจ้า หากแต่เกิดจากการตั้งดวงจิตอธิษฐานเสียต่างหาก หากเจ้าทั้งสองเป็นคู่กันแล้วก็ย่อมมิแคล้วกันได้ แรงอธิษฐานของเจ้าก็ย่อมจักมีผลพวงสู่กาลข้างหน้าเป็นแน่”
องค์อินทรเทวราชเอ่ยวาจาตักเตือนนางด้วยรู้ดีว่าแรงอธิษฐานอันแรงกล้าของนางนั้นจักพาความโกลาหลใหญ่หลวงมาสู่นางเองอีกครา
“กระนั้นข้าก็ขอให้ข้า... ไม่มีใจรักชายใดได้อีก”
กาลเวลาผันเปลี่ยนไปนับหลายร้อยปี แรงอธิษฐานอันแรงกล้าผนวกกับบุญญาบารมีที่นางสั่งสมนั้นจึงดลให้นางไปเกิดในพิภพภูมินาคา เผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาแต่ครั้งโบราณกาลกับเหล่าปักษาครุฑา และลืมเลือนความช้ำชอกในอุราไปจนหมดสิ้น
แต่แล้ววิบากกรรมและสายใยรักกลับชักนำให้พญาครุฑากลับมาประสบพบเจอกับนางนาคีในชาติภพใหม่อีกครั้ง และเมื่อได้สบลึกเข้าไปยังดวงนัยนาสีมรกตนั้น ‘พญาเวนไตย’ ก็ระลึกได้ทันทีว่านางคือคนที่ตนเฝ้าตามหาทั่วหล้ามาทั้งชีวิน
แต่กระไรเล่านางจึงใจแข็งดั่งภูผาหินเช่นนี้ ฤาจักต้องปล่อยให้นางแคล้วคลาดไปอีกครา
ขอฝากนิยายอีกเรื่องไว้ด้วยนะคะ เล่ห์ร้ายลวงรัก
เรื่องนี้อ่านฟรีไม่ติดเหรียญด้วยค่ะ : )
ถ้าชอบอย่าลืมคอมเมนต์ กดถูกใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ