Are you listen me ?
ในชีวิตนี้คุณเคยเชื่อหรือเปล่าว่าบนโลกใบนี้มีสิ่งที่มองไม่เห็น หรือที่เราๆเรียกกันจนติดปากว่า“ผี”หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใจของคุณกำลังบอกตัวเองว่า“ก็ไม่ค่อยเชื่อนะ เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้นี่นา แต่ไม่ได้ลบหลู่อะไร ฟังหูไว้หูละกัน”แล้วหละก็ คุณควรจะอ่านเรื่องของฉัน แล้วหลังจากที่คุณอ่านจบ คุณจะไม่พูดประโยคนั้นออกมาอีก เพราะ...
ภายในกระโจมผ้าห้อยระย้อยที่สว่างไม่มาก มีควันหลากสีพวยพุ่งลอยล่องอย่างกับม่านหมอกบังตาทั่วไปหมด เมื่อเดินผ่านม่านหมอกมาได้ ก็พบเข้ากับสาววัยกลางคนที่แต่งตัวแบบชาวยิปซีนั่งอยู่ เธอกำลังหลับตาและทำปากขยุบขยิบ ด้านหน้าของเธอมีลูกแก้วใสลูกใหญ่วางอยู่
“สาวน้อย เจ้าน่ะคือคนที่ถูกเลือกแล้ว สักวันเจ้าจะรู้คำตอบนี้ด้วยตัวของเจ้าเอง จิตใจอันแข็งแกร่งดุดันและสิ่งพิเศษที่เกิดมาพร้อมกับเจ้าจะนำพาเจ้าไปสู่คำตอบที่แท้จริงที่เจ้าตามหา”สาววัยกลางยังคงหลับตาสนิท แต่นิ้วเรียวชี้มาที่หน้าของนิด
‘เอ๊ะ...แม่หมอรู้ได้ไงว่าฉันมีอะไร’
“ยัยคนนั่นแหละ คนที่กำลังสงสัย”แม่หมอเน้นย้ำขึ้น
‘รู้ได้ไงอะ ว่าเราสงสัยอยู่’ทำเอานิดอึ้งกิมกี่ สงสัยจะเป็นแม่หมอที่เขาว่าเก่งนักเก่งหนาคนนั้น
“จริงเหรอคะแม่หมอ แล้วหนูควรทำอะไรไหมคะ ชีวิตจะได้ดีขึ้น”
“เจ้าควรจะสะเดาะเคราะห์สักครั้งนะ เรื่องไม่ดีจะได้ออกไปจากชีวิต” แม่หมอสาวยื่นข้อเสนอที่ก้ำกึ่งในใจของนิด
“แล้วสะเดาะเคราะห์ครั้งละเท่าไหร่คะแม่หมอ”เพื่อนสาวที่อยู่ด้านหลังเธอพูดแทรกก่อนที่เธอจะถามคำถามเดียวกันนี้ออกไป
“ค่าครู 1,500 ค่าของอีก 1,500 รวมกันแค่ 3,000 เท่านั้นแหละ”
‘นี่อะนะ แค่...3,000 ของป้าแกหนะ แพงกว่ากระเป๋าถือที่พึ่งซื้อมาอีก นี่เรียกแม่หมอไม่ได้ละ ต้องเรียกยัยแม่ครัว ทั้งต้มทั้งตุ๋น แต่พวกเราไม่เชื่อง่ายๆหลอกย่ะ’รันเริ่มฉุนขึ้น
“ตกลง เธอจะสะเดาะเคราะห์ไหมจ๊ะสาวน้อย”
“เอ่ออ..เอาเป็นว่าเดี๋ยวหนูจะมาทำทีหลังนะคะ พอดีพกเงินมาไม่พออ่ะค่ะ วันนี้พอแค่นี้นะคะ”
‘เชอะ ถึงตังฉันจะมีพอ แต่ฉันไม่ยอมโดนหลอกง่ายๆแน่ย่ะ’นิดจูงมือรันแล้วรีบสะบัดก้นหนีออกจากกระโจมก่อนที่ยัยป้านักต้มตุ๋นจะทำให้พวกเธอหลงทาง
หลังจากออกมาได้ทั้งสองคุยถึงความในใจของกันและกันขณะที่อยู่ในกระโจมของยัยป้าคนนั้น ไม่นานก็เดินออกมาจากซอย และเดินต่อเรื่อยๆตามทางฟุตบาทข้างถนน ซึ่งอีกไม่กี่ร้อยเมตรจะถึงบ้านของพวกเธอ บ้านของรันอยู่หน้าปากซอยข้างหน้า และถ้าเดินลึกเข้าไปอีกจนสุดซอยก็จะถึงที่ตั้งบ้านของนิด พวกเธอคบเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เกิด เพราะแม่ของพวกเธอก็เป็นเพื่อนสนิทกัน
“อ้าวพูดกันซะเพลินเลย ถึงบ้านซะและ งั้นลาตรงนี้เลยละกันนะยัยนิด”
“โอเค พรุ่งนี้เจอกัน”นิดโบกมือส่งกลับให้กับรัน เช่นเดียวกับที่รันก็โบกมือให้เธอ แต่ใจเธอรู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้
‘คงไม่มีอะไรหลอกมั้ง อย่าเพ้อให้มากเลยยัยนิด’เธอด่าตัวเอง แล้วเดินผ่านประตูบ้านของรันไป
“กลับมาแล้วค่ะแม่”
“จ้า..แม่อยู่ในห้องครัว”
“ว่าไงยัยตัวดี ไหนบอกแม่ว่าจะไปแป๊บเดียว นี่จะเที่ยงแล้วพึ่งจะมา”นิ่มสาวร่างบางที่หน้าตาละไม้คล้ายคลึงกับนิดแต่บนใบหน้ามีรอยบ่งบอกอายุเข้าวัยทอง เธอบ่นอุบอิบน้อยอกน้อยใจลูกสาว
“แม่จ๋า..อย่างอนนิดเลยน้า..นิดคุยกับรันนานไปหน่อยเดียวเอง วันหลังจะอยู่บ้านกับแม่ทั้งวันเลย น้า..หายงอนนิดเถอะน้า..”นิดโอบกอดร่างแม่ของเธอด้วยหัวใจที่แสนอบอุ่น นิ่มลูบหัวนิดอย่างเอ็นดู แม้บ้านหลังนี้จะเหลือกันอยู่แค่สองคน แต่นิ่มก็ยังคงทำหน้าที่ของแม่และพ่อไปพร้อมๆกันอย่างดี เธอกลัวเพียงอย่างเดียวคือกลัวว่าเมื่อวันที่เธอจากไปแล้ว นิดจะอยู่อย่างไร เธอห่วงเพียงเท่านี้
‘พี่อิฐคะ นิ่มหวังว่าจะได้อยู่กับลูกให้นานที่สุดเท่าที่ชะตาฟ้ากำหนดไว้ และเรื่องที่เราช่วยกันปิดบังลูกนิ่มจะบอกเขาเมื่อเขาเรียนจบนะคะ’นิ่มนึกถึงคนบนฟ้าที่เธอและลูกแสนคิดถึง สักวันเธอคงจะได้ไปพบกับเขาคนนั้น คนที่รักสุดหัวใจ
***ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจรีดเดอร์ทุกคนนะ จะพยายามทำให้ดีที่สุด จาก Akanathr***