ดินสอของยาย
0
ตอน
892
เข้าชม
18
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

ณ บ้านหลังเล็ก ในหมู่บ้านเล็กๆ แถวชนบท มีครอบครัวหนึ่งประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูกสาว แม่มีอาชีพทำขนมถ้วย พ่อมีหน้าที่นำขนมถ้วยไปขายที่ตลาด ลูกสาวอายุ 4 ขวบเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2

“ตื่นได้แล้วจ้ะพ่อ แม่ทำขนมถ้วยเสร็จแล้วนะ” ขนมถ้วยมากมายถูกวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่ในกระจาด โดยมีผ้าขาวบางสีขาวสะอาดปูคลุมอยู่ด้านบนอีกทีหนึ่งเพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองลงไปโดนอาหารและเพื่อกันไม่ให้แมลงวันลงไปเกาะ นอกจากนั้นยังมีใบตองที่ทำเป็นกระทงโดยใช้ทางมะพร้าวชิ้นสั้นๆ กลัดไว้อยู่ข้างๆ สองด้าน ทั้งหมดวางอยู่ในรถเข็น ที่ด้านข้างมีป้ายไม่ใหญ่ไม่เล็กเขียนข้อความว่า ขนมถ้วยกะทิใบเตย

“พ่อขอนอนต่ออีกหน่อยนะแม่ เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย” วิชัยพูดโดยที่ยังไม่ลืมตา เมื่อคืนเขาดูมวยดึกไปหน่อย เนื่องจากเป็นคู่ดังหยุดโลกที่ถ้าไม่ดูเดี๋ยวจะคุยกับคนอื่นในตลาดไม่รู้เรื่อง กว่าจะชกกันเสร็จก็ปาเข้าไปตีหนึ่ง ซึ่งเขาได้ดูจนจบ

“ได้จ้ะ แป๊บเดียวนะ เดี๋ยวแม่จะออกไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้ว” วรรณาตื่นตีสามมาทำขนมถ้วย เธอทำขนมเสร็จตีห้า ก็มาทำอาหารเช้าให้ทุกคนทาน เสร็จแล้วจะปลุกสามีและลูกให้ตื่นมา อาบน้ำ กินข้าว แล้วเธอจึงไปส่งลูกที่โรงเรียน

“ตายละ เผลอหลับไปนานเลย สายแล้ว” วิชัยรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปอาบน้ำ กินข้าว ก่อนจะเข็นรถเข็นที่มีขนมถ้วยเต็มคัน มุ่งหน้าไปยังตลาดของหมู่บ้าน
ขณะที่วิชัยเข็นรถอย่างรีบเร่งไปตามถนนลูกรัง สายตาของเขาได้ไปเห็นยายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างทาง ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหญิงชราคนนี้มาก่อน เพราะเขารู้จักทุกคนในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้

“ยายมานั่งทำอะไรที่นี่จ๊ะ” เขาถามหญิงชราซึ่งมีผิวหนังเหี่ยวย่นและแลดูหยาบกร้าน ผมซอยสั้นสีขาวทั้งศีรษะ ห่มสไบสีน้ำตาลซีดจางและนุ่งโจงกระเบนสีดำหม่น นั่งยองๆ ก้มหน้าอยู่
วิชัยรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่การแต่งกายของหญิงชราเหมือนคนในสมัยโบราณ

“ยายหิวเหลือเกิน มีอะไรให้ยายกินมั้ย” หญิงชราพูดพร้อมกับเงยหน้า ดวงตาฝ้าฟางมองไปยังต้นเสียงซึ่งเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียวอ่อน กางเกงยีนส์เก่าๆ ขาดๆ

“ฉันมีขนมถ้วยจ้ะ อะนี่กินซะนะยาย” วิชัยตักขนมถ้วยหกชิ้นใส่กระทงใบตองแล้วยื่นให้แก่หญิงชรา
หญิงชรารับขนมมาและทานอย่างรวดเร็วด้วยความหิว เมื่อหมดแล้วก็เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ ว่า

“ใจดียิ่งนักพ่อหนุ่ม ยายให้ดินสอออเจ้าแท่งหนึ่ง วาดอะไรแล้วสิ่งที่วาดจะเป็นของจริงในชั่วข้ามคืน” หญิงชรานำดินสอไม้ซึ่งภายในเป็นไส้สีดำออกมาจากใต้สไบ ยื่นให้แก่ชายหนุ่ม

“ตลกนะยาย ฉันไม่เชื่อหรอก แต่ฉันจะรับไว้นะ” วิชัยพนมมือไหว้หญิงชรา แล้วรับดินสอไว้

“แต่ออเจ้าอย่าวาดจนหมดแท่งนะ หาไม่ ออเจ้าจะสูญเสียคนที่รักทั้งหมด” หญิงชราพูดจบก็ค่อยๆ เดินหายเข้าไปในสวนผลไม้ริมทาง
วิชัยเก็บดินสอใส่กระเป๋าเสื้อแล้วรีบเดินทางไปขายขนมถ้วยที่ตลาดตามปกติ เมื่อขายหมดเขาก็กลับบ้าน

“พ่อกลับมาแล้วจ้ะลูกรัก เมียรัก” วรรณาส่งลูกในตอนเช้าเสร็จก็จะกลับมานอนต่อสักพัก แล้วจึงตื่นมาทำงานบ้าน พอบ่ายๆ ก็ไปรับลูกที่โรงเรียนกลับบ้าน

“พ่อมีดินสอใหม่ให้ลูกแท่งหนึ่งนะ” วิชัยนำดินสอออกมาจากระเป๋าเสื้อ และยื่นให้กับลูกสาว

“ขอบคุณค่ะ” รวงข้าว เด็กน้อยไว้ผมหน้าม้าเสมอคิ้ว ผมด้านหลังยาวประบ่า ผิวขาวเหมือนแม่ของเธอ กำลังนั่งเล่นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงอยู่ ยิ้มหน้าละไมอย่างดีใจ เพราะนานๆ ทีที่พ่อของเธอจะมีสิ่งของมาให้ เด็กน้อยจึงนำดินสอที่พ่อให้มาวาดบนกระดาษสีขาว เธอวาดเป็นรูปดอกไม้ห้ากลีบอย่างบรรจง เสร็จแล้วจึงนำไปให้วิชัยดู 

“สวยจัง วาดเก่งเหมือนพ่อเลย” ชายหนุ่มเอ่ยชมลูกสาว เธอมักได้คะแนนเต็มในวิชาวาดเขียน เขาเองตอนเด็กๆ ก็เช่นกัน
วิชัยเกือบทุกครั้งจะเก็บผลงานวาดรูปของลูกสาวไว้ เขาคิดว่าจะเก็บไว้ให้ลูกดูผลงานของตัวเองเมื่อโตขึ้น ชายหนุ่มนำรูปวาดนั้นไว้ในลิ้นชักข้างเตียงนอน

เช้าวันต่อมาวิชัยตื่นขึ้นและเปิดลิ้นชักเพื่อจะหยิบของใช้ เขาเห็นดอกไม้สีแดงที่เป็นของจริง รูปร่างตามแบบที่ลูกสาววาดเมื่อวานนี้อยู่บนกระดาษสีขาวที่ว่างเปล่า เขาตื่นเต้นตกใจเพราะมันเป็นดั่งที่หญิงชราคนนั้นพูดไว้ว่า “วาดอะไรแล้วสิ่งที่วาดจะเป็นของจริงในชั่วข้ามคืน”

เขารีบนำเรื่องนี้ไปเล่าให้วรรณาฟัง วรรณารู้สึกดีใจและรีบบอกให้วิชัยวาดรูป...ทอง !!!

วิชัยวาดกองทองแท่งมากมายใส่กระดาษหลายๆ แผ่น แล้วเขาก็วางกระดาษเหล่านั้นกระจายเต็มพื้นห้อง เขาแทบรอผลที่จะเกิดขึ้นตอนเช้าวันต่อมาไม่ไหว

เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นดั่งที่คาดไว้ ทองแท่งมากมายกองอยู่เต็มพื้นห้อง !!!

พ่อแม่ลูกกลายเป็นครอบครัวเศรษฐีในชั่วพริบตา วิชัยวาดรูปกองทองแท่งอีกมากมายจนดินสอหมดแท่ง เขาลืมไปเลยว่าหญิงชราเคยเตือนอะไรไว้

ณ บ้านหลังใหญ่ตกแต่งอย่างหรูหรา วิชัยลืมตาตื่นขึ้น เขากำลังนอนอยู่บนเตียงไม้สักทองขนาดใหญ่ ชายหนุ่มหันไปมองด้านข้างไม่พบภรรยาอยู่ข้างกาย และไม่พบลูกสาวอยู่บนเตียงเล็กด้านข้าง

วิชัยตะโกนเรียกวรรณาและรวงข้าว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ เขาวิ่งตามหาทั่วบ้านทั้งห้องครัว ห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ก็ไม่เจอสองแม่ลูกเลย ชายหนุ่มจึงออกตามหาในสวนนอกบ้าน ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของสองแม่ลูก เขานึกขึ้นได้ว่าเหลือในรถที่ยังไม่ได้เปิดดู เขาจึงวิ่งไปที่โรงรถ พอเปิดประตูรถ วิชัยตกใจสุดขีด เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือวรรณาและรวงข้าวนอนเสียชีวิตอยู่ เลือดสีแดงไหลนองเต็มตัวและมีมีดด้ามยาวเปื้อนเลือดวางอยู่ข้างๆ คงเป็นฝีมือของโจรที่จะมาขโมยของ เขานึกถึงคำพูดของหญิงชราขึ้นทันทีว่า “แต่ออเจ้าอย่าวาดจนหมดแท่งนะ หาไม่ ออเจ้าจะสูญเสียคนที่รักทั้งหมด”

“ไม่นะ !!!” เขาตะโกนออกมาเสียงดัง

“เป็นอะไรไปพ่อ ละเมอตะโกนซะดังเลย ตื่นนอนและออกไปขายขนมถ้วยได้แล้ว !!!” วรรณาพูดขณะกำลังก้าวเท้ากลับเข้าบ้านพอดีหลังจากไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน

“พ่อฝันร้ายจ้ะ ฝันว่ามียายคนหนึ่งให้ดินสอไม้มาแท่งหนึ่ง ยายคนนั้นบอกว่าถ้าใช้ดินสอนี้วาดอะไรแล้วสิ่งที่วาดจะเป็นของจริงในชั่วช้ามคืน แม่เลยให้พ่อวาดทอง แล้วมันก็เป็นทองจริงๆ ในวันต่อมา เราเลยรวยมาก แต่ยายได้บอกไว้ว่า อย่าวาดจนหมดแท่ง เพราะถ้าวาดหมดแท่ง พ่อจะเสียคนรักทุกคน แต่พ่อก็วาดจนหมดแท่ง แม่กับรวงข้าวเลยตายจ้ะ” วิชัยซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ เล่าด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว

“ดินสอแบบนี้รึเปล่าจ๊ะ” วรรณาเข้าไปหยิบดินสอแท่งหนึ่งจากห้องเก็บของออกมาให้ดู

“ใช่ๆ แบบนี้เลย แม่เอามาจากไหนล่ะ” เขาหยิบดินสอมาดูใกล้ๆ ดินสอแท่งนี้ยังไม่ได้เหลาให้แหลมพร้อมใช้งาน มือของเขาสั่นอย่างเห็นได้ชัด  อาจเพราะเขายังคงตกใจกลัวกับฝันร้ายเมื่อสักครู่อยู่

“เป็นของเก่าที่ยายทวดเก็บไว้นานแล้ว ที่แม่ไม่ได้เอามาใช้เพราะเห็นว่าเป็นดินสอโบราณน่ะจ้ะ เดี๋ยวแม่เอาดินสอมาเหลาให้แหลมนะ พ่อจะได้ลองวาดรูปดู แม่จะคอยดูว่าสิ่งที่วาดจะเป็นของจริงเหมือนในฝันรึเปล่า” วรรณาพูดยิ้มๆ พร้อมกับเอื้อมมือจะไปหยิบดินสอจากมือวิชัย

“จะดีหรือแม่ พ่อกลัวแม่กับลูกตายนะ” ชายหนุ่มชักมือที่ถือดินสอหลบไม่ให้หญิงคนรักจับได้”

“เราก็อย่าวาดจนหมดแท่งซิพ่อ มา ส่งดินสอมาให้แม่” ภรรยาของวิชัยเอื้อมมือไปรับดินสอจากเขาอีกครั้ง และครั้งนี้ชายหนุ่มยอมส่งดินสอให้แต่โดยดี หญิงสาวนำดินสอมาเหลาจนแหลม และส่งดินสอให้วิชัยพร้อมกระดาษสีขาว 1 แผ่น

“ลองวาดแผ่นนึงก่อนนะ” แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่อยากวาด แต่ก็ไม่อยากขัดใจภรรยา และตัวเขาเองก็อยากที่จะพิสูจน์เหมือนกันว่าดินสอนี้จะวิเศษเหมือนในฝันหรือไม่ วิชัยวาดรูปกองทองแท่งเหมือนในฝัน เสร็จแล้วก็นำกระดาษแผ่นนี้ไปเก็บไว้ในลิ้นชักข้างเตียงนอน หลังจากนั้นก็ไปขายขนมถ้วยตามปกติ ในใจเขาครุ่นคิดแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ตลอดทั้งวัน

“เอก อิ๊ เอ๊ก เอ๊ก” ไก่ขันตอนเช้ามืดเหมือนทุกวัน เสียงนั้นไม่เคยทำให้วิชัยตื่น ยกเว้นวันนี้ที่เขาตื่นขึ้นอย่างไม่สดใสนัก เนื่องจากเมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยหลับเพราะนึกถึงแต่ความฝันเมื่อวานนี้ เขารีบเปิดลิ้นชักออกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขากำลังรออะไรอยู่

“ทอง...ทองจริงๆ ด้วย” สีเหลืองอร่ามของกองทองแท่งเปร่งประกายออกมาจากลิ้นชัก วิชัยรู้สึกดีใจอย่างที่สุด เขารีบปลุกภรรยามาดู

“ใช่ๆ ทองจริงๆ ด้วย เรารวยแล้ว” วรรณาพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ
หลังจากนั้นพ่อแม่ลูกก็กลายเป็นครอบครัวเศรษฐีเหมือนในฝัน วิชัยวาดรูปกองทองแท่งบนกระดาษสีขาวอีกมากมาย ด้วยความโลภ เขาลืมไปว่าในฝันคืนนั้น มีคำเตือนว่าอะไร

ณ บ้านหลังใหญ่ตกแต่งอย่างหรูหรา วิชัยลืมตาตื่นขึ้น เขากำลังนอนอยู่บนเตียงไม้สักทองขนาดใหญ่ ชายหนุ่มหันไปมองด้านข้างไม่พบภรรยาอยู่ข้างกาย และไม่พบลูกสาวอยู่บนเตียงเล็กด้านข้าง เขาเริ่มนึกถึงฝันร้ายนั้น

วิชัยตะโกนเรียกวรรณาและรวงข้าว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ เขาวิ่งตามหาทั่วบ้านทั้งห้องครัว ห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ก็ไม่เจอสองแม่ลูกเลย ชายหนุ่มจึงออกตามหาในสวนนอกบ้าน ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของสองแม่ลูก เขานึกขึ้นได้ว่าเหลือในรถที่ยังไม่ได้เปิดดู เขาจึงวิ่งไปที่โรงรถ เขาพบว่ารถหายไปหนึ่งคัน

“ปี๊นๆ ปี๊นๆ” เสียงรถที่หายไปนั่นเอง วิชัยมองไปที่ต้นเสียงนั้น รถเก๋งสีขาวคันใหญ่จอดอยู่หน้าบ้าน ไม่นานนักประตูรถก็เปิดออก วรรณาลงมาเปิดประตูรั้วแล้วก็กลับขึ้นรถไปอีกครั้งเพื่อขับรถเข้ามาจอดที่โรงรถในที่ประจำ

“ไปไหนมาแต่เช้าเลยจ๊ะแม่ลูก” วิชัยรู้สึกใจชื้นเมื่อเห็นว่าผู้หญิงสองคนที่เขารักที่สุดยังปลอดภัยอยู่

“แม่พาลูกไปทำบุญที่วัดมาจ้ะ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณยายเจ้าของดินสองัยล่ะจ๊ะ แม่คิดว่าคุณยายคงมาเข้าฝันพ่อให้เอาดินสอไปใช้ และคุณยายคงอยากให้เราทำบุญอุทิศสวนกุศลไปให้ แม่ไปวัดทุกอาทิตย์เลย เห็นพ่อหลับสบายเลยไม่ปลุก วันนี้กลับมาช้าหน่อยเพราะแวะซื้อขนมถ้วยกะทิใบเตย เจ้าที่เราขายแฟรนไชส์ให้งัยพ่อ คนต่อคิวเยอะเลย” วรรณายื่นถุงขนมให้วิชัย ขนมถ้วย 6 ชิ้นวางอยู่ในกระทงใบตองที่มีไม้กลัดอยู่ข้างๆ  วิชัยคิดว่าการที่ภรรยาของเขาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ยายเจ้าของดินสอ เลยทำให้สิ่งเลวร้ายในฝันไม่เกิดขึ้นจริง

“อาทิตย์หน้าพ่อไปวัดด้วยนะแม่ อย่าลืมปลุกพ่อนะ” ว่าแล้ววิชัยก็จิ้มขนมถ้วยใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างสบายใจ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว