จบ nine muses 9 ฝัน 9 แรงบันดาลใจ
11
ตอน
3K
เข้าชม
28
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
3
เพิ่มลงคลัง

งานเลี้ยงฉลอง 

วันอาทิตย์ ที่7 กุมภาพันธ์ 

เวลา 19.30 น. กรุงโซล เกาหลีใต้ 

ย่านการค้า 

SM TOWN 

ร้านคาเฟ่นึลจี 

“เอ๋??ร้านปิดแล้วเหรอคะ” 

เสียงลูกค้าผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักถามขึ้น ขณะที่ฮานึลกำลังหมุนป้าย 

‘ปิด’ 

“ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ร้านปิดเร็วเพราะมีปาร์ตี้ฉลองทีเปิดร้านครบรอบสามเดือนน่ะค่ะ” 

“ว้า แย่จัง คิดว่าจะมาหาเบเกอรี่ทานสักหน่อย คงต้องรอพรุ่งนี้แล้วสินะเรา” 

คุณลูกค้าบ่นอุบอิบ พลางหันหลังและกำลังจะเดินจากไป 

"อ๊ะ เดี๋ยวค่ะคุณลูกค้า” อึนจีร้องเรียกลูกค้าไว้ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในร้านและวิ่งกลับมาพร้อมถุงเบเกอรี่สีฟ้าพาสเทลยื่นให้คุณลูกค้า 

“แทนคำขอบคุณค่ะ ของขวัญครบรอบสามเดือน” 

อึนจียิ้มให้คุณลูกค้าหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้น เธอรับไว้พร้อมยิ้มตอบ 

“ขอบคุณมากนะคะ ไว้พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่" 

เธอตอบพร้อมเดินถือถุงเบเกอร์รี่จากไป 

"ไว้มาใหม่นะคะ แทนให้อร่อยค่า" 

ก่อนที่อึนจีจะหันหลังกลับเข้าร้าน อีกเสียงหนึ่งของผู้หญิงก็ดังขึ้น  

"ยังใจดีไม่เปลี่ยนเลยน้า เธอเนี่ย" เธอหันกลับไปตามเสียงแทบในทันที 

"พี่ซอนมี!! มาแล้วเหรอคะ ไม่เห็นบอกกันก่อนเลย" อึนจีพูดพร้อมยิ้มหวาน ก่อนเปิดประตูร้านเชิญแขกเข้าด้านใน  

"ฉันกะจะมาเซอร์ไพรส์เธอสองคนไง อ๋อ แล้วก็นี่ พี่คยองรี พี่เลี้ยงและหัวหน้าแผนกในที่ทำงานของฉัน" ซอนมีแนะนำเพื่อนร่วมงานของเธอให้อึนจีรู้จัก 

"สวัสดีค่ะพี่คยองรี เชิญด้านในเลยค่ะ" คยองรียิ้มตอบก่อนเดินเข้าไปด้านในร้านพร้อมซอนมี 

ด้านในตกแต่งด้วยไสต์เรียบง่าย วินเทจนิดๆ เน้นสีสบายตา เช่น สีเขียวอ่อนพาสเทลของโซนทำงาน สีฟ้าพาสเทลของเคาน์เตอร์และบาร์นั่งชิว ในร้านแบ่งออกเป็นโซนจนเห็นได้ชัด แต่ว่าแต่ละโซนไม่ได้ถูกกั้นด้วยกระจกใส กลับใช้ความกลมกลืนของบรรยากาศภายในเป็นตัวทำให้ทุกอย่างลงตัว  

ทางด้านซ้ายมือของประตูร้านเมื่อเดินเข้ามาภายในจะเป็นโซนที่ใช้สังสรรค์ โคมไฟที่ให้แสงสีส้มห้อยต่ำลงมาจากเพดาน โต๊ะตัวยาวพร้อมเก้าอี้ห้าหกตัวและชุดโซฟาสีฟ้าพาสเทลอีกสองสามตัว โซนนี้ถูกตกแต่งให้มีบรรยากาศพร้อมรับงานสังสรรค์ทุกรูปแบบ 

เคาน์เตอร์ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างโซนทำงานและชุดโต๊ะอีกสองตัว  

โซนทำงานจะอยู่ทางขวาของเคาน์เตอร์ โซนนี้เป็นโซนที่ลึกที่สุดของร้าน แต่ไม่ได้มีบรรยากาศมืดมัว เพราะต้องการให้เป็นโซนทำงาน และเป็นโซนที่ค่อนข้างเงียบ โต๊ะตัวยาวสีเขียวอ่อนพาสเทลติดผนังกระจกพร้อมเก้าอี้สามสี่ตัว เหมาะกับการที่ให้ลูกค้านั่งทำงานสบายๆและมองออกไปชมสวนหย่อมเล็กๆในสวนข้างนอก  

หลังเคาน์เตอร์ติดกับผนังสีเขียวอ่อนพาสเทลและประตูหลังร้าน มีตู้เค้กขนาดกลางตั้งอยู่หนึ่งตู้ หน้าเคาน์เตอร์มีบาร์ให้ลูกค้านั่งพักผ่อนชิวๆ ตู้เก็บของติดอยู่บนผนัง  

ภายในเคาน์เตอร์ มีเครื่องชงกาแฟ เครื่องบดเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์อื่นๆในการชงกาแฟตั้งอยู่ รวมทั้งอุปกรณ์การชงเครื่องดื่มอื่นๆด้วย ด้านหน้ามีเครื่องคิดเงิน กริ่งเรียกพนักงาน ตะกร้าใส่หลอด โหลน้ำตาลซอง และแท่งเสียบออร์เดอร์  

ทั้งร้านมีชุดโต๊ะอยู่ทั้งหมดเจ็ดแปดชุด ทุกโซนอยู่ในร้านเดียวกัน โซนสังสรรค์ โซนทำงานและเคาน์เตอร์ จะมีแค่โซนดอกไม้ที่กั้นกระจกใส ถ้ามองจากข้างนอกจะดูคล้ายกับมีอีกร้านหนึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ภายในโซนดอกไม้ มีชั้นวางดอกไม้ตั้งอยู่ในที่ที่ดอกไม้สามารถรับแสงได้อย่างพอดีและมีตู้ใส่อุปกรณ์อยู่มุมหนึ่งของโซน มีโต๊ะที่ใช้สำหรับนั่งทำช่อดอกไม้ตั้งอยู่ข้างประตูทางเข้า  

ด้านหน้าของโซนดอกไม้ถูกตกแต่งด้วยของแต่งบ้านแนววินเทจ ที่พร้อมขายให้ถ้าเกิดมีลูกค้าสนใจ  

ส่วนหลังร้านจะเป็นโซนเก็บของ ห้องครัว และห้องน้ำอยู่ทางขวาของประตู มีบันไดขึ้นไปชั้นบนอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งชั้นบนเป็นห้องของฮานึล 

นอกร้านเป็นกระจกใสถ้ามองเข้ามาก็จะเห็นในร้านชัดเจนและถ้ามองออกไปก็จะเห็นบรรยากาศรอบๆร้านชัดเจนเช่นกัน  

ด้านซ้ายของร้านมีสวนที่กินพื้นที่ไม่ถึงสิบเมตร และมีสวนหย่อมขนาดกระทัดรัดตั้งอยู่ในนั้นด้วย ส่วนด้านขวาติดกับร้านขายของที่ระลึก 

ร้านคาเฟ่นึลจีตั้งอยู่ในย่านการค้า 

SM TOWN 

และตั้งอยู่ใกล้กับมหาลัยกวานโฮ ร้านเปิดตั้งแต่ 8:30-20:30 ทุกวันไม่มีวันหยุด ยกเว้นวันศุกร์ที่จะปิดตั้งแต่ 19:30 น. ด้วยสโลแกนที่ทางร้านคิดขึ้นเน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ ทำให้ร้านนี้ขายดิบขายดี ทุกอย่างในร้านฮานึลและอึนจีเป็นคนลงมือทำเองทั้งหมด ทั้งเบเกอรี่ ชา กาแฟ รวมทั้งของตกแต่งบ้านด้วย ว่าด้วยเรื่องของเบเกอรี่ ขนมปังและเค้ก นั้น ทำขึ้นใหม่ทุกวันเพราะขายหมดทุกวัน เพราะฉะนั้นร้านนี้ถือว่าเรียกความมั่นใจจากลูกค้าได้เยี่ยมมาก 

อึนจีเชิญคยองรีและซอนมีนั่งลงที่โต๊ะตัวยาวในโซนสังสรรค์ พร้อมกันนั้นอีกหนึ่งบุคคลก็เดินออกมาจากครัวพร้อมกับถาดอาหารในมือ  

"อ้าว มาแล้วเหรอค่ะ พี่ซอนมี" 

"มาแล้วจ้ะฮานึล" ซอนมีตอบ "นี่อะไรเนี่ย ท่าทางหน้ากินจังเลย" 

"มันคือลาซัญญาค่ะ พี่ซอนมี ฉันทำเองเลยนะ" อึนจีว่าพลางยืดอกภูมิใจให้เมนูอาหารที่ตัวเองทำ 

"ลาซัญญาของอิตาลีใช้มั้ย" 

"ใช่เลยค่ะ พี่คยองรี" อึนจีตอบรับคำถามของคยองรีเสียงใส ก่อนจะหันไปแนะนำคยองรีให้ฮานึลรู้จัก 

"ฮานึล พี่คยองรี พี่เลี้ยงในที่ทำงานของพี่ซอนมีเขาน่ะ" 

"สวัสดีค่ะ พี่คยองรี ฉันฮานึลค่ะ เดี๋ยวพี่นั่งคุยกันไปก่อนนะคะ ฉันจะไปยกถาดอาหารออกมา คนอื่นๆคงกำลังมากันแล้วล่ะ" ฮานึลพูดทิ้งท้ายก่อนเธอจะเดินกลับเข้าไปในครัวอีกรอบ 

"เอ๋?? มีคนอื่นมาอีกเหรอ" 

"ค่ะ พอดีพวกฉันชวนคนที่รู้จักกับลูกค้าประจำมาด้วยน่ะค่ะ"  

ทั้งสี่คุยไปจัดเตรียมโต๊ะอาหารไป จนกระทั่งทั้งโต๊ะเต็มด้วยสีสันของอาหารหลากหลายรสชาติแขกใหม่อีกสองคนก็เข้ามาสมทบ 

"พี่อึนจี เรามาแล้วค่าาาา" เสียงของอึนบี สาวมหาลัยลูกค้าประจำของร้านดังขึ้นพร้อมกับเสียงกริ่งประตูที่เปิดออก 

"เดี๋ยวเถอะ อึนบี เธอหัดเกรงใจพี่เขาบ้างสิ" ตามด้วยเสียงดุเบาๆของนัมจู 

"อะไรกัน พี่นัมจู อย่าดุไปหน่อยเลย ทั้งๆที่ตัวเองเร่งให้มาแท้ๆ" 

ทั้งสองเดินเข้ามาเป็นเวลาที่ฮานึลยกถาดอาหารถาดสุดท้ายออกมาพอดี  

"ก็ว่าเสียงใครคุ้นๆ พวกเธอเองเหรอ" 

"มาค่ะพี่ฮานึล ฉันช่วย" นัมจูเข้าไปคว้าถาดจากมือฮานึล แล้วเดินนำมาวางลงบนโต๊ะที่ซอนมี คยองรีและอึนจีนั่งอยู่ 

"เอ่อ สวัสดีค่ะพี่ๆ" 

นัมจูตะกุกตะกัก เมื่อเห็นว่าที่นั่งอยู่กับอึนจี คือบุคคลที่เธอไม่รู้จัก อึนบีเดินมาพร้อมกับฮานึล และเมื่อเธอเห็นว่าอีกสองคนในที่ตรงนั้นไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก จึงกระซิบกับฮานึล 

'ใช่พี่ซอนมีรึเปล่าค่ะ' 

ยังไม่ทันที่ฮานึลจะตอบข้อสงสัยของอึนบี อึนจีเหมือนรู้ความสงสัยของน้องๆก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน  

"อึนบี นัมจู นี่พี่ซอนมี พี่คยองรี" อึนจีแนะนำพี่ๆให้น้องๆรู้จัก  

ระหว่างที่ทั้งหมดพูดคุยกัน โทรศัพท์อึนจีก็ร้องเรียกขัดจังหวะขึ้น  

"ว่าไงค่ะ พี่ฮวายอง" เธอกดรับและกรอกเสียงลงไป 

'พี่กำลังไปนะ ตอนนี้ใกล้ถึงแล้ว' ปลายสายตอบกลับมาเสียงดีงฟังชัด 

"โอ้ ดีเลยค่ะ ถึงแล้วก็เข้ามาได้เลยนะคะ ทุกคนรออยู่" พูดจบปลายสายก็วางหูไป 

"ใครอีกล่ะ ทีนี้" ซอนมีถามขึ้น อึนจีขยิบตาให้ซอนมีหนึ่งทีก่อนตอบ 

''พี่ฮวายอง เขาเป็นลูกค้าที่ชื่นชอบชาออแกรนิกของฉันมากๆ มาซื้อชาเกือบทุกวันเลยแหละค่ะ เขารักสุขภาพมากๆ สาวสายสปอร์ตตัวยง"  

อึนจีพูดจบ ประตูร้านก็ถูกเปิดเข้ามา  

"นั่นไงค่ะ มาแล้ว ถึงเร็วกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย" 

"เอ่ออ..สวัสดีค่ะทุกคน ฉันฮวายองค่ะ" ฮวายองโค้งทักทายทุกคนอย่างเก้ๆกังๆ 

"เชิญทางนี้เลยค่ะพี่" ฮานึลเดินเข้ามาชวนฮวายองไปนั่งร่วมกับคนอื่นๆ และเมื่อเธอเดินเข้าไปถึงโต๊ะ ความบังเอิญแรกก็เกิดขึ้น 

"อ้าว พี่คยองรีนี่!!" ฮวายองตาโตเมื่อเธอเห็นว่าหนึ่งในสมาชิกร่วมโต๊ะเป็นคนที่เธอรู้จัก 

"ใช่แล้วล่ะ โลกกลมจังเลยนะ ฮ่าๆ" คยองรีหัวเราะน้อยๆก่อนจะแตะมือกับฮวายองเป็นการทักทาย 

"อ้าว นี่พี่สองคนรู้จักกันเหรอคะ" จบเสียงอึนบีทุกคนก็พร้อมใจกันหัวเราะออกมา การเจอคนที่เคยรู้จักกันมาก่อนทำให้บรรยากาศที่ไม่คุ้นชินกับคนแปลกหน้าลดความตึงเครียดลงและมันยังสร้างสีสันให้ปาร์ตี้นี้ขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว  

"ขาดอีกแค่คนเดียว ทำไมมาช้ายังเล.." ฮานึลพูดยังไม่ทันจบประโยคเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นมาอีก ครั้ง 

กริ๊งงง 

คราวนี้มาพร้อมร่างของผู้หญิงสองคน หนึ่งในนั้นมาพร้อมเสื้อกราวสีขาวสะอาดตา  

"เอ่อ ขอโทษนะคะ ที่มาสาย" แทยังในชุดเสื้อกราวพูดขึ้น พร้อมผงกศรีษะเป็นเชิงขอโทษ  

"ไม่เป็นไรค่ะ ดีเท่าไหร่แล้วที่พี่มาได้ เชิญด้านในเลยค่ะ" ฮานึลทำหน้าที่เจ้าของงานอีกครั้งเชิญทั้งคู่เข้ามาร่วมฉลอง  

"เอ่อ ฮานึลนี่พี่โบรัม เขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของฉันเอง ชวนเขามาด้วยคงไม่เป็นไรใช่ไหม" 

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนยิ่งเยอะยิ่งดี พี่สิลำบากแย่ มาค่ะ ทุกคนรออยู่"  

การมาใหม่ของแขกอีกสองคน สร้างความบังเอิญขึ้นอีกครั้ง เหตุการณ์โลกกลมครั้งที่แล้วไอระเหยของความตื่นเต้นยังไม่ทันจางหาย มันก็ดันก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกแล้ว 

"แทยัง?!?!" 

คยองรีและซอนมีเรียกชื่อแทยังขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะหันไปมองหน้ากันเองแล้วยิ้มขำ 

"อ้าว พี่คยองรีกับซอนมีเหรอ??" 

"พี่โบรัมก็มากับเขาด้วย!!" คยองรีหันไปพูดกับแขกอีกคนที่แทยังพามาด้วย 

"แทยัง ชวนพี่มาน่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปผ่อนคลายที่ไหน เลยขอคว้าโอกาสมาด้วย" 

"เหมือนวันนี้โลกจะกลมมากไปหน่อยนะ แถมยังกลมใกล้ๆกันอีกนะคะเนี่ย" อึนบีเจ้าเดิมเจ้าเก่าและเจ้าเดียว  

ทุกคนหัวเราะให้กับความกลมของโลกอีกครั้ง ในที่สุดก็ได้เวลาที่ปาร์ตี้ฉลองเปิดร้านครบรอบสามเดือนจะเริ่ม  

ทั้งหมดนั่งรวมกันอยู่ที่โซนสังสรรค์ของร้าน โดยมีอึนจีนั่งอยู่หัวโต๊ะ ถัดมาทางขวาคือฮานึล นัมจู อึนบี โบรัม และหัวโต๊ะอีกด้านหนึ่งคือแทยัง ทางซ้ายถัดจากแทยัง คือฮวายอง คยองรีและซอนมี "เอาล่ะ เมื่อคนพร้อม อาหารพร้อม เครื่องดื่มพร้อม งั้นก็ คัมปายยยย~" 

ปัง ปัง ปัง !! 

พลุริบบิ้นถูกดึงจากมือของทุกคน ถือเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นทั้งปาร์ตี้ครบรอบและเริ่มต้นมิตรภาพดีๆที่กำลังเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้ 

"เชิญเลยค่ะ อาหารพวกนี้ฉันกับฮานึลช่วยกันทำ ไม่รู้ว่าจะถูกปากทุกคนรึเปล่า รสชาติยังไงก็บอกกันได้นะ ฉันจะได้ปรับปรุง" 

"โอ๊ย อึนจีถ้าเธอทำอาหารไม่อร่อย ฉันนี่คงจะเป็นเชฟไปแล้วมั้ง" 

"ฮ่าๆ พี่ซอนมีพูดถูกเพง ถ้าพี่อึนจีทำอาหารไม่อร่อย ลูกค้าคงไม่ตรึมขนาดนี้" 

"พวกนี้ก็พูดเกินไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้ทำอาหารอร่อยขนาดนั้น แล้วที่ร้านฉันก็ทำแต่เบเกอรี่ ขนมปัง เค้ก ของพวกนี้ใครๆก็ทำได้" 

"เธออย่าพูดว่าทำได้สิ อย่างน้อยฉันคนหนึ่งแหละที่ทำไม่ได้" ฮวายองพูดขึ้นขณะที่จิ้มไส้กรอกชีสเข้าปาก 

"นี่ พี่ฮวายองไหนพี่รักสุขภาพไง ตักนู่นตักนี่ใส่ปากไม่หยุด" ซอนมีอดไม่ได้ที่จะทักคนรักสุขภาพของอึนจีที่โฆษณาสรรพคุณไว้ตั้งแต่เจ้าตัวยังไม่มา 

"ฉันออกกำลังกายทีหลังได้นา เออนี่ อึนจี มีชาออแกรนิกให้ฉันสักแก้วไหมอ่ะ" 

"จัดให้เลย รอสักครู่ค่ะคุณลูกค้า" อึนจี รับคำฮวายองพร้อมโค้งให้เหมือนว่าตัวเองเป็นเชฟรับออร์เดอร์จากลูกค้าชั้นวีไอพีก่อนหันหลังเข้าครัว สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนทั่วโต๊ะ  

ไม่นานอึนจีก็กลับมาพร้อมกับถาดที่มีแก้วชาครบเก้าคน  

"ฉันอยากให้ทุกคนชิมชาออแกรนิกของฉันจัง" เธอพูดพร้อมแจกแก้วชาให้แต่ละคน  

"อืม รสชาติใช้ได้เลย นี่ไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยใช่ไหม หอมชามากเลย" 

"ใช่เลยค่ะพี่โบรัม ฉันใช้แต่ใบชาแล้วก็ส่วนผสมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย อย่างคาโมมายด์ รับรองได้ว่าไม่มีน้ำตาลสักก้อน" 

"พี่โบรัมเก่งจัง ชิมครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าชาไม่ใช้น้ำตาล ฉันคงต้องศึกษาบางแล้ว" อึนบีพึมพำ 

"อ๊ะ ลืมไปเลย เดี๋ยวฉันมา"  

จู่ๆฮานึลก็พูดขึ้นพร้อมลุกพรวดวิ่งเข้าไปในครัว ทำเอาทุกคนงงไปตามๆกัน  

"อะไรของเขาน่ะ" ฮวายองหันไปถามอึนจี แต่ก็ได้รับการส่ายหน้ามาแทนคำตอบ  

แล้วฮานึลก็ออกมาพร้อมกับถาดเค้กก้อนโต  

"โอ้โห้ เค้กเรดเวลเวตท์นี่ พี่ฮานึลทำเองเหรอคะ" อึนบีตาโต รีบเข้าไปช่วยฮานึลยกเค้กมาวาง 

"จริงสิ ฉันลืมไปเลยนะเนี่ย ดีนะที่เธอนึกได้น่ะฮานึล ไม่งั้นเค้กคงเฉาตายอยู่ในครัว"  

"เนื่องในโอกาสครบรอบสามเดือน ฉันเลยลองทำเค้กก้อนนี้ เพราะอยากให้ทุกคนได้ทาน บางส่วนพี่อึนจีเป็นคนช่วย ลองชิมดูนะคะ"  

ไม่พูดเปล่า เธอจัดการแบ่งเค้กให้ทุกๆคน และสิ่งที่ได้จากทุกคนทำเอาฮานึลกับอึนจี ปลื้มยิ้มแก้มแทบปริเลยทีเดียว  

"อร่อยมากๆเลย"  

ระหว่างที่ทานอาหาร ทุกคนต่างก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและเรื่องราวต่างๆทั้งในอดีตและที่เพิ่งผ่านมาให้กันและกันฟัง จนมีใครคนหนึ่งเสนอขึ้นมาว่าให้เล่นเกมส์ เพื่อที่ทุกคนจะได้รู้จักกันมากขึ้น โดยคนเสนอก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากน้องน้อยอย่าง อึนบี  

"เกมส์นี้มีชื่อว่า 'บอกน้องหน่อย' เล่นง่ายมาก แค่ให้ทุกคนบอกโปรไฟล์ของตัวเองหรือก็คือแนะนำตัวเอง แต่ต้องเรียงตามอายุจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด และหลังจากที่แนะนำตัวเสร็จ ต้องพูดว่า 'พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย' ก่อนที่คนต่อไปจะเริ่ม" 

"เดี๋ยว มันเกมส์อะไรของเธอนะอึนบี" อึนจีขัดขึ้น 

"มันคือเกมส์ที่ฉันใช้รับน้องที่มหาลัยน่ะค่ะ แล้วเห็นว่าในนี้เราก็ต่างคนต่างมา มาเจอกันโดยบังเอิญก็เลยคิดว่า เกมส์นี้เหมาะ หรือพี่ๆไม่อยากเล่นค่ะ" อึนบีเสียงเศร้า หน้าหง๋อยลงทันที จนพี่ๆต้องมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย 

"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เอาน่าพี่อึนจีก็ถามไปงั้นแหละ ไหนๆก็ไหนๆมาเล่นเกมส์ที่ว่ากันดีกว่า นะอึนบี ไม่เศร้าสิ" ฮานึลปลอบใจน้องสาว  

"แล้วมันจะเริ่มยังไงล่ะ เกมส์ที่ว่า" ฮวายองถามขึ้นเพราะสงสัย 

"ง่ายๆค่ะ ต้องรู้ก่อนว่าทุกคนในนี้อายุเท่าไหร่กัน เพราะจะได้เรียงอายุถูก" อึนบีเสียงใสขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าทุกคนยอมเล่นด้วย 

"ฉันยี่สิบสี่" อึนจี 

"ฉันยี่สามค่ะ" ฮานึล 

"ฉันยี่สิบสองค่ะ" นัมจู 

"พี่ยี่สิบเก้า" โบรัม 

"ฉันยี่สิบหก" แทยัง 

"อ๊ะ ของฉันเท่ากับแทยังล่ะ" ฮยางยอง 

"ฉันยี่สิบเจ็ด ซอนมียี่สิบห้า" คยองรีตอบแทนซอนมี 

"ฉันยี่สิบ ฉันน้อยสุด เริ่มที่ฉัน สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่ออึนบี เรียนอยู่มหาลัยกวานโฮ ปีสอง คณะอักษร มีพี่นัมจูเป็นรูมเมท ลูกค้าประจำคาเฟ่นึลจีค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ" พูดจบก็หันไปยิ้มให้นัมจู พลางปรบมือเป็นจังหวะไปด้วยคนอื่นๆก็พลอยปรบมือแบบอึนบีไปด้วยเช่นกัน 

"พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย" 

"ฉันนัมจูค่ะ มหาลัยปีสาม คณะนิเทศฯ ลูกค้าประจำที่นี่เหมือนกัน มีอึนบีเป็นรูมเมท ฝากตัวด้วยค่ะ พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย" นัมจูพูดกับฮานึล  

"ฉันชื่อฮานึลค่ะ เจ้าของร้านคาเฟ่นึลจีที่มีพี่อึนจีเป็นหุ้นส่วน ส่วนตัวชอบดอกไม้มากๆค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ" ฮานึลยิ้มก่อนหันไปทางอึนจี  

"พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย" 

"อ๋อ ได้สิ พี่ชื่ออึนจี ค่าเฟ่นึลจีหุ้นส่วนคือพี่เอง มีพี่ชายที่ครื้นเครง เพราะมันขี้ลืมเป็นประจำ พี่นั้นขอฝากตัว เราอย่ามัวยืนตะลึง รีบมาเสียให้ถึง ที่คาเฟ่นึลจีนะ" สิ้นเสียงของอึนจี ทุกคนต่างหัวเราะให้กับความเจ้าบทเจ้ากลอนของเธอ  

"มาเป็นกลอนเชียว ฮ่าฮ่าๆ" ฮวายองแซว อึนจียิ้มเก่อ เอาศอกกระแทกแขนซอนมีแก้เขิน  

"เอ้า!!ตาพี่แล้ว พี่ซอนมี พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย" 

"เอ๊ะ!! ตาฉันแล้วเหรอ ฉันชื่อซอนมี ทำงานเป็นเลขาฯอยู่บริษัทเดียวกับพี่คยองรี มีพี่เขาเป็นพี่เลี้ยงและหัวหน้าในเวลาเดียวกัน ฝากตัวด้วยล่ะ ต่อไปตาใครนะ" 

"ฮวายอง" คยองรีตอบให้กับคำถามของซอนมี 

"อ๋อ แล้วต้องร้อง พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย สินะ" 

"ฮ่าฮ่าๆ ซอนมี อะไรของเธอแค่นี้ก็จำไม่ได้ เอ้า ฉันชื่อฮวายอง เป็นเจ้าของฟิตเนสอยู่ในย่านธุรกิจ ชอบชาออแกรนิก โดยเฉพาะของร้านนี้ ชอบเล่นกีฬาหลายอย่างเลย ฉันอยู่ในฟิตเนสที่ฉันเปิดนั้นแหละ เอ มีอะไรอีกนะ แค่นี้ล่ะกัน อ๋อๆ รู้จักกับพี่คยองรีเพราะเธอไปเล่นฟิตเนสที่ฉันเปิด ตาเธอ พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย" ฮวายองสะกิดแทยัง 

"ฉัน...ชื่อแทยัง เป็นฟรีแลนด์อิสระ กับหมอผ่าตัด..." ยังไม่ทันที่แทยังจะพูดจบ เสียงซนๆของอึนบีก็แทรกขึ้น  

"สุดยอด พี่แทเป็นหมอผ่าตัดด้วย" 

"อึนบี เสียมารยาทนา" นัมจูดุ  

"ขอโทษค่ะ ฉันแค่ตื้นเต้นนิดหน่อยเอง พี่นัมจูไม่เห็นต้องดุเลย" เธอบ่นอุบอิบ  

"เอ่อ..ฉันรู้จักกับซอนมีและพี่คยองรี เพราะบริษัทของเธอติดต่อให้ไปออกแบบงานให้ ส่วนพี่โบรัม ฉันต้องรักษาพ่อของเธอ แล้วก็รู้จักกับร้านนี้เพราะบังเอิญมาซื้อดอกไม้น่ะ ฝากตัวด้วย" พอแทยังพูดจบ เธอก็หันไปพูดกับคยองรี  

"พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย" คยองรียิ้มให้เล็กน้อย  

"ฉันคยองรี หัวหน้าแผนกบริษัทส่งออกย่านธุรกิจ ฉันเจอกับพี่โบรัมเพราะเรื่องงาน ส่วนแทยังก็เรื่องงานอีกนั่นแหละ ซอนมีคงไม่ต้องพูด ฮวายองก็เพราะฟิตเนส ฝากตัวด้วยค่ะ" พูดจบเธอก็เงียบไปคล้ายลืมท่อนสำคัญ  

"เดี๋ยว พี่คยองรี ยังไม่จบเลย" อึนบีเจ้าของเกมส์แย้ง  

"อะไรเหรอ ยังไม่จบยังไงก็ฉันแนะนำตัวไปแล้วนี่" 

"เธอลืมพูด พี่ชื่ออะไร บอกน้องหน่อยบอกน้องหน่อย" โบรัมไขข้อสงสัยให้คยองรี 

"อันนั้นข้ามมันไปแล้วกันค่ะ" คยองรีตอบหน้าตาย  

"ฮ่าๆ งั้นคนสุดท้ายคือพี่สินะ พี่ชื่อโบรัม แก่สุดในบรรดาพวกเธอ พี่เป็นประธานบริษัทแทนคุณพ่อที่กำลังป่วย วันๆก็อยู่แต่ในบริษัทกับโรงพยาบาล รู้จักกับแทยัง คยองรี ได้ยังไงคงไม่ต้องพูดแล้ว ฝากตัวด้วยนะทุกคน" พี่ใหญ่โบรัมยิ้มให้กับน้องๆทุกคน เธอเอ็นดูพวกเขา มองพวกเขาเหมือนน้องสาวที่มาทานข้าวด้วยกันในวันหยุดของครอบครัว 

เกมส์จบลงด้วยการที่ทุกคนรู้จักชื่อและหน้าที่การงานของกันและกัน นั่นก็ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ของพวกเธอให้เพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย  

ก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิกรา มีใครอีกคนเสนอความคิดหนึ่งขึ้นมา และความคิดนี้คงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรื่องราวต่างๆของแต่ละคน ถูกถ่ายทอดออกมาสู่กันฟัง ซึ่งถ้าจะให้เดาก็คงถูก เจ้าของความคิดแนวนี้มีคนเดียว อึนบี น้องนุชสุดท้อง 

"พี่ๆค่ะ ฉันมีอะไรมาเสนอ" ในที่สุดอึนบีก็ตัดสินใจพูดออกมา หลังจากที่เธอคิดตรึกตรองอยู่นาน 

"คราวนี้อะไรอีกล่ะ ไม่เอาอะไรแปลกๆแผลงๆอีกแล้วนะอึนบี" อึนจีพูดดักคอไว้ก่อน  

"ไม่แปลกแล้วก็ไม่แผลงหรอกค่ะ ฉันรับรอง เพราะก่อนที่จะบอกพี่ๆ ฉันคิดดีแล้ว" 

"ไหนว่ามาสิ" ฮวายองกับซอนมีพูดขึ้นพร้อมกัน 

"ก็ฉันเห็นพวกพี่ๆก็รู้จักกันมาบ้างแล้ว แล้วก็เห็นว่าสนิทกันพอสมควร...." อึนบีเว้นวรรคนิดนึง มองหน้าพี่ๆทีละคน  

"ฉันเลยอยากให้ทุกๆคนมาเจอกัน สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ที่ร้านนี้ เพื่อมาพูดคุยหรือว่ามาปรับทุกข์กัน" เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้นให้พี่ๆได้ปรึกษากัน  

ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดของอึนบี ถึงแม้แต่ละคนจะทำงานอยู่ต่างที่ แต่การมาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ทำให้แต่ละคนรู้สึกว่าการที่มาเจอกันในครั้งนี้ไม่ใช่แค่ความบังเอิญ ถึงบางคนเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก แต่ด้วยลักษณะบางอย่างที่เข้ากันได้ ทำให้สนิทกันอย่างรวดเร็ว การเสนอความคิดนี้ของอึนบีจึงเป็นตัวช่วยหนึ่ง ที่จะทำให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้นและสนิทกันมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการที่ใครสักคนหนึ่งจะได้รับฟังเรื่องราวของคนๆหนึ่งนั้น มันวิเศษไม่น้อยเลย 

เมื่อทุกคนทบทวนความคิดและปรึกษากันผ่านทางสายตาแล้ว ก็มอบให้พี่ใหญ่อย่างโบรัม เป็นคนตัดสินใจ  

"อืม พี่คิดว่าความคิดที่อึนบีเสนอมาก็เข้าท่าอยู่นะ เราทุกคนต่างก็มีงานของตัวเอง จะหาที่พักผ่อนสักที่นึงก็ดีอยู่ แล้วในวันนี้ ทุกคนก็รู้จักกันแล้ว คงจะไม่แปลกหรอกจริงไหม ถ้าเราจะมาเจอกันอีก" 

"เป็นอันว่าตกลงนะคะ ทุกคน?? เราจะมาเจอกันที่นี่ทุกสัปดาห์"  

ทุกคนพยักหน้ายืนยันคำตอบ อึนบีเจ้าของความคิดแทบจะกระโดดเป็นลิง แต่ถูกนัมจูดุทางสายตาซะก่อน  

"แล้วเราจะใช้วันไหนล่ะ" คำถามเรียบๆจากแทยัง ทำเอาทุกคนชะงัก 

"นั่นน่ะสิ วันว่างตรงกันคงยาก สู้เจาะจงวันมาเลยง่ายกว่า" คยองรีพูด ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย 

"เป็นวันศุกร์ดีไหมค่ะ ฉันกับพี่อึนจีจะปิดร้านเร็วกว่าปกติ เพื่อที่ทุกคนจะได้มาโดยไม่ต้องกังวลถึงลูกค้าที่ร้าน" 

"อืม ความคิดเข้าท่านะฮานึล" ฮวายองกับซอนมีพูดพร้อมกันอีกแล้ว  

"เธอนี่ใจตรงกับฉันอยู่เรื่อยเลยนะซอนมี" 

"พี่นั่นแหละ ชอบใจตรงกับฉันมากกว่า" แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะให้กับความใจตรงกันของตัวเอง 

"เป็นอันว่า วันศุกร์ของทุกสัปดาห์ เราจะต้องมาเจอกันที่นี่ ใครเลิกงานก่อนก็มาก่อน" โบรัมสรุป 

"ตกลง!!" ทุกคนประสานเสียงตอบรับ  

หลังจากที่ช่วยเก็บกวาดร้านจนเรียบร้อยเหมือนเก่าทุกคนก็แยกย้ายกันกลับและไม่ลืมที่จะล่ำลากัน 

"เดินทางปลอดภัยนะคะทุกคน ไว้เจอกันวันศุกร์ค่ะ" ฮานึลบอกลาทุกคนที่กำลังจะกลับ เธอนอนที่ร้านจึงไม่มีปัญหาเรื่องเดินทาง 

"โอ้!! เจอกันวันศุกร์" ฮวายองและซอนผู้ที่ใจตรงกัน 

"กลับแล้วค่าพี่ๆ" อึนบีกับนัมจู 

"วันศุกร์เจอกันนะทุกคน" คยองรี 

"พี่กลับแล้ว กลับกันดีๆละทุกคน" โบรัมพูดพร้อมโบกมือลาน้องๆ 

แทยังเพียงยิ้มน้อยๆให้กับทุกคนเท่านั้น และปิดท้ายด้วย อึนจี 

"โชคดีกลับวันต่อๆไปนะทุกคน เจอกันวันศุกร์ อย่าลืมล็อกประตูล่ะฮานึล" แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันตรงนั้น 

"เฮ้อ กลับกันหมดแล้ว เราเองก็ไปนอนบ้างดีกว่า โอ๊ะ!!ไม่ได้สิ คิดเมนูแนะนำวันพรุ่งนี้ก่อนดีกว่า" ฮานึลบ่นกับตัวเอง ก่อนที่เธอจะเดินเข้าร้าน และไม่ลืมล็อกประตูตามที่อึนจีบอก  

ก่อนเดินเข้าไปหลังร้านแล้วเดินเลี้ยวเข้าครัวอีกที 

งานเลี้ยงฉลองจบลง แต่นั่น... ไม่ได้หมายความว่ามิตรภาพของพวกเธอจะจบลงไปด้วย ตรงกันข้ามมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นต่างหาก ต้องขอบคุณความบังเอิญที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักและได้มาเจอกันในครั้งนี้...... 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว